พรีวิว Huawei P10 สมาร์ทโฟน High-End พร้อมกล้องคุณภาพสูงจาก Leica [แปล]

สดๆ ร้อนๆ เหมือนพึ่งออกจากเตา สำหรับ สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง Huawei P10 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน แต่กลับเรียกกระแสฮือฮาได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยสีที่แปลกใหม่ถึง 2 สี อย่าง Greenery และ Dazzling Blue ทำให้ Huawei P10 เป็นสมาร์ทโฟนแฟชั่นมากขึ้น กับ เลนส์ใหม่ Leica SUMMILUX-H f/1.8 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ขนมาอย่างครบครัน

ซึ่งแท้จริงแล้ว Huawei P10 จะเป็นเช่นไรนั้น ทางทีมงาน Thaiware จะมาพรีวิวให้คุณได้ชมกัน โดยคุณสามารถติดตามรายละเอียดได้ด้านล่างเลยครับ

รายละเอียดข้อมูล Huawei P10

• หน้าจอแสดงผลขนาด 5.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD
• ชิปประมวลผล Kirin 960 octa-core
• RAM 4 GB
• ROM 64 GM (รองรับ Micro SD 256 GB)
• กล้องหลังคู่ Leica SUMMILUX-H Lens ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (Monochrome) กับ 12 ล้านพิกเซล (RGB) f/1.8
• กล้องหน้า Leica Lens ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล  f/1.8
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด หรือ 1 ซิมการ์ด 1 เมมการ์ด (Dual-SIM)
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, USB Type-C และ NFC
• แบตเตอรี่ 3200 mAh
• ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
• ราคา €649 (หรือประมาณ 23,900 บาท) ซึ่งราคาขายที่แน่นอนในประเทศไทย ต้องรอทาง Huawei ประเทศไทยประกาศอีกทีหนึ่ง

การออกแบบ Huawei P10

เป็นที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับการออกแบบ Huawei P10 ที่มีความคล้ายคลึงกับ Huawei P9 ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เมื่อลองนำทั้ง 2 รุ่นมาเทียบกันแล้ว ดูเหมือนว่า Huawei P10 จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดอยู่ เช่น Huawei P10 จะมีขอบที่โค้งมน และบางขึ้น เพื่อการจับที่สะดวกสบายมากขึ้น และ ปุ่ม Power เป็นเว้าเล็กน้อย ทำให้เรารู้สึกถึงความแตกต่างมากพอ ที่จะไม่สับสนระหว่างปุ่ม Power กับ ปุ่ม Volume

บางทีการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของ Huawei P10 ก็คือ การที่ Huawei จัดวางตำแหน่งเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือไว้ด้านหน้าส่วนล่างของตัวเครื่อง ซึ่งในส่วนนี้ทาง Huawei ได้บอกเอาไว้ว่า "เขาพยายามที่จะออกแบบให้ตัวเครื่องมีการใช้งานที่เรียบง่ายมากยิ่งขึ้น"

ตามขอบล่างของตัวเครื่อง จะพบกับลำโพงเดี่ยว, พอร์ต USB-C และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งในส่วนของช่องเสียบหูฟัง ทาง Huawei ทำออกมาให้แตกต่างจากสมาร์ทโฟนค่ายอื่น เพื่อให้เราสามารถใช้สมาร์ทโฟนได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสายหูฟังมาบังหน้าจอ

ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งหมด (ไม่สามารถเปิดฝาหลังได้) แต่จะมี 2 รุ่นที่มีด้านหลังที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ นั่นคือ รุ่นสี Greenery และ Dazzling Blue โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ จะมีพื้นผิวขัดที่เรียกว่า Hyper Diamond Cut ซึ่งมันจะทำให้โลหะด้านหลังสะท้อนกับแสง ดูสวยงาม และหรูหรา

หน้าจอแสดงผล Huawei P10

ในส่วนของหน้าจอแสดงผลของ Huawei P10 นั้น มีความละเอียด Full HD ที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป มีการแสดงผลที่สดใส ง่ายต่อการอ่าน เช่นเดียวกับ Huawei P9 ซึ่งถ้าหากว่าต้องการความละเอียดที่สูงกว่านั้น คุณจำเป็นต้องใช้ Huawei P10 Plus ที่มีความละเอียดแบบ QHD แทน

และขนาดหน้าจอแสดงผล 5.1 นิ้ว ถือได้ว่าเป็น ขนาดที่เหมาะสมสำหรับสมาร์ทโฟนในปัจจุบันมาก เนื่องจาก สะดวกต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของแอปพลิเคชันต่างๆ, ดูวิดีโอ หรือ คอนเทนท์ต่างๆ จากเว็บไซต์

 รายละเอียด Huawei P10

การมาของ Huawei P10 ครั้งนี้ ได้อัพเกรดตัวเองขึ้นมาให้มีสเปคเดียวกันกับ Huawei Mate 9 ที่ใช้ชิปเซ็ต Kirin 960, RAM 4 GB และ ROM 64 GB ที่เพียงพอต่อการใช้งานโดยทั่วไปเท่านั้น ไม่มีรุ่น 128 GB ให้เลือกซื้อใน Huawei P10 (128 GB มีใน Huawei P10 Plus เท่านั้น) ซึ่งถ้าหากคุณไม่พอใจกับ ROM ที่มีให้เพียง 64 GB สิ่งเดียวที่ทำได้คือ ใช้ Micro SD ที่รองรับความจุสูงสุดได้ 256 GB 

ในด้านของ Emotion UI 5.1 บนระบบปฏิบัติการ Android 7 ซึ่งในจุดนี้รู้สึกผิดหวัง และขัดใจในตัว Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ไม่น้อย เนื่องจากมันขาดคุณสมบัติที่สำคัญของ Android 7 นั่นคือ มันไม่รองรับการใช้งาน Google Assistant และอุปกรณ์ Daydream เลย

อย่างไรก็ตามแม้ว่า Emotion UI 5.1 จะไม่รองรับฟีเจอร์บางตัวของ Android 7 แต่การออกแบบ Emotion UI เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว นั่นเพราะ มันถูกออกแบบมาให้เข้ากันกับธีมของตัวเครื่อง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหาก Huawei P10 ของคุณมีสี Greenery ค่าเริ่มต้นของ Emotion UI ก็จะมีสี Greenery  เช่นเดียวกัน 

นอกจากนี้ Huawei P10 ยังมีสิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่าง นั่นคือ การนำเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาไว้ด้านหน้าเช่นเดียวกับ Huawei Mate 9 Pro ซึ่งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ จะเป็นปุ่มเดียวกับ Smart Touch ที่จะช่วยให้การทำงานของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้น ด้วย รูปแบบการกดทั้ง 3 รูปแบบ ดังนี้

• Short Tap - การกดสั้นๆ เพื่อใช้คำสั่ง Back
• Long Tap - การกดค้าง เพื่อใช้คำสั่ง Home
• Swipe Tap - การปัดไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อใช้คำสั่ง Recent

ซึ่งการใช้งานทั้ง 3 รูปแบบนี้ ถือว่าทำออกมาได้ Make sense มากๆ แต่ในช่วงแรก คงต้องปรับตัวกันพอสมควรเลยทีเดียว

ด้านแบตเตอรี่ จัดว่า Huawei P10 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความจุแบตเตอรี่ค่อนข้างสูง อยู่ที่ 3200 mAh (มากกว่า Huawei P9 ที่มี 3000 mAh) ทำให้คุณสามารถใช้งานโดยทั่วไปได้นานเกือบ 2 วันอีกด้วย ทั้งยังรองรับ Fast Charge ที่ชาร์จเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ 1 วันเต็มๆ

กล้อง Huawei P10

ตอนเปิดตัว Huawei P9 มันมาพร้อมกับระบบกล้อง และเลนส์ที่ได้ความร่วมมือจาก Lecia และใน Huawei P10 มันก็กลับมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Leica Dual-Camera 2.0 เลนส์คู่ ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่ทำงานคู่กับ ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เช่นเดียวกับ Huawei Mate 9 

เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างคือ Huawei P10 มี เลนส์ Leica SUMMILUX-H f/1.8 ที่จะมีเพิ่มคุณภาพของไฟล์ภาพอย่างมีระดับมากยิ่งขึ้น ในส่วนของกล้องหน้า ที่มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากมันมีความสามารถเดียวกันกับ Huawei P9

(ภาพจาก IG Techradar) 

สรุป

โดยรวมแล้ว Huawei P10 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีสเปคที่น่าประทับใจมาก เนื่องจากมีการอัพเกรดกล้องให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ด้วยกล้องหลังคู่ Leica SUMMILUX-H Lens f/1.8 มีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (Monochrome) กับ 12 ล้านพิกเซล (RGB) ทั้งยังมีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ ที่รวมเอารูปแบบการกดทั้ง 3 รูปแบบ มาใช้งานเพื่อความสะดวกสบายกันอีกด้วย  

แต่ถึงอย่างนั้น Huawei P10 ก็ยังมีสิ่งที่ทำให้รู้สึกผิดหวังอยู่ นั่นคือ

• มันไม่สามารถรองรับการใช้งาน Google Assistant และอุปกรณ์ Daydream ได้
• หน้าจอที่ยังเป็นแบบ Full HD เช่นเดียวกับ Huawei P9