รีวิว Samsung Galaxy Tab Active 3 แท็บเล็ตสายถึก ดีไซน์ตอบโจทย์ธุรกิจ ใช้จอสัมผัสได้แม้สวมถุงมือ

Galaxy Tab Active 3 แท็บเล็ตสายถึก ดีไซน์ตอบโจทย์ธุรกิจ ใช้จอสัมผัสได้แม้สวมถุงมือ

Samsung Galaxy Tab Active3 แท็บเล็ต Rugged Design (สายถึก) รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung ที่เปิดตัวมาพร้อมกับภาพลักษณ์อันดุดัน พร้อมตอบโจทย์ทุกการทำงานและลุยกับคุณได้ทุกสถานการณ์

สร้างมาอย่างแข็งแกร่ง จากภายในสู่ภายนอก

ด้วยภาพลักษณ์ของตัวสินค้าที่เด่นชัดขนาดนี้ ต้องขอบอกว่า ถ้าผู้อ่านไทยแวร์ทุกท่าน รู้ดีว่า ตัวเองมีไลฟ์สไตล์การทำงานที่ไม่ได้อยู่แค่ในออฟฟิศ และต้องออกภาคสนามบ่อยๆ หรือแม้แต่ชอบการผจญภัย บุกลุยป่า ฝ่าลุยดง โดยมีแท็บเล็ตหรืออุปกรณ์ทำงานติดตัวไปด้วย รีวิวนี้จะช่วยสำรวจการใช้งานของแท็บเล็ตสายพันธุ์อึดรุ่นนี้ให้คุณเองว่าคุ้มค่าแค่ไหนกับราคาที่ต้องจ่าย

คลิปวิดิโอรีวิวแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค หรือ สเปกแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3

การออกแบบแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3

เรื่องดีไซน์ของ แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 มีการออกแบบที่ไม่ค่อยดูหวือหวาสักเท่าไหร่ และมีสีดำเพียงสีเดียว เพราะจุดเด่นของรุ่นนี้คือเน้นใช้งานแบบถึกทนแบบ Rugged Design ที่ผ่านการทดสอบ MIL-STD-810H มาตรฐานกันน้ำ (ระดับความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร) กันฝุ่นระดับ IP68  และทนทานต่อการตกกระแทกในความสูง 1.2 เมตร ซึ่งหากใส่เคสป้องกันก็สามารถป้องกันการตกกระแทกที่ความสูง 1.5 เมตร 

แต่ที่เห็นเด่นชัดในดีไซน์ของ แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 ถึงแม้จะบอกว่าเป็น Rugged Design แต่กลับมีน้ำหนักค่อนข้างเบา เพียง 429 กรัม (0.429 กิโลกรัม) และขนาดเครื่องไม่ใหญ่มาก ดูภายนอกอาจมองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นแท็บเล็ตสายถึก แต่ข้อดีของมันก็คือทำให้คุณสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก เป็นแท็บเล็ตที่จับถนัดมือ และถือใช้งานข้างเดียวนานๆ ได้ไม่มีเมื่อย ซึ่งมาพร้อมกับปากกา S Pen ให้ใช้จดงาน และช่องเก็บปากกาที่ติดมาพร้อมกับเคส โดยตัวเคสนี้เอง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ไว้กับเครื่องตลอดเวลา

ในส่วนของการควบคุมนอกจากฟังก์ชันหน้าจอ Touch Screen แล้วการออกแบบควบคุมของ Samsung Galaxy Tab Active3 เช่นปุ่ม Home, ปุ่มย้อนกลับ (Back Button) และปุ่ม Recent Apps ก็เปลี่ยนมาใช้แบบปุ่มกด ซึ่งที่จริงแท็บเล็ตสมัยนี้มีการย้ายปุ่มกดไปอยู่บนจอและใช้เป็นแบบสัมผัสกันหมดแล้ว แต่ที่ตัวนี้ยังใช้ปุ่มแบบดั้งเดิมอยู่ ก็น่าจะเป็นเพราะดีไซน์ให้เหมาะกับการเป็นสายลุย และป้องกันปัญหาการใช้แบบทัชยาก หรือกดไม่ค่อยติด นั่นเอง

นอกจากนี้อีกอย่างที่น่าจะมีประโยชน์กับผู้ใช้งาน เวลาไปออกภาคสนาม ก็คือปุ่ม Active Key และฟังก์ชันปุ่มด้านข้าง ที่เราสามารถตั้งค่าคีย์ลัดเพื่อเปิดใช้แอปพลิเคชันหรือตั้งเป็นปุ่มเปิดฟังก์ชันการทำงานต่างๆ บนเครื่องที่ใช้บ่อยๆ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้ (เช่นไฟฉาย กับ กล้อง) ซึ่งก็จะเพิ่มความสะดวกต่อการทำงานที่รวดเร็ว โดยในส่วนนี้เราต้องเข้าไปตั้งค่าใน Settings > คุณสมบัติขั้นสูง > และไปปรับในเรื่องของปุ่มทำงาน (Active Key) และปุ่มด้านข้าง

การใช้งานแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3

หน้าจอ (Display) 

แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 ใช้เทคโนโลยีหน้าจอ PLS TFT LCD ขนาด 8.0 นิ้ว (ความละเอียด : 1920 x 1200 พิกเซล) การแสดงผลของสี (Color Depth) 16M ซึ่งให้สีที่สดกว่าจอ LCD ทั่วไป แต่หากเทียบกับเทคโนโลยีหน้าจอ Super AMOLED ในอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ของ Samsung สีสันอาจไม่คมเข้ม หรือสดใสเท่า ดังนั้นถ้าใครอยากเอามาเล่นเกม ดูหนัง ดูวิดีโอ แบบภาพสวยๆ ตระการตา ก็อาจไม่ถูกใจสิ่งนี้ 

แต่ก็อย่างว่า นี่คือแท็บเล็ตสายลุยที่ไม่ได้ออกแบบมาให้คุณใช้งานแบบนั้น ซึ่งถ้าใครไม่สนใจ มันก็เล่นเกม ดูหนัง หรือดูวิดีโอได้เหมือนกัน

จอแสดงผลแบบ FHD

จุดเด่นของหน้าจอ จริงๆ มันอยู่ที่ด้านการใช้งาน TouchScreen เพราะเทคโนโลยีหน้าจอ แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 ถูกออกแบบมาให้มีความไวสัมผัสที่สูงมาก นั่นทำให้คุณสามารถใช้งาน TouchScreen ได้แม้ขณะสวมถุงมือ ซึ่งก็จะตอบโจทย์เวลาผู้ปฏิบัติงานต้องสวมถุงมือตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่

แต่ทั้งนี้ระบบความไวสัมผัสสูงไม่ได้ถูกเปิดไว้ตลอด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเข้าไปตั้งค่าเสียก่อน

และสุดท้าย ก็อย่าลืมที่จะปิดมันหลังจากใช้งานเสร็จด้วย เพราะผมเคยเปิดไว้ตลอดแล้ว ผลก็คือ "หลอน" เพราะแตะจอนิดหน่อย (ด้วยมือเปล่าหรือแม้แต่ปลายขนบนนิ้ว) มันก็เปิดนู่นเปิดนี่ให้เองซึ่งพอนึกได้ว่าเปิดระบบนี้ไว้และไปปิด..มันก็ "หาย" (ฮ่า) 

ประสิทธิภาพ (Performance)

แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 ใช้หน่วยประมวลผลจากชิป Exynos 9810 ซีพียู Octa-Core ความเร็ว 1.7GHz เร่งได้สูงสุด 2.7GHz กราฟิก Mali-G72 MP18 สำหรับแรมมี 4GB และความจุเริ่มต้นให้ 64/128 GB สามารถใส่ MicroSD เพิ่มได้สูงสุด 1TB ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 และ ONE UI 2.5 รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และเทคโนโลยี MIMO 

ถือว่าครบเครื่อง และมีประสิทธิภาพพอใช้สำหรับแท็บเล็ตรุ่นหนึ่ง การดูวิดีโอ หรือเล่นเกมก็ไม่มีปัญหา อาจติดเรื่อง บางครั้งก็ดูตอบสนองช้าไปนิด เวลาใช้งานหลายอย่างพร้อมกันจนเครื่องโหลด เช่นระหว่างดู YouTube และเปิดใช้งานฟังก์ชัน Picture-in-Picture พร้อมกับเข้าแอปพลิเคชันอื่นไปด้วย

ซึ่งหากใครยังสงสัยถึงเรื่องประสิทธิภาพ เราได้ลองทดสอบกับ 3D Mark ดูแล้วพบว่าได้คะแนนไป 2307 ซึ่งหากเปรียบเทียบกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ในชาร์ตก็สามารถเบียดมาอยู่ในอันดับที่ 17 

กล้อง (Camera)

ประสิทธิภาพของตัวกล้อง แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 มาพร้อมกับกล้องหลัก 13 MP (ล้านพิกเซล) ที่รองรับ Auto Focus โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า และสามารถบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียดสูงสุดระดับ UHD 4K 3840 x 2160 (30 fps) และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล

ภาพจากกล้อง แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 โหมดโปร

ภาพจากกล้อง แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 โหมดกลางคืน

ภาพจากกล้อง แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 โหมดพาโรนาม่า

มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษ ที่ใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Bixby Vision เพื่อสามารถใช้สแกนเอกสาร สแกนข้อมูลภาพถ่าย สแกนบาร์โค้ดหรือใช้สำหรับสแกนบัตรประจำตัวพนักงาน นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Google ARCore ได้ด้วย

ลองสแกนแก้วกาแฟ เพื่อซิงก์กับข้อมูลสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์

การใช้งานรวมๆ ก็จะเหมาะในการอำนวยความสะดวกในการทำงานต่างๆ ใช้ใช้บริหารสต็อกสินค้า สแกนชำระเงินซึ่งมีเทคโนโลยี NFC หรือ Near-Field Communication สำหรับระบบการชำระเงินด้วยนั่นเอง

แบตเตอรี่ (ฺBattery) 

แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 มีความจุแบตเตอรี่ให้ 5,050 มิลลิแอมป์ (mAh) สามารถใช้งานตลอดทั้งวันได้ยาวนาน 11 ชั่วโมงโดยประมาณ แม้จะดูเหมือนปกติไม่มากหรือน้อย แต่คุณสมบัติพิเศษของอุปกรณ์นี้คือเราสามารถพกพาแบตเตอรี่อีกก้อนที่ชาร์จไฟเต็มระหว่างออกภาคสนาม และถอดเปลี่ยนได้ตลอด ทำให้อุปกรณ์นี้สามารถอยู่กับผู้ใช้ได้ทั้งวัน ทั้งคืน แม้จะมีการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา

คุณสมบัติพิเศษ และฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ (Special Features and Functions)

นอกเหนือจากคุณสมบัติของฮาร์ดแวร์อย่าง กล้อง หน้าจอ ชิปประมวลผล และแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักของอุปกรณ์แล้ว แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 ยังมีฟังก์ชันอื่นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

และสำหรับคนที่ต้องการนำ แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 ไปใช้ทำงานในองค์กรจริงๆ โดยสรุปให้คร่าวๆ ดังนี้

• Samsung Dex ฟังก์ชันเชื่อมต่อกับโทรทัศน์ หรือมอนิเตอร์ระหว่างทำงาน (ต้องใช้สายแปลง USB-C เป็น HDMI)
• รองรับเทคโนโลยี NFC (Near-Field Communication) ส่งข้อมูลระยะใกล้ (จะอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง)
• หน้าจอ Touch Screen สามารถตั้งค่าความไวสัมผัส และใช้งานได้ลื่นไหลแม้สวมถุงมือระหว่างทำงาน
• สามารถตั้งค่า Active Key เพื่อเปิดใช้แอปที่ใช้บ่อยๆ ได้โดยไม่ต้องปลดล็อกหน้าจอ
• มีฟังก์ชัน Face recognition ปลดล็อกหน้าจอด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า รวมถึง Fingerprint Sensor ปลดล็อกด้วยการสแกนลายนิ้วมือ
• มีปากกา S Pen (แถมมาให้)
• รองรับ Samsung Knox ระบบรักษาความปลอดภัย ที่มาเสริมแอนดรอยด์อีกที สามารถปรับแต่งให้เข้ากับระบบไอทีขององค์กรได้อย่างอิสระ หรือนำ แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3 มาตั้งค่าเปลี่ยนให้กลายเป็นอุปกรณ์ Kiosk เพื่อนำไปใช้ทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น
  • ระบบสั่งอาหาร
  • ระบบสแกนบัตรพนักงาน
  • ระบบ Point-of-Sale 
  • ระบบเช็คสต็อกสินค้า
  • และระบบอื่นๆ อีกมากมาย
• มี Bixby ระบบ AI ของอุปกรณ์ Samsung (คล้ายๆ Siri) และ Bixby Vision ดวงตาอัจฉริยะที่สามารถนำกล้องไปถ่าย เพื่อระบุวัตถุ แปลภาษา และหาข้อมูลของสินค้าต่างๆ 

ปากกามาคู่กับเครื่อง 

ระบบปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า

ตัวอย่างภาพการใช้งาน ในการโฆษณาจาก Samsung

ความคิดเห็นเกี่ยวกับแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab Active3

หากพูดถึงการใช้งานทั่วไปอันที่จริงแล้ว แท็บเล็ต Samsung Samsung Galaxy Tab Active3 ก็เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติของฮาร์ดแวร์ที่ให้ประสิทธิภาพดีพอสมควร รวมถึงยังมีความแข็งแรงและคงทนซึ่งน่าจะตอบโจทย์ สำหรับการใช้ทำงานภาคสนาม หรือใช้งานในองค์กรธุรกิจ อยู่แล้ว 

ในด้านของคนใช้งานทั่วไป ก็อาจมองว่าไม่เหมาะกับตัวเอง ถ้าต้องการแค่นำมาใช้แค่ ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม แต่ถ้ามองอีกมุมหากคุณเป็นประเภทที่ชอบพกอุปกรณ์ติดตัว แม้กระทั่งตอนไปเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ คุณก็น่าจะชอบเพราะอย่างน้อยถ้าเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิด ความถึกของเครื่องก็น่าจะเอาอยู่ นอกจากนี้ด้วยราคา แค่ 20,000 ต้นๆ ก็ถือว่าค่อนข้างถูกสำหรับโมเดล Rugged Design เลยทีเดียว