Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด Mi 8 Pro และ and Mi 8 Lite บอกเลยว่าเป็น 2 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ส่งท้ายปี 2018 ที่มีความน่าสนใจมากๆ เลย ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูพรีวิวสมาร์ทโฟน 2 รุ่นนี้กันเลยครับ
สามารถคลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่
Xiaomi Mi 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนระดับ Mid-range ที่เด่นเรื่องเซลฟี่ ด้วยกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล ที่ใช้เซ็นเซอร์คุณภาพสูงของ Sony IMX576 ทำให้สามารถจับภาพได้แม่นยำกว่าที่เคย แม้ในสภาพแสงน้อย และเซ็นเซอร์ภาพกล้องหน้ายังมีฟีเจอร์ 4-in-1 Super Pixel ซึ่งเป็นการรวม 4 พิกเซลเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ขนาดเซลล์รับแสงใหญ่ถึง 1.8um ทำให้ Noise ลดลง ความละเอียดภาพดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายในสภาพแสงน้อย
นอกจากนี้กล้องหน้ายังมีโหมดการถ่ายเซลฟี่เจ๋งๆ อาทิ
ตัวอย่างภาพเซลฟี่จากกล้องหน้าของ Xiaomi Mi8 Lite
Xiaomi Mi 8 Lite มาพร้อมกล้องหลังเลนส์คู่ ใช้เซ็นเซอร์ภาพตัวหลักของ Sony รุ่น IMX363 ขนาด 12 ล้านพิกเซล ใช้เซลล์รับภาพขนาดใหญ่ 1.4μm ทำให้ถ่ายภาพได้ดีในสภาวะแสงน้อย พร้อมกับเทคโนโลยี Dual Pixel Autofocus เพื่อการโฟกัสภาพที่เร็วมากขึ้น ทำให้ไม่พลาดช็อตสำคัญ ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ภาพขนาด 5 ล้านพิกเซล ของ Samsung นอกจากนี้ระบบกล้องหลังเลนส์คู่ยังมาพร้อมระบบ AI scene detection สามารถตรวจจับรับรู้ซีนการถ่ายภาพได้ถึง 27 รูปแบบ (ของ Mi 8 Pro ทำได้ 25 รูปแบบ) อาทิ เมฆครึ้ม, ฤดูใบไม้ร่วง, แสงเทียน, ทุ่งหญ้า, ภาพถ่ายบุคคล, ภาพถ่ายบุคคลแบบ Silhouette, เมือง, สถาปัตยกรรม, แมว, หมา, ดอกไม้, อาหาร, รถยนต์, หิมะ, ชายหาด ปรับแต่งโทนภาพให้เหมาะกับภาพถ่ายแต่ละแบบอัตโนมัติ สีสันสดใสขึ้น ได้ยอด Like มากขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังเลนส์คู่ของ Xiaomi Mi8 Lite
นอกจากนี้กล้องหลังเลนส์คู่ยังมีโหมดการถ่ายภาพบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ
*AI Studio lighting (มีทั้งในรุ่น Lite และรุ่น Pro) โหมดถ่ายภาพบุคคลแบบปรับเปลี่ยนฉากหลังระดับมืออาชีพด้วย AI สามารถตัดฉากหลังเดิมออก แล้วเปลี่ยนฉากหลังใหม่เข้าไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ อย่างเช่นฉากหลังดำมืดพร้อมแสง Flare สวยๆ ที่ช่วยขับให้ใบหน้าโดดเด่น หรือเปลี่ยนฉากหลังเป็นแบบพื้นเรียบๆ หรือใส่เอฟเฟคแสงลอดหน้าต่างนุ่มๆ สวยๆ
*AI adjustable bokeh (มีทั้งในรุ่น Lite และรุ่น Pro) สามารถปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ตามต้องการ
*AI dynamic bokeh (มีทั้งในรุ่น Lite และรุ่น Pro) มีโบเก้ 6 แบบให้เลือกใช้งาน เปลี่ยนแสงไฟในฉากหลังให้เป็นวงโค้งๆ หมุนวน เปลี่ยนไฟเป็นรูบประกายดาว หรือรูปหัวใจน่ารักๆ ได้เลย
ถึงแม้จะเป็นสมาร์ทโฟนระดับ Mid-range แต่ตัวเครื่องก็มีความหรูหราในแบบ Premium glass body อัตราส่วนหน้าจอกว้าง 19:9 ติ่งหน้าจอมีความแคบ เหลือพื้นที่ไว้แสดง Notification ต่างๆ ได้มากขึ้น ขนาดหน้าจอ 6.26 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ 2,280x1,080 จุด ให้การแสดงผลที่คมชัด ตัวเครื่องบาง 7.5 มม. กรอบตัวเครื่องแบบ Aluminum alloy frame ขอบข้างตัวเครื่องวัสดุอลูมิเนียมอัลลอย ขอบตัวเครื่องมันวาวสะท้อนแสงสวยงาม จับถือใช้งานถนัดมือ
แผ่นหลังของตัวเครื่องสี Aurora Blue มีความมันวาวสวยงามราวผิวกระจก ใช้เทคโนโลยีการลงสีที่เรียกว่า NCVM color processing เป็นการลงสีหลายๆ ชั้น ทำผ่านกระบวนการแรงดูดไฟฟ้า ทำให้ได้แผ่นหลังในโทนสี Gradient จากม่วงไล่ไปน้ำเงิน และผิวที่มันวาวสะท้อนแสง ใช้ส่องเป็นกระจกได้เลย และตัวเครื่องอีกสีที่เอาเข้ามาจำหน่ายคือ Midnight Black ที่เป็นสีดำเงากระจก และมีกระบวนการทำสีคล้ายๆ กัน เป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบได้ทันสมัย
ในส่วนของเรื่องความแรง Xiaomi Mi 8 Lite ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm SnapdragonTM 660 SoC (AIE) ที่มาพร้อมชิปกราฟฟิก Adreno 512 ที่ทาง Xiaomi เคลมว่าให้เฟรมเรตในการเล่นเกมส์ที่สูง และ Mi 8 Lite ยังโดดเด่นในระบบเสียง จากการพัฒนาระบบอัลกอรึทึม DSP (Digital Signal Processing) อย่างเต็มรูปแบบ แบตเตอรี่ขนาด 3,350mAh ที่ทาง Xiaomi เคลมว่าใช้งานได้ทั้งวัน และรองรับการใช้งานได้ตามนี้
Xiaomi Mi 8 Lite มีจำหน่าย 2 สี ประกอบด้วยสี Aurora Blue และ สี Midnight Black
*****หมายเหตุ ทางผู้จัดจำหน่ายอาจมีการเปลี่ยนแปลงราคา และของแถมไปตามระยะเวลา
Xiaomi Mi 8 Pro ก้าวไปอีกขั้นด้วยเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ตอบสนองฉับไว เพียงแตะบนหน้าจอ (Pressure-sensitive in-display fingerprint sensor) ซึ่งต่างจากหน้าจอที่มีเทคโนโลยีอ่านลายนิ้วมือแบบอื่นๆ ที่ชะลอการทำงานของหน้าจอเอาไว้เพื่อดูว่ามีนิ้วกดอยู่หรือไม่ แต่เซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกดของ Mi 8 Pro จะทำการปลดล็อกหน้าจอทันทีที่มีนิ้วมาสัมผัสหน้าจอ ซึ่งเร็วขึ้นและช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น
แผ่นหลังแบบเปลือยโปรงแสง Transparent Titanium 3D glass
Mi 8 Pro เป็นมือถือที่เน้นความสวยงามของกล้องหลังตามแบบฉบับมือถือเรือธง โดยกล้องหลัง 12+12 ล้านพิกเซล Dual AI Camera มีเทคโนโลยี OIS แบบ 4 แกน ป้องกันภาพสั่นไหว ถ่ายภาพวิดีโอได้เนียนสมูทยิ่งขึ้น ทำให้สนุกกับการถ่ายวิดีโอมากขึ้น โดยระบบกล้องหลังเลนส์คู่ของ Mi 8 (ไม่ใช่รุ่น Mi 8 Pro นะ) ได้คะแนนจาก DXOMARK MOBILE ในหัวข้อ PHOTO สูงถึง 105 คะแนน อยู่ในอันดับ TOP 5 ของสมาร์ทโฟนที่กล้องดีที่สุดในโลก ทำให้พอจะคาดหวังได้ว่า ระบบกล้องหลังเลนส์คู่ของ Mi 8 Pro ก็น่าจะทำได้ดีใกล้เคียงกัน
โดยการถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลังของ Mi 8 Pro นั้นก็รองรับโหมดการถ่ายในแบบเดียวกับรุ่น Mi 8 Lite โดยมีโหมดการถ่ายทั้งแบบ AI portrait mode, AI adjustable bokeh และ AI dynamic bokeh
ตัวอย่างภาพเซลฟี่จากกล้องหน้าของ Xiaomi Mi8 Pro
กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล ใข้เซ็นเซอร์ภาพของ Samsung S5K3T1 มีฟีเจอร์ 4-in-1 Super Pixel การรวม 4 พิกเซลให้เป็นพิกเซลเดียว ทำให้ได้ขนาดเซลล์รับแสงใหญ่ถึง 1.8um (เป็นฟีเจอร์เดียวกับที่มีในกล้องหน้าของ Mi 8 Lite) มีโหมดการถ่ายแบบ AI portrait mode ถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอเนียนๆ ด้วยเลนส์ตัวเดียว
Xiaomi Mi 8 Pro ด้วยความที่เป็นมือถือระดับเรือธงสเปคแรง แตะแล้วไปเลยไม่มีกระตุกแน่นอน สวมขุมพลังการประมวลผลด้วยชิประดับโปร Snapdragon 845 AIE หน่วยความจำ RAM 8GB LPDDR4x พร้อมหน่วยความจำภายใน 128GB UFS 2.1 เทคโนโลยีล่าสุด ที่ทาง Xiaomi เขาเคลมว่า รวดเร็วทั้งงานกราฟฟิกและการเล่นเกมส์อย่างแน่นอน
ชาร์จเร็วด้วยเทคโนโลยี Qualcomm Quick charge 4+ ชาร์จ 5 นาทีใช้งานได้หลายชั่วโมง แต่ในกล่องแถมหัวชาร์จแบบ Quickcahrge 3.0 ให้ถ้าต้องการชาร์จเร็วแบบ Quick charge 4+ ต้องซื้อแยกเป็นอุปกรณ์เสริมนะครับ
นอกจากนี้ยังรองรับระบบ Muiti-function NFC ใช้งานได้ทั้งการแตะเพื่อชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน (Mobile payment) รองรับการใช้งานแบบ Android beam แตะเพื่อส่งไฟล์ระหว่างเครื่องสมาร์ทโฟน
และจุดเด่นอีกอย่างของ Xiaomi Mi 8 Pro คือระบบ Dual frequency GPS (ที่รุ่น Mi 8 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกใช้ระบบนี้ และ Mi 8 Pro ก็มีระบบนี้ด้วย) ประโยชน์ของ Dual frequency GPS จะทำให้สมาร์ทโฟนจับสัญญาณ GPS ได้เร็วกว่าแบบเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานในเขตเมือง และยังระบุตำแหน่งได้แม่นยำกว่าด้วย
Xiaomi Mi 8 Pro มาในสี Transparent Titanium ความจุ 8GB+128GB เริ่มจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 พิเศษบนแพลทฟอร์มร้านค้าออนไลน์ Lazada ราคา 19,900 บาท พร้อมของสมนาคุณนาฬิกาอัจฉริยะ Amazfit Bip
โดยสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้ จะเริ่มจำหน่ายใน Mi Authorized Stores วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561
*****หมายเหตุ ทางผู้จัดจำหน่ายอาจมีการเปลี่ยนแปลงราคา และของแถมไปตามระยะเวลา
Xiaomi Mi 8 Lite | Xiaomi Mi 8 Pro | |
หน้าจอ | 6.26 นิ้ว FHD+ 2,280x1,080 | 6.21 นิ้ว FHD+ 2,248x1,080 |
ชิปเซ็ต | Snapdragon 660 AIE | Snapdragon 845 AIE |
แรม | 4GB / 6GB | 8GB |
ความจุ | 64GB / 128GB | 128GB |
กล้องหลัง | 12+5MP เซ็นเซอร์หลัก Sony IMX363 | 12+12MP เซ็นเซอร์หลัก Sony IMX363 |
กล้องหน้า | 24MP เซ็นเซอร์ Sony IMX576 | 20MP เซ็นเซอร์ Samsung S5K3T1 |
ปลดล็อก | - สแกนลายนิ้วมือ - สแกนใบหน้า | - สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ - Infrared Face Unlock |
แบตเตอรี่ | 3,350 mAh - Qualcomm Quick 3.0 | 3,000 mAh - Qualcomm Quick 4+ |
พอร์ตชาร์จ | USB Type-C | USB Type-C |
รองรับ 4G สองซิม | Yes | Yes |
สีตัวเครื่องที่มีจำหน่าย | - Aurora Blue - Midnight Black | - Transparent Titanium |
ราคา | - 4GB+64GB = 7,990 บาท - 6GB+128GB = 9,900 บาท | 19,900 บาท |
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |