รีวิว Huawei P9 สมาร์ทโฟนเลนส์คู่ ที่มาพร้อมกับคำว่า Leica

เราเคยรีวิวสมาร์ทโฟนจาก Huawei มาแล้วหลายรุ่น อย่างรุ่น P8 ที่เราเคยรีวิวไปก็ค่อนข้างประทับใจกับการออกแบบและการผลิตที่เนี้ยบมาก มาวันนี้เราได้มีโอกาสสัมผัสกับรุ่นใหม่ล่าสุดที่เป็นเรือธงของค่ายนั่นก็คือ Huawei P9

สาเหตุที่ Huawei P9 ได้รับความสนใจกว่ารุ่นที่ผ่านๆ มา เพราะว่าครั้งนี้มันมาพร้อมกับกล้องแบบเซนเซอร์คู่ เลนส์นึงจะเป็น RGB Sensor สำหรับเก็บรายละเอียดของสี และอีกเลนส์จะเป็น Monochrome เซนเซอร์สำหรับเก็บรายละเอียดของภาพ และหากว่าเลนส์คู่ยังรู้สึกไม่น่าสนใจพอล่ะก็ คำว่า Leica ที่มาพร้อมกับ Huawei P9 น่าจะทำให้คุณสนใจมันมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ

คุณสมบัติของ Huawei P9

• ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 พร้อม Emotion UI EMUI 4.1
• ตัวเครื่องมี 4 สี ให้เลือก Haze Gold, Prestige Gold, Titanium Grey และ Mystic Silver
• หน้าจอ FHD ขนาด 5.2 นิ้ว (1920x1080) แบบ 2.5D
• ซีพียู HUAWEI Kirin 955 (64-bit), Octa-core (4 x 2.5 GHz A72+ 4 x 1.8 GHz A53)
• แรม 4GB  สำหรับรุ่น 64GB และ 3GB สำหรับรุ่น 32GB
• กล้องหลัง 12MP F2.2 x 2 ชุด (RGB Sensor และ Monochrome Sensor) BSI CMOS พร้อม Dual-tone flash, 4K Video
  กล้องหน้า 8MP F2.4
• Wi-Fi 2.4G/5G, a/b/g/n/ac รองรับ Wi-Fi Direct, BT4.2 รองรับ BLE
• เชื่อมต่อข้อมูลและชาร์จแบตเตอรี่ผ่าน USB-C
• Fingerprint Sensor
• แบตเตอรี่ 3,000mAh
• ขนาดตัวเครื่อง 145 x 70.9 x 6.95 มม. น้ำหนัก 144 กรัม

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• ตัวเครื่อง
• หูฟัง
• อแดปเตอร์
• สาย USB-C 
• เข็มทิ่มถาดซิม
• คู่มือเริ่มต้นใช้งาน

วิดีโอรีวิว Huawei P9

การออกแบบของ Huawei P9

การออกแบบของ Huawei P9 มีความงามไม่แพ้เรือธงจากค่ายอื่นที่เราได้สัมผัสมาในปีนี้เลย ดีไซน์เหมือนเป็นการนำเอา P8 กับ Mate 8 มารวมกัน ตัวเครื่องเป็นโลหะแบบ Unibody มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Borderless แม้หน้าจอจะมีขนาดใหญ่ถึง 5.2 นิ้ว แต่ก็พอจะใช้งานมือเดียวได้ไม่ยากมากนัก

 ด้านหลังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเหมือนกับ Mate 8 แต่ที่โดดเด่นที่สุด คงต้องยกให้กล้องคู่ ที่มาพร้อมกับตรา LEICA SUMMARIT เป็นการบ่งบอกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ โดดเด่นเรื่องกล้องขนาดไหน

สำหรับกล้องคู่ทาง Huawei ได้ระบุว่า หลักการทำงานของมันคือ ตัวนึงเป็น RGB Sensor สำหรับบันทึกค่าสี และอีกตัวจะเป็น Monochrome Sensor สำหรับเก็บรายละเอียด เมื่อนำผลลัพธ์ที่ได้มารวมกัน จะได้ภาพที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตามเลนส์ของกล้อง P9 ไม่ได้ผลิตโดย Leica เองนะครับ แต่เป็นการผลิตโดย Sunny Optical Technology ในจีน แต่ว่า Leica เป็นคนออกแบบตัวเลนส์, ระบบประมวลผลภาพ และ User Interface ของกล้องให้ (คล้ายๆ กับ การที่ Zeiss ให้สิทธิ์ Sony นั่นเอง) พูดง่ายๆ คือ Leica ออกแบบ จีนผลิต ซึ่งรายละเอียดของกล้องเราจะไปว่ากันภายหลังอีกทีครับ 

การเชื่อมต่อข้อมูล P9 ขยับมาใช้พอร์ท USB-C แล้วนะ แต่ยังมีช่องเสียบหูฟังมาอยู่ (ซึ่งนั่นก็ดีแล้ว) ชาร์จไฟผ่านอแดปเตอร์ที่จ่ายไฟแบบ 2A รองรับ Fast Charge ด้วย แต่ต้องหาซื้ออแดปเตอร์ที่รองรับมาใช้ได้ ไม่แถมมาในกล่อง

UI ของ Huawei P9

P9 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 ครอบด้วย EMUI 4.1 ซึ่งว่ากันตามตรงหน้าตาจะคล้ายกับการใช้งาน iOS เลยล่ะ ไม่มีหน้า App Drawer, สามารถลากจอลงเพื่อเรียก Spotlight search ซึ่งไม่แตกต่างอะไรกับ EMUI 4.0 ที่เราเคยรีวิวไปแล้วใน Huawei Mate 8 มากนัก เราจึงไม่ขอพูดซ้ำ แต่เราก็เจอของเล่นใหม่ใน EMUI 4.1 อยู่บ้างเหมือนกันในส่วนของการบันทึกหน้าจอเป็นวิดีโอ ที่สามารถบันทึกได้เลย ไม่จำเป็นต้องไป Root เครื่องก่อน ก็สะดวกสำหรับคนที่อยากบันทึกหน้าจอมากครับ ไฟล์ที่ได้จะเป็น .mp4 นำไปใช้งานได้ทันที

ใครอยากอ่านรีวิวในส่วนของ EMUI สามารถติดตามได้ ที่นี่ เลยจ้า เราไปดูกันที่กล้องซึ่งเป็นจุดเด่นของ Huawei P9 กันดีกว่า

ประสิทธิภาพในการใช้งาน

ด้วย Kirin 955 และแรมที่ให้มา 3GB เราไม่ประสบปัญหาการใช้งานแอปฯ หรือเกมใดๆ ทุกอย่างสามารถรันได้อย่างราบรื่น , ลำโพงคุณภาพเสียงดีทีเดียว ดังและชัดเจน แต่เราพบว่าเครื่องร้อนง่ายไปหน่อย และด้วยบอดี้ที่เป็นโลหะ ทำให้ยิ่งสัมผัสกับความร้อนได้อย่างชัดเจน

ว่ากันด้วยเรื่องกล้องของ Huawei P9

แปะคำว่า Leica มาขนาดนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามือถือตัวนี้เน้นด้านกล้องอย่างแน่นอน สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Leica ขอเล่าสักเล็กน้อย มันเป็นแบรนด์กล้องจากเยอรมันที่มีชื่อเสียงมาหลายร้อยปี คุณภาพของกล้องและเลนส์ Leica นั้นสูงมาก และราคาก็แพงระยับด้วย เรียกได้ว่ากล้องพร้อมเลนส์ก็ถอยรถป้ายแดงได้เลยทีเดียว ดังนั้นเมื่อ Leica เอาชื่อแบรนด์ตัวเองมาปรากฏบนมือถือ Huawei ในครั้งนี้ มันจะต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ไม่อย่างนั้นเสียภาพลักษณ์แบรนด์หมด

UI ของกล้อง P9 จะออกแบบโดย Leica ซึ่งเราพบว่ามันสวยงามและใช้งานง่ายมากทีเดียว โดยเฉพาะโหมดโปรที่ออกแบบมาให้ปรับง่ายมากบนหน้าจอทัชสกรีน โดยโหมดการถ่ายภาพจะมี 3 แบบ คือ ออโต้ธรรมดา, โหมด Pro และโหมดปรับ F ซึ่งการถ่ายเราจะใช้งานได้แค่ทีละโหมดเท่านั้นที่รู้สึกแย่ คือ ในโหมดโปรเราจะไม่สามารถปรับ F ได้

*การปรับ F คือการปรับค่ารูรับแสง ส่งผลต่อมิติชัดลึกของภาพ หรือเรียกง่ายๆ กันติดปากว่าหน้าชัดหลังเบลอนั่นเอง

เท่าที่ลองถ่ายในโหมด F จะเป็นการปรับด้วย Software นะ แต่ก็ทำมาได้ดีทีเดียว ปรับได้ตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16 ทั้งนี้ต้องฝึกใช้นิดนึง ถึงจะจับจุดที่ว่าควรเล็งตรงไหนของภาพถึงจะเบลอได้เนียน

มาดูตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Huawei P9 กัน

ความแตกต่างระหว่างการเปิดค่า f/0.95 กับ f/16

การถ่ายภาพทั่วไป ไม่ได้แต่งภาพนะครับ สดจากกล้อง มีครอปกับย่อขนาดอย่างเดียว เราคิดว่ามันทำได้ดีมากทีเดียว
โดยเฉพาะโทนขาว-ดำ ได้อารมณ์มาก

มาดูภาพจากกล้องหน้ากันบ้าง

ความเห็นจากไทยแวร์

หลังจากที่สัมผัสกับอยู่กับ Huawei P9 มาหลายวัน ผมค่อนข้างพอใจกับคุณภาพที่ได้นะ มือถือราคานี้ได้วัสดุโลหะ และกล้องที่ไว้ใจได้ ความคมของภาพอาจจะไม่ใช่ที่สุด แต่การไล่สี และ UI เราว่ามันใช้ง่ายและออกแบบมาดีมาก ไม่เสียชื่อ Leica เลยล่ะ