พรีวิว Vivo V7+ เซลฟี่สมาร์ทโฟน กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล จอภาพไร้ขอบ ในราคาแค่ 11,990 บาท

มาแล้ว Vivo V7+ สมาร์ทโฟนระดับเรือธงจากค่ายที่ขึ้นชื่อว่าเด่นเรื่องกล้องเซลฟี่ แถมยังมีระบบชิปเสียงที่มีคุณภาพ และสำหรับรุ่น V7+ นี้สโลแกนเขาก็วางไว้อย่างชัดเจนว่า 24MP Clearer Selfie Perfect Shot ชูจุดเด่นการเซลฟี่ได้อย่างสวยงามด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูง 24 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดปรับหน้าสวย Face Beauty 7.0 ที่ทาง Vivo เขาเคลมว่าจะทำให้สาวๆ หน้าสวยแบบเป็นธรรมชาติ แถมยังมีโหมด Portrait bokeh ที่เป็นการถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลออีกด้วย บอกเลยว่างานนี้สาวกเซลฟี่จะได้มีสมาร์ทโฟนกล้องหน้าสวยๆ ในราคาค่าตัวเพียง 11,990 บาทเท่านั้น

คลิปวิดีโอพรีวิว เซลฟี่สมาร์ทโฟน Vivo V7+

ก่อนที่จะลงลึกถึงรายละเอียดฟังก์ชั่นเด็ดฟังก์ชั่นเด่นของเจ้า Vivo V7+ เรามาทำความรู้จักกับสเปคของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้กันอย่างคร่าวๆ ก่อนนะ แน่นอนว่าเริ่มด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูง 24 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f2.0 ในส่วนของกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล f2.0 และในส่วนของหน้าจอก็มีความน่าสนใจ ตรงที่มีขนาดใหญ่ถึง 5.99 นิ้ว (แต่ความละเอียดการแสดงผลอยู่ที่ระดับเพียง 1,440x720 จุดเท่านั้น) และเป็นจอไร้ขอบ (ขอบจอบาง) ที่ทาง Vivo ขนานนามให้ว่าเป็นจอแบบ FullView display ดีไซน์ตัวเครื่องก็มีความโค้งมนดูสวยงามดีนะ มีตัวเครื่องให้เลือกซื้อ 2 สีคือ สีดำ Matte Black และสีทอง Champagne Gold วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ 28 กันยายน 2017

ขนาดตัวเครื่อง 155.87x75.74x7.7 มม. หนัก 160 กรัม

มาดูสเปคเครื่องในที่น่าสนใจของเจ้า Vivo V7+ กันบ้าง ต้องบอกว่าประสิทธิภาพแรงใช้ได้ด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 450 แปดแกน ความเร็ว 1.8 GHz หน่วยความจำ RAM ขนาดใหญ่ 4GB RAM หน่วยความจำภายใน 64 GB และขยายเพิ่มด้วยการ์ด microSD ได้อีก 256 GB รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันล่าสุด 7.1 Nougat (ครอบทับโดยระบบ Funtouch OS 3.2 ของ Vivo)

จุดเด่นจุดขายของ V7+ ที่ทาง Vivo เขาภูมิใจนำเสนอนำเสนอ

• การเซลฟี่ที่สมบูรณ์แบบ กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 ตอกย้ำการเป็นสมาร์ทโฟนเซลฟี่ตัวจริง และไม่เพียงแต่ความละเอียดสูงสุดเท่านั้น Vivo V7+ ยังยกระดับการเซลฟี่ ที่ทำให้ผู้ใช้ดูสวยใส เป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะแสงมากหรือแสงน้อย ด้วยโหมดใบหน้าสวยเวอร์ชัน 7.0 (Face Beauty 7.0)

นอกจากนี้ยังมีโหมดภาพถ่ายบุคคล ที่สร้างเอฟเฟคการถ่ายภาพแบบชัดตื้น เพื่อให้ได้ภาพเซลฟี่ที่มีใบหน้าคมชัด ในขณะที่ฉากหลังเบลอ ทำให้นายแบบ นางแบบดูโดดเด่น ในส่วนของกล้องหลังความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0

• ชิปเสียงระดับคุณภาพ โดย Vivo ได้ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตชิปเสียงชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อติดตั้งชิปเสียงรุ่นพิเศษ Hi–Fi AK4376A ที่ทาง Vivo เคลมว่า จะทำให้ได้อรรถรสการฟังเพลงที่ชัดเจน มีคุณภาพ และไพเราะ
• Smart Split 3.0 ฟังก์ชั่นที่ทำให้ผู้ใช้งาน สามารถใช้แอปพลิเคชันได้หลายแอปฯ เช่น Facebook, WhatsApp, LINE, WeChat, YouTube ได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว เพียงใช้ 3 นิ้ว ลากลงมาที่หน้าจอ ก็สามารถแบ่งการใช้งานหน้าจอออกเป็น 2 ส่วน ให้ผู้ใช้งานได้สนุกทั้งความบันเทิง และการแชทได้อย่างอิสระ
• App Clone ฟังก์ชั่นใหม่ที่ช่วยให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยสามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชันด้วยบัญชี 2 บัญชีพร้อมกันอย่างง่ายดาย อย่างการเล่น LINE สองแอคเคาท์ในเครื่องเดียว แยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้อย่างชัดเจน ไม่ต้องพกสมาร์ทโฟน 2 เครื่องอีกต่อไป
• ระบบจดจำใบหน้าเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ ยกระดับระบบความปลอดภัยของสมาร์ทโฟนให้ดียิ่งขึ้น เพียงแค่ยกโทรศัพท์ขึ้นคล้ายกับกำลังถ่ายเซลฟี่ ก็สามารถปลดล็อกโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ชีวิตของทุกคนง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องเจอกับปัญหาการจดจำรหัสผ่านอีกต่อไป

ใครอยากเห็นตัวอย่างการทำงานของทั้งฟังก์ชั่น Smart Split 3.0 , App Clone และ ระบบจดจำใบหน้าเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ ก็เปิดดูได้ในคลิปวิดีโอพรีวิวเลยนะครับ

คุณสมบัติของ Vivo V7+

• ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 3.2 (บนพื้นฐานของ Android 7.1 Nougat)
• จอแสดงผล : 5.99 นิ้ว ความละเอียด 1440x720 จุด IPS capacitive touch screen
• ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 450 แปดแกน ความเร็ว 1.8 GHz
• หน่วยความจำ RAM : 4 GB
• หน่วยความจำภายใน : 64 GB
• การ์ด microSD : รองรับการ์ดขนาดความจุสูงสุด 256GB
• กล้องถ่ายภาพ :
  • กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 มีไฟแฟลช
  • กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 มีไฟแฟลช Selfie softlight
• โหมดการถ่ายภาพที่หลากหลาย : Portrait bokeh, Photo watermark, Ultra HD, Professional, Slow, Time-lapse, Face beauty, Panorama, Group selfie, Camera filter, HDR, Live photo
• ชิปเสียง : AK4376A
• รูปแบบไฟล์เสียงที่รองรับ : MP3, AAC, AAC+, AMR, MIDI, OGG, FLAC, WMA, WAV, APE
• รูปแบบไฟล์วิดีโอที่รองรับ : MP4, AVI, 3GP, MKV, WMV, ASF
• ซิมการ์ด : รองรับระบบ 4G จำนวน 2 ซิมการ์ดขนาดนาโน
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 b/g/n/ac, microUSB 2.0, Bluetooth 4.2 LE, OTG
• สีตัวเครื่อง : มีให้เลือกซื้อ 2 สี คือ สีดำ Matte Black และสีทอง Champagne Gold
• ราคา : 11,990 บาท