หากพูดถึงแบตเตอรี่สำรองแบบพกพา หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงพาวเวอร์แบงค์ (Powerbank) ที่เราพกติดตัวใส่กระเป๋า เอาไว้ชาร์จโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ขนาดเล็กกันใช่ไหมล่ะครับ ? แต่ในวันนี้สิ่งที่เราจะมารีวิวไม่ใช่แบตสำรองธรรมดา แต่มันคือ แบตสำรองขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า พาวเวอร์สเตชัน (Power Station)
อย่าง Ecoflow Delta 2 ตัวนี้ นอกจากจะชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์แกดเจ็ต (Gadget) ทั่วไปได้แล้ว มันยังสามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อีกด้วย ! ตั้งแต่พัดลม, ไดรเป่าผม, เตาไฟฟ้า, หรือ แม้กระทั่ง เตาไมโครเวฟ ก็ยังจ่ายได้สบาย ๆ เลย แถมยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานไฟฟ้าในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ถ้าคุณอยากรู้ว่า Ecoflow Delta 2 มีคุณสมบัติอะไรบ้าง ฟีเจอร์ที่มีจะใช้งานได้ดีแค่ไหน การใช้งานจะเป็นอย่างไร ? ไปทำความรู้จักและดูไปพร้อม ๆ กันครับ
Ecoflow Delta 2 เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ถูกอัปเกรดประสิทธิภาพจาก Delta รุ่นเดิม โดยดีไซน์ภายนอกอาจจะดูไม่ต่างจากเดิม ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลง มาพร้อมกับความจุขนาด 1024Wh สามารถจ่ายไฟได้ 1800W แบบสบาย ๆ ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปภายในบ้านได้เกือบ 90% สามารถเปิดโหมด X-Boost เพื่อเพิ่มกำลังไฟได้สูงถึง 2400W ทำให้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้มากขึ้นกว่าเดิม
จุดที่สังเกตได้ชัดคือ ปุ่มสำหรับ เปิด-ปิด เครื่อง หลัก เปลี่ยนเป็นสีทอง มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ส่วนแบตเตอรี่ภายในจากเดิมใช้แบตรูปแบบ NCM (Nickel Manganese Cobalt) เปลี่ยนมาเป็น LiFePO4 (Lithium Iron Phosphate) เป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่ใช้ในแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในหลาย ๆ รุ่น
หากเทียบกับสเปครุ่นก่อน จะเห็นว่าแบตเตอรี่จะมีความจุลดจากเดิมเพียงเล็กน้อย จาก 1260Wh เหลือ 1024Wh แต่ประสิทธิภาพที่ได้มาจากแบตเตอรี่ประเภทนี้ก็คือ มันสามารถชาร์จไฟได้เร็วขึ้น ชาร์จไฟ 0-80% ได้ภายใน 50 นาที และมีอายุการรอบชาร์จ (Cycle Life) ที่ยาวนานกว่าเดิมจากเดิมชาร์จได้ 800 ครั้ง กลายเป็น 3,000 ครั้ง มากกว่าเดิม 3 เท่า คือถ้าใช้งานเฉลี่ยวันละครั้งสามารถใช้งานได้ถึง 10 ปี โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่
ส่วนเรื่องน้ำหนัก รุ่นก่อนหน้าหนัก 14 กิโลกรัม ส่วนตัวนี้ก็เบาขึ้นมาหน่อยเหลือน้ำหนักอยู่ที่ 12 กิโลกรัมครับ มีด้ามจับสองด้านที่จับถนัดมือ ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายไปยังที่ต่าง ๆ
เรื่องการใช้งาน แบตเตอรี่สำรองพกพา Ecoflow Delta 2 ตัวนี้ ถือว่าใช้งานง่ายมาก ๆ โดยเริ่มจากกดที่ปุ่มสีทองค้างไว้ 3 วิ ตัวเครื่องจะทำการเปิดระบบไฟ จากนั้นก็เปิดสวิตช์รอง เช่นด้านหน้าจะมีสวิตช์ USB ON/OFF ให้กด 1 ที จะขึ้นไฟดังรูป เพียงเท่านี้ก็เสียบชาร์จอุปกรณ์ได้แล้วครับ
อย่างการชาร์จโทรศัพท์มือถือ เสียบชาร์จได้ตามปกติ อย่างมือถือที่มีแบตความจุ 3,000 mAh สามารถชาร์จด้วย Delta 2 มากกว่า 70-80 ครั้งเลยทีเดียว หากพกไปใช้งานนอกสถานที่ก็สามารถชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ ได้สบาย ๆ ครับ
ทางทีมงานได้ทดลองชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB และ USB-C ด้านหน้าพร้อมกัน ได้แก่ สมาร์ทโฟน 2 เครื่อง, ไฟ LED, โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง (Gaming Notebook) และ ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk) ไร้สายแบบพกพา ตัวเครื่องก็สามารถจ่ายไฟพร้อมกันได้ โน้ตบุ๊คก็ชาร์จไฟผ่านระบบ PD (Power Delivery) จ่ายไฟได้อย่างไม่มีปัญหา
โดยหน้าจอของ Delta 2 จะแสดงสถานะไฟคงเหลือ อัตราการกินไฟทั้งหมดเฉลี่ยอยู่ที่ 100-120W พร้อมนับถอยหลังว่าสามารถใช้ติดต่อกันได้อีกราว ๆ 8 ชั่วโมง ถ้าชาร์จไป ใช้งานไปด้วย ได้ราว ๆ ครึ่งวันครับ
มาดูปลั๊กไฟด้านหลังกัน Delta 2 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยตอนนี้จะเป็นโมเดลที่ใช้ปลั๊กไฟแบบ EU นะครับ ซึ่งก็ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย เสียบปลั๊กได้แน่นไม่มีหลุดแน่นอน แต่ถ้าใครที่อยากใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบอื่น ๆ ก็มีหัวแปลง Adapter แถมมาให้ เสียบใช้งานปลั๊กหัวแบน และ หัวกลม ได้ตามที่เห็นในรูปเลย
ทางทีมงานเราก็ได้ทดลองนำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟหนัก ตั้งแต่ 600W - 2400W มาลองใช้ดู ก็พบว่าใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาครับ เสียบปลั๊ก เปิดสวิตช์ด้านหลัง เปิดใช้งานได้ตามปกติ เหมือนเสียบใช้ไฟบ้าน
หลังจากใช้งานเสร็จ ก็สามารถชาร์จไฟด้วยระบบไฟบ้าน AC ได้เลย เสียบปลั๊กไฟที่แถมมาที่ด้านหลังเครื่อง จากนั้นเสียบเข้ากับปลั๊กไฟบ้าน ตัวเครื่องจะชาร์จไฟด้วยความเร็วสูงที่ 1200W ทันที ด้วยระบบ X-Stream ทำให้ตัวเครื่องชาร์จไฟจาก 0-80% ได้ภายใน 50 นาที และชาร์จเต็ม 100% ได้ภายใน 1 ชั่วโมง 20 นาที เท่านั้น คือ ชาร์จไวจริงตามที่สเปกบอกเลย ชาร์จไว เอาไปใช้งานต่อได้สบาย ๆ
นอกจากนี้ยังรองรับการปรับอัตราการชาร์จไฟได้ที่ตัวแอปพลิเคชัน (Application) ด้วย ปรับได้ตั้งแต่ 200-1200W ช่วยลดเสียงรบกวนของพัดลมระบายความร้อนภายใน และช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้นานกว่าเดิมตามที่เราต้องการได้
สำหรับคนที่ใช้งานอยู่บ้าน อย่าง Home Office ถ้าเจอปัญหาไฟแถวบ้านดับบ่อย เจ้าตัวนี้ก็มีระบบ EPS (Emergency Power System) ที่ทำงานเป็นระบบไฟสำรองฉุกเฉิน คล้ายกับ UPS (Uninterruptible Power Supply) ได้ด้วย เพียงแค่เสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ากับตัวแบตเตอรี่ และ เสียบสายชาร์จ AC (Alternating current) เข้ากับไฟบ้าน ตัวเครื่องจะทำงานจ่ายไฟให้อัตโนมัติ
หากเกิดเหตุไฟดับ ระบบจะทำการสลับจากไฟบ้านไปใช้งานไฟบนแบตเตอรี่ภายใน 30ms (milliseconds) จากที่เราทดสอบดูลองตัดไฟบ้าน เครื่อง iMac 27 นิ้ว และ โคมไฟในบ้าน ก็สลับมาใช้งานไฟจากแบตเตอรี่ต่อเนื่องได้อย่างไม่มีปัญหาครับ ใช้งานต่อได้ไม่มีสะดุดเลย แต่สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภทอาจจะไม่สามารถใช้งานระบบ EPS ได้นะครับ เพราะไม่ใช่ระบบจ่ายไฟแบบ 0ms เหมือน UPS
อีกเรื่อง สำหรับคนที่กังวลว่าใช้ไปนาน ๆ จะมีปัญหาไหม ? Delta 2 ตัวนี้ มีระบบความปลอดภัย BMS (Battery Management Systems) มันคือระบบช่วยวิเคราะห์จัดการแรงดันไฟฟ้า, กระแสไฟ และ อุณหภูมิ แบบเรียลไทม์ หากเกิดกระแสไฟ หรือ ความร้อนเกินที่กำหนด มันก็จะตัดการทำงานของระบบทันที ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาไฟลัดวงจรหากใช้งานไปนาน ๆ ก็ทำให้อุ่นใจได้
Ecoflow Delta 2 พิเศษกว่าเพาวเวอร์สเตชันเจ้าอื่น ๆ ตรงนี้มีแอปพลิเคชันมาให้ด้วย ใช้เช็คสถานะ ควบคุมสั่งการระบบต่าง ๆ จากระยะไกลได้ เชื่อมต่อผ่าน Bluetooh / Wi-Fi ได้สะดวก สั่งเปิด-ปิดระบบไฟของเครื่องจากในแอปได้ และสามารถตั้งค่าอื่น ๆ อย่างระบบการจ่ายไฟ, โหมด X-Boost, ระบบการชาร์จไฟ, อัปเดตเฟิร์มแวร์ และอื่น ๆ ภายในแอปได้ นอกจากนี้ยังสามารถแชร์ให้เพื่อนใช้งานสั่งการแบตของเราผ่านการแชร์ทางอีเมล ได้อีกด้วย
จากที่ได้ลองใช้ Ecoflow Delta 2 ก็ถือว่าสะดวกมาก ๆ ใช้ง่ายเหมือนไฟบ้าน แค่เปิดสวิตช์ เสียบสาย ก็ใช้ไฟได้เลยทันที ระบบจ่ายไฟก็แรงใช้ไฟ 1800W - 2400W ได้ เสียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เยอะ ชาร์จไฟเก็บก็เร็ว แถมมีหน้าจอแสดงผลคอยบอกสถานะไฟ Output / Input และระยะเวลาที่เหลืออีกด้วย เช็คสถานะผ่านแอปพลิเคชันจากระยะไกลก็ได้
เพิ่มความสะดวกในหลายด้าน จะพกพาไปใช้งานระหว่างตั้งแคมป์ออกทริปไกล ๆ ในสถานที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ก็ดี เก็บไว้ใช้ที่บ้านในยามฉุกเฉิน เวลาที่ไฟฟ้าดับก็ได้ เอาไปใช้ระหว่างเดินทางไกลก็สะดวก สำหรับยุคที่ชีวิตเราต้องการไฟฟ้า ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าการมีแบตสำรองที่เก็บไฟฟ้าไว้ใช้งานได้แบบนี้แล้วล่ะครับ
|
It was just an ordinary day. |