สำหรับตอนนี้ บริการเช็คสปีดอินเทอร์เน็ตเน็ต Thaiware Speedtest ได้เพิ่มบริการเช็คความเร็ว nPerf เข้าไปให้เลือกใช้งานนอกจากบริการ Ookla ซึ่งหลายๆ คนอาจจะยังไม่เห็นความพิเศษของบริการ nPerf เราเลยอยากจะมาแนะนำบริการ nPerf ในอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง นั่นก็คือรูปแบบแอพพลิเคชั่นบนมือถือนั่นเอง โดยแอพฯ nPerf มีให้บริการบนอุปกรณ์มือถือทั้ง Android, iOS และ Windows App ซึ่งหากเพื่อนๆ สนใจ ก็สามารถโหลดไปลองใช้งานกันได้ที่ลิ้งด้านล่างนี้นะครับ
ทีนี้ลองมาดูกันว่า nPerf บริการเช็คความเร็วเน็ตที่อยู่ในรูปแบบแอพฯ นี้ มีฟีเจอร์อะไรอีก นอกจากการเช็คความเร็วอินเทอร์เน็ตทั่วๆ ไป ที่ให้บริการบน Thaiware Speedtest กันบ้าง?
สำหรับการเช็คความเร็วบนแอพฯ โดยตรงนี้ นอกจากจะบอกในเรื่องของค่า Bit Rate (Download/Upload) , Latency (Ping) และ Jitter แล้ว ภายในแอพฯ ยังมีการเช็คความเร็วเน็ตด้วยการเปิดเบราว์เซอร์และการสตรีมคลิปวีดีโอเพื่อทดสอบให้ใกล้เคียงกับการใช้งานจริงอีกด้วย ว่าความเร็วหรือความเสถียรของเน็ตเรา เมื่อใช้งานจริง สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเป็นที่น่าพอใจหรือไม่?
|
|
|
โดยการทดสอบที่เพิ่มเติมขึ้นมาทั้ง 2 รูปแบบนี้ เราสามารถเลือกที่จะทดสอบเฉพาะประเภทแยกต่างหากได้ เพื่อประหยัดเวลา หรือประหยัดเน็ตในการทดสอบ สำหรับคนที่มีแพ็กเน็ตจำกัด
จะเห็นว่ามีให้เลือกทดสอบทุกระบบ หรือทดสอบแยกตามรูปแบบต่างๆ ได้
ความหมายของค่าต่างๆ ในการเช็คความเร็ว
Transfer Rate - หรือ Upload/Download ก็คือค่าความเร็วในการรับส่งข้อมูล ยิ่งค่านี้สูงยิ่งดี หรือจะเรียกว่าเน็ตเร็วก็ได้
Latency - หรือค่า Ping ที่คนเล่นเกมส์อาจจะคุ้นเคยกันดี ค่านี้บอกถึงความเร็วในการตอบสนองที่เกิดขึ้นระหว่างการรับส่งข้อมูลของเครื่องลูกข่าย (Client) กับเครื่องแม่ข่าย (Server) ซึ่งค่านี้ ยิ่งน้อยก็ยิ่งดี
Jitter - คือค่าความล่าช้าในการรับแพ็กเก็ตข้อมูล ที่ทำได้ช้ากว่าข้อมูลที่ถูกส่งมา ค่านี้ยิ่งต่ำยิ่งดี
ไม่ใช่ว่าทุกพื้นที่จะสามารถให้บริการความเร็วอินเทอร์เน็ตได้เท่ากันทั้งหมด โดยตัวแอพฯ จะเก็บประวัติการเช็คความเร็วเน็ตของเราแยกตามพื้นที่บน Google Map ให้เราสามารถดูประวัติการทดสอบเปรียบเทียบกันในแต่ละพื้นที่ได้ในภายหลัง
สัญญาณเครือข่ายที่ใช้งานอยู่ครอบคลุมแค่ไหน แถวบ้านเราใช้งานได้มั้ย? ไม่ว่าจะเป็น 2G, 3G, 4G หรือ 4G+ เราก็สามารถตรวจสอบพื้นที่นั้นๆ ได้ผ่านของมูลของทาง nPerf บนแอพฯ ได้เลย มีบริการของค่ายหลักๆ ในประเทศให้ได้ตรวจสอบกัน
เราสามารถซูมไปดูใกล้ๆ สถานที่ที่เราอยู่ได้ว่า สัญญาณดังกล่าวครอบคลุมหรือไม่ จะเห็นได้ว่า แม้ภาพรวมๆ จะเป็นสีแดงทั้งหมด แต่เมื่อซูมเข้าไปใกล้ๆ ก็จะเห็นพื้นที่ ที่สัญญาณยังไม่ครอบคลุมบ้าง (ซึ่งจริงๆ แล้ว จุดแหว่งๆ เหล่านี้อาจจะเกิดจากทาง nPerf ไม่มีข้อมูลของการเช็คความเร็วในจุดดังกล่าวก็ได้)
การใช้งานอินเทอร์เน็ตบางครั้งเราไม่ได้อยู่กับที่ เช่น การเปิด Google Map ระหว่างขับรถ หรือ ดูสตรีมวีดีโอระหว่างนั่งรถทัวร์ ที่จะมีการเปลี่ยนเสาที่ให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตบนมือถืออยู่ตลอดเวลา nPerf เลยมีการทดสอบความเร็วเน็ตระหว่างการเดินทางให้ใช้ด้วย ซึ่งข้อมูลที่ได้ นอกจากจะให้เราได้รับทราบแล้ว ยังถูกทาง nPerf นำไปประมวลผลเพื่อสร้าง Coverage Map ให้ทุกๆ คน ได้ใช้งานกันต่อไปด้วย
เมื่อเริ่มการบันทึกคุณภาพสัญญาณระหว่างการเดินทาง แอพฯ จะทำการจับความเร็วอินเทอร์เน็ตระหว่างทางที่เราผ่าน โดยสีของสัญลักษณ์ที่ปรากฏจะบ่งบอกถึงคุณภาพสัญญาณ อย่างในภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นระดับ 4G+ (สีแดง) มีจุดเดียวเท่านั้นที่ตกไปเป็น 4G (สีส้ม)
ไม่ใช่แค่เราต้องเข้ามาทดสอบความเร็วภายในแอพฯ เท่านั้น แต่แอพฯ nPerf ยังมีฟีเจอร์ในการโชว์ค่าการอัพโหลด ดาวน์โหลด ระหว่างใช้งานแอพฯ อื่นๆ ในแจ้งเตือน (Notification) อีกด้วย เผื่อให้เราคอยเช็คว่า ในระหว่างการเล่นเกมส์ เน็ตยังรันปกติอยู่หรือเปล่า? หรือไว้คอยเช็คว่า มีการดาวน์โหลดอะไรที่เยอะผิดปกติอยู่หรือไม่ จะได้คอยจัดการได้ทันก่อนที่เน็ตของเราจะหมดไปอย่างไม่รู้ตัว
เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ nPerf โดดเด่นเลย ก็คือการเช็คความเร็วแบบทดสอบการใช้งานจริงๆ ทั้งการเปิดเบราว์เซอร์ และวีดีโอในความละเอียดต่างๆ ที่ทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากกว่าเครื่องมือเช็คความเร็วอื่นๆ ทำให้เราทราบว่า ในความเร็วเน็ตที่เราใช้อยู่ปัจจุบัน สามารถใช้งานอื่นๆ ได้เต็มสปีดอย่างที่คิดหรือไม่ แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับคนที่มีแพ็คเน็ตมือถือจำกัด การได้เช็คความเร็วเน็ตที่หลากหลายกว่าปกติ ก็ต้องใช้ดาต้ามากกว่าปกติเช่นกัน การเช็คบ่อยๆ ด้วยเน็ตมือถือ อาจทำให้เน็ตเราหมดได้นะครับ
|
รู้สึกเซ็งทุกที ที่ครูประถมแจกกระดาษฟูลสแก๊บให้ ก็เข้าใจมาตลอดว่า ตัวเองไม่ชอบเขียนเรียงความ แต่จริงๆ แล้วคือเราไม่ชอบการเขียนตัวหนังสือเต็มบรรทัด ..เท่านั้นเอง.. |