10 เกมวางแผนการรบ สุดฮิต ยุค 90 ผ่านไปกี่ปีก็ยังสนุกเสมอ (10 Best Strategy Games of The 90's)

10 เกมวางแผนการรบ สุดฮิต ยุค 90’ ผ่านไปกี่ปีก็ยังสนุกเสมอ
(10 Best Strategy Games of The 90's)

เกมวางแผนการรบ (Strategy Games) ถือเป็นเกมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานทุกยุคทุกสมัย ที่ถึงแม้ว่าจะมีใครที่ไม่ได้นิยมชมชอบเกมแนวนี้แวะมาอ่าน ผู้เขียนเชื่อว่า หนึ่งในชื่อเกมเหล่านี้ น่าจะต้องเคยผ่านหูผ่านตาคุณมาบ้างอย่างแน่นอน เพราะเกมเหล่านี้ที่เรากำลังจะมาพูดถึงกัน คือเกมวางแผนสงคราม หรือเกมวางแผนการรบ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 90 ซึ่งถ้าใครทันเกมต่อไปนี้ แสดงว่าคุณไม่เด็กแล้วนะ !

1. เกม Sid Meier's Civilization II | ค.ศ.1996 (พ.ศ. 2539)

เมื่อทำการวางขายในปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) บน PC และพอร์ตลงเครื่อง PlayStation ตามมาในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) เกมวางแผนการรบ Civilization II ได้ถูกจัดอันดับในลิสต์เกมยอดเยี่ยมหลายสำนัก

เครดิตภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/Civilization_II

เกมนี้เป็น เกมวางแผนการรบ ที่ผู้เล่นจะได้เลือกอาณานิคมต่าง ๆ ที่หลากหลายทั่วทุกมุมโลก และเลือกเป็นผู้ปกครองที่มีชื่อเสียงจากแต่ละประเทศในแต่ละยุคสมัย โดยที่ผู้นำที่เราเลือกมา จะมีความสามารถ และทักษะพิเศษที่ช่วยให้คุณสามารถเอาชนะประเทศอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้นในรูปแบบที่แตกต่างกัน

เครดิตภาพ : https://classicreload.com/win3x-sid-meiers-civilization-ii-cdrom.html

การชนะภายในเกม สามารถทำได้ทั้งการสู้รบเพื่อบุกยึดอาณานิคมของประเทศอื่นมาเป็นของตน และการขยายพื้นที่อาณานิคมของเราออกไปให้ได้มากที่สุดทั้งกระดาน ซึ่งก็อย่างที่คอเกมได้เห็นกัน ปัจจุบัน เกมนี้ยังคงมีแฟรนไชส์ที่ได้รับการปรับปรุงเนื้อหาและภาพกราฟิกที่สวยงามออกมาให้เล่นกันอย่างต่อเนื่อง เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ตัวเกม ยังคงได้รับความนิยมอยู่ในทุกยุคทุกสมัย

2. เกม Command & Conquer : Red Alert | ค.ศ.1996 (พ.ศ. 2539)

เกมวางแผนการรบ Command & Conquer : Red Alert ได้รับการพัฒนาโดยค่าย Westwood Studios จัดได้ว่าเป็นภาคที่ดีที่สุดใน ซีรีส์ Command & Conquer อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะยังคงได้รับการกล่าวถึง และยังคงมีคนหามาเล่นกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าจะมีภาคใหม่ ๆ กราฟิกสวย ๆ ออกมาให้เล่นกันแล้วก็ตาม

เครดิตภาพ : https://cnc.fandom.com/wiki/Command_%26_Conquer:_Red_Alert

โดยเกม Command & Conquer : Red Alert วางจำหน่ายในปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) โดยคนไทยจะนิยมเรียกเกมนี้กันติดปากเพียงแค่ชื่อภาคเท่านั้นว่า Red Alert (เรด อเลิร์ต) ตัวเกมจะมีเกมเพลย์เนื้อเรื่องทั้งหมดสองแบบให้เราเลือกเล่นกัน ได้แก่ ฝั่งพันธมิตร (The Allies) และฝั่งโซเวียด (The Soviets) ซึ่งในแต่ละฝั่ง ก็จะมีจุดแข็งและจุดอ่อนแตกต่างกันไป แต่เป้าหมายหลักเพียงหนึ่งเดียวของเกมนี้ก็คือ การกำจัดศัตรูและฐานทัพที่มั่นอื่น ๆ ให้สิ้นซาก

เครดิตภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=CIGqANjhUEM

ตัวเกมเพลย์สำหรับคนที่ไม่ได้มีประสบการณ์การเล่นเกมแนวนี้มากนัก อาจจะดูซับซ้อนพอสมควร เพราะมีรายละเอียดและอินเตอร์เฟซ รวมถึงเมนูยิบย่อยมากมาย แต่ถ้าหากคุณเคยชินกับมันแล้วล่ะก็ จะติดเกมนี้งอมแงมได้ไม่ยาก ถ้าคุณอยากลองเริ่มเล่นเกมในแฟรนไชส์ Command & Conquer ภาคไหนสักภาคนึงแล้วล่ะก็ ภาคนี้คือตัวเลือกที่ดีที่สุดที่คุณควรมาลองเริ่มต้นเปิดใจกับมันดู

3. เกม Warcraft II : Tides of Darkness | ค.ศ.1995 (พ.ศ. 2538)

เกมวางแผนการรบ Warcraft II : Tides of Darkness ได้รับการพัฒนาโดย Blizzard และวางจำหน่ายให้เล่นกันบนระบบปฏิบัติการ DOS ในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ในภาคนี้ จะเป็นภาคต่อจากตัวเกมภาค Warcraft : Orcs and Humans และจัดเป็นภาคแรกของซีรีส์ที่สามารถเล่นออนไลน์ผ่าน Battle.net ได้ (ถึงแม้ว่าฟีเจอร์นี้จะมาเปิดให้ใช้กันในภายหลังก็ตาม)

เครดิตภาพ : https://www.mobygames.com/game/warcraft-ii-tides-of-darkness/cover-art/gameCoverId,112900/, Fair use, https://en.wikipedia.org/w/index.php?curid=2625457

และนอกจากจะเล่นออนไลน์ได้เป็นภาคแรกแล้ว Warcraft II : Tides of Darkness ยังเป็นเกมภาคแรกของซีรีส์ที่มีการนำมารีแพ็คเกจวางขายใหม่อีกครั้งในรูปแบบของ Battle Chest ที่เป็นบันเดิลเกมอันประกอบไปด้วยตัวเกมหลักและภาคเสริม

เครดิตภาพ : https://playclassic.games/games/real-time-strategy-dos-games-online/play-warcraft-ii-tides-darkness-online/

ภายในเกม ผู้เล่นจะต้องเก็บสะสมทรัพยากรเพื่อทำการสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อเอาชนะ AI ในการต่อสู้ให้ได้ ตัวเกมจะมีรูปแบบธีมอัศวินกึ่งแฟนตาซี โดยที่ในแต่ละฝั่ง จะมีทั้งหน่วยรบระยะประชิด, หน่วยรบระยะไกล, หน่วยรบทางทะเล, และหน่วยรบทางอากาศ พ่วงด้วยเหล่าจอมเวทเข้าไปอีกที ซึ่งรูปแบบเกมและความแปลกใหม่ในตอนนั้น ทำให้ตัวเกมประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยยอดขายกว่า 3 ล้านก๊อปปี้

4. เกม Starcraft | ค.ศ.1996 (พ.ศ. 2539)

เกมวางแผนการรบ Starcraft เป็นเกมวางแผนการรบอีกหนึ่งเกมที่ได้รับการพัฒนาโดย Blizzard  และเป็นอีกหนึ่งเกมขึ้นหิ้งของใครหลายคนด้วยเช่นกัน สำหรับการเป็นเกมรบในอวกาศ วางขายเมื่อปี ค.ศ. 1996 (พ.ศ. 2539) จัดเป็นเกมรบและสำรวจในอวกาศที่ช่วยแผ้วถางทางให้เกมวางแผนแบบเรียลไทม์อื่น ๆ พลอยได้รับความนิยมขึ้นมาด้วย

เครดิตภาพ : https://starcraft.fandom.com/wiki/StarCraft

ตัวเกมจะพาคุณย้อนไปยังศตวรรษที่ 25 ประกอบไปด้วยสปีชีส์สายพันธุ์ต่าง ๆ จำนวน 3 สายพันธุ์ ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ท่ามกลางประชากรดาวทั้งหมด โดย 

• The Zerg จะเป็นเอเลียนสายพันธุ์แมลง ที่ต่อสู้เพื่อความสมบูรณ์แบบของเผ่า และพยายามซึมซับเผ่าอื่นเข้ามา
• The Protoss จะเป็นสปีชีส์ของมนุษย์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงและมีความสามารถทางด้านพลังจิต เป็นเผ่าที่พยายามรักษาความศิวิไลซ์ของตัวเองไว้ และทำตามปรัชญาแห่งชีวิตที่ได้มาจาก Zerg
• The Terrans มนุษย์ที่ต้องอพยพออกมาจากโลกโดยมีความเชี่ยวชาญในการปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์

 การันตีเกมดังด้วยยอดขายกว่า 11 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก

เครดิตภาพ : https://www.discovermagazine.com/technology/how-ai-accidentally-learned-ecology-by-playing-starcraft

5. เกม Age of Empires II | ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

เกมวางแผนการรบ Age of Empires II ได้รับการพัฒนาโดย Ensemble Studios และจัดจำหน่ายโดย Microsoft วางขายในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ทั้งในระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac ในภาคนี้ ตัวเกมจะโฟกัสไปที่การสร้างเมือง ค้นหาทรัพยากร และรับทหารเข้ากองทัพเพื่อจัดการกับศัตรู

เครดิตภาพ : https://www.cdcovers.cc/view/150479/front/age-of-empires-2-the-age-of-kings-dvd, Fair use, https://en.wikipedia.org/w/index.php?curid=13060830

สิ่งที่ทำให้เกมนี้โดดเด่นกว่าเกมอื่น ได้แก่รูปแบบการเล่นที่จะได้เล่นผ่านช่วงเวลาแห่งยุคทั้งหมด 4 ช่วงด้วยกัน ได้แก่ ยุคมืด (Dark Age), ยุคศักดินา (Feudal Age), ยุคปราสาท (Castle Age), และยุคอิมพีเรียล ( Imperial Age) โดยจะมีแคมเปญเนื้อเรื่องทั้งหมด 5 แคมเปญในภาคนี้ ซึ่งการที่เราได้ทำการขยับขยายและก้าวไปสู่ยุคใหม่นั้น จะเป็นการปลดล็อกยูนิตใหม่ ๆ, สิ่งก่อสร้างใหม่, และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมา

เครดิตภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=uQWcUth0v4Y

เรตติ้งของตัวเกมในภาคนี้จัดว่าอยู่ในแง่บวกเป็นอย่างมาก ด้วยบรรดาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้าหลายอย่างในขณะนั้น รวมไปถึงเกมเพลย์ที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นมาจากภาคแรก ทำให้ภายในสามเดือนแรกหลังวางขาย มียอดจำหน่ายเกมออกไปกว่า 2 ล้านก๊อปปี้ และติดอัปดับท้อปบนชาร์ตเกมใน 7 ประเทศ พ่วงด้วยการชนะรางวัลอีกเพียบ ทำให้ Age of Empires II ถือเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกมหนึ่ง

6. เกม Anno 1602 | ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2541)

เกมวางแผนการรบ Anno 1602 ได้รับการพัฒนาโดย Max Design ในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) ตัวเกมมีแนวการเล่นแบบผสมผสานระหว่าง Simulation (จำลองชีวิตจริง) และ Strategy (วางแผน) ซึ่งถึงแม้ว่าตัวเกมจะอยู่มา 20 กว่าปีแล้ว แต่ก็ยังมีผู้เล่นจำนวนมากเข้ามาออนไลน์ภายในเกมกันอย่างต่อเนื่อง

เครดิตภาพ : https://www.mobygames.com/game/windows/anno-1602-creation-of-a-new-world/cover-art/gameCoverId,133106/

ภายในเกม ผู้เล่นจะได้รับหน้าที่ให้ออกไปสำรวจเกาะต่าง ๆ พร้อมทั้งตั้งรกราก ตั้งเมืองเล็ก ๆ ขึ้นมา และทำการค้าขายแลกเปลี่ยนทรัพยากร และพัฒนาเมืองให้มั่นคงเพื่อขยายอาณานิคมออกไปเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน Anno 1602 ได้มีตัวเกมภาคต่อและตัวเกมภาคสปินออฟออกมาอีกมากมาย เพื่อยืนยันว่าตัวเกมยังไม่ล้มหายตายจากไปง่าย ๆ ถ้าหากคุณกำลังมองหาเกมฆ่าเวลาชนิดที่เรียกว่าวาร์ปได้ล่ะก็ เกมนี้เหมาะกับคุณแน่นอน

เครดิตภาพ : https://www.moddb.com/games/anno-1602/images/screenshot

7. เกม Cannon Fodder | ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)

เกมวางแผนการรบ Cannon Fodder พัฒนาโดย Sensible Software และวางจำหน่ายโดย Virgin Interactive Entertainment ในปี ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) ให้กับเครื่อง Amiga ที่เป็นหนึ่งในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลด้วยโปรเซสเซอร์แบบ 16-บิต และ 32-บิต จัดได้ว่าเป็น Home Computer ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในขณะนั้นด้วยยอดขายกว่า 6 ล้านเครื่อง

เครดิตภาพ : https://www.giantbomb.com/cannon-fodder/3030-7758/

ถึงแม้ว่าตัวเกมจะดูค่อนไปทางเกมยิงเสียมากกว่า แต่แนวการเล่นหลักของเกมก็ยังคงอยู่ในแนวเกมวางแผน โดยผู้เล่นจะต้องบังคับกองทหารเล็ก ๆ เพื่อสังหารกองกำลังฝ่ายตรงข้าม ด้วยความเป็นเกมโทนดาร์คแต่ปนด้วยกิมมิคขำ ๆ เล็กน้อย ทำให้ตัวเกมมีความแตกต่างออกไปจากเกมอื่น ๆ ที่มีการเล่นแนวเดียวกันและกลายเป็นเสน่ห์ของเกมไปโดยปริยาย พ่วงด้วยการมีระดับเลเวลให้เล่นเพียบ ฉะนั้น เกมนี้จึงเป็นเกมทำให้คุณเล่นลืมเวลาเอาได้ง่าย ๆ

เครดิตภาพ : https://www.retrogamer.net/retro_games90/the-making-of-cannon-fodder/

8. X-Com UFO Defense ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537)

เกมวางแผนการรบ X-Com UFO Defense พัฒนาโดย MicroProse และ Mythos Games และวางขายโดย MicroProse ในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ลง DOS, Amiga, และเครื่อง PlayStation เป็นเกมวางแผนการรบแบบไซไฟที่มีแนวเกมที่จัดได้ว่าล้ำหน้ากว่าเกมอื่น ๆ ประเภทเดียวกันในยุคนั้น

เครดิตภาพ : By MicroProse/Mythos Games - https://www.amazon.com/X-Com-UFO-Defense-PC-DOS/dp/5551179060, Fair use, https://en.wikipedia.org/w/index.php?curid=67299458

ภายในเกม ผู้เล่นจะต้องควบคุมกองทหารที่อยู่บนดาว นามว่า X-com เพื่อทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา โดยภารกิจนั้นก็คือการหยุดยั้งเหล่าเอเลี่ยนหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ให้สามารถยึดครองโลกได้ ซึ่งเราจะต้องทำการฝึกทหารและมอบอาวุธให้เหมาะสมกับบรรดาทหารเหล่านั้น รวมทั้งจัดการและสร้างฐานที่มั่นขึ้นมา โดยใช้ทรัพยากรที่ได้มาจากการสำเร็จภารกิจในการกำจัดเหล่าเอเลี่ยน ตัวเกมมีความยากระดับขึ้นหิ้ง เพราะความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว อาจหมายถึงการเริ่มต้นเล่นใหม่ทั้งหมด ดังนั้น ใครที่คิดว่าเป็นเซียนด้านนี้แน่ ๆ ต้องลองเล่นดูซักตั้ง

เครดิตภาพ : https://www.gog.com/game/xcom_ufo_defense

9. เกม The Settlers | ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536)

เกมวางแผนการรบ The Settlers เกมวางแผนแนวบริหารและวางแผนสร้างเมือง พัฒนาและจัดจำหน่ายโดย Blue Byte และวางขายเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) โดยตั้งแต่ภาค The Settlers IV เป็นต้นไป ได้ Ubisoft มาเป็นผู้จัดจำหน่ายแทน

เครดิตภาพ : https://m.imdb.com/title/tt0887953/mediaindex

ถึงแม้ว่าใครหลายคนจะมองว่าเกมนี้จะมีแนวเกมออกไปทาง Simulation มากกว่า แต่ The Settlers นั้นมีองค์ประกอบของเกมวางแผนอัดไว้ในเกมมากกว่าที่เห็นภายนอก โดยตัวจะมุ่งเน้นไปที่การวางแผนการต่อสู้มากกว่าการก่อร่างสร้างฐาน ถือเป็นเกมวางแผนชั้นเยี่ยมที่สามารถเล่นได้โดยไม่เครียดมากและฆ่าเวลาได้ดีสุด ๆ ซึ่งในปัจจุบัน เกมนี้มีภาคสปินออฟออกมามากมาย และถูกพอร์ตไปยังเครื่องอื่น ๆ อีกหลายเครื่อง แม้แต่เครื่องเล่นพกพาอย่าง Nintendo DS ก็มีเกมนี้มาลงให้เล่นกันกับเขาด้วย

เครดิตภาพ : https://www.gamepressure.com/editorials/20-best-classic-strategy-games-for-pc/z531a-6

10. Heroes of Might and Magic 3 ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542)

เกมวางแผนการรบ Heroes of Might and Magic 3 มีชื่อเกมเต็ม ๆ ว่า Heroes of Might and Magic III : The Restoration of Erathia (ส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Heroes 3) พัฒนาโดย Loki Software และจัดจำหน่ายโดย The 3DO Company ในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) โดยเปิดให้เล่นกันบน Windows เป็นที่แรก และมีการพอร์ตลงแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Mac และ Linux ในภายหลัง

เครดิตภาพ : https://en.wikipedia.org/w/index.php?curid=2785357

ภายในเกม ผู้เล่นจะสามารถเลือกเล่นเนื้อเรื่องผ่านโหมดแคมเปญที่แตกต่างกันถึง 7 แคมเปญด้วยกัน หรือจะเล่นแบบผ่านฉากกับ AI หรือกับผู้เล่นด้วยกันก็ได้ โดยเราจะได้ควบคุมฮีโร่จำนวนหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาและสั่งการทหารในสังกัดที่ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบรรดาตำนานและนิทานปรัมปราเรื่องต่าง ๆ มากมาย เพื่อเอาชนะโดยการทำตามภารกิจที่เกมกำหนดให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจที่ว่านั้นก็จะมีทั้งการทำลายฝ่ายอื่น ๆ ที่มีในเกมทั้งหมด, เก็บทรัพยากรให้ครบตามกำหนด, หรือแม้แต่การแก้ปริศนาเพื่อค้นหาอาร์ติแฟกต์ เป็นต้น

เครดิตภาพ : https://www.mobygames.com/game/windows/heroes-of-might-and-magic-iii-the-restoration-of-erathia/screenshots/gameShotId,73550/