จุดที่น่าสนใจ
| จุดที่ขัดใจ
|
ล่าสุดทาง หัวเว่ย ประเทศไทย ได้เตรียมที่จะนำ Huawei Mate 10 Series สมาร์ทโฟนเรือธงส่งท้ายปี เข้ามาจำหน่ายในไทย โดยรุ่นที่นำเข้ามาก่อนใครเพื่อนเลยก็คือ Huawei Mate 10 Pro ที่จะให้พรีออเดอร์กันได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งทางเราก็ได้ไปสัมผัสกับสมาร์ทโฟน ที่มาพร้อมกับ AI Chipset ตัวแรกของโลกนี้มา เลยขอเก็บมาเป็นพรีวิวให้ได้ชมกันครับ
สเปค Huawei Mate 10 Pro
Huawei Mate 10 Pro เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอ OLED ขนาด 6 นิ้วแบบ FullView Display อัตราส่วน 18:9 ครอบคลุมพื้นที่ด้านหน้าตัวเครื่องเกือบทั้งหมด เป็นรูปแบบนิยมของมือถือเรือธงในท้องตลาดปีนี้ ซึ่งทำให้ปุ่มสแกนลายนิ้วมือ ถูกย้ายมาอยู่ด้านหลังของตัวเครื่องแทน เลนส์กล้องคู่ SUMMILUX-H รูรับแสง f/1.6 เรียงกันเป็นแนวตั้ง คาดด้วยพื้นผิวสีเข้ม เพิ่มความโดดเด่นสวยงาม ด้านหลังตัวเครื่องมีลักษณะโค้งมนเข้ากับรูปมือ ความรู้สึกตอนสัมผัส หยิบจับง่าย ไม่ลื่นหลุดมือ ขอบตัวเครื่องบางมาก แต่ด้วยผิวมันวาว เลยเป็นรอยนิ้วมือง่ายตามระเบียบ โดยรวมแล้วเครื่องสวยมาก ถ้าได้เป็นเจ้าของ อยากจะหยิบออกมาถ่ายรูป โชว์เลนส์คู่สวยๆ กันบ่อยๆ เลยทีเดียว
หมัดเด็ดของ Huawei Mate 10 Pro ก็คงเป็นเรื่องของชิปเซ็ต Kirin 970 ตัวใหม่ ที่เป็น AI Chipset ตัวแรกของโลก ที่ได้นำ Machine Learning มาเสริมประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนในหลายๆ ด้าน ทั้งการจัดการความเร็วในการประมวลผลให้สามารถใช้งานได้ไหลลื่นต่อเนื่องแม้จะผ่านไป 18 เดือน การจัดการแบตเตอรี่ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 50 เท่า หรือการจดจำเสียงของเจ้าของเครื่อง เพื่อจัดการเสียงรบกวนในการสนทนาที่ประสิทธิภาพดีมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่กล่าวมาข้างต้น เราไม่ได้ทดสอบกันในงาน แต่มีฟีเจอร์หนึ่งที่ได้ทดสอบการช่วยเหลือของ AI กับการใช้งาน นั่นก็คือเรื่องของกล้อง
สำหรับกล้องเลนส์คู่ Leica ใน Huawei Mate 10 Pro รุ่นนี้ นอกจากจะมีรูรับแสง f/1.6 ที่กว้างที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนแล้ว ยังได้มีการนำ AI มาช่วยจัดการตั้งค่าถ่ายภาพในโหมด Auto ปรับค่ากล้องให้เหมาะสมกับสิ่งที่ถ่าย เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูณ์แบบที่สุด โดยประเภทของสิ่งที่ถ่ายออกเป็น 13 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ตัวอักษร อาหาร เวที ท้องฟ้า หิมะ ชายหาด สุนัข แมว กลางคืน พระอาทิตย์ขึ้น พืช ถ่ายภาพบุคคล และดอกไม้
จะสังเกตเห็นว่า มีไอคอนที่แบ่งประเภทของภาพถ่ายปรากฏอยู่ที่มุมด้านซ้ายบนของปุ่มชัตเตอร์เวลาถ่ายภาพ ซึ่งนอกจากการตั้งค่ากล้องให้เหมาะสม (อย่างเช่น ชัตเตอร์กล้องที่ทำงานเร็วขึ้นสำหรับถ่ายสุนัข) แล้ว ยังมีการปรับค่าสีสันของภาพอย่างการ ถ่ายดอกไม้ ให้มีสีสันสดใสขึ้นด้วย
มีภาพจากกล้องของ Huawei Mate 10 Pro มาฝากกันให้ชมกันเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้โหมด Auto ในการถ่ายครับ
ภาพถ่ายโมเดลจำลองสถานการณ์ในที่แสงน้อย
ภาพถ่ายสาวๆ จากกล้องหลัง
ภาพถ่ายกล้องเซลฟี่
อีกเรื่องของการนำระบบ AI มาใช้บนกล้องก็คือ AI Zoom ที่น่าจะเป็นปัญหาของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนหลายๆ คน ก็คือ การนำมือถือมาถ่ายข้อความต่างๆ เอาไว้อ่าน แต่เมื่อมาซูมดูในภายหลัง ตัวอักษรกลับแตก อ่านไม่รู้เรื่อง ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยจัดการให้ตัวหนังสือที่ถูกซูม ชัดเจน อ่านง่ายยิ่งขึ้น
PC Mode อีกหนึ่งลูกเล่น ที่ดูจะเป็นเทรนด์ของสมาร์ทโฟนเรือธงในตลาดอนาคตข้างหน้า ก็มีบน Huawei Mate 10 Pro แล้ว ที่เราสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้เป็นเหมือนกับ Mini PC พกพา ใช้งาน Desktop PC ได้ทุกที่ที่ต้องการ เพียงเชื่อมต่อกับมอนิเตอร์ผ่านสาย HDMI โดยไม่ต้องผ่านอุปกรณ์ใดๆ โดย UI ของพีซี จะมีลักษณะคล้ายกับ Windows เราสามารถต่อคีย์บอร์ดหรือเมาส์ผ่าน USB หรือในรูปแบบ Bluetooth เพื่อใช้งานเพิ่มเติมได้ หรือจะใช้หน้าจอของมือถือเป็น เมาส์แพดในการเลื่อนเคอร์เซอร์เมาส์ก็ได้เช่นกัน
แต่หากต้องการใช้งานเป็นลักษณะ Screen Mirroring ทั่วๆ ไป เช่นการเปิด Presentation หรือเล่นเกมส์จอใหญ่ ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติเช่นกัน
การใช้งานหน้าจอทัชสกรีนเป็น Mousepad
กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP67 อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เป็นข่าวดีสำหรับสาวกหัวเว่ยเลยทีเดียว ซึ่งมาตรฐาน IP67 จะทำให้ Huawei Mate 10 Pro สามารถลงน้ำในความลึกไม่เกิน 1 เมตรได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เต็มรูปแบบขนาดที่ว่า พกลงไปเก็บภาพใต้น้ำได้ แต่ก็ทำให้เราสามารถใช้มือถือถ่ายรูปในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างไร้กังวล ทั้งละอองน้ำ ฝนตก หรือฝุ่นควันต่างๆ จะใช้น้ำล้างทำความสะอาดมือถือ ก็เท่ดีไม่น้อย
GPS ที่แม่นยำขึ้น และ การใช้งาน 4G ได้ทั้ง 2 ซิมพร้อมกัน เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานมือถือในปัจจุบัน ที่อยากจะหยิบยกมาพูด แม้จะไม่ได้ทดลองพรีวิวก็ตาม ก็คือเทคโนโลยี Huawei GEO Enhanced GPS ที่ได้เพิ่มประสิทธิภาพของการระบุตำแหน่ง GPS ได้อย่างแม่นยำขึ้น แม้จะอยู่ในจุดอับสัญญาณ เช่น ในอุโมงค์หรือใต้ทางด่วน (ซึ่งเป็นจุดที่ค่อนข้างมีปัญหาในการใช้มือถือเป็นแผนที่นำทางระหว่างขับรถ) อยากจะลองนำมาทดสอบเลยทีเดียว
อีกหนึ่งปัญหาของสมาร์ทโฟน 2 ซิมที่จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ก็คือ Huawei Mate 10 Pro สามารถใช้งาน 4G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม โดยไม่ต้องเลือกให้ซิมใดซิมหนึ่งใช้งานได้เพียง 3G และการรับสัญญาณ 4.5G ที่รับความเร็วอินเทอร์เน็ตได้สูงสุด 1.2Gbps สำหรับในอนาคต
และนี่ก็เป็นพรีวิวของ Huawei Mate 10 Pro ที่เราได้ไปสัมผัสกันมา ซึ่งหัวเว่ยประเทศไทย จะนำเข้ามาจำหน่ายด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Midnight Blue และ สีน้ำตาล Mocha Brown (จริงๆ แล้วมีอีก 2 สี ได้แก่ สีเทา Titanium Gray และชมพู Pink Gold) ส่วนราคาเปิดตัวจะอยู่ที่ 27,900 บาทครับ (อ่านรายละเอียดการจำหน่าย Huawei Mate 10 Pro เพิ่มเติมได้ที่นี่)
|
... |