หมวดหมู่ : รีวิว > รีวิวมือถือ

พรีวิว HUAWEI MediaPad M5 / M5 Pro แท็บเล็ตสเปคแรง หน้าจอ 2K รองรับปากกา ในราคาที่จับต้องได้

เมื่อ : 20 สิงหาคม 2561

| ผู้เข้าชม : 8,821

เขียนโดย : สมาชิก : Member

Korn-Kung

A- A+

แชร์หน้าเว็บนี้ :

หลังจากที่ทีมงานไทยแวร์ ได้เข้าร่วม งานเปิดตัว 2 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ Huawei MediaPad M5 / M5 Pro ไปเมื่อวาน ก็รู้สึกว่าเจ้าสองรุ่นนี้น่าสนใจมาก เลยเก็บข้อมูลตัวเครื่องมาฝากเพื่อนๆ เป็นบทความพรีวิวชิ้นนี้ ถ้าพร้อมแล้วไปรับชมได้เลยครับ

คลิปพรีวิว Huawei MediaPad M5 / M5 Pro

เปรียบเทียบ ราคาและสเปค MediaPad M5 / M5 Pro

สเปค / รุ่น	MediaPad M5	MediaPad M5 Pro
หน้าจอ	8.4 นิ้ว, IPS, 2K	10.8 นิ้ว, IPS, 2K
OS	Android 8.0 + EMUI 8.0	Android 8.0 + EMUI 8.0
CPU	Kirin 960	Kirin 960
RAM	4 GB	4 GB
ความจุ	32 GB	64 GB
กล้องหน้า	8 MP	8 MP
กล้องหลัง	13 MP	13 MP
แบตเตอรี่	5100 mAh (Quick Charge)	7500 mAh (Quick Charge)
ลำโพง	2 (Dual) ปรับแต่งโดย Harman/Kardon	4 (Quad) ปรับแต่งโดย Harman/Kardon
เชื่อมต่อ	Cellular / WiFi	Cellular / WiFi
พอร์ต	USB Type-C	USB Type-C
ปากกา M-Pen	-	รองรับ
คีย์บอร์ดเคส	-	รองรับ
ราคา	13,900	18,900

พรีวิว MediaPad M5

หลังจากที่เห็นสเปค และราคาตัวเครื่องไปแล้ว เราจะมาดูว่าเจ้า MediaPad M5 มีดีไซน์เป็นยังไงบ้าง เริ่มกันที่รอบๆ ตัวเครื่องก่อนเลย

MediaPad M5 มาพร้อมกับหน้าจอ IPS ความละเอียด 2K ขนาด 8.4 นิ้ว สัดส่วน 16:10 (แนวตั้ง) ใช้งานมือเดียวค่อนข้างสะดวก

ด้านซ้ายบนของจอ มีโลโก้ Huawei และกล้องหน้าอยู่ตรงกลาง

ด้านล่างของจอ มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ตัวเครื่องด้านบนและล่างเป็นช่องลำโพง มีพอร์ตสายชาร์จ USB Type-C แต่ไม่มีช่องเสียบสายหูฟัง 3.5 มม.

ด้านหลังตัวเครื่องเป็นสีเงิน (Space Grey) วัสดุทำจากโลหะ (อลูมิเนียม)

ขนาดตัวเครื่องบาง น้ำหนักเบา

โดยรวมแล้ว ดีไซน์ของเจ้า MediaPad M5 ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ขนาดหน้าจอ 8.4 นิ้ว ที่เป็นแบบ 16:10 (แนวตั้ง) ตัวเครื่องบาง น้ำหนักก็เบา เวลาถือใช้งานน่าจะสะดวกคล่องตัว ลำโพงก็อยู่ในตำแหน่งบนและล่าง ทำให้เสียงแยกซ้ายและขวา (ใช้งานแนวนอน) แต่ก็มีจุดสังเกตอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ทำให้การชาร์จไปฟังเพลงไป ต้องใช้สายแยกอีกที

พรีวิว MediaPad M5 Pro

สำหรับดีไซน์ของ MediaPad M5 Pro ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในแนวนอน (เรียกว่าโหมด Desktop) มากกว่าแนวตั้ง (โหมด Tablet) ดังนั้น ปุ่มกด กล้องหน้า และช่องเสียบสายชาร์จ อยู่ในตำแหน่งที่แปลกตาไป

กล้องหน้าอยู่ทางด้านบน (แนวนอน) ของหน้าจอ ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ทางด้านข้างขวา

ด้านหลังเป็นสีเงิน (Space Grey) วัสดุทำจากโลหะ (อลูมิเนียม) มีช่องลำโพงอยู่ทางด้านบนและด้านล่าง ประกอบด้วยลำโพง 4 ตัว (Quad) ด้านบนสอง และด้านล่างสอง

กล้องหลังอยู่ทางด้านขวาบน (แนวนอน)

ปุ่มเปิด-ปิด, เพิ่มเสียง-ลดเสียง และพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C อยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง เวลาใช้งานแนวนอน จะไม่ติด Keyboard Case Cover

ขนาดความบางของตัวเครื่องก็อยู่ในระดับกำลังดี ไม่หนาจนเทอะทะ

MediaPad M5 Pro พิเศษกว่ารุ่นธรรมดาตรงที่ รองรับการใช้งาน Keyboard Case Cover (ซื้อแยกต่างหาก) เวลาใส่แล้วดูหล่อเหล่าเอาการ

ตัว Keyboard Case Cover สามารถพับเก็บได้ และมีช่องเสียบปากกาอีกด้วย

หากว่าต้องการความคล่องตัว ก็สามารถแยก Keyboard Case Cover ออกจากตัวเครื่อง เพื่อใช้งานในโหมด Tablet ได้

สไลด์รูปภาพ

HUAWEI MediaPad M5 / M5 Pro แท็บเล็ตสเปคแรง หน้าจอ 2K รองรับปากกา ในราคาที่จับต้องได้

จุดเด่นของเจ้า MediaPad M5 Pro คือรองรับการวาดเขียน ด้วยปากกาสไตลัส Huawei M-Pen (แถมมากับตัวเครื่อง) ช่วยให้เราจดโน้ต หรือวาดรูปได้ลื่นไหลมากขึ้น

ตัวปากกา M-Pen ขนาดกระชับมือ หัวปากการองรับแรงกดได้ถึง 4096 ระดับ ช่วยให้ลงน้ำหนัก หนัก-เบาได้เหมือนกับการใช้งานปากกา / ดินสอ / พู่กัน จริงๆ

โดยรวมแล้ว MediaPad M5 Pro มีดีไซน์ตัวเครื่องที่ต่างจากรุ่น MediaPad M5 8.4 นิ้ว อยู่ตรงที่ หน้าจอใหญ่กว่า, ลำโพงเยอะกว่า, ตำแหน่งพอร์ตเชื่อมต่อ และปุ่มกดต่างๆ อยู่ด้านข้าง ส่วนกล้องหน้าและกล้องหลังก็ถูกย้ายไปยังจุดที่เหมาะสำหรับการใช้งานในแนวนอน และรองรับปากกา M-Pen และใช้งานร่วมกับ Keyboard Case Cover (ซื้อแยก) ช่วยให้การวาด และพิมพ์งานได้สะดวก

สรุป MediaPad M5 / M5 Pro

Huawei MediaPad M5 (8.4 นิ้ว) ราคา 13,900 บาท
Huawei MediaPad M5 Pro (10.8 นิ้ว) ราคา 18,900 บาท

สำหรับราคาค่าตัวของทั้งสองรุ่นห่างกันอยู่ 5,000 บาท โดยรุ่นที่แพงกว่า (M5 Pro) จะได้เครื่องพร้อมปากกา M-Pen เลย ส่วนคีย์บอร์ดต้องซื้อแยก ส่วนสเปคจะดีกว่าในบางส่วน เช่น หน้าจอใหญ่กว่า ความจุเยอะกว่า แบตเตอรี่อึดกว่า ลำโพงมากกว่า ที่สำคัญรองรับปากกา M-Pen และ Keyboard Case Cover อีกด้วย ช่วยให้เราใช้งานได้ยืดหยุ่นมากขึ้น อย่างไรก็ดีรุ่นไหนเหมาะกับใคร คงต้องดูที่รูปแบบการใช้งานนะครับ