ล่าสุด Xiaomi ประกาศเปิดตัว Redmi Note 8 | Note 8 Pro มือถือ 4 กล้องหลัง ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์และฟังก์ชั่นแบบจัดเต็มไม่น้อยหน้าเรือธง แต่ค่าตัวนั้นอยู่ในระดับสุดคุ้มเท่านั้น รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มาดูกันเลย
Redmi Note 8 มีจุดเด่นเรื่อง กล้องหลัง 4 ตัว ฟีเจอร์เยอะเหมือนเรือธง แต่ราคาสบายๆ กระเป๋า มีราคาให้เลือก 3 แบบคือ
Redmi Note 8 มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Samsung ความละเอียด 48MP พร้อมกับกล้อง Ultra-Wide ถ่ายมุมกว้าง 8MP, กล้อง Macro 2MP ถ่ายระยะใกล้สูงสุด 2 ซม. และกล้องทำเอฟเฟคหน้าชัดหลังละลาย (Depth) 2MP
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 13MP พร้อมโหมดช่วยถ่าย เช่น ถ่ายรูปด้วยสัญญาณมือ, AI portrait selfie, AI scene detection และอื่นๆ
ตัวเครื่องใช้ดีไซน์กระจก Gorilla Glass 5 ทั้งหน้าและหลัง ทำให้เครื่องดูพรีเมี่ยม ส่วนสีมีให้เลือก 3 สีคือ Space Black | Neptune Blue | Moonlight White ส่วนหน้าจอใช้ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใช้ดีไซน์ Dot Drop มีติ่งพร้อมกล้องด้านบน ขอบข้างบางๆ ส่วนพอร์ตพอร์ตเชื่อมต่อเป็น USB-C พร้อมช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. รวมถึง IR Remote ที่ใช้มือถือเป็นรีโมทสั่งงานอุปกรณ์ต่างๆ
สเปคภายในใช้ชิปเซ็ต Snapdrangon 655 แรมและความจุมีให้เลือกหลายขนาด 3GB+32GB | 4GB+64GB | 4GB+128GB ส่วนแบตฯ มีความจุ 4,000 mAh ถ้าชาร์จเต็มๆ อยู่ได้ 2 วัน และยังมีระบบชาร์จเร็ว 18W อีกด้วย
สำหรับ Redmi Note 8 Pro นั้นชูจุดเด่นอยู่ 4 อย่างคือ มี 4 กล้อง กล้องหลักชัด 64MP ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G90T เพื่อเล่นเกมส์โดยเฉพาะ พร้อมระบบระบายความร้อน LiquidCool แบตฯ อึด 4500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W และจอกว้างเต็มตา 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ สนนราคาค่าตัวอยู่ที่
กล้องหลังมาพร้อมกัน 4 ตัว วางเรียงเป็นแนวตั้งอยู่ด้านหลังเครื่อง ทั้งหมดประกอบด้วย กล้องหลัก 64MP, กล้องมุมกว้าง 8MP, กล้อง Macro ถ่ายระยะใกล้ 2MP และกล้องทำเอฟเฟคหน้าชัดหลังละลาย (Depth) 2MP
การถ่ายรูปทำได้เหมือนกับกล้องจากเรือธงหลายๆ รุ่น ไม่ว่าจะเป็น ถ่าย 3 ระยะ ใกล้ กลาง ไกล, ถ่ายคม 64MP ถ่ายกลางคืน, ถ่ายภาพบุคคล, ถ่ายรูปเอฟเฟคหน้าชัดหลังละลาย รวมถึงการถ่ายแบบ Macro อีกด้วย
ส่วนกล้องหน้าชัด 20MP เก็บรายละเอียดได้เยอะ พร้อมฟีเจอร์ช่วยถ่ายง่าย ถ่ายรูปด้วยสัญญาณมือ, AI portrait selfie, AI scene detection, AI Face Unlock และอื่นๆ
ดีไซน์ตัวเครื่องดูพรีเมี่ยม ด้านหน้าและหลังใช้กระจกกันรอย Gorilla Glass 5 ขอบข้างโค้งมน ด้านหลังเป็นกระจกโค้ง ช่วยเรื่องการจับถือเข้ารูปมือ
มีให้เลือก 3 สีคือ Mineral Grey | Pearl White | Forest Green
หน้าจอกว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใช้ดีไซน์ Dot Drop ที่มีติ่งอยู่ด้านบน ของข้างบางมาก บางสุดที่ 1.8 มม. และหน้าสุดแค่ 4.2 มม. เทียบง่ายๆ คือมีสัดส่วนหน้าจออยู่ที่ 91.4% ของตัวบอดี้ทั้งหมด
ด้านสเปคก็จัดเต็มมาเพื่อการเล่นเกมส์โดยเฉพาะ ใช้ชิปเซ็ต MediaTek helio G90T ที่มาพร้อมกับ x2 Cortex A76 และ x6 Cortex A55 และเห็นว่าทำผลทดสอบ AuTuTu ดีกว่ามือถือค่ายอื่น
นอกจากนี้ยังมีแรมสูงถึง 6GB และความจุตัวเครื่อง 64 | 128GB แต่ถ้าไม่พอก็ใส่ microSD เพิ่มได้ถึง 256GB แถมยังแยก 3 ช่องอีกด้วยนะ ใส่ซิมคู่และการ์ดได้พร้อมกัน
แบตเตอรี่ก็มีมาให้มากถึง 4500 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 18W ใช้งานได้ยาวๆ 18 ชั่วโมง
สำหรับความร้อนก็ไม่ต้องห่วงเพราะใช้ LiquidCool เทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลว ช่วยลดความร้อนลง 4 - 6 องศา
ด้านการเชื่อมต่อ Redmi Note 8 Pro มาพร้อมกับเทคโนโลยี Wi-Fi antenna X เพิ่มจุดรับสัญญาณเข้าไปเพื่อให้การเชื่อมต่อลื่นไหล เล่นเกมส์ไม่สะดุด รวมไปถึงใส่เทคโนโลยี NFC เข้าไปด้วยช่วยให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น
โดยสรุปคือทั้งสองรุ่นมีค่าตัวที่เรียกได้ว่าสบายกระเป๋าสตางค์มากๆ พร้อมกับได้ฟีเจอร์เหมือนกับมือถือเรือธงหลายๆ รุ่นเลย ถ่ายรูปก็ได้ เล่นเกมส์ก็ดี แถมมีหน้าจอใหญ่อีกต่างหาก ถือว่าแจ่มเลย ส่วนใครอยากดูรีวิว Xiaomi Redmi Note 8 Pro แบบเต็มๆ ก็อดใจรอกันสักหน่อย เดี๋ยวทางเราจะรีบปั่นรีวิวออกมาให้ดูกัน
|
How to .... |