ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
ไทยแวร์รีวิว
 

รีวิว กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR เสริมความชัดในที่มืดเต็มขั้น ทั้งกล้องหน้าและหลัง

กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR เสริมความชัดในที่มืดเต็มขั้น ทั้งกล้องหน้าและหลัง

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 7,754
เขียนโดย :
0 %E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7+%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C+70mai+4K+A810+HDR+%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%87%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99+%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

ชัดจริง ไม่ขายฝัน กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR เสริมความคมทั้งกล้องหน้า-หลัง

ข้อดี

  • โหมด HDR ครอบคลุมทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
  • ความละเอียดสูงสุดถึง 4K
  • เชื่อมต่อแอปฯ ใช้งานง่ายมาก
  • เลนส์มุมกว้างถึง 150 องศา

ข้อสังเกต

  • HDR ไม่รองรับกับ 60FPS
  • ต้องซื้อ Hardwire Kit มาเสริมเพื่อใช้งานโหมดจอดรถ
  • Wi-Fi Direct ดึงไฟล์ 4K จากกล้องช้า

 

บทความเกี่ยวกับ 70mai อื่นๆ

กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR เป็นกล้องที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่บนเซ็นเซอร์ Sony Starvis 2 IMX 678 ที่นอกจากจะรองรับความละเอียดสูงถึง 4K แล้ว ยังมีเทคโนโลยีของทางฝั่งกล้องรักษาความปลอดภัยอย่าง NIR (Near-Infrared Region) ที่เมื่อมารวมกับโหมด HDR แล้ว ทำให้กล้องสามารถบันทึกภาพในบริเวณที่แสงน้อยได้ชัดเจนอีกด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่กล้องหน้า แต่รวมไปถึงกล้องหลังเลยทีเดียว

ใครที่รู้สึกว่ามีปัญหากับการใช้งานกล้องติดรถยนต์ที่ภาพกลางคืนไม่ค่อยได้รายละเอียด ลองมาดูรีวิวกล้องรุ่นนี้ดูนะครับ

เนื้อหาภายในบทความ

คุณสมบัติและสเปคของ กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR
(Specifications and Key features of 70mai A810 dashcam)

คุณสมบัติของกล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR

  • รองรับ HDR ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ด้วยเซ็นเซอร์ใหม่ Sony Starvis 2 IMX 678
  • ความละเอียดสูงสุด 4K และเฟรมเรตสูงสุด 60FPS บนความละเอียด 1080p
  • เลนส์กล้อง F1.8 ช่วงไดนามิกสูงขึ้น 2.5 เท่า และความไวแสงสูงขึ้น 4.5 เท่า
  • มีระบบระบุพิกัดแบบ Built-in ทั้ง GPS (สากล) , GLONASS (รัสเซีย) , BeiDou (จีน)
  • รองรับโหมดความปลอดภัยระหว่างจอดรถ 24 ชั่วโมง
  • มีระบบ ADAS แจ้งเตือนผู้ขับขี่
  • ใช้งานร่วมกับแอป 70mai ได้
  • รับประกัน 3 ปี เครื่องมีปัญหาเปลี่ยนภายใน 1 ปี ซ่อมฟรี 2 ปี

สเปคของกล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR

  • ความละเอียด : 3840×2160p (4K) HDR
  • เซ็นเซอร์ : Sony STARVIS 2 IMX678
  • CPU : Novatek NT98529BG , dual Cortex A9 1GHz
  • Framerate : 60FPS บนความละเอียด 1080p, 30FPS บนความละเอียด 1080p HDR และ 25FPS บนความละเอียด 4K HDR
  • องศารับภาพ : 150°
  • ช่องรับภาพ : 2 (+1 กล้องหลังความละเอียด 1080p HDR (โมเดล RC12) หรือ 1080p IR internal)
  • รองรับ MicroSD card คลาส : U3 (UHS-3) หรือสูงกว่า หน่วยความจำสูงสุด 256GB
  • เชื่อมต่อด้วย USB Type C

อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง
(Unboxing and Product explore)

สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ 70mai 4K A810 HDR เป็นชุดเซ็ตพร้อมใช้สำหรับการใช้งานกล้องพื้นฐาน สามารถติดตั้งทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมใช้งานได้ทันที แต่ไม่รวมการใช้งานแบบ Parking mode ที่ต้องใช้ Hardwire Kit เข้ามาเสริมนะ

อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง (Unboxing and Product explore)

สำหรับอุปกรณ์ในกล่อง มีดังนี้

  • กล้องหน้า 70mai 4K รุ่น A810
  • กล้องหลัง Midrive รุ่น RC12
  • ฐานกล้องหน้าสำหรับติดกระจก
  • สายเชื่อมต่อไฟฟ้าแบบ USB-A to USB-C
  • อะแดปเตอร์ USB สำหรับต่อกับที่จุดบุหรี่
  • สายเชื่อมต่อระหว่างกล้องหน้า+กล้องหลัง
  • ไม้เก็บสายไฟ
  • สติ๊กเกอร์ฟิล์มติดกระจก (ป้องกันฟิล์มกระจกรถเสียหาย)

อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง (Unboxing and Product explore)

สไลด์รูปภาพ

 อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง (Unboxing and Product explore)อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง (Unboxing and Product explore)อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง (Unboxing and Product explore)อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง (Unboxing and Product explore)

ตัวกล้องหน้าของ 70mai รุ่น A810 นี้ เป็นกล้องติดรถยนต์แบบติดกระจกตามสไตล์ 70mai มีฐานติดกระจกแยกกับตัวกล้องให้สามารถใส่-ถอดกล้องได้อย่างอิสระ เลนส์กล้องสามารถหมุนปรับได้ในแนวตั้ง ส่วนแนวนอนต้องให้แม่นเป๊ะตั้งแต่ติดครั้งแรก

อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง (Unboxing and Product explore)

หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ค่อนข้างใหญ่อยู่เหมือนกัน มีปุ่มกดใช้งาน 5 ปุ่มด้วยกัน (รวมปุ่มพาวเวอร์) ช่องพอร์ตต่าง ๆ อยู่ด้านขวาของกล้อง การจัดเรียงค่อนข้างดี ช่อง microSD ไม่มีฝาปิด แต่ใช้งานในรถอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องระวังน้ำหรือฝุ่นเข้าตัวเครื่อง

สไลด์รูปภาพ

 อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง (Unboxing and Product explore)อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง (Unboxing and Product explore)อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง (Unboxing and Product explore)

ส่วนกล้องหลังเป็น Midrive RC12 ก็ถือว่าเป็นรุ่นหลัง ๆ หน้าตาก็จะคล้ายกับรุ่นก่อน ๆ การใช้งานไม่ได้ต่างกัน มีรองรับมาตรฐาน IP67 สามารถติดใช้งานนอกรถกันน้ำฝนกับฝุ่นละอองได้

อุปกรณ์ในกล่องและสำรวจตัวกล้อง (Unboxing and Product explore)

สำหรับอะแดปเตอร์ที่ต่อกับที่จุดบุหรี่ เชื่อว่ารถหลาย ๆ คันรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟฟ้า จะมีช่อง USB มาให้อยู่แล้ว เราสามารถเสียบไฟของกล้องตรงกับช่อง USB ของรถได้เลยไม่ต้องผ่านอะแดปเตอร์ แต่โดยทั่วไปแล้วช่อง USB ของรถจะจ่ายไฟน้อยกว่าช่องจุดบุหรี่ ถ้าเพื่อความชัวร์ก็ต่อกล้องกับช่องอะแดปเตอร์จะดีกว่า นอกจากมั่นใจในเรื่องการเลี้ยงไฟแล้ว ยังได้ช่องเสียบ USB ที่ไฟแรงขึ้นมาให้อีกด้วย ชาร์จมือถือก็จะเร็วกว่า USB ปกติของรถ

ทดสอบความคมชัดของกล้อง 4K พร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony Starvis 2 IMX 678
(Sony Stavis 2 IMX 678 sensor testing)

การมาใช้เซ็นเซอร์กล้อง Starvis 2 IMX 678 ของรุ่นนี้ เป็นจุดที่น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว โดยแบรนด์ Starvis จะเน้นการผลิตเซ็นเซอร์รับภาพของกล้องวงจรปิด หรือกล้องรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะ ทำให้เราสามารถคาดหวังประสิทธิภาพในการเก็บภาพเพื่อความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี

โดยเซ็นเซอร์ IMX 678 เป็นหนึ่งในเซ็นเซอร์ที่ให้ความละเอียดถึง 4K ด้วยขนาดเซ็นเซอร์รับภาพ 1/1.8 นิ้ว* รองรับความละเอียดสูงสุดถึง 60FPS ที่สำคัญคืออยู่บนเทคโนโลยี Starvis 2 ใหม่ ที่เพิ่มฟังก์ชัน Clear HDR และ NIR Enchanced เข้ามาด้วย ซึ่ง 2 ฟังก์ชันนี้ ไม่ได้ใช้กับแค่กล้องหน้านะ แต่รวมไปถึงกล้องหลังด้วย มันถึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ
*บน iPhone 14 Pro Max ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว) เซ็นเซอร์ยิ่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งได้ภาพที่มีคุณภาพสูง

ในส่วนของ Clear HDR หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ว่ามันคือเทคโนโลยีที่อัปเกรดรายละเอียดให้มากขึ้นในจุดที่สว่างสุดและมืดที่สุดของภาพ ส่วน NIR (Near-Infrared Region) เป็นอีกเทคโนโลยีที่มาช่วยเสริมด้านภาพที่มีความสว่างน้อยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นภาพที่บันทึกตอนกลางคืนระหว่างจอดรถ ภาพบนท้องถนนตอนกลางคืน หรือภาพที่ถ่ายย้อนแสง

โดยเทคโนโลยี NIR นี้ จะพบได้ในเซ็นเซอร์กล้องสำหรับความปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นกล้องถ่ายภาพทั่ว ๆ ไป ตัวเซ็นเซอร์จะมีหน้าที่เก็บแสง หรือ รายละเอียดภาพต่าง ๆ ที่ตามนุษย์มองเห็นได้เท่านั้น แต่กับ NIR จะต่างกันออกไป โดยการดึงแสงที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ มาช่วยดึงรายละเอียดภาพให้มองเห็นมากขึ้น ซึ่งภาพที่ออกมาจริง ๆ แล้วจะเป็นอย่างที่ว่าไหม เรามาดูกันต่อ

มุมกล้อง 150 องศา

องศาการรับภาพของกล้องติดรถยนต์ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ (ถ้าไม่นับตัว 70mai Omni ที่ไปถึง 360 องศาอ่ะนะ) ซึ่งตัวนี้ให้เพิ่มมาอีกถึง 150 องศาเลยทีเดียว ครอบคลุมไปทั้งซ้าย-ขวา ด้านละ 3 เลนเลยทีเดียว

ทดสอบความคมชัดของกล้อง 4K พร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony Starvis 2 IMX 678 (Sony Stavis 2 IMX 678 sensor testing)

กล้องหน้า 4K (25FPS)

จากที่เคยทดสอบกล้องติดรถยนต์มา ในกลุ่มกล้อง 4K จะค่อนข้างเห็นได้ชัดว่ามีรายละเอียดภาพที่เข้มข้น แทบจะคมชัดทั้งภาพ ยิ่งในรุ่นนี้ มี HDR ของเซ็นเซอร์ใหม่เสริมเข้ามาอีก บางรายละเอียดนี่คมแทบจะบาดตาเลยทีเดียว ลองมาดูตัวอย่างในสถานการณ์ต่าง ๆ กัน

ทดสอบความคมชัดของกล้อง 4K พร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony Starvis 2 IMX 678 (Sony Stavis 2 IMX 678 sensor testing)
(คลิกที่ภาพเพื่อขยายดูรายละเอียดได้)

อย่างในรูปนี้จะเห็นได้ว่าตัวหนังสือต่าง ๆ ทั้งป้ายบอกทาง ทะเบียนรถ ป้ายโฆษณาต่าง ๆ ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล จะมีความคมชัดพอ ๆ กันหมด และถ้าสังเกตตรงพื้นถนนดี ๆ จะเห็นรอยพื้นถนนที่เส้นชัดแข็งมาก ๆ เลยทีเดียว

  ทดสอบความคมชัดของกล้อง 4K พร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony Starvis 2 IMX 678 (Sony Stavis 2 IMX 678 sensor testing)
ภาพทะเบียนรถในระยะไกลที่พออ่านได้

 ทดสอบความคมชัดของกล้อง 4K พร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony Starvis 2 IMX 678 (Sony Stavis 2 IMX 678 sensor testing)
ภาพซูมของทะเบียนรถในระยะไกลที่พออ่านได้

(คลิกที่ภาพเพื่อขยายดูรายละเอียดได้)

ภาพนี้เป็นระยะไกลสุดที่ยังพออ่านป้ายทะเบียนได้อย่างชัดเจน ถือว่าเป็นระยะการใช้งานที่ไกลกำลังดีนะ เพราะสมมติถ้าเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เข้ามา คู่กรณีก็จะอยู่ใกล้รถเรามากกว่านี้

ทดสอบความคมชัดของกล้อง 4K พร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony Starvis 2 IMX 678 (Sony Stavis 2 IMX 678 sensor testing)
(คลิกที่ภาพเพื่อขยายดูรายละเอียดได้)

ปกติแล้วกล้องที่มุมกว้างมาก ๆ ขอบภาพจะไม่ค่อยคมชัด แต่กับตัวนี้ถึงแม้ว่าทะเบียนรถจะอยู่ชิดขอบภาพ ก็ยังอ่านได้คมชัดอยู่ดี ซึ่งเป็นข้อดีมาก ๆ

ทดสอบความคมชัดของกล้อง 4K พร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony Starvis 2 IMX 678 (Sony Stavis 2 IMX 678 sensor testing)
(คลิกที่ภาพเพื่อขยายดูรายละเอียดได้)

ลองยกตัวอย่างรายละเอียดอีกภาพหนึ่งมาให้ดู ภายในปั๊มเล็ก ๆ ตัวหนังสือเยอะไปหมด เราก็ยังเห็นตัวอักษรในระยะต่าง ๆ ได้อย่างคมชัด

กล้องหน้า 60FPS (1080p)

ใครที่ชอบวิดีโอลื่น ๆ เฟรมเรต (Frame Rate) สูง ๆ กล้องตัวนี้ก็สามารถปรับไปสูงสุดที่ 60FPS ได้ ซึ่งเฟรมเรทสูง ๆ จะทำให้วิดีโอที่เราถ่ายมามีความลื่นไหลมากขึ้น (ใครนึกภาพไม่ออก ลองอ่านบทความ Frame Rate คืออะไร ? ประกอบได้) ซึ่งถ้าจะเอาคลิปจากกล้องติดรถยนต์ไปทำคอนเทนท์วิดีโอต่าง ๆ เราแนะนำให้เปิดโหมดนี้นะ

ทดสอบความคมชัดของกล้อง 4K พร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony Starvis 2 IMX 678 (Sony Stavis 2 IMX 678 sensor testing)

แต่ว่าโหมด 60FPS นั้นมีข้อจำกัดอยู่ 2 อย่าง ดังนี้

  1. 4K ไม่รองรับ 60FPS ถ้าจะใช้งานโหมดนี้ ต้องถ่ายด้วยความละเอียด 1080p เท่านั้น ซึ่งสำหรับเราแล้วความละเอียด Full HD ถือว่าเพียงพอในการใช้งานแล้ว
  2. การเปิดโหมด 60FPS ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ HDR ซึ่งถ้าเน้นเรื่องการติดกล้องเพื่อความปลอดภัยแล้ว เราแนะนำให้เลือกเป็น 30FPS และเปิดโหมด HDR จะดีกว่า (แต่ถ้าเลือกเป็น 4K จะได้ 25FPS นะครับ)

กล้องหน้ากลางคืน เทียบ เปิด/ปิด HDR

ตอนกลางคืนถือว่าเป็นช่วงปราบเซียนของกล้องติดรถยนต์เลยทีเดียว ซึ่งในกล้องรุ่นนี้ แว่บแรกที่เห็นคลิปที่บันทึกมาได้ เราค่อนข้างว้าวเลยทีเดียว

ทดสอบความคมชัดของกล้อง 4K พร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony Starvis 2 IMX 678 (Sony Stavis 2 IMX 678 sensor testing)
ภาพที่บันทึกช่วงกลางคืน

ทดสอบความคมชัดของกล้อง 4K พร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony Starvis 2 IMX 678 (Sony Stavis 2 IMX 678 sensor testing)
ภาพซูมที่บันทึกช่วงกลางคืน

(คลิกที่ภาพเพื่อขยายดูรายละเอียดได้)

เลนส์กล้องตัวนี้มีฟีเจอร์ Excellent Night Vision ด้วยรูรับแสง F/1.8 การเก็บรายละเอียดภาพมีไดนามิกที่สูงขึ้น 2.5 เท่า รวมทั้งความไวแสงสูงกว่าเดิม 4.5 เท่า เมื่อบวกกับ HDR ด้วยแล้ว ทำให้แสงโดยรวมของภาพค่อนข้างสว่างและคมชัดไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นทะเบียนรถ ป้ายสถานี หรือตัวอักษรต่าง ๆ ท้ายรถก็ยังสามารถอ่านได้ชัดเจน

นอกจากตัวอักษรแล้ว ตึกด้านซ้ายที่ไม่มีแสงไฟก็ยังมองเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ของตึกได้อยู่บ้าง ถือว่ากล้องตัวนี้สามารถเก็บรายละเอียดภาพกลางคืนได้ค่อนข้างดีทีเดียว

กล้องหลังกลางคืน เทียบ เปิด/ปิด HDR

กล้องหลังแทบจะเห็นความ HDR ชัดเจนมาก ๆ โดยปกติแล้วกล้องหลังคุณภาพจะด้อยกว่ากล้องหน้า จึงทำให้ภาพที่ออกมารายละเอียดมักจะหายไป แต่ในรุ่นนี้ที่ได้ HDR เข้ามาเสริมทำ ทำให้เปิดรายละเอียดต่าง ๆ ในภาพได้มากขึ้น ซึ่งในแง่การใช้งานนั้น หวังผลภาพจากกล้องหลังได้ดีเลยทีเดียว แต่ในแง่ความสวยงามแล้ว ภาพมันก็จะแสงแข็ง แปลก ๆ ไปซักหน่อย

ทดสอบความคมชัดของกล้อง 4K พร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony Starvis 2 IMX 678 (Sony Stavis 2 IMX 678 sensor testing)
(คลิกที่ภาพเพื่อขยายดูรายละเอียดได้)

การเช็ควิดีโอบนกล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR
(How to view videos on dashcam)

กล้องติดรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มากับหน้าจอขนาดใหญ่และปุ่มกดที่ใช้งานง่าย เราสามารถเช็คภาพวิดีโอที่บันทึกผ่านตัวกล้องได้สบาย ๆ

  การเช็ควิดีโอบนกล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR (How to view videos on dashcam)
รายการวิดีโอจะสลับกล้องหน้า-หลังให้เลือกดู

  การเช็ควิดีโอบนกล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR (How to view videos on dashcam)
จอกล้องใหญ่ ถอดมานั่งดูคลิปผ่านกล้องได้สบาย ๆ เลย

ส่วนการเช็ควิดีโอในแอป ก็สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi Direct กับตัวกล้องและเชื่อมต่อผ่านแอป 70mai ได้เลย ซึ่งจะมีฟังก์ชันหนึ่งที่เราชอบมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก็คือการดูผ่านไทม์ไลน์ (Timeline) ที่กล้องจะแสดงเลยว่าเราบันทึกวิดีโอในวันนี้ ตั้งแต่ช่วงเวลาไหน และช่วงเวลานั้น ๆ ถูกบันทึกเป็นไฟล์แบบใด ทั่วไป (Standard) , ฉุกเฉิน (Emergency) , ระหว่างจอดรถ (Parking) หรือ Time-lapse มันทำให้เราไล่วิดีโอดูในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้ง่าย

การเช็ควิดีโอบนกล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR (How to view videos on dashcam)

สิ่งที่ยังติดอยู่ในใจเหมือนเดิมเลยก็คือ การโหลดวิดีโอขนาด 4K ผ่าน Wi-Fi Direct ค่อนข้างช้ามาก ๆ ตรงนี้เราแก้ปัญหาโดยการเปลี่ยนเป็นความละเอียด 1080p และแบ่งไฟล์วิดีโอให้อัดคลิปละ 1 นาทีก็พอ (กล้องให้เลือกได้ระหว่าง 1 นาที กับ 3 นาที)

รองรับการระบุพิกัดตำแหน่ง ขณะบันทึกวิดีโอ
(GPS, GLONASS and BeiDou recording on video files)

ในตัวของวิดีโอที่บันทึกมาจะมีระบุทั้งเวลาและพิกัดสถานที่ที่บันทึกวิดีโอนั้น ๆ เอาไว้ด้วย ให้เราทราบได้ว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์นั้น ๆ เราอยู่ที่ไหนเวลาไหน ซึ่งในรุ่นนี้รองรับทั้ง GPS, GLONASS ระบบพิกัดที่ใช้งานนรัสเซีย และ BeiDou ระบบพิกัดที่ใช้งานในจีนด้วย ถ้าไม่ได้ใช้งานในไทย จะเอาไปใช้ประเทศต่าง ๆ ฟังก์ชันนี้ก็ยังรองรับ

รองรับการระบุพิกัดตำแหน่ง ขณะบันทึกวิดีโอ (GPS, GLONASS and BeiDou recording on video files)

โดยพิกัด GPS จะแสดงอยู่ที่มุมขวาล่างของไฟล์วิดีโอที่ถูกบันทึก สามารถเอาไปเช็คตำแหน่งได้เลย ว่าช่วงเวลาที่เราบันทึกวิดีโอนี้ เราขับรถอยู่แถวไหน รวมทั้ง GPS ยังใช้ในการวัดความเร็วในการขับขี่ของเราด้วย

ระบบ ADAS ช่วยเตือนสติคนขับรถ
(ADAS drivers assistant)

ใครไม่ค่อยมีสติในการขับรถ รุ่นนี้ก็มีระบบ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) มาให้ด้วย โดยระบบจะคอยส่งเสียงแจ้งเตือนคนขับเมื่อเจอเหตุการณ์เสี่ยงต่าง ๆ ดังนี้  

  1. รถคันข้างหน้าเคลื่อนที่ แจ้งเตือนให้เราเริ่มออกรถตามไป
  2. ขับรถกินเลน จะแจ้งเตือนเมื่อเราขับรถด้วยความเร็วเกิน 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเราเผลอขับออกนอกเลน
  3. ระวังคนรอบข้าง แจ้งให้เราสอดส่องระวังคนที่อยู่รอบ ๆ ไม่ว่าจะบนทางเท้า หรือกำลังข้ามถนน
  4. ระวังมอเตอร์ไซค์ แจ้งให้เราระวังรถมอเตอร์ไซค์ ด้านหน้าหรือด้านข้างตัวรถ

ก่อนใช้งานระบบ ADAS จะต้องทำการคาลิเบรต (Calibrate) เพื่อให้กล้องสามารถแจ้งเตือนได้อย่างแม่นยำ หรือระหว่างใช้งานไปจะกลับมาคาลิเบรตซ้ำก็ได้เช่นกัน เพื่อให้ตัวกล้องวัดระยะหน้ารถและด้านข้างรถได้อย่างถูกต้อง

ระบบ ADAS ช่วยเตือนสติคนขับรถ (ADAS drivers assistant)
Calibrate ระบบ ADAS ก่อนการเดินทาง ใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียว

จริง ๆ แล้วตอนเปิดใช้แรก ๆ ก็รู้สึกว่าจะแจ้งเตือนบ่อยไปไหนนะ ? แต่วันไหนที่ขับรถทั้งวัน ระบบนี้ก็ช่วยเราอยู่ไม่น้อยเลย เช่นเวลาจอดรอไฟแดงนาน ๆ จนเราลืมโฟกัสถนนไปแล้ว ก็มีกล้องที่มาเตือนให้เราออกรถได้แล้ว (ก่อนที่จะโดนคันหลังบีบแตรแทน)

รองรับ microSD สูงสุด 256GB ถ่ายได้นานแค่ไหน ?
(How long does maximum memory can record ?)

กล้องตัวนี้รองรับการ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุดที่ 256GB ซึ่งดูจากคลิปที่เราบันทึกมา กล้องหน้าความละเอียด 4K ระยะเวลา 2.30 นาที จะมีขนาดไฟล์อยู่ที่ 515 MB ส่วนกล้องหลังความละเอียด 1080p ระยะเวลา 2.30 นาทีเท่ากัน จะมีขนาดไฟล์อยู่ที่ 145 MB เมื่อคำนวณคร่าว ๆ แล้ว การ์ดที่ความจุสูงสุดที่กล้องรองรับได้จะสามารถบันทึกวิดีโอได้นานสุดถึง 16 ชั่วโมงด้วยกัน

รองรับ microSD สูงสุด 256GB ถ่ายได้นานแค่ไหน ? (How long does maximum memory can record ?)

มีอีกกรณีน่ารู้ หากเราใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์รุ่นเก่ามาก อาจจะไม่สามารถรันไฟล์วิดีโอที่บันทึกมาได้ ให้ทำการเปลี่ยน Video coding แบบ "Low compression ratio" แทน แต่ผลที่ตามมาก็คือไฟล์จะใหญ่ขึ้น ทำให้การ์ดสามารถเก็บไฟล์ได้น้อยลง

รองรับ microSD สูงสุด 256GB ถ่ายได้นานแค่ไหน ? (How long does maximum memory can record ?)

ซึ่งปกติแล้วการใช้งานกล้องติดรถยนต์จะมีฟังก์ชันในการอัดวนทับ เมื่อหน่วยความจำเต็ม เราสามารถใช้งานได้เรื่อย ๆ เพียงแต่ว่าหากต้องการไฟล์ย้อนหลัง ถ้าหลายวันหน่อย ไฟล์ก็อาจจะถูกลบหรืออัดวนทับไปแล้วนั่นเอง

โหมดรักษาความปลอดภัยขณะจอดรถ
(Parking surviellance mode)

กล้องตัวนี้รองรับโหมดบันทึกขณะจอดรถยนต์ 24 ชั่วโมง (หรือโหมดจอดรถ) เช่นกัน แต่จะใช้งานได้ต้องมีอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า Hardwire Kit มาใช้งานแทนการต่อไฟฟ้าจากช่องจุดบุหรี่หรือ USB เพื่อให้มีไฟล์เลี้ยงขณะดับเครื่องยนต์

โดยการทำงานในโหมดจอดรถจะแบ่งรูปแบบการรักษาความปลอดภัย 3 รูปแบบดังนี้

ตรวจจับแรงสั่นสะเทือน (Collision detection)

โหมดนี้จะเริ่มบันทึกวิดีโอฉุกเฉิน เมื่อตัวกล้องตรวจจับแรงสั่นสะเทือนจากตัวรถได้ ตั้งแต่การเปิดปิดประตูรถ ปิดท้ายรถ ไปจนถึงการถูกโจรทุบหรืองัดรถเลย หรือแม้กระทั่งแมวกระโดดขึ้นรถ ถ้าตัวหนักหน่อยก็อาจจะถูกบันทึกวิดีโอเช่นกัน ซึ่งเราสามารถปรับระดับการจับแรงสั่นสะเทือนตามที่เราต้องการได้

โหมดรักษาความปลอดภัยขณะจอดรถ (Parking surviellance mode)

ตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion detection)

ในบางกรณีอาจจะมีผู้ไม่ประสงค์ดีมาด้อม ๆ มอง ๆ แต่ไม่ได้สัมผัสรถ โหมดก่อนหน้าก็อาจจะไม่ได้จับภาพ ซึ่งกล้อง 70mai A810 รุ่นนี้ มีความสามารถในการจับความเคลื่อนไหวผ่านตัวกล้อง เมื่อมีวัตถุต้องสงสัยเข้ามาใกล้รถ กล้องก็จะบันทึกวิดีโอเก็บไว้ทันที ซึ่งเราสามารถปรับระดับการจับความเคลื่อนไหวได้เช่นกัน

โหมดรักษาความปลอดภัยขณะจอดรถ (Parking surviellance mode)

บันทึกวิดีโอระหว่างจอดรถแบบ Time-lapse

หรือถ้าอยากจะถ่ายยาว ๆ ตลอดระหว่างการจอดรถเลย ก็สามารถเปิดโหมด Time-lapse ได้ กล้องจะทำการบันทึกวิดีโอตลอดเวลาตั้งแต่เราดับเครื่องยนต์ ซึ่งการบันทึกวิดีโอแบบ Time-lapse จะเป็นการบันทึกแบบเร่งความเร็ววิดีโอ ทำให้เราสามารถบันทึกความเคลื่อนไหวได้ตลอดในรูปแบบไฟล์ที่ขนาดเล็กลง และเวลาสั้นกว่าคลิปทั่วไป แต่ระหว่างการบันทึกแบบ Time-lapse ถ้ากล้องตรวจจับแรงสั่นสะเทือนหรือความเคลื่อนไหวได้ ก็จะถูกบันทึกวิดีโอแบบปกติเช่นกัน

โหมดรักษาความปลอดภัยขณะจอดรถ (Parking surviellance mode)

ในโหมดนี้เราไม่ได้ทดสอบ แต่ว่าลักษณะการใช้งานต่าง ๆ ของโหมดจอดรถ ก็จะคล้ายกับตัว 70mai Omni ที่เคยรีวิวไป ซึ่งระหว่างที่เราดับเครื่องยนต์ไป กล้องก็จะยังคงทำงานอยู่ หากเปิดเป็น Time-lapse กล้องก็จะบันทึกวิดีโอแบบเร่งความเร็วเอาไว้ตลอดทั้งคืน ส่วนอีก 2 โหมด ก็จะบันทึกวิดีโอแบบฉุกเฉินเอาไว้ให้เรา เมื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวในระยะใกล้ ๆ หรือมีอะไรมากระแทกตัวรถ

โหมดรักษาความปลอดภัยขณะจอดรถ (Parking surviellance mode)

RS Special Effect เข้ากับ โหมด HDR ตอนกลางคืนสุด ๆ
(RS Special Effect is best for night videos)

RS Special Effect ซึ่งเป็นเอฟเฟคตกแต่งตัวคลิปวิดีโอที่เป็นเอกลักษณ์ของ 70mai ก็มีให้ใช้งานกันเช่นเดิม สามารถเปิดใช้งานผ่านการดูคลิปบนแอปมือถือได้ และเอฟเฟคนี้ ค่อนข้างเข้ากันดีกับวิดีโอที่บันทึกตอนกลางคืนมาก ๆ ยิ่งเรามีกล้องที่บันทึกวิดีโอตอนกลางคืนชัด ๆ การเล่นเอฟเฟคนี้ก็ยิ่งสะใจไปอีกระดับเลย

RS Special Effect เข้ากับ โหมด HDR ตอนกลางคืนสุด ๆ (RS Special Effect is best for night videos)

สำหรับตัวเอฟเฟคก็จะมีลูกเล่น บอกวัน เวลา ความเร็วในการขับ ความเร็วของรถที่วิ่งรอบ ๆ เรา รวมทั้งเส้นรูทที่เราวิ่งอ้างอิงตาม GPS (ด้านซ้ายล่าง) ให้เห็นความแม่นยำของพิกัดที่บันทึก

สรุปเกี่ยวกับ กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K A810 HDR
(70mai A810 dashcam conclusion)

สำหรับใครที่กำลังมองหากล้องติดรถยนต์ที่เน้นเรื่องความปลอดภัยเลย 70mai 4K A810 HDR ตัวนี้ เราค่อนข้างประทับใจกับภาพที่ได้พอสมควรนะ โดยเฉพาะกล้องหลังในเวลากลางคืนที่ +HDR เข้าไปด้วยได้ ถึงแม้ภาพจะแข็ง ๆ ไม่สวยงาม แต่แลกด้วยรายละเอียดที่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไร หรือหวังผลในการอ่านป้ายทะเบียนได้มากกว่าก็ถือว่าคุ้มค่า และเพิ่มความอุ่นใจไปอีกหนึ่งระดับด้วยประกันสินค้าจากทาง 70mai ที่ให้มาถึง 3 ปีด้วยกัน และถ้าเครื่องมีปัญหา เปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ภายใน 1 ปี และซ่อมฟรี 2 ปี

สำหรับใครที่สนใจ 70mai 4K A810 HDR รุ่นนี้ ก็สามารถไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ดังนี้


ที่มา : www.sony-semicon.com

 
0 %E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7+%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C+70mai+4K+A810+HDR+%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%87%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99+%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
...
 
 
 

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น