รีวิว Dynasty Warriors: Unleashed ความมันส์จากคอนโซลส่งต่อยังมือถือ!

หากพูดถึงเกมส์แนวแอคชั่นแหลกลาญ (Action - Hack n Slash) เราเชื่อเลยว่าภาพในหัวของเกมเมอร์หลายคน น่าจะต้องมีภาพทวนง้าวปะทะกันพร้อมดนตรีแบ็คกราวน์เป็นกีต้าร์ลีดตับยับหรือก็คือเกมส์ Dynasty Warriors ซีรีย์เกมส์อิงนวนิยายประวัติศาสตร์สามก๊ก ที่โด่งดังมาแต่ช้านานบนแพลตฟอร์มคอนโซลเป็นหลักกันบ้างล่ะ ซึ่งล่าสุดนี้เอง ก็ดูเหมือนซีรีย์ดังกล่าวจะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่จะขอตามกระแสของโลกให้ทัน ด้วยการพัฒนาเกมส์หนึ่งขุนพลปะทะกองพันให้กลายเป็นฉบับมือถือที่มีชื่อว่า Dynasty Warriors: Unleashed แต่ภาพรวมทั้งหมดของเกมส์จะดีแค่ไหนนั้น ลองตามมาอ่านบทความนี้ให้รู้แจ้งแถลงไขได้เลยครับผม! 

แน่นอนล่ะครับ ขึ้นชื่อว่าเกมส์มือถือ ระบบที่แทบจะผูกขาดบนแพลตฟอร์มนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น "Endless" หรือที่แปลแบบตรงตัวก็คือไร้จุดสิ้นสุดนั่นเอง ซึ่ง Dynasty Warriors: Unleashed นั้น ก็ยังพึงไว้ในทุกกิจวัตรความเป็น Endless ครับ แต่อย่าลืมนะครับว่าเกมส์สามก๊กฉบับมือถือนี้ ก็ยังคงพ่วงความเป็นเกมส์ Action - Hack n Slash แนวเกมส์ต้นตำรับตลอดมาของซีรีย์อยู่ ซึ่งแม้ตัวเกมส์จะมีระบบโจมตีอัตโนมัติ แต่เชื่อเถอะ ด้วยกลิ่นอายของซีรีย์ Dynasty Warriors ยังไงซะมันก็ต้องมีหลายโอกาสในเกมส์แหละ ที่ผู้เล่นจะกดฟาดฟันศัตรูในเกมส์ด้วยนิ้วมือของตนเองที่ "สะใจกว่าเป็นไหนๆ" 

จุดที่น่าสนใจในระบบการต่อสู้นั้น คงต้องยกให้กับระบบแพ้/ชนะธาตุ (ที่ใช้สีเป็นสัญลักษณ์ของแต่ละก๊กด้วยอีกที) โดยทุกขุนพลในเกมส์จะมีให้ใช้งานได้ 3 เวอร์ชัน 3 สี ซึ่งก็แน่นอนล่ะครับว่าสีประจำก๊กของแต่ละขุนพลจะเก่งที่สุด ส่วนสีอื่นๆ ก็จะรองลงมา และแต่ละธาตุก็จะแพ้ทางชนะทางกันเป็นวงเวียน หรือใครที่นึกภาพไม่ออก ก็ Roshambo หรือว่าเป่ายิ้งฉุบนั่นแหล่ะครับ

ส่วนวิธีการหาพวกเขามารับใช้นั้น ก็ทำได้หลายวิธีครับ ไล่ตั้งแต่ ได้รับจากไอเทมฟรีรายวันหรือตามกิจกรรมต่างๆ, ภารกิจ และแน่นอนการเปิดหาจากร้านค้ารายวันแบบฟรีๆ และเติมเงิน อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงจะคิดแล้วว่าสายเติมเงินยังไงก็โหดกว่าสิ อืม... อันนี้ต้องขอให้เข้าใจตรงกันว่าเกมส์มือถือส่วนใหญ่จะมีรายได้หลักมาจากการเติมเงินอยู่แล้วครับ เพียงแต่เกมส์ไหนจะทำให้ผู้เล่นรู้สึกจำเป็นมาก/น้อยเท่านั้น ซึ่ง Dynasty Warriors: Unleashed นี้ ก็มีเรตและไอเทมแจกฟรีที่ "ปานกลาง" ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลไปครับว่าจะแพ้ผู้เล่นสายเติม เพราะสุดท้ายแล้วยังไง ผู้เล่นทุกคนก็จะต้องไปถึงจุดท้ายๆ ของเกมส์อยู่ดี แต่ใครจะเร็วหรือจะช้ากว่าเท่านั้นเอง นึกภาพกีฬามาราธอนละกันครับ ใครถึงก่อนถึงหลังก็ชนะเหมือนกัน

เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบการต่อสู้ที่เรียบง่ายแต่ก็เป็นกลยุทธ์อย่างย่อมๆ ได้ในคราเดียวกัน โดยจะเห็นผลชัดเจนสุดในโหมดปะทะผู้เล่นครับ แต่กระนั้นระบบธาตุสีดังกล่าว ก็ไม่ใช่สรรสาระทั้งหมดของการต่อสู้ เพราะยังมีตัวแปรอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระดับดาวของขุนพล, ไอเทมส่วมใส่, ค่าประสบการณ์ ทักษะส่วนตัวของขุนพล ฯลฯ แถมเมื่อเล่นไปได้สักพัก ผู้เล่นก็จะมีวัตถุประสงค์เพิ่มไปโดยปริยายจากเพียงแค่หาขุนพลที่มีธาตุที่ชนะ เป็น "ควานหาขุนพุลที่มีสีธาตุตรงก๊ก" ซึ่งมันก็สนุกไปอีกแบบเหมือนกันนะ ฮ่าๆ

Dynasty Warriors: Unleashed มีโหมดการเล่นใหญ่ๆ ดัวยกันทั้งสิ้น 4 โหมดครับ โดยในแต่ละโหมดก็จะมีเป้าหมายในการเล่นที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่

- Campaign โหมดเนื้อเรื่องหลักของเกมส์ที่จะอิงตามเรื่องราวมาจาก Dynasty Warriors ฉบับคอนโซลและพีซี ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายประวัติศาสตร์สามก๊กอีกที ซึ่งผู้เล่นจะได้ทราบเนื้อหาของเกมส์ผ่านบทสนทนาและฉากคัทซีนที่เป็นภาพจากในเกมส์และ CG ที่พอร์ตมาจาก Dynasty Warriors 8 

- Challenges โหมดที่ผู้เล่นจะต้องเข้าเล่นตามภารกิจต่างๆ เพื่อนำปัจจัยทั้งหลายที่ได้ มาพัฒนาเหล่าขุนพลของเราให้เก่งขึ้น เช่น การตีรถรูปขนเงิน, สังหารศัตรูให้ครบจำนวนที่กำหนด เป็นต้น

- Battlefield โหมดที่จะเน้นการ PVP หรือปะทะกันของผู้เล่น ซึ่งโหมดนี้เองคือจุดมุ่งหมายสุดท้ายของเกมส์ พร้อมเมื่อไหร่ก็ นำขุนพลของเรามาแสดงฝีมือในโหมดนี้ได้เลย! 

- Conquest โหมดที่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีขุนพลไว้ใช้งานเยอะในระดับหนึ่ง เพราะในโหมดนี้ผู้เล่นจะต้องส่งขุนพลไปเคลียร์พื้นที่ไปเรื่อยๆ โดยผู้เล่นจะไม่สามารถใช้งานขุนพลที่เคยลงพื้นที่ไปก่อนหน้านี้ซ้ำได้ ต้องรอเวลาให้โหมดรีเซ็ทการลงตัวละครได้เป็นเวลา 1 วันก่อน 

จะเห็นได้ว่าตัวเกมส์นั้นแบ่งระดับของเกมส์และบั้นปลายของการเล่นให้เราไว้อย่างชัดเจน คือ เมื่อขุนพลของผู้เล่นไม่แข็งแกร่งพอที่จะผ่านด่านต่อไปในโหมด Campaign ได้ เราก็ต้องทำการเฟ้นหาปัจจัยต่างๆ ที่จะนำมาพัฒนาขุนพลของเราในด่านเดิมที่ผู้เล่นผ่านมาแล้ว หรือหาในโหมด Challenges ช่วยอีกแรง และเมื่อขุนพลของผู้เล่นมีศักยภาพที่สูงหรือเต็มที่แล้วนั้น ความท้าทายต่อไปก็คือการประลองฝีมือกับผู้เล่นคนอื่นในโหมด Battlefield ก่อนจะปิดท้ายด้วยโหมด Conquest ที่จะให้ผู้เล่นยึดอาณาเขตของแต่ละพื้นที่ให้มากที่สุด โดยมีกฎอยู่ว่าเราจะไม่สามารถใช้ขุนพลซ้ำกันได้ ทำให้การจะเล่นโหมดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดนั้น ผู้เล่นจำต้องมีขุนพลที่อยู่ในครอบครองมากระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อตีออกมาเป็นระยะเวลาแล้ว มันก็คือช่วงท้ายๆ ของเกมส์นั่นแหล่ะครับ ที่ผู้เล่นจะเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากการพัฒนาขุนพลเฉพาะตัวที่ชื่นชอบ, ไต่เต้าอันดับในลานประลอง ไปเป็นตามเก็บขุนพลที่เหลือหรือสานต่อสิ่งที่ค้างคาไว้

แม้ในแต่ละโหมดจะให้ผู้เล่นขลุกอยู่กับการกระทำอะไรเดิมๆ แต่การได้ PVP กับผู้เล่นคนอื่นในโหมด Battlefield นั้น "สนุกใช้ได้" เลยล่ะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Skirmish ที่เราสามารถวัดฝีมือกับผู้เล่นอีกคนได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งถึงแม้จะเป็นเกมส์มือถือ แต่ความมันส์สะใจก็น้องๆ ฉบับคอนโซลพีซีนะครับบอกเลย

มากันที่เรื่องสุดท้ายในด้านกราฟฟิกและประสิทธิภาพของเกมส์กันบ้างครับ สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกชื่นชอบจากในส่วนนี้คือบรรดากระบวนท่าโจมตีทั้งหลายของเหล่าขุนพลภายในเกมส์ ซึ่งหากแฟนซีรีย์เกมส์นี้ ได้เห็นท่าทางของเหล่าขุนพลในเกมส์ฉบับมือถือดังกล่าว ก็จะรู้ว่าหลายท่าทางนั้นค่อนข้างใกล้เคียงกับบนฉบับคอนโซลเลยทีเดียวทั้งนี้ก็อาจจะเป็นเพราะตัวละครหลายตัว (หรืออาจจะทุกตัว?) ได้นำโมเดลตัวละครมาจาก Dynasty Warriors 8 ที่ลงให้กับคอนโซลและพีซี ทำให้ดึงของเดิมมาใช้งานได้

ในส่วนนี้แหละคือจุด "เด่นที่สุด" ในเกมส์นี้สำหรับเรา เพราะนอกจากการนำนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ของสามก๊กมาเติมแต่งแล้ว ท่าทางการโจมตีและเสื้อผ้าหน้าผมของเหล่าขุนพลก็เป็นจุดที่แฟนๆ อย่างเราชอบ และลุ้นเสมอว่าในภาคต่อไปดีไซน์ที่ออกมาฉีกไปจากเดิมแค่ไหน (ยกตัวอย่างลิโป้ใน Dynasty Warriors 7 เป็นต้น ขานี่ม้ามาเลย ฮ่าๆ)

นอกจากโมเดลของตัวละครในเกมส์แล้ว การปรับแต่งกราฟฟิกภายในเกมส์ก็ดูจะเข้าอกเข้าใจผู้เล่นที่ไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือที่มีสเปคเครื่องแรงมากนัก ตัวเกมส์เลยมีตัวเลือกในการปรับแต่งในส่วนนี้ที่ยืดหยุ่นระดับหนึ่งเพื่อรองรับโทรศัพท์มือถือสเปคกลางๆ ขึ้นไป และดูเหมือนทางค่ายพัฒนาอย่าง Nexon ดูจะทำการบ้านเกี่ยวกับรสนิยมของเกมเมอร์มาพอสมควร เพราะตัวเกมส์สามารถเลือกปรับเฟรมเรตหรือ FPS อันเป็นเรื่องที่นักเล่นเกมส์ทั้งหลายให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ แต่กระนั้นข้อเสียในส่วนนี้ที่หักดิบได้โหดร้ายก็คงจะเป็นความต้องการขั้นต่ำของเกมส์ที่ใช้แรม 2 GB ขึ้นไป ทำให้ผู้ที่อยากจะเล่นแต่มีสเปคโทรศัพท์มือถือไม่เพียงพอก็ต้องหมดสิทธิ์ไปอย่างช่วยไม่ได้ 

โดยรวม Dynasty Warriors: Unleashed ยังคงเป็นเกมส์มือถือแนว Endless ตามท้องตลาด ที่ไม่ตลาด "ซะทีเดียว" เพราะด้วยวัตถุดิบของเกมส์ที่ดึงดูดเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดีอย่างซีรีย์เกมส์ Dynasty Warriors ที่ไม่ได้นำมาใช้อย่างทิ้งๆ ขว้างๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของซีรีย์ในสัดส่วนที่น่าพึงพอใจ อัตราการได้รับขุนพล, ไอเทม และของแจกฟรีก็อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป และการปรับแต่งด้านประสิทธิภาพกราฟฟิกที่ยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง แต่กระนั้นตัวเกมส์ก็หักดิบโทรศัพท์มือถือที่มีความต้องการขั้นต่ำไม่ถึงจนเกินไป ทำให้ในส่วนนี้รู้สึกเป็นเรื่องน่าเสียดายกับผู้ที่อยากจะเล่นเกมส์ดังกล่าวแต่ความพร้อมของโทรศัพท์ไม่เพียงพอ

ข้อดี

- นำวัตถุดิบจากเกมส์ซีรีย์ Dynasty Warriors มาใช้ได้อย่างพอดี

- เกมส์ไม่บีบบังคับให้ผู้เล่นต้องเติมเงินเท่าไหร่

- การปรับแต่งประสิทธิภาพกราฟฟิกของเกมส์ยืดหยุ่น

ข้อเสีย

- แรมความต้องการขั้นต่ำของเกมส์อยู่ที่ 2 GB

- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบเกมแนว Endless