รีวิว Surface 3 วินโดว์แท็บเล็ตตัวเก่ง ที่พร้อมมาแทนที่ Notebook ที่คุณใช้อยู่

เป็นเวลาเกือบ 1 ปี ที่ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Surface Pro 3 (ดูรีวิว Surface Pro 3) ในที่สุดไมโครซอฟท์ก็ปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา นั่นคือ Surface 3 วินโดว์แท็บเล็ตสำหรับคนที่ต้องการความเบาในการพกพา ที่สำคัญมันใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ทำให้ไม่มีจุดอ่อนด้านการหาโปรแกรมมาใช้งานเหมือนรุ่นก่อนที่ใช้ Windows RT สเป็คของ Surface 3 แม้จะมีความแรงน้อยกว่ารุ่นโปร แต่มันก็มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะตอบโจทย์กับการใช้งานทั่วไป และที่สำคัญมันรองรับการอัพเกรตเป็นระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่กำลังจะมาซะด้วย เริ่มสนใจกันแล้วใช่ไหมล่ะ งั้นมาทำความรู้จักกันดีกว่า ว่ามันน่าสนใจมากขนาดไหน

คุณสมบัติที่น่าสนใจของ Surface 3

• ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 (รองรับการอัพเกรตเป็น Windows 10)
• หน้าจอ ClearType Full HD Plus ขนาด 10.8 นิ้ว ความละเอียด 1920x1280 พิกเซล มัลติทัช 10 จุด
• หน่วยประมวลผล Intel Quad-core Atom X7-Z8700
  (2MB cache, 1.6GHz พร้อม Inel Burtst technology up to 2.4GHz)
• หน่วยความจำภายใน 2 ขนาด
  64GB แรม 2GB และ 128GB แรม 4GB
• กล้องหลัง 8MP Auto-Focus 1080p HD
  กล้องหน้า 3.5MP 1080p HD
• แบตเตอรี่ ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 10 ชั่วโมง (ขึ้นกับลักษณะการใช้งาน)
• ลำโพงสเตอริโอระบบเสียง Dolby
• เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.0
• พอร์ท USB 3.0, Mini DisplayPort, microSD, Micro USB (สำหรับชาร์จและส่งผ่านข้อมูล), ช่องเสียบหูฟัง และ Cover port
• เซนเซอร์ภายใน Ambient light sensor, Proximity sensor, Accelerometer, Gyroscope, Magnetometer
• ขนาดตัวเครื่อง 267 x 187 x 8.7 มม. น้ำหนัก 300 กรัม

แกะกล่อง Surface 3

ผมได้สัมผัส Surface ทั้ง รุ่นธรรมดา และรุ่น Pro มาตั้งรุ่นแรกจนมาถึงปัจจุบันที่เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ได้เห็นพัฒนาการของไมโครซอฟท์ที่พยายามลบจุดด้อยให้หมดไปในทุกครั้งที่ออกรุ่นใหม่ ซึ่งในปัจจุบันที่เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ผมมองว่าในที่สุด Surface ทั้งรุ่น Pro และรุ่นธรรมดา ก็เดินทางมาถึงจุดที่เรียกว่า "น่าเล่น" ได้สำเร็จ

กล่องของ Surface 3 ยังคงใช้แบบสไลด์เหมือนกับทุกรุ่นที่ผ่านมา อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องประกอบไปด้วย ตัวเครื่อง Surface 3, อแดปเตอร์ชาร์จไฟ และสาย Micro USB ใช่แล้วล่ะ Micro USB นี่คือสิ่งที่ผมชอบที่สุดการชาร์จผ่าน USB ผมว่ามันสะดวกกว่าสายแบบ Magnetic charger มาก จากการทดสอบมันสามารถชาร์จผ่าน Power bank ได้ด้วยนะ แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรจะจ่ายไฟ 2.1A นะครับ ถ้าเอา 1A มาชาร์จ จะใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่นานมากทีเดียว ในภาพจะเห็นว่ามีปากกา (Surface Pen) อันนี้เป็นอุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อแยกนะครับ (4,490 บาท แพงเอาเรื่องอยู่)

ดีไซน์

ในภาพรวมหน้าจอของ Surface 3 ไม่มีความแตกต่างจากรุ่นที่ผ่านๆ มามากนัก ยังคงคอยเซปส์ด้านการออกแบบไว้เหมือนเคย กับกรอบจอสีดำและฝาหลังอลูมิเนียมสีเงินที่ใช้มาตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบัน แต่ว่าน้ำหนักและความเบาของตัวเครื่องจะบางและเบาลงกว่าเดิมครับ

แง่ของความบาง ทางไมโครซอฟท์ได้กล่าวว่า ที่จริงจะทำให้บางกว่านี้ที่จริงก็ทำได้ แต่ที่ไม่ทำก็เพราะต้องการรักษาพอร์ท USB ขนาดปกติเอาไว้ ถ้าบางกว่านี้จะต้องตัดออกอย่างไม่มีทางเลี่ยง

ขาตั้งกางได้ 3 ระดับ คือ สูง, ปานกลาง และต่ำ ต่างจากรุ่น Pro ที่ปรับได้ตั้งแต่ 22 องศา ไปจนถึง 150 องศา เนื่องจากเป็นรุ่นประหยัด

พอร์ททั้งหมดถูกจัดวางไว้ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย พอร์ท Mini Display, USB 3.0, Micro USB (สำหรับชาร์จและเชื่อมต่อข้อมูล), ช่องเสียบหูฟัง และช่องสำหรับเสียบการ์ด microSD ซ่อนอยู่ใต้ Kickstand

ปุ่ม Power วางไว้ที่ด้านบน รวมกับปุ่มเพิ่มลดเสียง การเข้าโหมด Sleep ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่ม Power 1 ครั้ง และอีกดซ้ำเพื่อ Awake ตัวเครื่อง

เมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม Type Cover เจ้า Surface 3 นี่จะให้ประสบการณ์การใช้งานที่ไม่แตกต่างอะไรกับ Notebook เลยล่ะ

Type Cover เห็นเล็กๆ บางๆ แบบนี้ แต่มีไฟ Backlit ในตัวและ Touchpad mี่รองรับ Multi-gesture ในตัวด้วย และหากพับไปด้านหลังของตัว Surface ก็จะตัดการทำงานให้เราอัตโนมัติ เมื่ออยู่ในโหมดแท็บเล็ต สามารถปรับระดับในการพิมพ์ได้ 2 ระดับ ตามแต่ความชอบ

ประสิทธิภาพของ Surface 3

Surface 3 ใช้ชิพอินเทลรุ่นใหม่ x-7-Z8700 ซึ่งเป็นแบบ Fanless ไม่มีพัดลมในตัว ทำให้ไม่มีไอร้อนออกมาด้านข้างของตัวเครื่อง และประหยัดพลังงาน ทำให้ใช้งานได้ยาวนานถึงเกือบ 10  ชั่วโมง รุ่นที่ผมทดสอบเป็นรุ่น 128GB ที่ให้แรมมา 4GB จากการใช้งานทั่วไป ต้องบอกว่าตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยม

การบูทเครื่องเข้าวินโดว์ทำได้อย่างรวดเร็ว จุดนี้ส่วนนึงก็ต้องยกความดีให้หน่วยความจำที่เป็น SSD ด้วย ประมาณ 5 วินาที Surface 3 ก็พร้อมที่จะใช้งานแล้วครับ

อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้น ว่าเจ้านี่ใช้ Windows 8.1 การหาโปรแกรมมาใช้งานเพิ่มเติมจึงไม่ใช่เรื่องยาก จะเล่น LINE หรือเซิฟเว็บผ่าน Chrome ก็ทำได้สบายๆ

กล้องในตัวมีความคมชัดมากทีเดียว Video Call ผ่าน Skype ไม่จำเป็นต้องต่อไมค์หรือกล้องเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก

ทดสอบกล้อง Surface 3

แม้ว่าผมจะไม่ชอบใช้แท็บเล็ตถ่ายรูปสักเท่าไหร่ เพราะว่ามันดูตลก และไม่สะดวกเอาซะเลย แต่ในบางจังหวะมันก็ไม่มีทางเลี่ยง ลองมาชมกันครับว่า กล้อง 8MP AF ของ Surface 3 จะทำได้ดีขนาดไหน

ความเห็นจากไทยแวร์

จุดเด่น

• น้ำหนักเบา พกพาง่าย
• รองรับการใช้งานร่วมกับปากกาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
• แบตเตอรี่ใช้งานได้ทั้งวัน
• ชาร์จผ่านพอร์ทไมโครยูเอสบีได้

จุดด้อย

• รุ่นเริ่มต้นให้แรมเพียง 2GB 
• การจะใช้งานให้สมบูรณ์ต้องอาศัยอุปกรณ์เสริมอย่าง Type Cover และ Surface Pen ซึ่งต้องซื้อแยกในราคาที่แพงพอสมควร

หากเป็นงานทั่วไป Surface 3 สามารถทำงานแทน Notebook ได้อย่างสบายๆ แต่ว่าหากต้องการใช้งานโปรแกรมโหดๆ ตระกูล Adobe อาจจะเป็นงานที่หนักเกินไปสำหรับเจ้านี่ ใครที่ยังไม่มี Notebook หากมองตัวนี้ไว้ใช้งานเป็นหลัก อาจจะไม่ตอบสนองความต้องการได้สักเท่าไหร่ ข้ามไปเล่น Surface Pro จะดีกว่า แต่นั่นก็หมายความรวมด้วยว่างบประมาณไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ