ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ และในครั้งนี้ Nokia กลับมาอย่างสง่างามภายใต้การดูแลของบริษัท HMD Global ซึ่งถือเป็นบ้านใหม่ของสมาร์ทโฟน Nokia และมีความน่าสนใจ เพราะไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile เหมือนที่ผ่านมา แต่คราวนี้มันเลือกสวมหัวใจของระบบปฏิบัติการขวัญใจมหาชนอย่างระบบ Android 7 Nougat แถมยังเป็น Pure Android ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความบริสุทธิ์ไม่มี แอปฯ ของแถม และไม่มี UI ใดๆ มาครอบทับ ทำให้เราได้สัมผัสกับประสิทธิภาพที่แท้จริงของระบบ Android และมีการอัพเดตระบบความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือน อุ่นใจได้เรื่องความปลอดภัย
และ Nokia เขาไม่ได้มาแค่รุ่นเดียว แต่ส่งลงตลาดไทยพร้อมกันถึง 3 รุ่นในสเปคและราคาที่น่าคบหาสุดๆ ไล่เรียงจากรุ่นเล็กไปรุ่นใหญ่ คือ Nokia 3 , 5 และ 6 เริ่มวางจำหน่ายในไทยช่วงเดือนมิถุนายน รายละเอียดตามนี้ครับ
Nokia 6 | Nokia 5 | Nokia 3 | |
เครือข่าย | GSM: 850/900/1800/19000 LTE Cat. 4, 150Mbps DL/50Mbps UL ใช้งาน 3G พร้อมกัน 2 ซิม | GSM: 850/900/1800/19000 LTE Cat. 4, 150Mbps DL/50Mbps UL ใช้งาน 3G พร้อมกัน 2 ซิม | GSM: 850/900/1800/19000 LTE Cat. 4, 150Mbps DL/50Mbps UL |
OS | Android Nougat 7.1.1 | Android Nougat 7.1.1 | Android Nougat 7.0 |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ต Octa-core Snapdragon 430 การ์ดจอ Adreno 505 แรม 3GB LPPDDR 3 | ชิปเซ็ต Octa-core Snapdragon 430 การ์ดจอ Adreno 505 แรม 2GB LPPDDR 3 | ชิปเซ็ต MTK 6737 Quad-core 1.3GHz แรม 2GB LPPDDR 3 |
หน้าจอ | 5.5" IPS LCD Full HD 1080p จอโค้ง 2.5D ความสว่างสูงสุด 450 nits เคลือบผิวแบบโฟลาไรซ์ | 5.2" IPS LCD HD 720p จอโค้ง 2.5D ความสว่างสูงสุด 500 nits เคลือบผิวแบบโฟลาไรซ์ | 5.0" IPS LCD HD 720p Corning Gorilla Glass 3 ความสว่างสูงสุด 450 nits เคลือบผิวแบบโฟลาไรซ์ |
กล้อง | กล้องหลัง 16MP โฟกัสอัตโนมัติ กล้องหน้า 8MP โฟกัสอัตโนมัติ | กล้องหลัง 13MP โฟกัสอัตโนมัติ กล้องหน้า 8MP โฟกัสอัตโนมัติ | กล้องหลัง 8MP โฟกัสอัตโนมัติ กล้องหน้า 8MP โฟกัสอัตโนมัติ |
หน่วยความจำ | หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับ microSD ได้ถึง 128GB | หน่วยความจำภายใน 16GB รองรับ microSD ได้ถึง 128GB | หน่วยความจำภายใน 16GB รองรับ microSD ได้ถึง 128GB |
ระบบเสียง | ชิปเสียงระดับพรีเมี่ยม ลำโพงคู่ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos | ชิปเสียงระดับพรีเมี่ยม ลำโพงเดี่ยว | ลำโพงเดี่ยว |
เซ็นเซอร์ การเชื่อมต่อ | Ambient light sensor, Proximity sensor, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.1, Micro USB (USB 2.0) OTG, 3.5mm headphone jack | Ambient light sensor, Proximity sensor, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.1, Micro USB (USB 2.0) OTG, 3.5mm headphone jack | Ambient light sensor, Proximity sensor, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.2, GPS/AGPS, FM/RDS, Micro USB (USB 2.0) OTG, 3.5mm headphone jack |
แบตเตอรี่ | 3,000 mAh | 3,000 mAh | 2,350 mAh |
รูปโฉมที่ทุกคนต้องหันมอง ด้วยขอบด้านข้างผลิตจากเฟรมอะลูมิเนียมที่หลอมขึ้นรูปอย่างแม่นยำ ทำให้โครงสร้างตัวเครื่องกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้านหลังผลิตจากวัสดุโพลีคาร์บอเนต ด้วยดีไซน์ที่แข็งแกร่งทนทาน จึงช่วยปกป้อง Nokia 3 ได้เป็นอย่างดี มี 4 สีให้เลือก Silver White, Matte Black, Tempered Blue และ Copper White
ใช้หน้าจอแสดงผลแบบ IPS กระจกลามิเนตกันรอย Corning Gorilla Glass อีกทั้งหน้าจอยังมีแสงสะท้อนลดลง เนื่องจากใช้หน้าจอโพลาไรซ์ ทำให้หน้าจอยังมองเห็นได้ง่ายแม้ใช้งานกลางแจ้ง กล้องหน้าและกล้องหลังระบบออโต้โฟกัส ความละเอียด 8MP พร้อมรูรับแสงขนาดใหญ่ f2.0 ให้ภาพสว่าง และมี Camera User Interface ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Nokia ซึ่งจะช่วยตรวจจับฉากหลังโดยอัตโนมัติ ทำให้ถ่ายภาพสวยได้อย่างง่ายดาย
Nokia 5 ขึ้นรูปด้วยอลูมิเนียมทั้งชิ้น มีรูปทรงโค้งมน 3 มิติสวยงามสะดุดตา กลมกลืนเป็นชิ้นเดียวกันทั้งเครื่อง พร้อมด้วยนวัตกรรมล่าสุดเสาอากาศในตัวเครื่อง มาพร้อมหน้าจอกันรอย Corning Gorilla Glass ทำให้แข็งแกร่งทนทานต่อแรงกระแทกจากการใช้งานประจำวัน กล้อง Phase Detection Auto Focus ช่วยเพิ่มความเร็วในการหาโฟกัสเมื่อถ่ายภาพ ความละเอียดกล้องหลัง 13MP มาพร้อมกับแฟลชคู่ช่วยให้ได้แสงที่สวยเป็นธรรมชาติ กล้องหน้าความละเอียด 8MP พร้อมเลนส์มุมกว้าง 84 องศา ทำให้เก็บภาพฉากหลังได้กว้างขึ้นเวลาที่ถ่ายเซลฟี่ และหน้าจอยังมองเห็นได้อย่างคมชัดไม่ว่าจะอยู่กลางแจ้งหรือในที่มีแสงน้อย
Nokia 5 มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งเป็นการเสริมระดับการรักษาความปลอดภัย และด้วยขนาดหน้าจอที่พอเหมาะ 5.2 นิ้ว ทำให้สามารถพกพาใส่กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงได้สบายๆ โทรศัพท์รุ่น Nokia 5 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Matte Black, Silver, Tempered Blue และ Copper
ขึ้นรูปตัวเครื่อง Nokia 6 แบบ Unibody จากบล็อกอลูมิเนียมทั้งชิ้น ใช้เวลาถึง 55 นาที จากนั้นจึงนำไปผ่านกระบวนการอะโนไดซ์อีก 2 ครั้ง ซึ่งใช้เวลากว่า 12 ชั่วโมงจึงเสร็จสมบูรณ์ หน้าจอแสดงผลแบบ Hybrid In-cell สว่างสดใสขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ให้สีสันคมชัดผ่านกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass หน้าจอเคลือบลามิเนต มองหน้าจอได้อย่างชัดเจนแม้อยู่กลางแจ้ง
Nokia 6 ใช้ขุมพลังจากชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 430 ที่รักษาสมดุลได้เป็นอย่างดี ระหว่างประสิทธิภาพการทำงาน และการใช้พลังงาน ให้ความสำคัญในเรื่องของกล้อง ใช้ระบบโฟกัสแบบ Phase Detection เพื่อเพิ่มความเร็วในการจับโฟกัส ความละเอียดกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล และระบบแฟลชคู่เพื่อให้แสงที่สวยงามเป็นธรรมชาติ และมี Camera User Interface ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Nokia ซึ่งจะช่วยตรวจจับฉากหลังโดยอัตโนมัติ จึงถ่ายรูปสวยๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดาย ในส่วนของกล้องหน้ามีระบบ Auto Focus ความละเอียด 8MP
Nokia 6 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ ได้แก่ Matte Black, Silver, Tempered Blue และ Copper
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |