มีโปรแกรมแต่งภาพทางเลือกตัวหนึ่ง อยากมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน ซึ่งโปรแกรมนี้มีชื่อว่า Capture One อีกหนึ่งโปรแกรมแต่งภาพระดับคุณภาพ ที่เชื่อว่าสาวกกล้อง Sony หลายๆ คนต้องเคยรู้จักกันอยู่บ้าง เพราะว่าโปรแกรมนี้มีเวอร์ชัน Capture One Express for Sony สำหรับคนที่ใช้กล้อง Sony ได้ใช้งานกันฟรีๆ อีกด้วย
โดยความน่าสนใจของโปรแกรม Capture Pro นี้ จากที่ได้ลองใช้งานดู ก็คือคุณภาพของเครื่องมือในการตกแต่งรูปภาพ ที่ไม่แพ้โปรแกรมดังๆ ในตลาดเลย ทั้งเครื่องมือต่างๆ ที่ครบครัน ความฉลาดและแม่นยำของโปรแกรมในการตกแต่งรูปภาพ และที่สำคัญ ก็คือฟังก์ชั่นในการใช้งานโปรแกรมร่วมกับกล้องได้ทันที ทั้งการใช้เป็นรีโมทกล้อง ตกแต่งภาพ และฟังก์ชั่นอีกมากมาย เอาเป็นว่า ลองไปชมรีวิวโปรแกรม Capture One นี้กันได้เลย
สำหรับการติดตั้งโปรแกรมนี้ ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Capture One Pro 10 ไปติดตั้งกันได้เลย ซึ่งในระหว่างขั้นตอนการติดตั้ง จะมีหน้าต่างแปลกๆ ขึ้นมา 2 หน้า ดังนี้
|
|
ซึ้งทั้ง 2 หน้าต่าง จะเป็นจะเป็นไดร์เวอร์สำหรับการใช้งานอุปกรณ์อื่นๆ อย่างการเชื่อมต่อกล้องกับโปรแกรมนั่นเอง สามารถกด Install เพื่อติดตั้งทั้ง 2 ไดร์เวอร์ได้เลย
หลังจากติดตั้งโปรแกรม Capture One เรียบร้อยแล้ว เมื่อเปิดโปรแกรมครั้งแรก จะมีเวอร์ชันของโปรแกรมให้เลือก 4 โหมดด้วยกัน โดยสำหรับเวอร์ชัน Pro และ Pro (for Sony) จะเป็น Shareware ที่ให้ทดลองใช้งานเป็นเวลา 30 วัน ส่วน Express (for Sony) และ DB จะเป็นเวอร์ชันฟรี ตามเงื่อนไขของทางผู้พัฒนา โดยสำหรับรีวิวนี้ เราจะขอใช้งานเวอร์ชัน Pro ให้ชมกันครับ
เมื่อเปิดโปรแกรมเข้ามา หน้าตา Default ของโปรแกรมจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ตามมาตรฐานของโปรแกรมแต่งภาพ ที่ประกอบไปด้วยเครื่องมือแต่งภาพต่างๆ ที่อยู่ทางด้านซ้าย หน้าต่างพรีวิวรูปภาพตรงกลาง และรูปภาพที่เรา Import เข้ามาจะอยูด้านขวาของโปรแกรม ส่วนเครื่องมือด้านบนกรอบเล็กๆ เป็นเคอร์เซอร์ใช้งานทั่วไปต่างๆ ทั้ง ลูกศร, ครอบภาพ, หมุนภาพ, ใส่ Mask เป็นต้น
แต่ถ้าหน้า UI เริ่มต้น ไม่ถนัดมือเรา ก็สามารถปรับเปลี่ยน Workspace ตามรูปแบบต่างๆ ที่โปรแกรมให้มา จะลากย้ายหน้าต่างเอง หรือจะใช้ Create Floating Tool ในเมนู Window เปิดเครื่องมือต่างๆ ออกมาในรูปแบบหน้าต่างที่สามารถลากย้ายได้อย่างอิสระ ลากไปไว้ในจุดต่างๆ ที่ถนัดมือเลยก็ได้ (เช่นรูปวงล้อสี ด้านขวาของภาพ)
เครื่องมือต่างๆ ของโปรแกรม Capture One Pro 10 ถูกจัดเป็นแท็บต่างๆ ทางด้านซ้ายของหน้า UI ซึ่งเครื่องมือแทบทุกตัวก็เป็นที่คุ้นเคยกันดีสำหรับคนที่ใช้โปรแกรมแต่งภาพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การปรับแสงด้วย Exposure, แก้สีเพี้ยนด้วย Color, แก้รายละเอียดภาพต่างๆ ด้วย Detail, หรือแก้ไขภาพบิดเบี้ยวด้วยเมนู Lens รวมทั้งโปรแกรมยังรองรับระบบ Mask เพื่อแก้ไขงานเฉพาะจุด อย่างเช่นสีผม หรือแยกปรับแสง BG กับตัวแบบได้ด้วย
จากที่ได้ลองใช้งาน การดึงรายละเอียดแสงต่างๆ โปรแกรมสามารถทำได้ค่อนข้างฉลาด มีเครื่องมือให้ใช้ตามความถนัด ไม่ว่าจะเป็น ดึงแถบ Exposure, Brightness, Contrast ทั่วๆ ไป หรือจะเปลี่ยนไปใช้ Level / Curve ก็ได้ มี Histogram ให้ตรวจสอบรายละเอียดของแสงได้ จุดที่น่าเสียดายก็คือ การดึงรายละเอียดในส่วนมืดหรือสว่างด้วย Highlight หรือ Shadow ที่ไม่มีเครื่องมือ White / Black ให้คืนค่าสีขาว / ดำ ที่โดนดึงออกไป ทำให้เวลาดึงรายละเอียดกลับมาแล้ว ต้องมานั่งปรับแสงกันใหม่อีกรอบหนึ่ง
เครื่องมือสำหรับจูนสีของโปรแกรมนี้ ใช้งานได้สนุกมาก มีทั้งการปรับไวท์บาลานซ์ทั่วไปด้วย อุณหภูมิสีองศาเคลวิน (Kelvin) หรือ Tint, ปรับโดยอ้างอิงสกินโทน รวมทั้งยังมีการปรับแสงสีทั้งภาพหรือแยกสี ด้วยวงล้อสีอีกด้วย ใครที่ชอบทดลองปรับจูนสีภาพให้ได้โทนใหม่ๆ เครื่องมือโปรแกรมนี้ เรียกว่าเหมาะมากๆ
Lens และ Detail
นอกจากเรื่องแสงสีแล้ว โปรแกรมก็มีเครื่องมือสำหรับแก้ไขจุดบกพร่องของภาพที่เกิดจากการถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นความบิดเบี้ยวที่เกิดจากเลนส์ต่างๆ แก้ไขการถ่ายภาพเบี้ยว แก้แสงสีม่วง หมุนหรือครอบตัดภาพ ก็ทำได้อย่างสะดวกสบาย รวมทั้งการจัดการรายละเอียดของภาพอย่าง เพิ่มรายละเอียด ลดจุดรบกวน ก็ทำได้ค่อนข้างฉลาด
เครื่องมือลบสิวฝ้า ก็มีให้ใช้งาน แถมง่ายอีกด้วย
สำหรับการ Mask ในโปรแกรมนี้ จะใช้ชื่อว่า Local Adjustment (ปรับแต่งเฉพาะจุด) โดยเราสามารถ เลือกเมนูพู่กัน (Brush) - หรือกดปุ่มคีย์ลัด B แล้วระบายในจุดที่ต้องการ Mask ได้เลย เมื่อระบายเสร็จเรียบร้อย ก็จะได้ Layer แยกออกมาที่หน้าต่างซ้ายบน ให้เลือกปรับแต่งเฉพาะจุดได้
แน่นอนว่า การแต่งรูปงาน หรือทริปเที่ยวแต่ละครั้ง ต้องมาเป็นชุดใหญ่ๆ ซึ่งโปรแกรม Capture One ก็มีทั้ง Catalog, User Collections หรือ Folders สำหรับแบ่งกลุ่มรูปต่างๆ ให้สามารถเลือกโชว์ภายในโปรแกรมเฉพาะกลุ่มรูปที่ต้องการได้ ซึ่งนอกจากนี้ ก็ยังมีระบบอื่นๆ ในการจัดการแบ่งหมวดรูปภาพอีกด้วย
รูปต่างๆ ที่ถูกใช้งานในโปรแกม Capture One Pro 10 สามารถให้คะแนนเรตติ้ง ตั้งแต่ 1-5 ดาว หรือจะแปะแท็กสีเอาไว้ สำหรับการค้นหาแบบ Filter ในภายหลังได้ หรือถ้าใครขยันอีกหน่อย ก็สามารถใส่ Keywords หรือรายละเอียดอื่นๆ เอาไว้ค้นหาในภายหลังได้เช่นกัน
อีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ดๆ ของโปรแกรมนี้ ก็คือการเชื่อมต่อกล้องกับคอมพิวเตอร์ แล้วใช้โปรแกรมในการควบคุมกล้องได้ เหมาะมากกับงานประเภทสตูดิโอ ที่เราสามารถควบคุมการตั้งค่าของกล้องได้แทบทั้งหมด รวมทั้งการโฟกัส เว้นอย่างเดียวคือหันเปลี่ยนมุมกล้องไม่ได้ (ก็แน่นอน) ที่เด็ดมากก็คือ เราสามารถเปิด Live view ผ่านหน้าจอคอม รวมทั้งใส่ Color Profile เพื่อแก้ไขสีที่ผิดเพี้ยนระหว่างตัวกล้องกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ทันทีอีกด้วย
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่โปรแกรมแต่งภาพระดับนี้จะสามารถรองรับการเปิดไฟล์ RAW มาตกแต่ง แต่สำหรับ Capture One Pro 10 นี้ จะรองรับการเปิดไฟล์ .PSD มาตกแต่งได้อีกด้วย แต่เมื่อเปิดไฟล์ขึ้นมา Layer ทั้งหมด จะถูกรวมเป็นภาพๆ เดียว แม้ว่าจะมีการแยก Layer ในไฟล์ .PSD ดั้งเดิมก็ตาม
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
สำหรับโปรแกรม Capture One Pro 10 จากที่ได้ทดลองใช้งานมา ก็ค่อนข้างประทับใจกับเครื่องมือต่างๆ ในการแต่งภาพที่ค่อนข้างถนัดมือ แตกต่างจากโปรแกรมแต่งรูปทั่วๆ ไป รวมทั้งโหมด Live view กับการใช้งานร่วมกับกล้องต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะมากกับงานถ่ายสตูดิโอเป็นอย่างมาก ใครที่อยากทดลองใช้งาน โปรแกรมก็มีเวอร์ชันเดโม่ให้ทดลองใช้งานอีกด้วย ส่วนใครที่สนใจอยากซื้อ Capture One Pro 10 ไปใช้งานกัน ก็สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทาง Thaiware Shop กันได้เลย
|
... |