กลายเป็นอีกชื่อที่คุ้นหูเรื่องของดีราคาโดนไปแล้ว สำหรับแบรนด์ POCO ที่อยู่ในเครือแบรนด์ยอดฮิตอย่าง Xiaomi หลังจากที่ส่งสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง มือถือ POCO F2 Pro ก็ถึงตาของเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่อย่างมือถือ POCO F3 NFC ที่เปิดตัวด้วยราคาไม่เกิน 7,000 บาท แต่ได้หน้าจอรีเฟรชเรต 120 Hz และความสามารถอื่นๆ ก็ถือว่าคุ้มค่า เกินราคาจริงๆ แล้วการใช้งานมือถือ POCO X3 NFC จะให้ประสบการณ์ที่ดีกับชาวไทยแวร์หรือไม่ อ่านต่อกันได้เลย!
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
ภายในกล่องมือถือ POCO X3 NFC ถือว่ามีให้ครบเครื่องแบบไม่ต้องซื้อเพิ่มเลยทีเดียว นอกจากตัวเครื่องแล้ว ยังมีกล่องใส่คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด เคสกันรอยแบบใส อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 27 วัตต์ (Watts) (รองรับสูงสุด 33 วัตต์) และสาย USB Type-C
ดีไซน์ของมือถือ POCO X3 NFC นั้น ใช้ขนาดตัวเครื่องที่เหมาะมือ ไม่ดูหนาเทอะทะแม้จะมีความจุแบตเตอรี่ที่สูงกว่ามือถือทั่วไป ฝาหลังทำจากวัสดุผิวเงาสีน้ำเงิน Cobalt Blue สกรีนคำว่า POCO ขนาดใหญ่ แน่นอนว่าปัญหารอยนิ้วมือตามตัวเครื่องก็จะตามมา แต่ว่ารุ่นนี้มีรอยนิ้วมือติดตัวเครื่องไม่มากนัก นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นที่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องที่รวมร่างกับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง กล้องหน้าแบบเจาะรู และยังป้องกันละอองน้ำ IP53 ฉะนั้นอย่าเพิ่งนำเครื่องไปแช่น้ำหรือว่ายน้ำนะ เครื่องพังขึ้นมาไม่รู้ด้วย
มือถือ POCO X3 NFC น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนราคาไม่เกินหมื่นรุ่นแรกๆ ที่ใส่หน้าจอรีเฟรชเรต 120 Hz มาให้ สามารถเลือกได้จากเมนูตั้งค่าหน้าจอได้เลยว่าจะใช้ 60 Hz หรือ 120 Hz ทางที่ดีก็เปิดใช้ 120 Hz ไปเลยดีกว่า เพราะให้การแสดงผลที่ลื่นไหลกว่าจริงๆ สังเกตได้จากการปัดหน้าจอเมนูอย่างรวดเร็ว ส่วนขนาดของหน้าจออยู่ที่ 6.67 นิ้ว เจาะรูสำหรับกล้องหน้าขนาดเล็ก และความละเอียดหน้าจอ FHD+
มือถือ POCO X3 NFC มาพร้อมสเปกแรงที่หลายคนต้องซู้ดปาก ตั้งแต่ชิปเซ็ต Snapdragon 732G, RAM 6GB พื้นที่ความจุ 64GB และ 128GB (ในเครื่องทดสอบที่ได้มาเป็นรุ่น 64GB) ระบบปฏิบัติการ Android 10 และ MIUI 12 เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งจากการทดสอบด้วยการเล่นเกม Marvel Future Fight และ Asphalt 9 พบว่าเรื่องความลื่นไหล การแสดงผลภาพ 120 Hz ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ตัวกราฟิกเล่นลื่นๆ สบายตา แต่ขณะที่เล่นเกม Marvel Future Fight นั้น ยังมีจังหวะที่ภาพค้างประมาณ 1 วินาที แต่โดยรวมแล้วก็สามารถเล่นเกมใหญ่ๆ กราฟิกหนักได้อยู่ หรือแม้แต่คะแนนทดสอบจากแอปพลิเคชัน 3DMark และ Geekbench 5 ก็ให้คะแนนในอันดับที่ค่อนข้างดี
ส่วนเรื่องของการใช้งานทั่วๆ ไป เล่นโซเชียล ถ่ายภาพ ฟังเพลง เล่นเกมเบาๆ มือถือ POCO X3 NFC ก็สามารถทำงานได้อย่างดีเยี่ยม การใช้งานบน MIUI 12 ที่สวยงาม ใช้งานง่าย เมื่อใช้งานต่อเนื่องก็ยังไม่เจอปัญหาตัวเครื่องร้อนจัด ด้วยระบบ LiquidCool Technology 1.0 Plus ที่ช่วยให้ตัวเครื่องไม่ร้อนเกินไปได้เป็นอย่างดี รวมถึงแบตเตอรี่ที่ลดน้อยลงมากๆ อย่างเห็นได้ชัดขณะใช้งาน ใครที่เคยกังวลจากการเห็นตัวเลขแบตเตอรี่ลดลงฮวบๆ เมื่อเล่นมือถือ เล่นเกมตลอดเวลา รับรองว่ามือถือ POCO X3 NFC จะไม่ทำให้ต้องกังวลเรื่องนี้เลย
กล้องของมือถือ POCO X3 NFC มีกล้องหลังมาให้ถึง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล มีครบทั้งเลนส์หลัก เลนส์มุมกว้าง เลนส์ Macro เลนส์ Depth รวมถึงกล้องหน้าความละเอียดสูง 20 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังมี AI อัจฉริยะที่จับวัตถุตรงหน้ากล้องเพื่อประมวลผลให้ได้สีสันที่สมจริงที่สุด
มาพร้อม AI ที่ทำงานรวดเร็ว แม่นยำ | โหมด VLOG ถ่ายคลิปสั้นๆ ตัดต่อทันที |
ถ่ายภาพแบบมือโปรก็ปรับค่าได้ละเอียด | กล้องหน้ามีแสงไฟแบบต่างๆ ให้เลือก |
ในส่วนของการถ่ายวิดีโอ มือถือ POCO X3 NFC รองรับวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 30fps (เฟรมเรตต่อวินาที) พร้อมระบบกันสั่นที่ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างดี ฟิลเตอร์สีที่ช่วยปรับอารมณ์วิดีโอ ส่วนใครที่อยากถ่ายคลิปสั้นๆ สนุกๆ ขอแนะนำโหมด VLOG สำหรับถ่ายคลิปพร้อมตัดต่อ ใส่ Template พร้อมสรรพ แชร์ต่อได้เลยภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น
(ระยะซูม 0.6x > 1x > 2x)
ภาพถ่ายที่ได้จากกล้องมือถือ POCO X3 NFC นั้นก็ถือว่าน่าพอใจในหลายๆ สถานการณ์ ไม่ว่าจะถ่ายภาพกลางวัน กลางคืน ถ่ายภาพระยะใกล้หรือซูมเข้าหาที่ไกลๆ ก็ถือว่าโอเคอยู่ในฐานะกล้องถ่ายภาพจากโทรศัพท์มือถือ แต่ภาพถ่ายย้อนแสงจากโหมด HDR บางภาพยังดูมืดเกินไปนิด
ส่วนใครที่อยากทราบว่า ภาพถ่ายเมื่อเปิด AI และปิด AI นั้นมีความแตกต่างกันไหม ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุที่จะถ่ายด้วย เพราะซอฟต์แวร์ภายในถูกตั้งค่าเฉดสี ความสว่างที่แตกต่างกันเมื่อเจอวัตถุแต่ละแบบ เช่น ถ่ายภาพต้นไม้ก็จะเน้นสีเขียวให้เข้มขึ้น สดขึ้น ถ่ายภาพบุคคลก็จะเห็นว่าผิวหน้าเรียบเนียน ใบหน้าคมชัดแต่ฉากหลังเบลอ ถ่ายภาพอาหารที่เร่งให้เฉดสีสดใสขึ้น แต่ยังติดโทนเหลืองไปนิด
มาดูผลงานจากกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซลกันบ้าง สำหรับสาวๆ สายเซลฟี่ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง เพราะปรับค่าบิวตี้ เพิ่มฟิลเตอร์สีได้ถูกใจแน่นอน แถมยังมีแสงไฟรูปแบบต่างๆ ทั้งสีและขาวดำให้เลือก
ภาพจากกล้องหน้าโหมดธรรมดา + ปิด AI | ภาพจากกล้องหน้าโหมด Portrait + ปิด AI | ภาพจากกล้องหน้าโหมด Portrait + เปิด AI |
แม้รุ่นนี้จะยังไม่ได้ใช้กล้องหน้าคู่ แต่เรื่องของการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอก็ทำได้ค่อนข้างดี มี AI และฟิลเตอร์ของภาพช่วยให้ผิวหน้าเนียน กระจ่างใสแบบธรรมชาติได้อีกด้วย
ภาพถ่ายจากโหมดแสงไฟสตูดิโอ ซึ่งมีให้เลือกมากมาย ถ่ายภาพได้ทั้งภาพสีและขาวดำ
อีกหนึ่งจุดเด่นของมือถือ POCO X3 NFC ก็คือแบตเตอรี่ความจุสูงพิเศษถึง 5,160 มิลลิแอมป์ (mAh) และรองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์ ซึ่งอะแดปเตอร์ในกล่องก็รองรับการชาร์จเร็วเรียบร้อย ทำงานร่วมกับระบบระบายความร้อน LiquidCool Technology 1.0 Plus ด้วยการกระจายความร้อนแบบ 3D ผ่านท่อความร้อน LiquidCool และชั้นกราไฟต์ซ้อนกันหลายชั้น ช่วยให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจัดเมื่อใช้งานยาวๆ
ส่วนการใช้งานจริง ประกอบไปด้วยการเชื่อมต่อ 4G ตลอดทั้งวัน ใช้งานถ่ายภาพและวิดีโอเป็นส่วนใหญ่ เปิด GPS และ Google Maps เป็นระยะทาง 60 กิโลเมตร หรือประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อเช็คปริมาณแบตเตอรี่แล้ว พบว่าลดลงจาก 100 เหลือ 84 เท่านั้น นั่นแปลว่าหากไม่ได้ใช้งานเล่นเกมหนักๆ หรือเปิดแจ้งเตือน อัปเดตโซเชียลตลอดเวลา แบตเตอรี่ของมือถือ POCO X3 NFC สามารถใช้งานได้เต็มวันแน่นอน
ปิดท้ายด้วยระบบรักษาความปลอดภัยและการใช้งานอื่นๆ อย่างการสแกนลายนิ้วมือบนเซนเซอร์ด้านข้างตัวเครื่อง การสแกนใบหน้า รวมถึงการกดปุ่ม SOS การขอความช่วยเหลือฉุกเฉินด้วยการส่งข้อความและตำแหน่งพิกัดไปยังเบอร์โทรที่กำหนดไว้
ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในหมู่สมาร์ทโฟนราคาไม่เกินหมื่นเลยทีเดียว ด้วยจุดเด่นตั้งแต่สีสันตัวเครื่อง ความแรงจากชิปเซ็ต Snapdragon กล้อง 4 เลนส์ แบตเตอรี่ความจุเยอะๆ ใครที่ชอบใจ สนใจมือถือ POCO X3 NFC ก็สามารถไปลองเล่นหรือเลือกซื้อกันได้เลย แต่ก่อนซื้ออย่าลืมเช็ครุ่น ความจุและราคาด้วยนะ จะได้ไม่ซื้อมาผิดรุ่น
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |