ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
ไทยแวร์รีวิว
 

5 หนังเพลงที่ บรรเลง มากกว่า ดนตรี

5 หนังเพลงที่ บรรเลง มากกว่า ดนตรี

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 10,168
เขียนโดย :
0 5+%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88+%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%87+%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2+%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

“ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดาลเป็นคนชอบกลนัก” กลอนบทนี้มิได้เกินจริงแต่อย่างใด ไม่เพียงแต่บนโลกจริงๆ เท่านั้น เพราะในหนังคำว่า ดนตรี เพลง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งสำคัญของในหนังทุกเรื่องเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบ เพลงบรรเลง หรือแม้กระทั่งทำนองก็ตาม และก็มีหนังอีกหลายเรื่องเช่นกันที่ใช้เพลงหรือดนตรี เป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราว ทั้งจะเป็นแบบดนตรีขับเคลื่อน หรือแบบ musical ก็ตาม

หลายๆ ท่านอาจจะมีหนังดนตรีหรือหนังเพลงในดวงใจแตกต่างกันไป แต่ในบทความนี้ผมจะขอพูดถึงหนังเกี่ยวกับเพลงทั้ง 5 เรื่อง ที่ผมเคยดูและชื่นชอบ มาให้ทุกท่านได้ลองอ่านกัน 

บทความเกี่ยวกับ La La Land อื่นๆ

1. La La Land

มาเริ่มกันที่เรื่องแรกเลยดีกว่าเรียกได้ว่าเพียงแค่พูดชื่อไป ใครๆ ก็ต่างต้องรู้จักอย่างแน่นอนกับ La La Land ที่ค้วารางวัลออสการ์ครั้งที่ 89 ประจำปี 2017 ไปถึง 6 รางวัล ไล่ไปตั้งแต่ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก เอ็มมา สโตน, สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, สาขากำกับภาพยอดเยี่ยม, สาขาลำดับภาพยอดเยี่ยม, สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม และสองรางวัลสองสาขาสุดท้ายที่การันตีความเป็นหนังดนตรีโคตรคุณภาพนั่นก็คือ สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (City of Stars) รางวัลมากมายขนาดนี้คงไม่ต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้มันดีแค่ไหน

La La Land เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ความรักในนครแห่งความฝัน โดยหนังเรื่องนี้จัดเป็นหนัง Musical ที่พูดเลยว่าเพลงในเรื่องนี้ดีทุกเพลง และทุกเพลงที่ปล่อยมาแต่ละฉากโคตรเหมาะสมกับซีนนั้นๆ เป็นอย่างยิ่ง หนังเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ มีอา สาวผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นดารา ที่รับบทโดย เอ็มมา สโตน และเซบาสเตียน ชายหนุ่มนักดนตรีแจ๊ส ที่รับบทโดย ไรอัน กอสลิ่ง แรงขับเคลื่อนของหนังเรื่องนี้คือ “ความรักและความฝัน” เพลงของพี่โจ้ลอยมาเลยทีเดียว “หากเคียงชิดใกล้ แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน” จะทิ้งฝันแล้วมารักกัน และเดินตามฝันและทิ้งกันไป หนังจะจั่วสองประเด็นนี้เป็นหลัก ด้วยการร้อยเรียงผ่านบทเพลงที่ถูกขับร้องออกมาจากตัวเอ็มมา สโตนและไรอัน กอสลิ่ง หนังค่อนข้างจะเจ็บปวดและดราม่าพอสมควร โดยเฉพาะฉากจบ “เข้าใจ เจ็บปวด และงดงาม”

5 หนังเพลงที่ บรรเลง มากกว่า ดนตรี

2. Once

ถ้าพูดถึงเพลง Falling slowly หลายๆ คนคงรู้จัก และอดยอมรับไม่ได้ว่าเพลงนี้ดีจริงๆ นับว่าเป็นหนังดนตรีที่ผมชอบมากที่สุดเลย เป็นหนังที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ แง่คิดต่างๆ มากมาย จากบทสนทนาที่พระ-นางพลั่งพลูออกมา ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะมีมุมกล้องหรือการถ่ายแบบไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่หนังเป็นแบบนั้นกลับสร้างข้อดีมากมายเพราะมันดูสมจริง และดูเป็นธรรมชาติมากๆ ด้วยการแสดงของคู่พระนางที่เข้ากั๊นเข้ากัน และหนังเรื่องนี้ลงทุนไปเพียง 160,000 เหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น

โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักดนตรีข้างถนนที่ไม่กล้าร้องเพลงของตัวเอง อีกคนคือสาวต่างเมืองที่พยายามปรับตัวเข้ากับสถานที่แห่งใหม่ที่เธอมาอยู่ ทั้งสองต่างพบเรื่องราวความน่าประทับใจ คอยผลักดันกันและกัน และออกมาเป็นหนังที่โคตรสวยงามมาให้เราได้เชยชมกัน

5 หนังเพลงที่ บรรเลง มากกว่า ดนตรี

3. Begin Again

“เราจะบอกตัวตนของคนนั้นได้ จากเพลลิสของเขา” ประโยคจากหนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า “เห้ยจริงหว่ะ” หนังเรื่องนี้ได้ชื่อภาษาไทยว่า “เพราะรักคือเพลงรัก” ซึ่งมันก็จริงๆ ไม่ว่าจะความรักรูปแบบไหน เพลงรักก็สามารถตอบโจทย์ความรักได้ทุกรูปแบบ ตัวหนังทำให้เรานึกถึงหนังอย่าง Once อยู่กลายๆ (เพราะอาจจะผู้กำกับคนเดียวกันก็เป็นได้) แต่ในเรื่องนี้เหมือนมีอะไรที่มันแตกต่างและแสดงความเป็นตัวเองได้มากกว่า และที่สำคัญเพลงในเรื่องนี้โคตรเพราะ ด้วยเสียงของ เคียร่า ไนท์ลีย์ หรือไม่ก็อดัม เลวีน และมีเพลงติดหูมากมาย เช่น “Lost Star” ผมบอกได้เลยว่ารู้จักกันทั้งบ้านทั้งเมือง

มีฉากหนึ่งในหนังเป็นฉากที่ Mark Raffalo อยู่ในผับ และเจอ เคียร่า ไนท์ลี่ย์ กำลังเล่นดนตรี ตัวเขาเองก็จินตนาการว่าจะใส่กลอง ใส่คีย์บอร์ด ใส่ทำนอง ฉากนั้นเป็นฉากที่ตราตรึงใจผมมาก

โดยเรื่องราวของหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เกรต้า ที่รับบทโดย เคียร่า ไนท์ลีย์ สาวนักแต่งเพลงที่ใช้ชีวิตร่วมกับ เดฟ (อดัม เลวีน) ด้วยความที่แฟนตัวเองดัง มีชื่อเสียง+ผู้หญิงเข้ามา ทำให้เกรต้า เคว้ง จนมีวันนึงเธอได้ไปเล่นดนตรีร้องเพลง จนเตะตาโปรดิวเซอร์ตกอับอย่าง แดน (มาร์ค รัฟฟาโล่) ทั้งคู่จึงทำงานร่วมสร้างสรรค์บทเพลงสุดแสนจะไพเราะออกมาให้เราได้ฟังกัน

5 หนังเพลงที่ บรรเลง มากกว่า ดนตรี

4. School of Rock

3 เรื่องที่ผ่านมาค่อนข้างจะดราม่า แต่เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นหนังดนตรีที่เบาสมอง แต่หนักไปด้วยความสนุกและเพลิดเพลินตลอดทั้งเรื่อง แค่ชื่อนักแสดงนำของเรื่องนี้ก็น่าดูแล้ว เพราะเขาคือ Jack Black เห็นเป็นหนังตลก บันเทิง ขนาดนี้ แต่หนังโคตรสนุก โคตรดี และโคตรชอบ ดูหลายรอบมาก

School of Rock เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักดนตรีตกอับคนหนึ่ง ได้ปลอมตัวไปเป็นครูสอนแทนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่แทนที่จะสอนหนังสือ เขากลับสอนความเป็นศิลปินให้กับเหล่านักเรียนในชั้นของเขา ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล

หนังเล่าเรื่องง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยความสนุกและเพลิดเพลินตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นหนังดนตรีที่ทั้งเพลงเพราะ เนื้อเรื่องสนุก และย้อนดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ เป็นหนึ่งในหนังดนตรีที่ต้องติดลิสต์ของใครหลายๆ คนเป็นแน่แท้

5 หนังเพลงที่ บรรเลง มากกว่า ดนตรี

5. Suckseed ห่วยขั้นเทพ

และแน่นอนว่ามาถึงเรื่องสุดท้าย ประเทศไทยของเราก็มีหนังดนตรีเช่นกัน และนี่ก็ถือเป็นหนังดนตรีที่ทำให้วัยรุ่นหลายๆ คนอยากที่จะเล่นดนตรีมาประกวดดนตรีจากเวทีดังอย่าง Hot Wave Music Award ขึ้นมาเลย (รวมถึงผมด้วย) กับเรื่อง Suckseed ห่วยขั้นเทพ

หนังจับประเด็นได้ถูกจุดเหล่าวัยรุ่นมากๆ ด้วยการที่อยากเล่นดนตรีเอาชนะใจสาว และประเด็นหลายๆ เรื่องในด้านความเป็นวัยรุ่น หนังเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว โดยเรื่องราวของหนังเรื่องนี้เป็นหนังเกี่ยวกับวัยรุ่นชายคนหนึ่งชื่อว่า เป็ด ที่หันมาเล่นดนตรีเพราะแอบหลงรักสาวคนหนึ่งชื่อ เอิญ และบวกด้วยเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสุดห่วยที่อยากมาตั้งวงดนตรีเพื่อจีบสาวสวย นี่แหละจึงเป็นที่มาของคำว่า Suckseed

หนังเพลิดเพลินและสนุก พร้อมด้วยจังหวะของการเล่าเรื่องที่ดี แถมเพลงประกอบก็ติดหูแทบจะทุกเพลง โดยเฉพาะเพลงจากวงขวัญใจวัยรุ่นสุดแนวอย่าง Paradox กับเพลง ซักซี๊ดหนึ่ง “ซี๊ดหนึ่ง ชีวิตต้องลองซักซี๊ดหนึ่ง” “ซักซี๊ดดดดด แว๊กกกกกกกกกกกกกกก”

5 หนังเพลงที่ บรรเลง มากกว่า ดนตรี


จริงๆ หนังเพลงทีดีๆ ยังมีอีกเยอะมากมายก่ายกอง แถมยังมีเยอะไม่แพ้หนังแนวอื่นๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 8 mile, Pitch Perfect, Highschool musical, Whiplash, Sing Street หรือ The Greastest showman สิ่งที่เพลิดเพลินมากกว่าความบันเทิงในหนัง ก็คือความไพเราะเสนาะหูของเพลงในแต่ละเรื่องนี่แหละ ที่เป็นตัวชูโรง และเด่นพอๆ กับการแสดงของนักแสดงแต่ละคนเลยทีเดียว 

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะชอบเรื่องไหนๆ หรือแตกต่างกันเท่าไหร่ สิ่งหนึ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้เลย นั่นก็คือ "เพลง" หรือ "ดนตรี" ก็กลายมาเป็นส่วนสำคัญในโลกของหนังในทุกวันนี้ไปแล้ว


ที่มา : www.7sky.life , www.foxsearchlight.com , www.sinemalar.com , www.sat1.at , www.sanook.com

 

0 5+%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88+%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%87+%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2+%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
สมาชิก : Member    สมาชิก
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :)
 
 
 

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น