รีวิว Honor 10 ศักดิ์ศรีแห่งสมาร์ทโฟนระดับท็อป ในราคาเพียง 13,990 บาท

หากจะพูดว่า Honor 10 เป็นสมาร์ทโฟนในระดับราคาหมื่นต้นๆ ที่ร้อนแรงและน่าสนใจมากที่สุดตัวหนึ่งในช่วงกลางปี 2018 ก็คงจะไม่เกินเลยความจริงแต่อย่างใด ด้วยราคาค่าตัวเพียง 13,990 บาท แต่ใช้จอภาพขนาด 5.84 นิ้วระดับคุณภาพสูงอัตราส่วนการแสดงผล Widescreen 18:9 กล้องหลัง 2 ตัว 24+16 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล เลือกใช้ขุมพลังตัวแรงอย่าง ชิป Kirin 970 ซึ่งเป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ในสามาร์ทโฟนระดับเรือธงอย่าง Huawei P20 (ราคาขายที่ 19,990 บาท) และ Huawei P20 Pro (ราคาขายที่ 27,990 บาท) ในส่วนของหน่วยความจำภายในมีขนาด 128GB และหน่วยความจำ RAM มีขนาด 4GB ซึ่งบางคนอาจจะตำหนิว่า RAM น้อยไปนิด แต่ก็ต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความรู้สึกในการใช้งานว่า ให้ความรู้สึกในการใช้งานที่ลื่นไหลทันใจดีมากๆ คุ้มค่าคุ้มราคาใช้ได้อยู่ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรเชิญติดตามเต็มๆ ได้ในบทความรีวิวนี้เลยครับ

คลิปวิดีโอรีวิว Honor 10

ตารางสเปค Honor 10

บทสรุป Honor 10

ดีไซน์ล้วนดีงาม

มีติ่งตรงขอบจอบน แต่ถ้าใครรำคาญติ่ง ก็เลือกคำสั่ง Hide notch เพื่อเทพื้นสีดำเข้าไปข้างๆ เพื่อซ่อนติ่งได้นะ

มือถือระดับท็อปในช่วงเวลานี้นอกจากจะให้ความสำคัญในเรื่องของสเปคความแรงในระดับที่ต้องไม่ให้ใครมาลบหลู่ดูหมิ่นได้แล้ว อีกหนึ่งพื้นที่ที่ให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ รูปโฉมความสวยงามของตัวเครื่องที่ต้องหยิบออกมาอวดเพื่อนได้แบบไม่ต้องอายใคร และเจ้า Honor 10 ก็สอบผ่านในเรื่องของงานดีไซน์ ด้วยหน้าจอแบบมีติ่งตรงขอบบน (Notch) หน้าจอแบบไร้ขอบ ที่พื้นที่ของหน้าจอเกือบจะเต็มพื้นที่ทางด้านหน้าของตัวเครื่อง เว้นขอบล่างไว้หน่อยสำหรับติดตั้งตัวสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งมีความพิเศษคือ เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังอยู่ใต้กระจกหน้าจอ ทำให้ผิวหน้าตัวเครื่องเรียบเนียนสวยงาม ไม่มีสะดุดเป็นหลุมเป็นร่องตรงเซ็นเซอร์

Honor 10 ตัวเครื่องสี Phantom blue (ซ้าย) และ Midnight black (ขวา)

ในส่วนของแผ่นหลังตัวเครื่องก็งดงามไร้ที่ติ โชว์ผิวกระจกเงามันวาว ที่เกิดจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและงานวิศวกรรมที่ล้ำสมัย โดยผลิตจากกระจกแบบ 3 มิติ ที่ซ้อนทับกันอย่างประณีตถึง 15 ชั้น เกิดเป็นกระจกดีไซน์พิเศษที่สะท้อนแสงและสีสันไล่เฉดคล้ายแสงออโรร่าในทุกมุมมอง ขอบข้างตัวเครื่องมีความโค้งมนรับอุ้งมือ แต่ด้วยความที่แผ่นหลังตัวเครื่องมีผิวสัมผัสที่เรียบลื่นอยู่พอสมควร ทำให้แอบมีหวั่นๆ ว่าจะหลุดมืออยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องบอกว่าตลอดระยะเวลาการทดสอบก็ไม่ได้การทำตัวเครื่องหลุดมือขณะจับถือแต่อย่างใดครับ

ขนาดตัวเครื่อง กว้างxยาวxหนา 149.6 x 71.2 x 7.7 มม. และหนัก 153 กรัม ก็จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับท็อปที่ขนาดตัวเครื่องกะทัดรัด ผู้ชายที่มีขนาดมือไม่เล็กไม่ใหญ่อย่างผม หยิบจับใช้งานมือเดียวได้สบายๆ ไม่จำเป็นต้องใช้อีกมือคอยจับประคองตัวเครื่อง และจากการที่เราได้สัมผัสกับ Honor 10 อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็ต้องบอกว่ามันเป็นสมาร์ทโฟนที่มีเสน่ห์มาก และมีตัวเครื่องให้เลือกซื้อ 4 สีได้แก่ สีน้ำเงิน Phantom blue, สีเขียว Phantom green, สีเทา Glacier grey และสีดำ Midnight black

รองรับ 4G สองซิมการ์ดขนาด นาโนซิม แต่ไม่รองรับการขยายความจุด้วยการ์ด microSD นะจ๊ะ

มีแถมเคสใสมาให้ด้วย

เป็นที่รู้กันดีว่าถ้าไม่ใช่สมาร์ทโฟนแบรนด์ระดับท็อปในท้องตลาด การเดินหาเคสสวยๆ ใส่ตามตลาดนัดมันช่างลำบากยากเย็นไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร แต่ Honor 10 เขาทำเก๋ เพราะมีแถมเคสซิลิโคนใสแบบตรงรุ่นมาให้ด้วย ต้องบอกว่าเป็นเคสที่ถูกรสนิยม ด้วยความที่เคสสีขาวใส ทำให้ยังอวดแผ่นหลังตัวเครื่องสวยๆ ให้ชาวโลกได้เห็นแบบเต็มตา และเคสมีความยืดหยุ่น ป้องกันการกระแทกและป้องกันริ้วรอยขีดข่วนให้กับแผ่นหลัง และขอบข้างตัวเครื่องได้ดี และความหนืดของผิวซิลิโคนทำให้หยิบจับตัวเครื่องได้กระชับมือขึ้น

แต่ข้อสังเกตคือ เมื่อใส่เคสแล้วต้องออกแรงมากขึ้นในการกดปุ่ม Power และปุ่ม Volume +/- ที่อยู่บนขอบข้างขวาตัวเครื่อง และขอบของเคสนั้นสูงเลยขอบข้างตัวเครื่องขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้การใช้นิ้วแตะบริเวณขอบข้างหน้าจอนั้นจะลำบากกว่าตอนที่ไม่ใส่เคสนิดนึง และเคสทำให้รู้สึกว่าตัวเครื่องหนาขึ้นพอสมควร แต่บอกตามตรงว่า พอได้ใส่เคสแล้วอุ่นใจกว่าตอนที่ไม่ได้ใส่เยอะเลย

จอสวยเลย

ภาพแรก การเปิดดู YouTube แบบปกติ ไม่เต็มหน้าจอ ส่วนภาพที่สอง เป็นการขยายซูมให้เต็มหน้าจอ จะเห็นว่าถีงแม้วิดีโอจะเต็มความกว้างหน้าจอก็จริง แต่ส่วนบนและส่วนล่างของเฟรมโดนตัดทิ้งไป

หน้าจอขนาด 5.84 นิ้วความละเอียดการแสดงผลระดับ FHD+ ความละเอียด 2,280 x 1,080 พิกเซล อัตราส่วนการแสดงผลแบบจอกว้าง Widescreen 19:9 ตามสมัยนิยม มีอยู่เรื่องที่คนสงสัยกันมากคือ อัตราส่วนหน้าจอที่กว้างมากเป็นพิเศษของสมาร์ทโฟนระดับท็อปในปัจจุบัน จะสามารถเปิดดูคลิป YouTube แบบเต็มหน้าจอได้หรือไม่? คำตอบก็คือได้ครับ โดยถ้าเราเปิดคลิป YouTube ดูตามปกติ มันจะฉายแบบไม่เต็มหน้าจอ โดยเหลือขอบดำทางด้านซ้ายและขวาเอาไว้ (เนื่องจากจอกว้างกว่าอัตราส่วนของวิดีโอ) แต่เราก็สามารถขยายซูมให้เล่นวิดีโอยูทูปเต็มหน้าจอได้ โดยการใช้ 2 นิ้วแตะหน้าจอแล้วลากขยายออก (Pinch-to-zoom) โดยวิดีโอจะฉายเต็มความกว้างของหน้าจอ แต่ตรงส่วนขอบบน และขอบล่างของไฟล์วิดีโอจะถูก Crop ออกไป ทำให้รายละเอียดหายไปพอควร โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ต้องดูเต็มความกว้างจอ แต่ได้เห็นรายละเอียดครบ น่าจะดีกว่านะ

ขนาดการแสดงผลของเกมส์ต่างๆ เมื่อเล่นบนจอกว้างๆ ของ Honor 10 ไล่เรียงตามอันดับ 1- 5 ก็มีเกมส์ Blossom Blast Saga, Shooty Skies, Asphalt 9: Legends, Lineage2 Revolution และ PUBG Mobile

ในส่วนของการเล่นเกมส์พบว่า หลายๆ เกมส์หลากหลายแนวที่เราลองเล่น ไม่ว่าจะเป็นเกมส์แนวเรียงสีระเบิดดอกไม้อย่าง Blossom Blast Saga , เกมส์แนวขับเครื่องบินยิงกันสะบั้นหั่นแหลก Shooty Skies, เกมส์แนวขับรถซิ่ง Asphalt 9: Legends, เกมส์แนว MMORPG อย่าง Lineage2 Revolution และเกมส์แนว Battle royal ยอดนิยมอย่าง PUBG Mobile ก็สามารถแสดงผลเต็มความกว้างหน้าจอได้อย่างไร้ปัญหา (โดยที่การแสดงผลของเกมส์ไม่ได้ล้ำเข้าไปถึงขอบทั้งสองด้านข้างติ่งบนหน้าจอ)

คุณภาพการแสดงผลของหน้าจอละเอียดเนียนตาดีมากๆ ตามแบบฉบับของสมาร์ทโฟนระดับท็อป หลายคนที่ได้เห็นก็พูดตรงกันว่ามือถือเครื่องนี้หน้าจอสวยจัง สีสันอิ่มเข้มสวยงาม เปิดชมภาพถ่ายได้สวยงาม แน่นอนว่าสอบผ่านเรื่องคุณภาพการแสดงผล แต่มีข้อสังเกตคือจอไม่ค่อยสู้แสงแดด ต้องบอกว่าปกติผมเป็นคนที่ชอบปรับความสว่างหน้าจอมือถือไว้ที่ระดับกลาง หน้าจอก็ใช้งานในอาคารได้สว่างสบายตาดี แต่พอออกนอกบ้านรู้สึกว่าความสว่างของหน้าจอดรอปลงไปเยอะเลย ต้องเร่งความสว่างจนถึงระดับสุด ถึงจะรู้สึกสบายตากับการใช้งานกลางแจ้งนะ

และเรื่องสุดท้ายที่ต้องบอกคือ เราสามารถเข้าไปใน Settings ของเครื่องเพื่อปรับลดความละเอียดการแสดงผลของหน้าจอ (Screen resolution) จากระดับ FHD+ (2,280 x 1,080 พิกเซล) ลงให้เหลือระดับ HD+ (1,520 x 720 พิกเซล) เพื่อประหยัดการใช้งานแบตเตอรี่ หรือเพื่อการเล่นเกมส์ที่ลื่นไหลขึ้น แต่ก็แลกกับความละเอียดสวยงามในการแสดงผลที่ลดลงในระดับที่พอรู้สึกได้ครับ

เปรียบเทียบคุณภาพการแสดงผลระหว่างระดับความละเอียด FHD+ (ภาพแรก) กับการแสดงผลที่ระดับความละเอียด HD+ (ภาพที่สอง) พอจะมองเห็นความแตกต่างกันไหมครับ?

นิ้วเปียกก็สแกนได้

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เด็ดดวงและเป็นผลประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานอย่างแท้จริง คือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ คือแตะครั้งเดียวแล้วผ่านเลย ไม่ต้องแตะซ้ำสองให้เสียอารมณ์ และที่สุดยอดยิ่งกว่านั้นคือ แม้นิ้วจะเปียกน้ำก็สแกนเพื่อปลดล็อกเครื่องได้ ในหลายครั้งกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นจะพบปัญหาเมื่อนิ้วเปียก จะไม่สามารถสแกนปลดล็อกเครื่องได้ ทำให้ต้องคีย์รหัสผ่านกันให้วุ่นวายเสียเวลา และแถมหน้าจอสัมผัสของ Honor 10 ยังรับคำสั่งจากการใช้นิ้วเปียกๆ แตะหน้าจอได้เป็นอย่างดีเลย ซึ่งความสามารถพิเศษนี้จะทำให้เราหลงรักมือถือเครื่องนี้ได้ไม่ยากเลย แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่า Honor 10 ไม่กันน้ำนะครับ...

แต่ก็มีเรื่องที่ต้องขอบ่นเล็กๆ คือ ในขั้นตอนการจดจำลายนิ้วมือ เราต้องพลิกตะแคงนิ้วไปมาเพื่อแตะลงบนเซ็นเซอร์หลายรอบ เพื่อให้เครื่องจดจำลายนิ้วมือของเราได้ในทุกส่วนทุกมุม ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เสียเวลาพอควร เพราะอาจแตะนิ้วในองศาที่ไม่ถูกต้องตามที่เครื่องต้องการอ่าน และในบางครั้งที่กำลังวางนิ้วซ้ำๆ อยู่หลายรอบนั้น นิ้วเราก็พลาดไปแตะปุ่มถอยหลังบนหน้าจอ ทำให้หน้าจอย้อนกลับไป ต้องเริ่มการสแกนลายนิ้วมือในทุกตำแหน่งใหม่หมดตั้งแต่ต้น *0*

กล้องหลังคู่ 24+16 ล้านพิกเซลพร้อมระบบ AI

ส่วนของกล้องนูนออกมาจากแผ่นหลังตัวเครื่อง

เรื่องคุณภาพของภาพถ่าย เป็นอะไรที่สมาร์ทโฟนระดับท็อปในยุคนี้เน้นหนักและให้ความสำคัญ Honor 10 มาพร้อมระบบกล้องหลังเลนส์คู่ โดยเซ็นเซอร์ภาพตัวหนึ่งความละเอียด 24 ล้าน และอีกตัวหนึ่งความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่นอกจากจะรองรับการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอแล้ว ก็ยังมีระบบการซูมภาพแบบ Hybrid 2x ที่ให้ผลงานภาพถ่ายที่ดีกว่าการใช้ Digital zoom ของกล้องมือถือทั่วๆ ไป นอกจากจะเหมาะสำหรับการถ่ายถ่ายซูมเจาะวัตถุที่อยู่ในระยะไกลแล้ว ก็ยังเหมาะกับการถ่ายภาพบุคคล หรือถ่ายภาพวัตถุทั่วๆ ไปที่ต้องการตัดความรกของฉากหลังทิ้งไป เพราะการซูม Hybrid 2x จะให้องศาการรับภาพที่แคบกว่านะ (โดยการซูมภาพ 2x นั้นทำได้ทั้งในโหมดการถ่ายแบบ Potrait และ Photo) การหาโฟกัสภาพทำได้รวดเร็วดีทั้งในสภาพแสงปกติและสภาพแสงน้อย และการปรับระดับความสว่างของภาพในขณะที่กำลังถ่าย ทำได้ในสเตปที่ค่อนข้างละเอียด เรียกว่าเป็นกล้องมือถือที่ใช้ถ่ายภาพได้สนุกดี การบันทึกภาพทำได้รวดเร็ว สแนปภาพได้รัวๆ เพื่อนำมาคัดเลือกภาพที่ดีที่สุดในภายหลังได้ง่ายๆ

เปรียบเทียบภาพถ่ายแบบปกติ (ภาพแรก) กับภาพที่ทำการซูม Hybrid 2x (ภาพที่ 2) จะเห็นว่า ภาพที่ถ่ายแบบซูม 2x จะเห็นวัตถุที่ต้องการถ่าย นั้นมีขนาดปรากฏในเฟรมภาพใกล้เคียงกับภาพแรก แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือ ฉากหลังของภาพมีความรกของสิ่งของน้อยกว่า คล้ายกับการถ่ายภาพด้วยเลนส์ซูม ที่เลนส์จะมีองศาการรับภาพที่แคบกว่า ทำให้สามารถตัดความรกของฉากหลังทิ้งไปได้

อีกลูกเล่นสำคัญที่สมาร์ทโฟนระดับเรือธงของในปี 2018 รวมถึง Honor 10 เองด้วยได้ชูเป็นจุดขายคือ การที่กล้องทำงานร่วมกับระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI วิเคราะห์ซีนภาพถ่าย แล้วปรับแต่งภาพถ่ายให้สวยงามโดยอัตโนมัติ โดยที่ระบบ AI สามารถรับรู้และแยกแยะวัตถุต่างๆ ในภาพได้กว่า 500 แบบ 22 ประเภท อย่างรวดเร็ว อาทิ ท้องฟ้า ต้นไม้ คน หรือน้ำตก และยังสามารถระบุตำแหน่งของสิ่งต่างๆ ภายในเฟรมภาพได้ทันที โดยในขณะที่เราเล็งถ่ายพร้อมเปิดระบบ AI บนหน้าจอจะแสดงไอคอนบอกเราได้ทันทีว่าเรากำลังเล็งถ่ายอะไรอยู่ อาทิ ภาพวิว, ภาพวิวกลางคืน, สัตว์เลี้ยง หรืออาหาร เป็นต้น

เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ระหว่างภาพที่เปิด AI (ภาพที่ 1) กับภาพที่ไม่เปิด AI (ภาพที่ 2) ภาพไหนสวยกว่ากัน

เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ระหว่างภาพที่เปิด AI (ภาพที่ 1) กับภาพที่ไม่เปิด AI (ภาพที่ 2) ภาพไหนสวยกว่ากัน

จากการลองใช้งานระบบ AI ของกล้อง Honor 10 ก็ต้องบอกว่าให้ผลลัพธ์ภาพถ่ายที่ดีกว่าการที่ไม่เปิด AI อย่างชัดเจน ได้ภาพถ่ายที่สวยงามดีพอที่จะเอาไปโพสต์ลง Facebook หรือ Instagram ได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาแต่งภาพ การถ่ายภาพวิว สีสันของท้องฟ้าอิ่มเข้มสวยงาม ภาพดูมิติขึ้น ภาพโชว์รายละเอียดในส่วนเงามืดของภาพได้ดีขึ้น ต้องบอกว่าโหมด AI นี่อำนวยความสะดวกให้คนที่ชอบถ่ายภาพโพสต์ลงโซเชียล แต่ดันขี้เกียจแต่งภาพได้เป็นอย่างดีเลย

ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมด Aperture โดยภาพที่ 1 คือภาพต้นฉบับ , ภาพที่ 2 คือปรับไปที่ F16 , ภาพที่ 3 คือปรับไปที่ F4 และภาพที่ 4 คือปรับไปที่ F0.95 ฉากหลังจะละลายสวยงามที่สุด

อีกโหมดการถ่ายภาพที่เจ๋งมากของ Honor 10 คือโหมด Aperture ที่เราสามารถถ่ายภาพ แล้วนำมาปรับระดับความเบลอละลายของฉากหลังให้สวยๆ ได้ตามต้องการเลย ซึ่งเป็นการจำลองการปรับค่าความกว้างของรูรับแสง ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาสวยงามเลยครับ  

วิดีโอสโลโมชั่นสุดเก๋

เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงหลายๆ รุ่น ที่ชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายวิดีโอแบบสโลโมชั่น เจ้า Honor 10 ก็รองรับการถ่ายวิดีโอสโลโมชั่นเช่นเดียวกัน โดยเป็นการถ่ายคลิปที่ความละเอียด 1,920x1,072 จุด อัตราเฟรมเรต 120fps (เฟรมต่อวินาที) ทำให้ได้คลิปวิดีโอที่หน่วงความเร็วลงให้ช้ากว่าปกติถึง 4 เท่า บอกเลยว่าได้คลิปที่เจ๋งมาก (ดูตัวอย่างคลิปวิดีโอสโลโมชั่นได้ในวิดีโอรีวิวนะ)

กล้องหน้าเซลฟี่ 24 ล้านพิกเซล

ตัวอย่างภาพเซลฟี่จากกล้องหน้า โดย 2 ภาพแรกไม่ได้ใส่ฟิลเตอร์ ภาพที่เหลือมีการใส่ฟิลเตอร์แบบต่างๆ

กล้องหน้าของ Honor 10 ก็ต้องบอกว่ามีดีไม่แพ้กล้องหลังเลย ด้วยเซ็นเซอร์ภาพความละเอียดสูง 24 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์การตรวจจับใบหน้า 3 มิติ ตรวจจับจุดสำคัญบนใบหน้ากว่า 100 จุด เพื่อทำการปรับแต่งในทุกรายละเอียดบนใบหน้าให้ได้ภาพเซลฟี่ที่ออกมาสวยงามดูดี ปรับแต่งแววตาให้สดใสเป็นประกาย และสามารถใส่ฟิลเตอร์ปรับโทนสีภาพถ่ายเซลฟี่ให้สวยได้แบบเรียลไทม์กันเลยนะ ลองดูตัวอย่างภาพถ่ายของน้องๆ พริตตี้ได้ว่าสวยงามขนาดไหน

ประสิทธิภาพเยี่ยมเล่นเกมส์ลื่น

แม้จะเป็นสมาร์ทโฟนในระดับราคาหมื่นต้นๆ แต่ประสิทธิภาพความแรงของเจ้า Honor 10 นั้นต้องบอกว่าคุ้มค่าคุ้มราคา และไม่อาจดูถูกได้จริงๆ เลือกใช้ชิปประมวลผลตัวแรงอย่าง Kirin 970 หน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB หน่วยความจำภายใน 128GB (ไม่รองรับการขยายเพิ่มด้วยการ์ด microSD) ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลติดนิ้วดีมากๆ การสลับไปมาระหว่างแอปฯ ต่างๆ ทำได้รวดเร็วทันใจ

เครื่องที่เราได้รับมาทดสอบรัน Android 8.1.0 ที่ถูกครอบทับด้วยูสเซอร์อินเทอร์เฟส EMUI 8.1 จุดที่ของยูเซอร์อินเทอร์เฟสนี้คือ จะมีการแจ้งเตือน Notification ของแอปฯ โซเชียลหรือแอปฯ แชทต่างๆ ผ่านการแสดงจุดเล็กๆ บนไอคอนของแอปฯ ตามภาพทางด้านบน ถึงแม้จะไม่มีการแสดงตัวเลขของจำนวน Notification ของแต่ละแอปฯ เหมือนอย่างที่ Launcher บางตัวสามารถทำได้ แต่การแจ้งเตือนในรูปแบบนี้ก็ต้องบอกว่ามีประโยชน์มากๆ เลย

เรามาวัดคะแนนประสิทธิภาพด้วยแอป AnTuTu Benchmark v7.0.9 ผลปรากฏว่า Honor 10 ทำคะแนนไปได้ 202,319 คะแนน ซึ่งก็สมศักดิ์ศรีความเป็นสมาร์ทโฟนระดับท็อป โดยแอปฯ มีการเคลมว่า Honor 10 ทำคะแนนชนะสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ กว่า 90% ที่ผ่านการทดสอบด้วยแอปนี้ และเมื่อเข้าไปดูในชาร์ตจัดอันดับ Top 50 สมาร์ทโฟนสเปคแรงในฐานข้อมูลของ  AnTuTu Benchmark (ภาพขวา) ผลปรากฏว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ทำคะแนนได้เป็นอันดับที่ 28 ก็พอจะบอกได้ว่าความแรงเกินราคาค่าตัว

สมาร์ทโฟนในไซส์ขนาดหน้าจอน่ารักๆ อย่าง Honor 10 อาจไม่เหมาะกับเกมเมอร์สายจริงจัง แต่ถ้าใครอยากเล่นเกมส์แล้วหล่ะก็ สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ประสิทธิภาพแรงพอ และไม่ทำให้เกมเมอร์ต้องผิดหวังอย่างแน่นอน เราลองจัดไปทั้งเกมส์เบาๆ อย่าง Blossom Blast Saga, Shooty Skies และเกมส์หนักๆ กราฟิก 3D สวยๆ อย่าง Asphalt 9: Legends, Lineage2 Revolution และ PUBG ทุกเกมส์สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลน่าพอใจ โดยที่ไม่ต้องลดขนาดความละเอียดการแสดงผลของหน้าจอเลย ใครอยากรู้ว่าลื่นไหลจริงหรือเปล่า ติดตามชมได้ในคลิปวิดีโอรีวิวเลย

บทสรุป Honor 10

ถ้ามีเงินอยู่ประมาณหมื่นต้นๆ แล้วอยากได้สมาร์ทโฟนดีๆ สักเครื่องมาใช้งาน อย่ามองข้าม Honor 10 โดยเด็ดขาด มันคือสมาร์ทโฟนระดับท็อปที่เรือนร่างสวยงาม และมีดีเกินราคาค่าตัว