พรีวิว Samsung Galaxy Note 4 สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของซัมซุง

แม้จะยังไม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่รายละเอียดของ Galaxy Note 4 ก็ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป เพราะในงานแกะกล่องที่ IFA 2014 ทางซัมซุงได้เปิดเผยทีเด็ดและสเป็คกันอย่างหมดเปลือก ถ้าหากเทียบกับ Note 3 แล้ว ซัมซุงปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อนในรุ่นเก่าๆ ให้ดีขึ้นใน Note 4  

ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอความละเอียดระดับ 2K, ซีพียู Snapdragon 805 หรือ Exynos สุดแรง, S Pen รุ่นใหม่ และรองรับอุปกรณ์เสริมอย่าง Samsung Gear VR นี่ยังไม่ได้พูดถึงซอฟท์แวร์หลายๆ ส่วนที่เพิ่มลูดเล่นเข้ามาให้ใช้งานได้แจ่มขึ้น

หน้าจอแจ่มกว่าเดิม

แม้ว่าขนาดของหน้าจอ Note 4 จะมีขนาด 5.7 นิ้ว เท่าเดิมเหมือนกับ Note 3 แต่ว่าความละเอียดได้อัพเกรตเป็น 2K 2560x1440 พิกเซล ทำให้ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลขยับขึ้นไปถึง 515ppi เทคโนโลยีของหน้าจอใช้ Samsung Super AMOLED ซึ่งแสดงสีสันได้สวยคมบาดตาสุดๆ โดยเฉพาะด้านการแสดงผลสีดำ ที่มืดสนิทจริงๆ

แม้หลายคนจะบอกว่าสีของจอ Super AMOLED นั้นสดเกินความเป็นจริงมากกว่าที่ตาเราเห็น แต่เราสามารถปรับค่าการแสดงผลให้ลดระดับความเข้มลงมาได้ตามความพอใจนะ เทคโนโลยี Adaptive Display ที่ซัมซุงใส่มาใน Galaxy Tab S ได้ถูกหยิบมาใส่ใน Note 4 ด้วยเช่นกัน มันเป็นเทคโนโลยีที่จะปรับค่าสีและความสว่างตามสภาพแสงในขณะนั้น

ตัวเครื่องที่หรูหรา

การออกแบบ Note 4 มีความใกล้เคียงกับ Note 3 แต่ปรับปรุงวัสดูให้หรูหรากว่าเดิม ด้านหลังยังคงเป็นหนังเทียมเช่นเดิม แต่ทว่ามีสัมผัสที่นุ่มขึ้นกว่าบน Note 3 และกรอบของตัวเครื่องจากพลาสติกได้หันมาใช้โลหะแล้ว ให้สัมผัสที่หรูหราสมกับที่วางตำแหน่งเป็นเรือธงของค่าย

ฝาหลังสามารถเปิดออกได้ เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ขนาด 3220mAh และมีช่อง microSD เช่นเคย เซนเซอร์ใน Galaxy S5 ทั้ง Heart-rate monitor และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home ถูกยกมาใส่ใน Note 4 ด้วยเช่นกัน

ฮาร์ดแวร์สุดแรง

Qualcomm Snapdragon 805 (หรือ Exynos 5) และแรมขนาด 3GB ทำให้มันมีความแรงเป็นอันดับต้นๆ ของสมาร์ทโฟนยุคนี้ ดังนั้นเรื่องประสิทธิภาพในการประมวลผลไม่ใช่ปัญหาที่เราต้องสนใจ ที่น่าสนใจคือ ในขณะที่ประสิทธิภาพสูงขึ้น หน้าจอก็มีความละเอียดเยอะขึ้น แต่ซัมซุงเผยว่าแบตเตอรี่ของมันมีอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่า Galaxy Note 3 ซะอีก คาดว่ามีการปรับปรุงการจัดการพลังงานให้ฉลาดกว่าเดิม

กล้องตัวใหม่พร้อมระบบกันสั่น OIS

กล้องความละเอียด 13MP บน Note 3 จากเราไป และถูกแทนที่ด้วยกล้อง 16MP พร้อมระบบกันสั่น Optical Image Stabilisation (OIS) นอกจากความละเอียดที่เพิ่มขึ้นแล้ว ความเร็วในการจับโฟกัสของวัตถุก็ทำได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงรายละเอียดของภาพที่เก็บได้ละเอียดคมชัดกว่าเดิม

กล้องหน้าเพิ่มโหมดการถ่ายภาพแบบใหม่ Wide-angle selfie เราสามารถที่จะ "Sweep" กล้องหน้าเหมือนที่เราทำเวลาถ่ายภาพพาโนรามา เพื่อให้เก็บรูปได้ครบทุกคนโดยไม่ต้องเบียดกันเหมือนแต่ก่อน

S Pen ที่เขียนได้เป็นธรรมขาติกว่าเดิม

ปากกา S Pen ก็เป็นอีกส่วนที่ได้รับการอัพเกรตได้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม มีความละเอียดอ่อนมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า และเพิ่มรูปแบบการใช้งานมาอีก 2 แบบ คือ Fountain pen และ Caligraphy pen

ความรู้สึกในการเขียนธรรมชาติมากกว่าเดิมทั้งการตอบสนองต่อแรงกดและการแสดงผล และความเร็วในการตอบสนองก็ไวกว่าเดิมจาก Note 3 มาก นอกจากนี้ซัมซุงยังใส่ซอฟท์แวร์ที่ทำให้ S Pen ทำได้มากกว่าการขีดเขียน อย่างเช่นการใช้ไฮไลต์ข้อความ, เลือกภาพทีละหลายรูป ฯลฯ

ซอฟท์แวร์เวอร์ชันใหม่

ตามสไตล์มือถือจากซัมซุง ที่จะต้องมีการเพิ่มโปรแกรมเข้ามาในแอนดรอยส์หลายจุด และ Note 4 ก็เช่นเดียวกัน Multi Window ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ทำงานได้ 2 แอปฯพร้อมกันในหน้าจอเดียว, การบันทึกเสียงที่ปรับปรุงระบบตัดเสียงรบกวน Noise Canceling ให้แจ่มกว่าเดิม ต้องขอบคุณไมค์ของ Note 4 ที่ให้มาถึง 3 ตัว เพื่อการนี้

Ultra Power Saving ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ซัมซุงใส่เข้ามาให้ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ใช้งานโทรศัพท์และรับส่งข้อความได้แม้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือน้อยใกล้หมดแล้วก็ตาม 

บทสรุป

ถ้าคุณยังจำความยอดเยี่ยมของ Note 3 ได้ Note 4 จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ทั้งตัวเครื่องและหน้าจอถูกปรับปรุงให้แหล่มกว่าเดิม รวมถึง S Pen อาวุธประจำเครื่องที่ประสิทธิภาพดีกว่าเดิม รายละเอียดตัวเครื่องลึกๆ เมื่อเราได้เครื่องมารีวิว จะจัดเต็มให้มากกว่านี้อย่างแน่นอน

ที่มา https://www.stuff.tv/samsung/samsung-galaxy-note-4/review