สวัสดีเพื่อนๆ ชาวไทยแวร์ทุกท่านครับ สำหรับวันนี้ไทยแวร์รีวิวกลับมาพร้อมกับแกดเจ็ตดีๆ ที่จะเอามาฝากเพื่อนๆ ชาวไอทีที่รักสุขภาพทุกท่านให้ได้ชมกัน โดยแกดเจ็ตที่ว่านี้ถือเป็นแกดเจ็ตที่ถูกออกแบบมาเพือเอาใจคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ ซึ่งแกดเจ็ตดังกล่าวมีชื่อว่า "Cuptime" หรือแก้วน้ำอัจฉริยะที่สามารถบอกปริมาณน้ำที่เราดื่มไปในแต่ละวัน หรือดื่มไปกี่ครั้ง พร้อมวิเคราะห์ผลลัพธ์ของปริมาณน้ำในแต่ละวันที่เราดื่มเข้าไปว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เพียงพอต่อร่างกายหรือไม่ โดยเจ้า Cuptime นี้มันสามารถทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนของเราได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ผ่านทางแอปพลิเคชัน Cuptime ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำงานเชื่อมต่อกับแก้วน้ำอัจฉริยะของเราโดยตรง เพื่อให้ผู้ใช้ไม่พลาดในเรื่องของการดูและสุขภาพ ด้วยการดื่มน้ำที่เหมาะสมตามเกณฑ์ที่ร่างกายของเราต้องการ
ข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์
ทดสอบการใช้งาน Cuptime แก้วน้ำอัจฉริยะ
สำหรับเจ้าแก้วอัจฉริยะ Cuptime ที่ทางไทยแวร์ได้ทดลองนำมาใช้งานนั้น แว๊บแรกที่เห็นภายนอกหลังจากแกะออกมาจากกล่องนั้นถือว่าเป็นแก้วที่มาพร้อมกับแพ็คเก็จที่ดูดีเลยทีเดียว โดยแพ็คเกจของ Cuptime จะมาในลักษณะของกล่องแคปซูลขนาดใหญ่ด้านหน้าเป็นกระจกพลาสติกใสเผยให้เห็นแก้วอัจฉริยะอย่างชัดเจน ส่วนด้านหลังจะเป็นสีดำด้านพร้อมคำบรรยายผลิตภัณฑ์ ส่วนพระเอกของเราอย่าง Cuptime นั้น ภายนอกดูเป็นแก้วน้ำดีไซน์สะอาดตา ทั้งตัวแก้วและฝาปิดนั้นเป็นสีขาวสีเดียวกันทั้งหมด ส่วนด้านหลังนั้นจะมีไฟแสดงสถานะ เอาไว้บ่งบอกการทำงานของแก้วน้ำ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตามการทำงานของแก้วน้ำได้
แพ็คเกจมาในรูปแบบของแคปซูล ภาพนอกดูสวยงามใช้ได้
ด้านหลังมาพร้อมกับคำบรรยาผลิตภัณฑ์ และวิธีการใช้งาน Cuptime เบื้องต้น
หน้าตาพระเอกของเราหรือเจ้า Cuptime เมื่อแกะออกมาจากแพคเกจแล้ว
ตัวแก้วด้านใน Cuptime เมื่อแกะฝาปิดแก้วออก
สำหรับฝาปิดนั้นสามารถใช้เป็นฝารองก้นแก้วได้ด้วย และใช้เป็นที่เปิดช่องใส่ถ่านที่อยู่ตรงก้นแก้วไปในตัว
เมื่อแกะช่องใส่ถ่านแล้วจะพบกับถ่านกระดุม สองก้อนใส่อยู่
เริ่มต้นการใช้งาน
สำหรับวิธีการใช้งาน Cuptime นั้น เพื่อให้มันสามารถติดตามการดื่มน้ำของผู้ใช้งานได้ ผู้ใช้จำเป็นที่จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Cuptime โดยเพื่อนๆ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ทั้งจากทาง App Store สำหรับผู้ที่ใช้งาน iOS หรือ จาก Play Store สำหรับผู้ที่ใช้งาน Android
หน้าตาของแอปพลิเคชัน Cuptime ที่สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน App Store และ Play store
เมื่อกดเข้าไปจะเจอกับหน้าตาของแอปพลิเคชันแบบนี้
หลังจากนั้นแอปพลิเคชันจะถามว่า มีแก้ว Cuptime หรือยังให้ตอบไปที่ I have got a Cuptime
จากนั้นแอปพลิเคชันจะขึ้นหน้าต่างแบบนี้ขึ้นมา ให้เรากดเลือกเข้าไปที่รูปสี่เหลี่ยมทางด้านขวามือบนที่อยู่ข้างๆ เครื่องมือแว่นขยาย
เพื่อสแกนบาร์โค้ดที่อยู่ใต้แก้วน้ำ Cuptime
ใช้มือถือสแกนได้เลยทันที โดยหากเมื่อ App Cuptime สามารถสแกนได้แล้วสมาร์ทโฟนของเราจะสั่นขึ้นมาทันที
เมื่อสแกนเสร็จแล้วให้เรากลับไปที่หน้าแอปพลิเคชันเดิม จะเจอกับ Cuptime ที่เราสแกนขึ้นมา ให้เรากดเข้าไปที่อุปกรณ์ที่เจอ จากนั้นแอปฯ จะให้เราทำการตั้งชื่อแก้วน้ำของเรา
หลังจากนั้นตัวแอปพลิเคชันจะให้เราทำการ ลงทะเบียนโดยให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวอย่างเช่น Email ชื่อเล่น และรหัสผ่านที่ใช้ในการ Login เพื่อเข้ามาดูข้อมูลการดื่มน้ำของเรา
เมื่อกรอกทุกอย่างตามที่กำหนดเสร็จเรียบร้อยแล้วแอปฯ จะเด้งไปอีกหน้าหนึ่ง ซึ่งในหน้านี้แอปพลิเคชันจะให้เราตั้งค่าข้อมูลส่วนตัวของเราอย่างเช่น น้ำหนัก ส่วนสูง เพศ ฯลฯ ซึ่งข้อมูลนี้ให้เรากรอกตามความเป็นจริงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การวิเคราะห์ที่ดีที่สุด
หลังจากที่ตั้งค่าเสร็จแล้ว แอปฯจะขึ้นหน้าต่างนี้ขึ้นมาซึ่งเป็นหน้าต่างคำแนะนำว่าในหนึ่งวันเราควรดื่มน้ำกี่ลิตร ซึ่งในหน้านี้หากเราต้องการตั้งค่าการตื่มน้ำในแต่ละวันให้เพิ่มขึ้นหรือลดลงก็สามารถเข้าไปกำหนดได้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยการกดเข้าไปที่ Custom
เมื่อตั้งค่าและกด Comfirm เรียบร้อยแล้ว แอปฯ จะเด้งหน้าต่างนี้ขึ้นมาซึ่งเป็นหน้าต่างแสดงปริมาณน้ำที่เราดื่มต่อวัน โดยสำหรับใครที่แก้วยังไม่ได้เติมน้ำลงไป หน้าต่างแอปฯ จะแสดงค่าเป็น 0 แต่หากได้เติมน้ำลงไปแล้วตัวแอปฯ จะทำการอัพเดทน้ำที่เติมลงไปในแก้วอย่างอัตโนมัติ
เราสามารถกดเข้าไปดูส่วนของฟังก์ชั่น Habit ที่มีไว้สำหรับบ่งบอกปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวันของเรา พร้อมทั้งดูคะแนนการดื่มน้ำของเราที่แอปพลิเคชันวัดมา ได้อีกด้วย นอกจากนี้แล้วเรายังสามารถเข้าไปทำการตั้งค่าส่วนอื่นๆ อย่างการแก้ไขปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวัน หรือตรวจสอบการอัพเดทของแอปพลิเคชัน Cuptime ได้ที่ฟังก์ชั่น Setting อีกด้วย
ความสามารถพิเศษอื่นๆ ของ Cuptime
แก้วสามารถบอกได้ว่าน้ำที่เรากำลังจะดื่มนั้น มีอุณหภูมิประมาณเท่าใด โดยสีที่ใช้ในการบอกอุณหภูมิของแก้วก็จะมีด้วยกันสามสี ซึ่งก็คือ สีฟ้า (น้ำที่มีอุณหภูมิห้องปกติไปจนถึงเย็น) สีส้ม (น้ำอุ่น) และสีแดง (น้ำร้อน)
นอกจากนี้ยังสามารถล้างทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายเลย โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าแก้วจะพังเพราะด้านล่างของแก้วที่เป็นช่องใส่ถ่านนั้น มีขอบยางกันน้ำ ปิดเอาไว้อย่างแน่นหนา
คลิปวิดีโอรีวิวแก้วน้ำอัจฉริยะ Cuptime
สรุปผลการใช้งานแก้วน้ำอัจฉริยะ Cuptime
ข้อดี
ข้อสังเกต
สรุปโดยรวม สำหรับแก้วอัจฉริยะหรือ Cuptime ตัวนี้จากการที่ทางทีมงานไทยแวร์ได้ทดลองใช้งานแล้ว ก็พบว่ามันเป็นแกดเจ็ตเสริมที่ถือว่ายังไม่ค่อยมีความจำเป็นมากนักสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ว่า Cuptime ก็ยังมีข้อดีเข้ามาเสริมเพื่อให้แก้วน้ำดูทันสมัยมากขึ้นอยู่บ้าง อย่างเช่นแจ้งเตือนด้วยเสียงแบบอัจฉริยะ หรือบอกอุณหภูมิของน้ำในแก้วได้ ถึงอย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่รักสุขภาพและอย่างได้แกดเจ็ตที่ดูล้ำๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ จะเอา Cuptime ตัวนี้ไปใช้งาน ก็ถือว่าโอเคนะ เพราะอย่างน้อยๆ มันก็อาจจะช่วยปรับเปลี่ยนนิสัยการดื่มน้ำของเราได้ในระดับหนึ่ง ^_^