NUMKINGSTONน่าจะเป็นมือถือที่สร้างกระแสได้มากที่สุดในช่วงไตรมาส 4 ก็เป็นได้ สำหรับมือถือ Mi 10T Pro 5G จากเสียวหมี่ ด้วยราคาเปิดตัวเริ่มต้นเพียง 13,990 บาท แต่ได้สเปกระดับเรือธงสุดเร้าใจ ทำให้หลายๆ คนต้องรีบจอง รีบสั่งซื้อกันเลยทีเดียว แล้วมือถือ Mi 10T Pro 5G เหมาะสำหรับคุณหรือไม่ ควรค่าแก่การซื้อหรือเปล่าสำหรับงบเท่านี้ มาอ่านรีวิวจากไทยแวร์ก่อนตัดสินใจกันดีกว่า
|  			 ข้อดี 
  |  			 			 ข้อสังเกต 
  |  		
| ขนาดมิติ (มิลลิเมตร) Dimension (mm.)  |  			165.1 x 76.4 x 9.3 | 
|  			 น้ำหนัก (กรัม)  |  			218 | 
| หน้าจอ (Display)  |  			6.67 นิ้ว (ความละเอียด : 1080 x 2400 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรต : 144 Hz)  |  		
| ระบบปฏิบัติการ (OS)  |  			MIUI 12 (ครอบทับ Android 10) | 
| ชิปเซ็ต (Chipset)  |  			Qualcomm SM8250 Snapdragon 865 | 
| แรม (กิกะไบต์) (RAM - GB)  |  			8 | 
| พื้นที่เก็บข้อมูล (กิกะไบต์) (Storage - GB)  |  			128/256 | 
| กล้องถ่ายภาพ (Camera)  |  			 			
  |  		
| ความละเอียดวิดีโอ (Video Resolution)  |  			UHD 8K | 
| แบตเตอรี่ (มิลลิแอมป์) (Battery - mAh)  |  			5,000 | 
| การใช้งานอื่นๆ (Others)  |  			 			
  |  		
ภายในกล่องมือถือ Mi 10T Pro 5G ประกอบไปด้วยตัวเครื่อง กล่องใส่อุปกรณ์จิปาถะจำพวกเข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด คู่มือการใช้งาน อะแดปเตอร์แปลงช่อง USB-C ให้เป็นช่องหูฟังปกติ เคสกันรอยที่ไม่ใช่แค่เคสพลาสติกใสธรรมดา แต่เป็นเคสที่สกรีนชื่อแบรนด์ Xiaomi แบบเต็มพิกัด ส่วนสายชาร์จ USB-C และอะแดปเตอร์ชาร์จไฟก็ยังมีให้ครบทุกอย่าง
มือถือ Mi 10T Pro 5G มีให้เลือกถึง 3 สีด้วยกัน โดยสีตัวเครื่องที่ทางไทยแวร์ได้มานั้นคือสีเงิน Lunar Silver ที่มีความแวววาวมากๆ ถ้าใครเกรงว่าจะเป็นรอยนิ้วมือตั้งแต่แรกสัมผัส แนะนำให้ใส่เคสที่แถมมาในกล่องไปก่อน หรือซื้อเคสอื่นๆ เตรียมไว้เลยก็จะดีมาก ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องถือว่าค่อนข้างหนักทีเดียว ด้วยน้ำหนักที่มากกว่า 200 กรัม แม้ตัวเครื่องจะมีความบางเพียง 9.3 มิลลิเมตรแต่ก็ดูหนาพอสมควร
  หน้าจอใหญ่ 6.67 นิ้ว รีเฟรชเรต 144 Hz  |  			|
  สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องได้  |  			  มีช่องลำโพง พอร์ต USB-C และช่องใส่ซิม  |  		
  กล้อง 3 เลนส์ความละเอียดสูงพร้อมแฟลช  |  			  กล้องหน้าแบบเจาะรูบริเวณมุมจอ  |  		
ในขณะที่หน้าจอแสดงผลมือถือทั่วไปมีอัตรารีเฟรชเรตตั้งแต่ 60 Hz, 90 Hz จนถึง 120 Hz แต่มือถือ Mi 10T Pro 5G ล้ำหน้ากว่าใคร ด้วยอัตรารีเฟรชเรต 144 Hz! ซึ่งตัวเลขค่านี้คือจำนวนภาพนิ่งที่แสดงบนหน้าจอได้ใน 1 วินาที ตัวเลขยิ่งมากเท่าไหร่ แปลว่าการแสดงผลภาพจะลื่นไหลมากขึ้นเท่านั้น
โดยในมือถือ Mi 10T Pro 5G มีอัตรารีเฟรชเรตหน้าจอให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ 60 Hz, 90 Hz และ 144 Hz แนะนำว่าให้ตั้งค่าเป็น 144 Hz ไปเลย จะพบว่าการแสดงภาพลื่นไหลกว่าหน้าจอ 60 Hz มากๆ ส่วนใครที่ห่วงว่าจะทำให้เปลืองแบตเตอรี่ไหม ขอบอกว่านี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่ไม่มีผลมากนัก และแบตเตอรี่ของมือถือ Mi 10T Pro 5G ก็ถือว่าเยอะเพียงพอต่อการใช้งาน 1 วันอยู่แล้ว
   |  			   |  		
   |  			   |  		
มือถือ Mi 10T Pro 5G มีอีกจุดเด่นที่ระบบประมวลผลภายใน อย่างชิปเซ็ต Snapdragon 865 5G, ระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย MIUI 12, RAM 8 GB และความจุที่มีให้เลือกทั้ง 128 GB และ 256 GB (เครื่องทดสอบที่ได้มามีความจุ 128GB) จากการทดสอบทั้งการเล่นเกมที่รองรับรีเฟรชเรต 144 Hz อย่าง Real Racing 3, Temple Run 2 และ Cytus II พบว่าแสดงภาพกราฟิกลื่นไหลดี ตอบสนองการสัมผัสได้รวดเร็วทันใจ ส่วนการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน 3DMark และ Geekbench 5 ก็ได้คะแนนที่ค่อนข้างสูง
   |  			   |  		
มือถือ Mi 10T Pro 5G มีจุดเด่นที่เซนเซอร์กล้องความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultrawide 13 ล้านพิกเซล และเลนส์ Macro 5 ล้านพิกเซล แต่ความพิเศษไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เพราะ AI ที่ใส่มาในกล้องนั้นถือว่าอยู่ในระดับสุดยอด ไม่ใช่แค่การตรวจจับ ประมวลผลวัตถุแบบธรรมดาๆ แต่ยังสามารถแก้ไขภาพเดิมๆ ให้เป็นภาพใหม่ได้ เช่น AI SkyScaping 3.0 เปลี่ยนท้องฟ้าแบบเดิมๆ ให้สดใสขึ้น
หรือว่าจะเปลี่ยนจากกลางวันเป็นกลางคืนไปเลยก็ได้, โหมด Photo Clones ถ่ายภาพและวิดีโอแบบโคลนนิ่งตัวแบบได้สูงสุด 4 คนในภาพหรือคลิปเดียว, ฟิลเตอร์สีใหม่อย่าง Cyberpunk แบบในเกมชื่อดังอย่าง Cyberpunk 2077, Gold Vibes ฟิลเตอร์ที่โฟกัสเฉพาะวัตถุสีโทนส้ม โทนเหลือง, Black Ice โฟกัสเฉพาะวัตถุสีโทนฟ้า ให้ดูเยือกเย็น ฯลฯ
   |  			   |  		
ตัวอย่างโหมดถ่ายภาพรูปแบบต่างๆ
   |  			   |  		
 
 ตัวอย่างภาพถ่ายจาก AI Skyscaping 3.0
มือถือ Mi 10T Pro 5G ใช้แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ถือว่าเป็นความจุที่ค่อนข้างสูงทีเดียว แต่นั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ตัวเครื่องค่อนข้างหนักเมื่อเทียบกับมือถือทั่วๆ ไป แต่นั่นก็แลกมาด้วยระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานกว่า จากการทดสอบด้วยการเชื่อมต่อ 4G สลับกับ Wi-Fi ตลอดทั้งวัน ใช้ถ่ายรูปสลับกับเล่นเกมในช่วงกลางวัน แบตเตอรี่ยังลดไปเกือบ 10% เท่านั้น แต่ถ้าใช้งานบ่อยครั้งหรือเปิดการแจ้งเตือนแชท โซเชียล ก็ทำให้แบตเตอรี่ลดลงเร็วขึ้น แต่ก็มั่นใจได้ว่าแบตเตอรี่จะไม่หมดภายในครึ่งวันแน่นอน
ฟีเจอร์อื่นๆ ใน Mi 10T Pro 5G ก็มีมาให้ไม่น้อย ทั้งการใช้งาน 5G ที่รองรับเครือข่ายในไทยแล้ว, ระบบรักษาความปลอดภัยผ่านการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องและสแกนใบหน้า หรือการใช้งานด้านเสียง ก็ดังกระหึ่มด้วยลำโพงสเตอริโอ หรือจะใช้ร่วมกับหูฟังผ่านพอร์ต USB-C และอะแดปเตอร์ก็ได้
นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดแล้วในหมู่มือถือราคาไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับมือถือ Mi 10T Pro 5G แม้จะมีรุ่นความจุ 256 GB ที่เปิดตัวด้วยราคาเกิน 15,000 บาทนิดๆ แต่ก็ยังไม่เกิน 20,000 บาทอยู่ดี ด้วยระบบประมวลผลที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 865 รองรับ 5G ในตัว แถมยังมีกล้องความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซลที่ให้คุณภาพค่อนข้างดีและลูกเล่นมากมาย ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องน้ำหนักตัวเครื่องที่ค่อนข้างหนัก และตัวเครื่องที่มีความเงาวาวสูงมาก มือถือ Mi 10T Pro 5G นี่แหละคุ้มค่าที่สุดแล้ว
                                        คำสำคัญ »
                                    | 
								 | 
							
							Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |