จุดที่เราชอบ
| จุดที่เราไม่ชอบ
|
Xiaomi (เสี่ยวหมี่) เป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตที่น่าสนใจ จากค่ายทำรอมโมให้ Android สู่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ก่อนจะขยายตัวพัฒนาระบบ Ecosystem ของตนเองมีสินค้าออกมามากมาย ซึ่งหากจะพูดถึงจุดที่ทำให้แบรนด์ Xiaomi เป็นที่จดจำ และมีสาวกชื่นชอบ เราก็ต้องพูดถึงการทำตลาดที่พูดแบบง่ายๆ คือ การ "ตัดราคา" คู่แข่งแบบเฉียบขาด ตั้งแต่สมาร์ทโฟนรุ่นแรก Xiaomi Mi1 ที่เปิดตัวในปี 2011 ที่สเปคเท่าเรือธงของคู่แข่งแต่ราคาถูกกว่าครึ่งต่อครึ่ง แล้วก็ใช้แนวทางนี้มาตลอดจนถึงปัจจุบัน ทำให้คู่แข่งรายอื่น ต้องหันมาทำสงครามราคาด้วย ทำให้แผนตัดราคาของ Xiaomi ดูจะไม่น่าตื่นเต้นเท่าสมัยก่อน จนกระทั่ง...
เมื่อปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมามีข่าวลือว่า Xiaomi จะทำมือถือราคาหมื่นนิดๆ แต่ให้ทั้ง Snapdragon 845 และแรมถึง 6GB ซึ่งหากมาราคานี้จริง ตลาดมีสะเทือนแน่นอน เพราะนี่มันสเปคเรือธง แต่ราคาระดับกลางๆ เท่านั้นเอง แม้แต่ Mi 8 ที่เราคิดว่าถูกมากแล้วสำหรับมือถือที่ใช้ Snapdragon 845 ยังทำราคาถูกสุดได้เพียงหมื่นปลายๆ นี่เล่นประกาศว่าจะเหลือแค่หมื่นต้นๆ จะทำออกมาได้เหรอ?
แต่แล้วมันก็มาจริง (ในประเทศไทยเริ่มวางจำหน่ายแล้วด้วย) ใช้ชื่อรุ่นว่า POCOPHONE F1 ราคาเปิดตัวอยู่ที่เพียง 10,990 บาทเท่านั้น สำหรับรุ่นแรม 6GB หน่วยความจำ 64GB และ 12,990 บาท สำหรับรุ่นแรม 6GB หน่วยความจำ 128GB อยากรู้จักกับมันแล้วใช่ไหมล่ะ มาอ่านรีวิวของ POCOPHONE F1 กันได้เลย
ในส่วนของแพ็คเกจ POCOPHONE F1 มาในกล่องที่ค่อนข้างธรรมดา ไม่ได้มีดีไซน์หวือหวาอะไร ซึ่งจุดนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยากนะครับ เพราะใส่สเปคเครื่องมาในราคานี้ก็ต้องหาทางลดต้นทุนในส่วนอื่นแทนล่ะเนาะ ที่มันจะมาในแบบมินิมอล
อย่างไรก็ตามภายในกล่องมีการจัดระเบียบมาอย่างเรียบร้อยนะ ภายในกล่องมีสาย USB-C และอะแดปเตอร์ที่ให้มารองรับ Quick Charge 3.0 ด้วย แล้วก็มีเคสซิลิโคนกับคู่มือมาในซองกระดาษสีเหลือง
จากการที่เราได้สัมผัส Mi 8 ที่เป็นเรือธงของค่าย Xiaomi มาก่อนแล้ว พอมาสัมผัสกับ F1 ที่เป็นรุ่นประหยัดจึงมีความรู้สึกที่แตกต่างกันค่อนข้างชัด ซึ่งในความเป็นจริงเราก็ไม่ควรเอามันมาเทียบกันอ่ะนะ เพราะราคาค่าตัวที่แตกต่างกันมาก ทาง Xiaomi คงต้องหาทางลดต้นทุนด้วยการหันมาใช้พลาสติกแทนโลหะ อย่างไรก็ตาม บอกเลยว่าพลาสติกที่ใช้ก็ไม่ได้แย่นะครับ เป็นโพลิคาร์บอเนตเนื้อดีทีเดียว
ด้านหน้าของตัวเครื่องเป็นกระจก Corning Gorilla Glass 3 จอด้านบนแหว่งตามสมัยนิยมเป็นที่อยู่ของกล้องหน้า, กล้องอินฟราเรด, ลำโพง และเซ็นเซอร์ต่างๆ หน้าจอขนาดใหญ่ 6.8 นิ้ว ด้วยราคานี้ไม่แปลกใจอะไรที่ใช้จอแบบ IPS หากใช้จอ AMOLED แบบ Mi 8 ราคาน่าจะโหดร้ายกว่านี้มาก แต่ถึงจะไม่ใช้จอ AMOLED แต่คุณภาพดีทีเดียวนะครับ จอสว่าง และให้สีสันที่สดใสมากทีเดียว
ฝาหลังโพลิคาร์บอเนตเนื้อสัมผัสเรียบๆ แต่ไม่ลื่น ถือแล้วกระชับมือใช้ได้เลยล่ะ มีกล้องคู่ด้านหลังตรงกลาง สเปคกล้องอยู่ในระดับกลางๆ นะครับ เป็นกล้องคู่ 12MP f/1.9 + 5MP f/2.0 มีแฟลชอยู่ด้านข้างของชุดกล้อง แล้วก็มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหลังด้วย เรียกได้ว่า POCOPHONE F1 นี่มีระบบรักษาความปลอดภัยทั้งสแกนหน้า และสแกนนิ้วเลย
ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องลำโพง และช่อง USB-C สำหรับเสียบสายชาร์จ และเชื่อมต่อข้อมูล จุดนี้ประทับใจมาก นานๆ จะเจอมือถือหมื่นนิดๆ ที่ใช้ USB-C
ปุ่มควบคุมทั้งหมดจะอยู่ที่ฝั่งขวา เท่าที่ลองกดดูปุ่มก็แน่นอยู่นะ แต่รู้สึกว่าปุ่มเพิ่มเสียงจะยวบกว่าปุ่มลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์อยู่นิดหน่อย
ด้านบนมีช่องเสียบหูฟังมาตรฐาน 3.5 มม. ให้มาด้วย (เยี่ยม) ตำแหน่งของรูเสียบไม่สวยเท่าไหร่ กินพื้นที่ลงมาที่ฝาหลัง ไม่สมมาตรอยู่ตรงกลาง จุดนี้เห็นแล้วหงุดหงิดเล็กๆ ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นที่อยู่ของถาดใส่ซิม เลือกได้ว่าจะใส่ 2 ซิม หรือ 1 ซิม 1 การ์ดไมโครเอสดีก็ได้
ดูรวมๆ แล้วงานประกอบของ POCOPHONE F1 ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ดีไม่แย่ แต่ต้องยอมรับว่าแย่กว่ามือถือในราคาใกล้ๆ กันจากค่ายอื่น พูดได้ว่า เพื่อประสิทธิภาพที่ยิ่งใหญ่ภายใน ต้องแลกมาด้วยเปลือกนอกที่ถูกลง
POCOPHONE F1 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1 และมี MIUI For POCO ครอบมาอีกที ซึ่งผมลองเล่นเทียบกับ Mi8 ผมว่าต่างกันนิดหน่อย แต่โดยรวมก็คล้ายๆ กันนะครับ หน้าตา MIUI เรียบๆ และใช้งานค่อนข้างง่าย
UI ออกแบบมาใหญ่ดี มองง่าย หน้ามัลติทาส์กเป็นแบบการ์ดดูสะดวก หน้า Notification Center ไอคอนใหญ่มาก สามารถปรับรูปแบบการจัดเรียงได้ตามลักษณะการใช้งานของเรา
Bloatware มีติดมาด้วยตามสไตล์มือถือจีน แต่ข่าวดีคือ เราสามารถกดลบได้นะ เข้าไปลบออกได้ในการตั้งค่าได้เลย
ใน Pocophone F1 มีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า Face Unlock ด้วย แถมยังสามารถสแกนหน้าในที่มืดได้ด้วย อย่างไรก็ตาม หลักการทำงานคาดว่าจะคนละอย่างกับ Face ID ใน iPhone X นะครับ เนื่องจากตอนเพิ่มหน้าเข้าไปใช้แค่การถ่ายรูปหน้าเราเท่านั้น ทั้งนี้เราลองทดสอบด้วยการเอาภาพนิ่งมาสแกนก็สแกนไม่ผ่านนะครับ น่าจะปลอดภัยในระดับหนึ่งแหละ
จากการทดสอบทั้งในความสว่างปกติ และในที่มืดพบว่าทำงานได้ดีและเร็วมากๆ ใช้เวลาไม่เกิน 1 วิ แน่นอน
นี่คือจุดขายหลักของ POCOPHONE F1 เลย ด้วยชิป Snapdragon 845, Adreno 630, แรม 6GB และระบบระบายความร้อน LiquidCool ทำให้ความลื่นของเครื่องไม่จำเป็นต้องสงสัย ไม่ว่าจะเล่นแอปฯ หรือเล่นเกมส์ภาพโหดขนาดไหน มั่นใจได้เลยว่า POCOPHONE F1 เอาอยู่แน่นอน แต่เพื่อยืนยันเราจะมาทดสอบให้ได้เห็นกัน
เล่นเกมส์ยอดนิยมอย่าง RoV ทำ 60fps ได้สบายๆ โหลดเกมส์เร็ว ปรับภาพความละเอียดสูงก็ยังทำเฟรมเรทได้ดี 60fps เกือบตลอดเวลาครับ มีตกไป 57-58 fps บ้างในบางจังหวะ
เกมส์ 3D แผนที่กว้างๆ อย่าง SAO หรือ PUBG ก็เฟรมเรทวิ่งนิ่งเต็ม 30fps ตลอด อันที่จริง PUBG น่าจะทำ 60fps ได้ แต่มันต้องไปแก้ล็อก fps ที่ตัวไฟล์เกมส์ ซึ่งผมไม่อยากเข้าไปยุ่งอะไรกับมันสักเท่าไหร่
เราทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ทำคะแนนได้ถึง 264,902 สูสีกับเรือธงของหลายๆ ค่าย ก็ไม่น่าแปลกใจ ด้วยขุมพลังของ Snapdragon 845 และแรมที่ใหญ่ถึง 6GB
ส่วนผลกราฟฟิกเราทดสอบด้วย 3DMark คะแนนก็ออกมาอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกัน พูดง่ายๆ คือ ใช้งานด้านกราฟฟิก 3D หรือเกมส์ในยุคนี้ได้อย่างสบายๆ
ภาพจากกล้องหลัง 12MP f/1.9 + 5MP f/2.0 ต้องขออภัยไม่มีเวลาไปไหน แถมท้องฟ้าขมุกขมัว เลยต้องเดินถ่ายแถวๆ ออฟฟิส ถ้าให้บอกความรู้สึกก็คือ โฟกัสไว เบลอขอบได้เนียนอยู่ แต่ไม่ชอบตรงที่โหมด Auto จะพยายามเร่งให้ภาพสว่างกว่าปกติ
ภาพจากกล้องหน้า 20MP f/2.0 พร้อมระบบ AI Beauty ขอบคุณน้องนางแบบมาไว้ ณ ที่นี้ด้วย
เปรียบเทียบภาพถ่ายในสภาวะแสงต่างๆ [เปิดไฟ/ปิดไฟ/ปิดไฟแล้วยิงแฟลช]
หลังจากได้เล่น POCOPHONE F1 มาหลายวัน เราขออนุญาตให้ความเห็นว่ามันเป็นสมาร์ทโฟนที่ดีเครื่องหนึ่ง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมือถือมาใช้งานทั่วไป และชอบเล่นเกมส์ จุดขายของมันอยู่ที่ความแรง, แบตอึดฯ และระบบระบายความร้อนที่ทำมาดีมาก เราเล่น RoV ต่อเนื่องสองชั่วโมง เครื่องก็ยังแค่อุ่นๆ เท่านั้น ในส่วนของกล้องถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว อาจจะไม่สวยเทพเหมือนพวกเรือธง แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร อย่างน้อยก็มี AI ช่วยถ่ายให้ด้วย สำหรับเราข้อเสียมีเพียงอย่างเดียว คือ วัสดุตัวเครื่องที่เป็นพลาสติกเท่านั้น
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |