มือถือ Mi 11 เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่สร้างกระแสครั้งใหญ่ให้ผู้คนติดตามกัน ที่มาในดีไซน์สวย น้ำหนักเบา พร้อมสโลแกน Movie Magic พร้อมตีคู่แข่งด้วยฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอแบบจัดหนัก ซึ่งทางไทยแวร์ได้ไปทดสอบใช้งานจริง ทั้งการถ่ายวิดีโอจริงด้วยทุก ๆ ฟีเจอร์ที่มีในกล้อง 108 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดระดับ 8K พร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ และการใช้งานโดยรวมในแง่ของมือถือ ซึ่งผลจะออกมาเป็นอย่างไร และการใช้งานในฐานะมือถือถือว่าโอเคไหม อ่านต่อกันได้เลย
ขนาด (Size) |
|
น้ำหนัก (Weight) |
|
หน้าจอแสดงผล (Display) |
|
ชิปประมวลผล (Chipset) |
|
ระบบปฏิบัติการ (OS) |
|
ความจุ (Storage) |
|
กล้อง (Camera) |
|
ความละเอียดวิดีโอ (Video Resolution) |
|
แบตเตอรี่ (Battery) |
|
ระบบรักษาความปลอดภัย (Security System) |
|
ราคา (Price) |
|
อุปกรณ์ในกล่องมือถือ Mi 11 นั้นก็ถือว่าครบเครื่องใช้ได้ นอกจากตัวเครื่องแล้ว ยังมีเคสใสกันรอย เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด คู่มือการใช้งานและสาย USB-C มาให้ และที่พิเศษกว่าก็คือ มีอะแดปเตอร์ชาร์จ 55 W ที่ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม เพราะแถมมาในชุดขายเลย
การออกแบบมือถือ Mi 11 ตัวเครื่องที่ทางไทยแวร์ได้มาเป็นสีฟ้า Horizon Blue ตัวเครื่องด้านหลังมีความเหลือบแสง ในบางมุมจะสะท้อนสีเหลือบทองมาด้วย เครื่องมีความยาวพอสมควร ดูแตกต่างจากมือถือทั่วไปนิด ๆ หน้ากว้างจับถนัดกระชับมือ แต่ความบางของตัวเครื่องอาจทำให้บางคนรู้สึกไม่คุ้นเคย
การใช้งานมือถือ Mi 11 ในช่วงแรก ๆ อาจจะรู้สึกว่าเป็นมือถือที่มีตัวเครื่องค่อนข้างยาว แต่ก็ยังจับถือถนัดมือดี ส่วนหน้าจอแสดงผลมีขนาด 6.81 นิ้วแบบ AMOLED เน้นเรื่องของสีสันที่สดใส
นอกจากนี้หน้าจอยังเป็นแบบ AdaptiveSync ที่ปรับได้ตั้งแต่ 30 Hz, 60 Hz, 90 Hz และ 120 Hz ตามเนื้อหาคอนเทนต์ที่กำลังเล่นอยู่ อย่างเช่น การแสดงผลปกติที่ 30 Hz การแสดงผลวิดีโอที่ 60 Hz ส่วนการเล่นเกมหน้าจอจะปรับให้เป็น 90 Hz และ 120 Hz เพื่อช่วยปรับการใช้งานของเครื่องและแบตเตอรี่ และทำให้การแสดงผลขณะเคลื่อนไหวดูต่อเนื่อง ลื่นไหลมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดขณะดูหนังและเล่นเกม แตกต่างจากหน้าจอมือถือทั่วไป
แต่ขอแนะนำว่าให้เปิดใช้งานแบบ 120 Hz ไปเลยดีกว่า นอกจากนี้ ยังรองรับค่า Touch-Sampling ที่สูงถึง 480 Hz จึงทำให้การตอบสนองที่ต้องใช้ความเร็วเพียงเสี้ยววินาที เช่น การเล่นเกมบางประเภท ทำได้รวดเร็วทันใจ
เรื่องระบบประมวลผลภายใน ทาง Xiaomi การันตีความแรงสะใจด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 5nm ที่ให้ความเร็ว แรง ความลื่นไหลขณะใช้งานได้ดีจริง ๆ นอกจากนี้ มือถือ Mi 11 ยังมาพร้อมกับ RAM 8 GB ที่แม้ว่าจะยังก้าวไปไม่ถึง 12 GB หรือ 16 GB แต่เรื่องปัญหาความหน่วง ช้า หรือรันแอปแล้วติด ๆ ขัด ๆ แทบไม่มีเลย ส่วนความจุของรุ่นนี้มีให้เลือกทั้ง 128 GB และ 256 GB โดยทางไทยแวร์ได้มาเป็นเครื่องรุ่น 128 GB แม้จะลองเอาไปใช้ถ่ายวิดีโอแบบเต็มพิกัด พื้นที่ก็ยังเหลือเกินครึ่ง
ส่วนการใช้งาน 5G บน มือถือ Mi 11 ทางผู้เขียนได้ทดสอบด้วยการนำซิมเติมเงินจาก dtac ไปทดลองใช้งาน พบว่าซิมการ์ดนั้นพร้อมรับสัญญาณ 5G แล้ว และในเมนูของมือถือ Mi 11 ก็มีเครือข่าย 5G ให้เลือก แต่ซิมการ์ดที่ทดลองยังไม่ได้เปิดใช้บริการ 5G จึงทำให้การทดลองขึ้นเป็นสัญญาณ 4G ไปก่อน
นับว่าเป็นไฮไลต์จุดขายของมือถือ Mi 11 เลยก็ว่าได้ สำหรับกล้องถ่ายภาพและวิดีโอที่ใช้สโลแกนว่า "Movie Magic" ซึ่งจากสเปกในเว็บไซต์และสื่อโฆษณาก็ถือว่าว้าวมาก ๆ กับการเป็นมือถือที่ถ่ายวิดีโอได้ดั่งเวทมนตร์ แต่จากการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ก็ต้องมาอ่านประสบการณ์ทดสอบใช้งานจริงกัน
ซึ่งการใช้งานจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ก็คือ วิดีโอและภาพนิ่ง ซึ่งการถ่ายวิดีโอจะมีให้เลือกทั้ง
ส่วนการถ่ายภาพนิ่งก็มีให้เลือกทั้ง
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro และภาพถ่ายตอนกลางคืน
ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่จากกล้อง 20 ล้านพิกเซล
(Photo, Portrait, Portrait ปรับรูรับแสง และเพิ่มฟิลเตอร์แสงสี)
ตัวอย่างการแสดงระยะซูม (0.6x > 1x > 2x > 5x > 10x > 30x)
ตัวอย่างภาพถ่ายท้องฟ้าจาก AI Skyscaping 3.0
เรื่องแบตเตอรี่ของมือถือ Mi 11 นั้นก็ไม่เป็นสองรองใคร ด้วยความจุ 4,600 mAh ที่ถือว่าค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับความบางของตัวเครื่อง และระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 4+ 55 W ที่เร็วแบบเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ต้องใช้ร่วมกับอะแดปเตอร์ชาร์จที่แถมมาในกล่องเท่านั้นนะ ซึ่งทาง Xiaomi ระบุว่าสามารถชาร์จไฟจาก 0-100% ได้ภายในเวลา 45 นาที แต่จากการชาร์จจริงที่ 26% ก็เรียกได้ว่าแบตเตอรี่ขึ้น 1% แบบนาทีต่อนาทีเลยทีเดียว นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่น้อยลง สะดวกรวดเร็วจริง ๆ
สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับ มือถือ Mi 11 นับว่าเป็นมือถือที่มีความน่าสนใจในแง่ของความสามารถด้านการถ่ายวิดีโอและภาพนิ่งที่มีมากกว่ามือถือทั่วไปและใช้งานได้จริง แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งาน ความถนัดของแต่ละคนด้วย ซึ่งหลาย ๆ ฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอนั้นยังไม่ว้าวแบบในโฆษณาเมื่อมาถ่ายจริง ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่างไม้กันสั่น กิมบอลหรือทีมงานคอยช่วย แต่โดยรวมก็ยังให้ความตื่นตา น่าประทับใจเมื่อทดลองถ่ายวิดีโอจริง ๆ
ส่วนการใช้งานโดยรวมในฐานะมือถือ Mi 11 ถือว่าสอบผ่าน ไม่ว่าจะในแง่ความคล่องตัว พกพาสะดวก ดีไซน์สวย หน้าจอแสดงผลระดับสูง ความลื่นไหลขณะใช้งาน ไปจนถึงแบตเตอรี่และ Quick Charge 4+ ที่รวดเร็วสมคำร่ำลือ ด้วยราคา 21,990 บาท (รุ่น 128 GB) และ 23,990 บาท (รุ่น 256 GB) นับว่าคุ้มค่าทีเดียวเมื่อเทียบกับประสบการณ์การใช้งานที่ได้
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |