Samsung Galaxy S10 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์แดนโสม ประกาศเปิดตัวในไทยแล้ว มีด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ Galaxy S10e เรือธงตัวเริ่มต้นสเปคน่ารักๆ ราคาย่อมเยา, Galaxy S10 เรือธงกล้องหลัง 3 ระยะ กว้าง กลาง ไกล พร้อมกล้องหน้าเดี่ยว และสุดท้าย Galaxy S10+ เรือธง 5 กล้อง (หลัง 3 หน้า 2) ถ่ายพรอตเทรตกล้องหลังก็ดี ถ่ายเซลฟี่กล้องหน้าก็ยอดเยี่ยม ซึ่งราคาค่าตัวของทั้ง 3 รุ่นมีดังนี้
ซึ่งทางผู้เขียนก็ได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดตัวในครั้งนี้ด้วยนะ เลยเก็บข้อมูลมาทำเป็นพรีวิวชิ้นนี้ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน มาดูกันเลย **หมายเหตุ เครื่องที่นำมาพรีวิวเป็นรุ่น Galaxy S10+ ตัวเดียว
นาทีนี้เทรนด์กล้องหลัง 3-4 ตัวกำลังมาแรง โดยแบรนด์มือถือจากจีนทยอยเปิดตัวเรือธงกันไปหลายรุ่นแล้ว และครั้งนี้ก็ถึงคราวของแบรนด์แดนโสมบ้าง โดยรุ่นเรือธงอย่าง Galaxy S10 และ S10+ ก็มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ที่ถ่ายได้ครบทุกระยะ ตั้งแต่ กว้าง กลาง และก็ไกล (ว่าไปก็คล้ายกับระยะเลนส์ของกล้องถ่ายรูป DSLR เลย)
โดยกล้องหลัง 3 ตัวนั้น ตอบโจทย์การถ่ายภาพแบบสุดๆ สำหรับใครที่อยากเก็บรูปวิวทิวทัศน์กว้างๆ ไว้ดูเพื่อนึกหวนลำลึกถึงอดีต ก็มีกล้องแบบ Ultra-wide ที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่สามารถเก็บมุมมองได้ โค-ตะ-ระ กว้าง องศาการรับภาพอยู่ที่ 123 องศา ซึ่งคาแรคเตอร์ของภาพที่ขอบข้างจะดูบวมๆ หน่อย แต่ก็เก็บรูปได้ทั้งคนทั้งวิวแบบไม่หล่นตก รวมถึงถ่ายรูปหมู่ด้วยนะน่าจะไม่หลุดเฟรม
Wide กล้องระยะทั่วไปที่มีมุมการรับภาพ 77 องศาที่ดูคุ้นตา มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (ระยะเท่าๆ กับกล้องมือถือทั่วไป) ให้ได้เก็บภาพกัน คุณภาพที่ได้ก็ถือว่าดีเลย สีสด ภาพคมชัด ถ่ายคนสกินโทนก็ดูดี แถมปรับรูรับแสงจาก F/2.4 เป็น F/1.5 ได้ด้วยนะ ถ่ายในที่มืดกันมันส์เลย
หรือถ้าอยากจะถ่ายแบบใกล้ชิด (Close Up) หรือดึงวัตถุเข้ามาใกล้ๆ ก็มีช่วงเลนส์มุมแคบ 45 องศา ที่เป็นกล้องแบบ Telephoto มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่ซูมไกลได้ถึง 2 เท่า (ดึงภาพเข้ามาอยู่ได้ใกล้กว่าปกติมาก) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการถ่ายภาพ (Telephoto มีเฉพาะ Galaxy S10 และ S10+) สายถ่ายน้องโฮ่ง หรือน้องแมวเหมียวตามท้องถนนน่าจะชอบเลนส์ตัวนี้นะครับ ยืนส่องไกลๆ ได้โดยน้องไม่ตกใจ
__________________________________
ถามว่าฟีเจอร์นี้มีไว้ทำไม คำตอบคือ เอาไว้แนะนำคนที่ยังจัดองค์ประกอบภาพ (Composition) ยังไม่เก่ง ไม่รู้ว่ารูปแบบนี้ควรถ่ายมุมไหนดี โดยเจ้า AI จะช่วยแนะนำว่า เขยิบซ้ายนิดขยับขวาหน่อย ลงขึ้นอีกเล็กน้อย จะได้รูปภาพที่ดูดีกว่าเดิม นอกจากนั้นแล้วมันยังช่วยในการประมวลผลภาพอีกด้วยนะ
__________________________________
Galaxy S10e | S10 | S10+ โดยทั้ง 3 รุ่นนั้นจะมีระบบกันสั่นในกล้องระยะกลาง (Wide) ที่ช่วยให้เราเดินถ่ายวิดีโอได้แบบสมูทๆ เลย ดังตัวอย่างที่เห็นจากด้านบน ผู้เขียนนั่งถ่ายวิดีโออยู่บนรถไฮโดรลิคที่เด้งขึ้นลงจนปวดหัว แต่วิดีโอที่ได้มาเรียกได้ว่าแจ่มยิ่งนัก ดูจากด้านบนได้เลย
__________________________________
กล้องหลังว่าแจ่มแล้ว กล้องหน้าก็เด็ดไม่แพ้กัน ถ่ายเซลฟี่ดูดีเลย ผิวหน้าก็ดูเรียบเนียน สกินโทนดูสว่างเป็นธรรมชาติ เปลี่ยนผู้ชายหน้าดิบๆ ให้ดูใสๆ แบบหนุ่มเกาหลีได้เลย นี่ขนาดผู้ชายนะ ถ้าเป็นผู้หญิงน่าจะดีกว่านี้เยอะ และยังมีโหมดไลฟ์วิว (ได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง) ที่เลือกปรับเอฟเฟคโบเก้ (ฉากละลายหลัง) ภายหลังได้ตามต้องการ จะโบเก้วนๆ หรือโบเก้พุ่งๆ ก็เลือกได้ชิลๆ
ดีไซน์หน้าจอของ Galaxy S10e | S10 | S10+ อาจดูแปลกใหม่ไปสักหน่อย เพราะว่ามีรู (หรือจะเรียกว่า Infinity-O ก็ได้นะ) อยู่ที่มุมขวาบนของจอภาพ ดูแรกๆ อาจไม่ชินตา แต่พอดูไปดูมา เอ๊ะ! มันก็สวยไปอีกแบบ ใครที่สงสัยว่ามันจะบังไหม บอกเลยว่า โนบังชินกิ! ไม่บังการใช้งานเลย เพราะตำแหน่งกล้องอยู่โซนเดียวกับแถบแจ้งเตือน (Notification Bar) การใช้งานกับแอพฯ ทั่วไปอย่าง Facebook หรือ Line ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
__________________________________
เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Galaxy S10 | S10+ เลยก็ว่าได้ กับเทคโนโลยีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังไว้ใต้จอ (Ultrasonic Fingerprint Sensor) และจากที่ทดลองใช้ ก็รู้สึกว่าปลดล็อกง่ายกว่าเพราะมีจุดให้เล็ง แตกต่างกับเซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านหลังอยู่นะที่บางทีก็ต้องคลำหากันบ้าง
__________________________________
สมาร์ทโฟน นาฬิกา หรือหูฟังรุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้ก็รองรับการชาร์จแบตฯ ไร้สายอยู่แล้ว เจ้า Galaxy S10e | S10 | S10+ ก็สามารถผันตัวเป็น Wireless Power Bank ที่แชร์แบตฯ ในเครื่อง ไปชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วยนะ (อุปกรณ์เหล่านั้นต้องมีฟีเจอร์ชาร์จไร้สายด้วย วิธีแชร์แบตฯ ก็ไม่ยากเลย แค่แตะไว้ที่ด้านหลัง ก็ชาร์จแบตได้ทันที
การออกแบบดีไซน์ของตัวเครื่องของ Galaxy S10 | S10+ แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าตรงที่ มีดีไซน์หน้าจอแบบ Infinity-O ขอบบางพร้อมรูกล้อง (หน้าด้านขวาบน) ซึ่งในรุ่น S10 และ S10e จะเป็นรูกลมๆ ส่วนรุ่น S10+ รูจะดูยาวกว่านิดหน่อย (เพราะมี 2 กล้อง) ส่วนตำแหน่งการวางกล้องหลังก็วางเป็นแถวตรงแนวยาว (เรียงกันเป็นหน้ากระดาน)
สีตัวเครื่องที่เห็นในงาน ก็มีอยู่ 3 สี (สีที่ขายจริงมีมากกว่านี้) ได้แก่ สีขาว Prism White, สีดำ Prism Black, สีเขียว Prism Green ตามรูปที่เห็นด้านบน ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนเองรู้สึกชอบสีเขียว Prism Green มากๆ เพราะเวลาสะท้อนกับแสงแล้วมันไล่สีจากโทนสว่างไปโทนมืดสวยฟุดๆ
สเปคของ Galaxy S10 และ S10+ ต่างกันที่ ขนาดหน้าจอ กล้องหน้า แรม ความจุตัวเครื่อง และแบตฯ ส่วนรุ่น Galaxy S10e จะต่างกับทั้งสองรุ่นก่อนหน้าเยอะหน่อย เพราะเป็นตัวลดสเปค โดยดีไซน์หน้าจอจะเป็นแบบแบน, ขนาดจอเล็กกว่า, กล้องหลังคู่, กล้องหน้าเดี่ยว, แบตฯ, แรม และความจุตัวเครื่องจะน้อยกว่า ดังตารางด้านล่างนี้
| Galaxy S10e | Galaxy S10 | Galaxy S10+ |
หน้าจอ | หน้าจอ 5.8 นิ้ว ประเภท Dynamic AMOLED ความละเอียด ดีไซน์จอแบน สัดส่วน 19:9 | หน้าจอ 6.1 นิ้ว ประเภท Dynamic AMOLED ความละเอียด ดีไซน์จอโค้ง สัดส่วน 19:9 | หน้าจอ 6.4 นิ้ว ประเภท Dynamic AMOLED ความละเอียด ดีไซน์จอโค้ง สัดส่วน 19:9 |
กล้องหลัง | กล้องหลัง 2 ตัว ระบบกันสั่น เลนส์ระยะกลาง (Wide) เลนส์ Ultra-Wide | กล้องหลัง 3 ตัว ระบบกันสั่น เลนส์เทเลโฟโต้ เลนส์ระยะกลาง (Wide) เลนส์ Ultra-Wide | กล้องหลัง 3 ตัว ระบบกันสั่น เลนส์เทเลโฟโต้ เลนส์ระยะกลาง (Wide) เลนส์ Ultra-Wide |
กล้องหน้า | กล้องหน้า 1 ตัว | กล้องหน้า 1 ตัว | กล้องหน้า 2 ตัว RGB Depth |
ชิปเซ็ต | Exynos 9820 | ||
แรม | 6 GB / 8 GB | 8 GB | 8GB / 12 GB |
ความจำ | 128 GB | 128 GB | 128 GB |
เมมโมรี่การ์ด | สูงสุด 512GB | ||
แบตเตอรี่ | 3,100 mAh | 3,400 mAh | 4,100 mAh |
ระบบ | Android 9.0 Pie + One UI | ||
ระบบเชื่อมต่อ | Wi-Fi 6 / 3G / 4G / Bluetooth 5 | ||
พอร์ต | หูฟัง 3.5 มม. | ||
สแกนนิ้ว | ด้านข้างตัวเครื่อง | ฝังใต้จอ | ฝังใต้จอ |
ระบบ AI | รองรับ | รองรับ | รองรับ |
ระบบ Wireless PowerShare | รองรับ | รองรับ | รองรับ |
กันน้ำ/กันฝุ่น | IP68 | IP68 | IP68 |
สำหรับพรีวิว Samsung Galaxy S10 และ S10+ ก็คงจบแต่เพียงเท่านี้ จริงๆ ยังมีอีกหลายฟีเจอร์เลย แต่อดใจไว้ก่อน ไว้ได้เครื่องมารีวิวเมื่อไรจะรีบมาจัดเต็มให้เลยนะครับ
|
How to .... |