จุดที่เราชอบ Akuvox E10R
Akuvox C313
| จุดที่เราไม่ชอบ Akuvox E10R
|
อินเตอร์คอม (ชื่อเต็ม คือ Intercommunication) เป็นอุปกรณ์ติดต่อสื่อสารที่นิยมใช้ภายในอาคาร ใครที่ไม่รู้จักให้ลองนึกถึงเวลาไปตามตึกต่างๆ แล้วที่กริ่งหน้าประตู มีปุ่มให้กดเพื่อสนทนากับคนที่อยู่ภายในห้องได้ นั่นแหละครับที่เรียกว่าอินเตอร์คอม
เกร็ดน่าสนใจเกี่ยวกับระบบอินเตอร์คอม
อินเตอร์คอมเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาก่อนที่โลกนี้จะมีโทรศัพท์เสียอีก
ในปี ค.ศ. 1880 ได้มีสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า Speaking Tubes มันนิยมใช้กันภายในอาคาร สามารถใช้สนทนาระยะไกลได้ถึงหลายร้อยฟุต
ต่อมาในปี ค.ศ. 1890 เริ่มมีการนำ "โทรศัพท์" มาใช้ในระบบอินเตอร์คอม ซึ่งหน้าตาของอินเตอร์คอมในยุคนั้นจะมีอยู่ 2 แบบ คือ เหมือนในโทรศัพท์ หรือไม่ก็ลำโพงตั้งโต๊ะ
ในปี ค.ศ. 1950 อินเตอร์คอมมีบทบาทใหม่ คือ มันถูกใช้ร่วมกับกริ่งประตู พอมีคนมากดกริ่ง คนในตึกสามารถสนทนาเพื่อยืนยันตัวตนก่อนได้ หากอนุญาตให้เข้าก็สามารถกดปุ่มเพื่อปลดล็อกประตูได้ (ประตูล็อกไฟฟ้าก็พัฒนาขึ้นในปีนี้เช่นกัน)
ทุกวันนี้ระบบอินเตอร์คอมก็ยังมีการพัฒนาอยู่นะครับยังไม่ได้หยุดลง อินเตอร์คอมในสมัยนี้นอกจากสื่อสารด้วยเสียงแล้ว มันยังมีกล้องจับภาพ, มีระบบวิเคราะห์ใบหน้า, เชื่อมต่อกับคลาวด์ได้ ฯลฯ แน่นอนว่าราคาของอินเตอร์คอมที่มีเทคโนโลยีทันสมัยเหล่านี้ก็ไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่ แต่วันนี้เรามีแบรนด์นึงมาแนะนำ ที่ทำราคามาได้ค่อนข้างน่าสนใจเลยล่ะ นั่นก็คือแบรนด์ Akuvox
Akuvox เป็นบริษัทในเครือของ Star-net Group ที่เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการเทคโนโลยีด้าน IP communications, Intercom, Security, Artificial Intelligence และ Cloud มาอย่างยาวนานและมีชื่อเสียงในระดับโลก
สินค้าที่เราจะมารีวิวในครั้งนี้จะประกอบไปด้วย Akuvox E10R ตัวอินเตอร์พร้อมพร้อมกล้องสำหรับใช้งานที่หน้าประตู และ Akuvox C313 ตัวมอนิเตอร์ภายในสำหรับใช้ควบคุมการระบบอินเตอร์คอม ซึ่งอุปกรณ์ทั้งคู่สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ หากใครมีตัวระบบควบคุมอยู่แล้วจะซื้อแค่ Akuvox E10R ไปใช้งานอย่างเดียวก็ได้ หรือยังไม่มีแต่อยากได้ตัวมอนิเตอร์สำหรับใช้ในระบบเดิมที่มีอยู่ก็ซื้อไปแค่ Akuvox C313 พอ แต่ถ้ายังไม่มีอะไรเลย แนะนำให้ซื้อไปใช้งานเป็นคู่เลยครับ อิอิ
ซ้าย Akuvox E10R ขวา Akuvox C313
ตัว Akuvox E10 เป็นอุปกรณ์ประเภท SIP Video Doorphone (ภาษาไทยนี่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันเรียกว่าอะไร เอาเป็นว่ามันคือโทรศัพท์ติดประตูที่มีกล้อง ใช้โทรผ่าน IP Address ได้ละกัน) ที่ทำงานบนพื้นฐานของโปรโตคอล SIP (SIP: Session Initial Protocol) รองรับการส่งข้อมูลทั้งเสียง และภาพ สามารถเชื่อมต่อเข้ากับตัวควบคุมภายในอย่าง Akuvox C313 เพื่อดูว่าใครที่เป็นคนมาติดต่อกับเรา รวมถึงสั่งปลดล็อกประตูได้ด้วย
ตัว Akuvox E10 นั้นเหมาะสำหรับใช้งานในออฟฟิศ, ประตูบ้าน, ประตูโรงรถ, ประตูเข้าตึก ฯลฯ หรือพูดง่ายๆ ทางเข้าไหนต้องการระบบรักษาความปลอดภัยก็ใช้เจ้านี่ช่วยได้หมด
ตัวเครื่อง Akuvox E10R มีขนาดเล็กใช้พื้นที่ในการติดตั้งไม่มาก ตัวเครื่องทำจากพลาสติก ABS อย่างดี มีการเคลือบผิวให้คล้ายโลหะ ดีไซน์สวยงามทีเดียว เอาว่าติดหน้าประตูก็ดูดี ไม่ต้องกลัวว่าจะดูก๊องแก๊งเสียภาพลักษณ์ของบริษัท
ปุ่มกดเพื่อสนทนาแน่นมาก ต้องออกแรงกดในระดับหนึ่ง ดูทนทาน แข็งแรง แลกมากับการเมื่อยนิ้วนิดหน่อย เหนือปุ่มมีรูไมค์ ส่วนด้านข้างเป็นลำโพงขนาด 2W ให้เสียงชัดเจนดี
รอบตัวกล้องมีหลอดไฟ LED 6 ดวงช่วยให้แสงสว่าง เวลาที่มีคนมาติดต่อยามค่ำคืน เพื่อให้ภาพมีความชัดเจน
ไฟจะทำงานอัตโนมัติ สว่างสุดๆ ที่ตัวปุ่มจะมีไฟสีฟ้าด้วย ช่วยให้ใช้งานในที่แสงน้อยได้โดยไม่มีปัญหา
คุณภาพของกล้องขณะใช้งานในที่มืดสว่างทีเดียวครับ แต่ว่าสีอาจจะไม่สดใสสักเท่าไหร่ เพราะโดนแสงไฟย้อม
ด้านหลังจะมีพอร์ตเชื่อมต่ออยู่ 2 ช่อง คือ ช่อง Ethernet(POE) และช่อง +12V/GND, RelayA/B (NO/NC)
C313 เป็นจอมอนิเตอร์สำหรับใช้ภายในอาคาร สามารถทำงานร่วมกับ Akuvox E10R ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่มองข้อมูลต่างๆ ได้ง่าย ควบคุมการทำงานผ่านจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ตัวมันเองสามารถเชื่อมต่อกับสวิตช์ประตู และรับสัญญาณวิดีโอที่สตรีมมาจากตัว Doorphone หรือคอมพิวเตอร์ได้ด้วย ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Linux ที่ทำงานได้รวดเร็วมาก เมนูต่างๆ แตะปุ้บ ไปปั้บ ไม่มีอาการหน่วงให้หงุดหงิด
Akuvox C313 มาในดีไซน์แบบเรียบๆ ไม่หวือหวา ไม่มีแม้แต่ยี่ห้อใดๆ บนตัวเครื่อง ส่วนตัวผมชอบนะการที่ไม่มีชื่อแบรนด์บนตัวสินค้า เพราะมันทำให้ไม่ต้องกังวลว่าคนที่มาติดต่อที่บริษัทจะมาเห็นแล้วรู้สึกว่า เอ๊ะ นี่่มันสินค้าของบริษัทคู่แข่งฉันนี่อะไรทำนองนี้
การสั่งงานทั้งหมดทำผ่านหน้าจอสัมผัส บนเครื่องไม่มีปุ่มอะไรให้กดทั้งสิ้น ซ่อนตำแหน่งไมค์ และลำโพงได้ดี หาที่วางได้เนียนมาก โดยไมค์จะเป็นรูเล็กๆ อยู่ใต้จอฝั่งซ้าย ส่วนลำโพงอยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
ด้านหลังจะเห็นช่องแลนอยู่ 2 ช่อง โดยจะมีช่องหนึ่งรองรับ POE (Power Over eEthernet) ด้วย ทำให้ไม่ต้องเดินสายไฟใหม่ให้ยุ่งยาก
User Interface เรียบง่าย และมีขนาดใหญ่ จะวัยรุ่นใช้ หรือคนสายตาไม่ค่อยดี ก็สามารถมองเห็น และใช้งานได้โดยสะดวก ตัวเมนูมีการแบ่งหมวดหมู่อย่างชัดเจน จะกดเปิดประตู, โทรออก, จะมอนิเตอร์ หรือจะส่งข้อความก็ทำได้อย่างง่ายดาย
สามารถกดเรียกดูกล้องจากอินเตอร์คอมในระบบได้ตลอดเวลา และสามารถกดบันทึกภาพเอาไว้ได้ด้วย
หากในบริษัทมีระบบ SIP Phone อยู่แล้วก็สามารถนำ Akuvox C313 และ Akuvox E10R เข้าไปพ่วงต่อได้ทันที และตั้งค่านิดหน่อย ซึ่งสามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านเว็บเบราว์เซอร์ เหมือนกับการเข้าไปตั้งค่าเราเตอร์นั่นแหละครับ
ด้านล่างนี้จะเป็นหน้าจัดการของ Akuvox E10R
เมนูออกแบบมาเข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องเก่ง Network ก็เข้าใจวิธีการตั้งค่าได้ไม่ยาก ซึ่งตรงจุดนี้เราขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดลึกนะครับ
มาดูต่อกันที่หน้าจัดการของ Akuvox C313 กันบ้าง ซึ่งก็จะคล้ายกับของ E10R แต่ว่าเมนูที่มีให้จัดการก็จะแตกต่างกันเล็กน้อย เนื่องจากหน้าที่ของ C313 จะแตกต่างจาก E10R ทำให้การตั้งค่าจะมีตัวเลือกที่แตกต่างกัน
เมนู Intercom หายไป มี PhoneBook เพิ่มเข้ามาแทน เราสามารถเพิ่มเบอร์ IP Phone เข้ามาในระบบได้อย่างง่ายดาย
จากการทดลองใช้ และตั้งค่าระบบของ Akuvox ทั้งตัว E10R และ C313 เราไม่พบปัญหาใดๆ ในการใช้นะครับ สามารถนำไปแทนที่ตัว SIP Phone เดิมที่มีอยู่ได้เลย แต่ในส่วนของ E10R อาจจะต้องเดินสายไฟกันใหม่สักเล็กน้อย หากตัวอินเตอร์คอมเดิมของเราไม่รองรับ POE
บริษัทไหนที่กำลังสนใจจะเปลี่ยนอินเตอร์คอมใหม่อยู่ Akuvox ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว หรือใครอยากเอาไปเปลี่ยนใช้กับประตูบ้าน หรือประตูคอนโดเพื่อเสริมความปลอดภัยก็ไม่ผิดอะไร ขอแค่บ้านมีวง LAN อยู่ ก็สามารถใช้งานได้เลย
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |