รีวิว 70mai Dash Cam Omni กล้องติดรถยนต์ 4G มุมมองพาโนรามา 360 องศา รุ่นแรกในอุตสาหกรรม

70mai Dash Cam Omni กล้องติดรถยนต์ 4G
มุมมองพาโนรามา 360 องศา รุ่นแรกในอุตสาหกรรม

70mai เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่อง กล้องติดรถยนต์ (Dash Cam หรือ Car Camcoder) ได้เปิดตัวกล้องติดรถยนต์มุมมองพาโนรามา 360 องศารุ่นแรกในอุตสาหกรรม 70mai Dash Cam Omni ซึ่งกล้องตัวนี้สามารถหมุนเลนส์ไปรอบตัวได้ ทำให้กล้องติดรถยนต์มีมุมมองที่กว้างขึ้น เก็บภาพจากด้านข้างรถได้ และสามารถถ่ายย้อนกลับมาถึงในตัวรถได้เลยทีเดียว

นอกจากมุมมองพาโนรามา 360 องศาแล้ว กล้องตัวนี้ยังรองรับสัญญาณ 4G ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและแจ้งเตือนความปลอดภัยระยะไกลได้ เมื่อตรวจจับได้ถึงความเคลื่อนไหว และการสั่นสะเทือนเกิดขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายในหลาย ๆ แง่มุมเข้ามาอีก รวมทั้งยังรองรับการสั่งการด้วยเสียงด้วย ส่วนฟังก์ชันอื่น ๆ ที่กล้องติดรถยนต์ควรจะมี ก็มาให้อย่างครบครัน

โดยกล้องตัวนี้เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ระดมทุนบนเว็บไซต์ Kickstarter เมื่อเดือนตุลาคมปี พ.ศ. 2565 (ค.ศ. 2022) และใช้เวลาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง ในการมีผู้สนับสนุนถึงเป้าที่วางไว้ที่ 100,000 เหรียญสหรัฐฯ มาถึงตอนนี้เราเขียนรีวิว ยอดการระดุมทุนก็ไปเกือบ ๆ 600,000 เหรียญสหรัฐฯ เข้าไปแล้ว ถือว่ามีผู้สนใจกล้องตัวนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ kickstarter.com

คลิปวิดีโอรีวิว กล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni

คุณสมบัติ และสเปกของ กล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni

คุณสมบัติที่น่าสนใจของกล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni

• กล้องมุมมองพาโนรามา 360 องศา
• รองรับสัญญาณ 4G เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและแจ้งเตือนความปลอดภัยระยะไกลได้
• ผู้ช่วยอัจฉริยะ MaiX รองรับคำสั่งเสียง
• มี GPS ระบุพิกัดรถยนต์ได้
• โหมดจอดรถสามารถอัดวิดีโอแบบ Time-lapse ได้
• มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS)

สเปกของกล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni

• ชื่อโมเดล : X200
• ความละเอียดสูงสุด : 1920 x 1080 พิกเซล (Pixels)
• เลนส์ : FOV 140º / F1.5
• ความจุแบตเตอรี่ : 300 มิลลิแอมป์ (mAh)
• ค่า Input : 5V 2A
• แหล่งจากไฟ : ช่องจุดบุหรี่
• แบตเตอรี่ : ลิเธียมโพลิเมอร์ (Lithium Polymer หรือ Li-Po)

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องผลิตภัณฑ์ กล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni

อุปกรณ์หลักในกล่อง

• ตัวกล้อง 70mai Dash Cam Omni
• สาย USB-C to USB-A
• อะแดปเดอร์รถ พอร์ต USB-A
• คู่มือการใช้งาน
• สติ๊กเกอร์ไฟฟ้าสถิต 2 แผ่น
• กาว 3M สำรอง 1 ชิ้น (อีกชิ้นติดอยู่กับตัวกล้อง)

อุปกรณ์เสริมสำหรับการรีวิว

• สาย UP04 Car Kit สำหรับต่อใช้งาน 4G และจ่ายไฟกล้องขณะดับเครื่องยนต์

การออกแบบดีไซน์ กล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni

ตัวกล้องติดรถยนต์ 70mai รุ่น Omni ด้วยความที่เป็น 360 องศา จึงมีดีไซน์ที่แตกต่างไปจากกล้องติดรถยนต์อื่น ๆ ในตลาดเลยทีเดียว ด้วยการใช้รูปทรงแคปซูล ให้ตัวเลนส์สามารถหมุนได้รอบทิศ ดูคล้ายกับกล้องวงจรปิดอยู่

ตัวกล้องทรงแคปซูลคล้ายกล้องวงจรปิด

ใต้สุดของเลนส์กล้องเป็นลำโพงที่ค่อนข้างให้เสียงดังอยู่นะ นอกจากเลนส์ที่หมุนได้ไปมาแล้ว ตัวกล้องยังมีลูกเล่นแพรวพราวไว้หยอกล้อกับเราด้วยจอ LCD โค้ง ๆ ที่นอกจากจะพรีวิวภาพจากกล้องแล้ว ก็จะเป็นหน้าน้องหมี MaiX หลากอารมณ์ พร้อมไฟ Star Ring คอยสื่อสารกับเราด้วย มีปุ่มด้านข้างสีสดที่ตัดกับสีของตัวกล้อง ด้านบนสุดเป็นช่องไมค์ ไว้บันทึกเสียงของเราและรับคำสั่งเสียงต่าง ๆ

หน้าตา MaiX และไฟสีฟ้าสื่อสารกับคนขับ

ตัวกล้องอาจจะดูหนาซักหน่อย แต่ขนาดจริง ๆ แล้วค่อนข้างกะทัดรัด ยิ่งในคู่มือแนะนำให้ติดกล้องข้างกระจกมองหลังฝั่งด้านข้างคนขับแล้ว บางทีกระจกมองหลังแทบจะบังกล้องจนมิด ไม่รบกวนสายตาเลย แต่ถ้าใครสะดวกติดกล้องไว้กลางกระจกรถ ก็จะได้มุมมองจากกล้องที่สวยงามกว่า

กระจกรถปกติก็แทบจะบังตัวกล้องแล้ว

นอกจากมุมมอง 360 องศาแล้วตัวกล้องยังสามารถปรับระดับในแนวตั้งได้อีกด้วย โดยตัวฐานจะมีแกนให้เราปรับมุมเงยมุมกดได้อีกเล็กน้อย และสามารถถอดตัวกล้องออกจากฐานได้

ติดกล้องกลับเข้าไปที่ฐาน

ตัวกล้องไม่มีช่องเสียบการ์ด microSD ในกล้องตัวนี้ เพราะว่าเป็นหน่วยความจำ eMMC ในตัว มีข้อดีตรงที่ลดปัญหาการเกิดข้อผิดพลาดของตัวการ์ด (Card Error) ในเวลาที่เจออากาศร้อน ๆ ได้ดี ส่วนหน่วยความจำต้องเลือกตั้งแต่ซื้อกล้อง โดยมีขนาด 32, 64 และ 128 GB. ถ้าใช้เป็นกล้องติดรถยนต์ทั่วไป เน้นอัดทับก็ 32 GB. สบาย ๆ ครับ แต่ถ้าจะเน้น Parking Mode ยาว ๆ หรือใช้บันทึกวิดีโอทำคอนเทนท์ด้วย ก็แนะนำให้รุ่นความจุสูงสุดไปเลย

นอกจากความจุในตัวกล้องแล้ว ยังมีที่เก็บไฟล์วิดีโอแบบออนไลน์ หรือ 70mai Cloud ให้เราใช้งานด้วยนะครับ สามารถตรวจสอบไฟล์ภาพหรือวิดีโอ และช่วยป้องกันไฟล์สูญหายอีกระดับหนึ่งด้วย โดยเราสามารถเข้าไปดูไฟล์บนคลาวด์นี้ผ่านแอปพลิเคชัน 70mai

การใช้งานที่น่าสนใจของ กล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni

มุมมองพาโนรามา 360 องศา

ตัวกล้องสามารถหมุนเลนส์มุมกว้าง 140 องศา ไปรอบ ๆ ตัวถึง 360 องศาได้ ซึ่งนอกจากที่เราจะเห็นแค่มุมมองหน้ารถแล้ว ยังมีตัวเลือกให้บันทึกไปยังด้านข้างรถทั้งซ้ายและขวา ไปจนถึงด้านในตัวรถที่เป็นที่นั่งผู้โดยสารอีกด้วย

โดยวิธีการหมุนเลนส์นั้นสามารถทำได้ 2 วิธี

วิธีแรกเราสามารถสั่งผ่านคำสั่งเสียงได้ ด้วยการพูดว่า "Shoot Left/Right" กล้องก็จะหันไปทางซ้ายหรือขวาตามที่เราสั่ง "Shoot Inside" กล้องก็จะหันกลับมาในตัวรถ หรือ "Shoot Vlog" กล้องก็จะเก็บภาพบรรยากาศหน้ารถจากซ้ายไปขวา แล้วค่อย ๆ หันกลับมาด้านในตัวรถ กระบวนการทั้งหมดที่ว่ามานี้ จะเป็นการบันทึกวิดีโอสั้น ๆ จำกัดที่ 10 วินาที

สั่งการด้วยเสียง "Shoot Left"

ส่วนวิธีที่สอง จะเป็นการสั่งผ่านแอปพลิเคชัน 70mai บนมือถือ ถ้าเราเชื่อมต่อกับกล้อง 70mai Omni เรียบร้อยแล้ว เราสามารถสั่งหันกล้องผ่านตัวแอปฯ ได้เลย วิธีนี้จะไม่มีจำกัดเวลาเหมือนวิธีแรก รวมทั้งหันในองศาต่าง ๆได้มากกว่าด้วย

ควบคุมกล้องผ่านสมาร์ทโฟน

ซึ่งการหมุนเลนส์กล้อง ทำให้เราได้มุมมองที่แปลกตามากขึ้น เหมาะกับการนำไปประกอบวิดีโอคอนเทนท์ต่าง ๆ ได้ และฟีเจอร์ 360 องศา ยังเหมาะมาก ๆ กับการใช้งานร่วมกับโหมดความปลอดภัยของตัวกล้องติดรถยนต์

โหมดรักษาความปลอดภัย และ 4G

ขอพูดถึงทั้ง 2 เรื่องนี้พร้อมกันไปเลย เพราะว่ามาด้วยกันเป็นแพ็คคู่ โดยโหมดรักษาความปลอดภัยที่พูดถึงก็คือ โหมดจอดรถ (Parking Mode) นั่นเอง ซึ่งการจะใช้งานโหมดนี้ได้ ตัวกล้องติดรถยนต์ต้องใช้อุปกรณ์ Hardwire Kit จ่ายไฟแทนสาย USB หรืออะแดปเตอร์ที่ต่อเข้ากับช่องจ่ายไฟในรถ ซึ่งใน Hardwire Kit รุ่น UP04 ที่ใช้งานกับกล้อง 70mai Dash Cam Omni รุ่นนี้ มีโมดูล 4G ให้เราใส่ซิมการ์ดเพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้ากับตัวกล้องได้ด้วย

โมดูล 4G สำหรับใส่ซิมการ์ด

พอเราดับรถ ตัวกล้องก็จะเข้าสู่โหมดจอดรถโดยอัตโนมัติ เมื่อเราตั้งค่าระวังภัยอย่างการตรวจจับความเคลื่อนไหว หรือ แรงสั่นสะเทือนเอาไว้ เวลาเกิดเหตุต่าง ๆ ขึ้น กล้องก็จะจับภาพเหตุการณ์นั้น ๆ เอาไว้ ตรงนี้ก็จะเป็นข้อได้เปรียบของกล้อง 360 องศา เพราะบางทีเหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นแค่หน้ารถ โดยตัวกล้องจะจับภาพทุกทิศทาง ให้เราตรวจสอบเหตุการณ์นั้น ๆ ได้ ว่าเกิดขึ้นตรงส่วนไหนของรถ

และด้วยฟังก์ชัน 4G ที่เพิ่มเข้ามา เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ระหว่างจอดรถขึ้น ตัวกล้องก็จะส่งแจ้งเตือนมาที่แอปฯ ของเราด้วย ว่าตรวจจับแรงสั่นสะเทือนได้นะ เราก็สามารถรีโมทจากมือถือมาที่ตัวกล้องบนรถได้ว่าพิกัด GPS ของรถเรายังอยู่ที่เดิมรึเปล่า หรือ เกิดอะไรขึ้นที่รถ ที่เราสามารถเข้าไปดูกล้องแบบ Real-time ได้เลย สั่งหันกล้องเพื่อดูมุมมองรอบ ๆ ตัวรถได้ด้วย

ดูคลิปฉุกเฉินจากที่แอปฯ แจ้งเตือนความปลอดภัยได้

การรีโมทเข้ามาดูกล้องบนรถ ในบางกรณี เราอาจจะประยุกต์ใช้งานได้ เช่น การไปจอดรถในห้างและจำไม่ได้ว่าจอดอยู่โซนไหน ก็หันหาเสาในชั้นจอดรถ เพื่อดูว่าเราอยู่โซนไหนได้

ตรงนี้ถ้าใครจอดรถแล้วอยากจะอัดคลิปยาว ๆ ก็มีตัวเลือกให้เปิดเป็นโหมด Time-lapse ได้ด้วยนะ ตัวกล้องก็จะอัดคลิปตอนจอดรถไว้ตลอดเวลาให้เหลือแค่คลิปสั้น ๆ

วิดีโอแบบ Time-lapse ขณะจอดรถ

MaiX

ที่เกริ่นไว้ว่า สั่งการด้วยเสียงได้ เพราะว่าตัวกล้องได้ใส่ผู้ช่วยอัจฉริยะ "MaiX" น้องหมีที่สามารถแสดงอารมณ์บนหน้าจอ LCD ได้กว่า 10 แบบ ไม่ว่าจะเป็นการทักทาย โบกมือลา รับคำสั่งต่าง ๆ หรือชมเราเวลาขับรถดี ทำท่าตกใจเวลาเตือนการขับรถในโหมด ADAS อีกด้วย

น้องหมี MaiX ทำหน้าตกใจเตือนให้ระวังมอเตอร์ไซค์

ภาพ MaiX หน้าตาแบบต่าง ๆ
เครดิตภาพจากเว็บไซต์ : 70mai.com

โดยคำสั่งเสียงที่ใช้งานได้ จะประกอบไปด้วยคำสั่งเสียงให้บันทึกวิดีโอหรือถ่ายภาพ ดังนี้

• "Shoot Left" - บันทึกวิดีโอทางด้านซ้าย
• "Shoot Right" - บันทึกวิดีโอทางด้านขวา
• "Shoot Inside" - บันทึกวิดีโอภายในตัวรถ
• "Shoot Vlog" - บันทึกวิดีโอจากวิวหน้ารถวนเข้ามาในตัวรถ
• "Shoot Emergency Video" - บันทึกวิดีโอหน้ารถแบบล็อกคลิป ไม่สามารถถูกอัดทับได้
• "Take Photo" - ถ่ายรูปวิวหน้ารถ
• "Take Selfie" - ถ่ายรูปภายในตัวรถ

นอกจากนี้ก็สามารถสั่งให้ MaiX เปิด/ปิด การใช้งานบางส่วนของกล้องติดรถยนต์ได้ ดังนี้

• "Stop Audio" - หยุดการบันทึกเสียง
• "Record Audio" - เริ่มการบันทึกเสียง
• "Disable Hotspot" - ปิด Hotspot สำหรับเชื่อมต่อกับมือถือ
• "Enable Hotspot" - เปิด Hotspot สำหรับเชื่อมต่อกับมือถือ

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รองรับภาษาไทย แต่ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องสำเนียงภาษานะครับ ตัวกล้องจับคำสั่งเสียงได้ค่อนข้างดี จะสำเนียงฝรั่ง ไทย จีน ได้หมดเลย

นอกจากหน้าตาของหมี MaiX และการโต้ตอบด้วยคำสั่งเสียงแล้ว ก็ยังมี Star Ring เส้นไฟรอบตัวกล้องที่คอยส่องแสงบอกถึงสถานะต่าง ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นรอรับคำสั่ง กำลังดำเนินการ ดำเนินการสำเร็จด้วยสีฟ้า แจ้งเตือน Error ด้วยสีเหลือง หรือแจ้งเตือนความปลอดภัยด้วยสีแดง

Star Ring แสดงสถานะสีต่าง ๆ
เครดิตภาพจากเว็บไซต์ 70mai.com

ระบบช่วยเหลือคนขับขั้นสูง (ADAS)

ระบบฯ นี้ ตัวกล้องจะช่วยตรวจจับระวังภัยบนท้องถนน ไม่ว่าเราจะขับรถกินเลน รถคันหน้าเริ่มชะลอ หรือเริ่มออกตัว รถมอเตอร์ไซค์อยู่ในระยะ คนกำลังจะข้ามถนน กล้องก็จะส่งสัญญาณเตือนเราตลอด เหมาะมากกับคนที่ยังขับรถไม่ค่อยแข็ง

กล้องแจ้งเตือนรถคันหน้าชะลอความเร็ว

ระบบช่วยเหลือนี้ ถือว่าค่อนข้างแม่นยำอยู่นะ ตอนเปิดใช้งานครั้งแรกก็จะมี Calibrate เส้นถนนอยู่เพื่อให้ตรวจจับได้แม่น ๆ อย่างผู้เขียนจะเห็นประโยชน์บ่อย ๆ เวลาติดไฟแดงนาน ๆ แล้วรถคันหน้าเริ่มออกตัวแล้ว หรือแบบคนกำลังจะข้ามถนน พอเข้ามาในระยะเลน ก็จะได้ระวังอย่างทันท่วงที ส่วนมอเตอร์ไซค์บ้านเราคนใช้งานเยอะอยู่แล้ว วิ่งในถนนสาทรก็คือ เตือนได้ตลอดทางเลย แต่เราสามารถไปตั้งค่าได้ ว่าจะให้เตือนอะไรบ้าง

คุณภาพของ กล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni

กล้องติดรถยนต์แต่ละรุ่น จะมีฟีเจอร์ต่าง ๆ เสริมเข้ามาในการเพิ่มความคมชัดของภาพ ซึ่งกล้องตัวนี้ก็ทำได้น่าสนใจนะ นอกจากเทคโนโลยี PureCel^®Plus-S HDR ที่มาช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพในตอนกลางคืนแล้ว จะมีเรื่องของรูรับแสง ที่หากถ่ายในเวลากลางคืน รูรับแสงจะถูกปรับให้กว้างขึ้นเป็นพิเศษที่ F1.5 เพื่อให้รับแสงได้มากขึ้นอีกด้วย มาดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ตัวอย่างภาพตอนกลางวันจากคลิปของกล้อง

ภาพที่ได้ในตอนกลางวันนั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลยทีเดียว ทั้งความคมชัดและสีสันดูมีคุณภาพสามารถเอาไปตัดต่อลงคลิปต่าง ๆ ได้สบาย ส่วนระยะความชัดอย่างการอ่านป้ายทะเบียนอยู่ที่ประมาณ 5 เมตร ยังพออ่านได้ ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้เป็นหลักฐานแล้ว หากเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมา

ระยะ 3 เมตร	ระยะ 3 เมตรแบบซูม 250%
ระยะ 5 เมตร	ระยะ 5 เมตรแบบซูม 250%
ระยะ 8 เมตร	ระยะ 8 เมตรแบบซูม 250%

ตัวอย่างภาพตอนกลางคืนจากคลิปของกล้อง

ส่วนตอนกลางคืน ระยะความชัดจะสั้นกว่าตอนกลางวันเล็กน้อย อาจเป็นเพราะรูรับแสงที่กว้างขึ้น แต่ระยะชัดก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานเช่นกัน ส่วนด้านความคมชัดของภาพ ถือว่าน่าพอใจอยู่นะ ปกติแล้วรถที่เราใช้รีวิวกล้องติดรถยนต์จะติดฟิล์มค่อนข้างมืด ภาพที่ได้ออกมามักจะมืดสนิท แต่กับกล้องรุ่นนี้ รถที่โดนแสงไฟก็คือสว่างชัดเจน แต่บรรยากาศรอบ ๆ ถ้าอยู่บนถนนที่มีแสงไฟ ก็ยังเห็นได้ชัดเจน เว้นแต่ว่าวิ่งในซอยที่ไม่มีแสงไฟใด ๆ ตรงนี้ถึงจะเป็นกล้องถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะยังถ่ายยากเลย

ระยะ 3 เมตร	ระยะ 3 เมตรแบบซูม 250%
ระยะ 4 เมตร	ระยะ 4 เมตรแบบซูม 250%
ระยะ 8 เมตร	ระยะ 8 เมตรแบบซูม 250%

ส่วนการหันกล้องกลับมาถ่ายในรถ ตรงนี้อาจจะต้องดูสภาพแวดล้อมในตัวรถด้วย ถ้าแสงดี ๆ ภาพจากคลิปก็ถือว่าใช้ได้เลยนะ หากใช้รถที่มี Sunroof เปิดรับแสงได้ หรือจัดไฟในรถเองก็ถ่ายได้สบาย ๆ เลย ส่วนที่เราทดลอง ในรถค่อนข้างมืด ภาพที่ได้จึงเป็นอย่างที่เห็นด้านล่างนี้ ส่วนภาพถ่ายเหมือนว่าคุณภาพจะน้อยกว่าคลิปวิดีโอนะ

ด้านเสียง

พอตัวกล้องสามารถหันมาถ่าย Vlog ได้ เสียงไมค์จากกล้องก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งจากที่ทดลองมา เสียงที่อัดมาก็ค่อนข้างดังและชัดเจนเลยทีเดียว เนื้อเสียงก็ดีในระดับที่ฟังรู้เรื่อง แต่อาจจะต้องดูตำแหน่งที่ติดกล้องซักหน่อยว่า อยู่ในมุมที่รับเสียงได้พอดีไหม อย่างการพูดจากเบาะหลังก็ต้องเบากว่าตรงที่นั่งคนขับอยู่แล้ว ลองไปฟังตัวอย่างเสียงในคลิปรีวิวได้เลยครับ

แอปพลิเคชันที่ใช้งานร่วมกับ กล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni

แอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับกล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni เป็นแอปฯ ชื่อว่า 70mai เหมือนกับกล้องติดรถยนต์ 70mai รุ่นอื่น ๆ ซึ่งวิธีการเชื่อมต่อก็ไม่ยาก เชื่อมมือถือกับ Wi-Fi ของกล้อง 70mai Omni แล้วควบคุมผ่านแอปฯ ได้เลย หรือจะเชื่อมต่อผ่าน 4G ก็ได้ แต่การใช้งานจะไม่เหมือนกัน โดยสิ่งที่ทำได้ในแอปฯ มีดังนี้

ควบคุมกล้อง เข้าถึงไฟล์ที่บันทึก

วิธีแรกเป็นการเข้าถึงแอปฯ ด้วยการเชื่อมต่อ Wi-Fi Direct กับตัวกล้อง ระหว่างใช้งานแอปฯ ผ่านทางนี้ ตัวกล้องจะยังบันทึกวิดีโอต่อเนื่อง เราสามารถสั่งให้ถ่ายภาพได้ เข้าไปดูไฟล์ที่บันทึกในอัลบัั้มได้ (แต่กล้องจะหยุดบันทึกวิดีโอ) สั่งให้เลนส์หันซ้าย-ขวาได้

ที่น่าสนใจคือการเข้าไปดูไฟล์ จะสามารถดูแบบ Timeline ตามช่วงเวลาได้ มีแบ่งสีเส้นคลิปที่บันทึกตามสถานะต่าง ๆ ทั้ง บันทึกปกติ จอดรถ ฉุกเฉิน Time-lapse หรือถ่าย Vlog นอกจากนี้ก็สามารถเปิด "โหมด RS Special Effect 2.0" ที่เป็นลูกเล่นเอฟเฟคเพิ่มเติมในการรับชมวิดีโอ บ อกข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเเวลา วันที่ ความเร็วรถ เส้นทาง พิกัด ฯลฯ ตามรูปด้านล่างนี้เลย  

ตั้งค่าต่าง ๆ ของกล้องติดรถยนต์

การตั้งค่าผ่านตัวกล้องค่อนข้างจำกัด หากต้องการตั้งค่าการใช้งานเต็ม ๆ จะต้องเชื่อมต่อตัวกล้องกับแอปฯ และตั้งค่าผ่านแอปฯ แทน เราสามารถตั้งค่าพื้นฐานทั่วไปของกล้องได้ เช่น เฟรมเรท โหมด HDR ระยะเวลาอัดคลิป หรือลายน้ำ รวมไปถึงค่าต่าง ๆ โหมดความปลอดภัยหรือโหมดจอดรถ

ที่น่าสนใจก็คือในโหมด ADAS เราสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้เตือนอะไรบ้าง หรือเมื่อดับรถ จะให้กล้องหันไปที่หน้ารถหรือในตัวรถแทน และตั้งค่าการดึงพลังงานจากแบตเตอรี่รถมาใช้ เพื่อช่วยถนอมแบตฯ ได้

เข้าถึงกล้องระยะไกล

ถ้าเราเชื่อมต่อ 4G เอาไว้แล้ว เราสามารถเปิดแอปฯ จากที่ไหนก็ได้เพื่อเข้าถึงตัวกล้องได้เลย โดยจะดู Live View จากกล้อง ณ เวลานั้น ๆ ได้แบบ Real-time เลื่อนเลนส์กล้องให้หมุนเพื่อดูมุมมองอื่น ๆ ได้ เปลี่ยนมาดู Location บนแผนที่ได้ว่า รถเราอยู่จุดไหน หรือเช็ค Alarm Center ได้ว่า รถแจ้งเตือนอะไรเราบ้าง และดูวิดีโอที่อัปโหลดเหตุการณ์นั้น ๆ ที่ถูกแจ้งเตือนได้

สรุปเกี่ยวกับ กล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni

ถือว่า 70mai Dash Cam Omni เป็นกล้องติดรถยนต์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานของกล้องติดรถยนต์ครบครันเลยทีเดียว บวกกับลูกเล่น 360 องศาแล้วเป็นการช่วยเสริมฟังก์ชั่นทั้งหลายขึ้นไปอีกระดับ ยิ่งมี 4G มาให้ใช้งานระยะไกลด้วยแล้ว ก็เพิ่มความสบายใจของคนใช้รถได้เป็นอย่างดีครับ

เรื่องความละเอียด 1080p ถือว่าเพียงพอสำหรับกล้องติดรถยนต์นะ ถึงแม้ว่าตลาดจะมีกล้อง 4K เข้ามา แต่เราว่ากล้องไม่จำเป็นต้องไปถึงระดับนั้น อีกเรื่องที่ต้องคำนึงก็คือตัวนี้ไม่รองรับกล้องหลัง ถ้าจะใช้งานต้องแยกระบบกันนะ

สำหรับใครที่สนใจอยากได้กล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni ไปใช้นะครับ ในประเทศไทย จะเริ่มจำหน่ายวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2566 (ค.ศ. 2023) ผ่าน 2 แอปฯ ช้อปปิ้งทั้ง Shopee, Lazada และ Tiktok โดยค้นหา 70mai Official Store ได้เลยครับ

ช่องทางการสั่งซื้อกล้องติดรถยนต์ 70mai Dash Cam Omni

• Shopee : https://bit.ly/3IdI1T1
• Lazada : https://bit.ly/3lfyaDa