เราอาจจะคุ้นเคยกับกล้องวงจรปิดแบรนด์ SebO เป็นหลัก (อย่างที่เราเคยรีวิว SebO MARU มาแล้ว) แต่ SebO ไม่ได้จำหน่ายเพียงกล้องวงจรปิดเท่านั้น โดยสินค้าที่เราหยิบมารีวิวคราวนี้เป็น SebO SEISO เครื่องดูดฝุ่นไร้สายระดับเริ่มต้น ที่ราคาไม่แพงแต่ด้านสเปคและคุณภาพจัดว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
อุปกรณ์จำพวกเครื่องดูดฝุ่นไร้สายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์อุปกรณ์ทำความสะอาดที่ควรต้องมีติดบ้านกัน ไม่ว่าจะเป็นในความสะดวกที่หยิบมาใช้งานได้ ไม่ต้องเสียบสายไฟลากปลั๊กให้ระโยงระยาง มีความคล่องตัวในการทำความสะอาดสูงกว่า รวมไปถึงการหยิบใช้ทำความสะอาดพื้นที่อื่น ๆ นอกตัวบ้านอย่างเช่นในรถได้
ซึ่งบอกได้เลยว่า เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย SebO SEISO ก็ตอบโจทย์ตรงนี้พอสมควรเลยทีเดียว จะเป็นอย่างไรกันบ้างลองชมรีวิวกันดูได้เลย
กำลังมอเตอร์ | 150 วัตต์ |
แรงดูดสูงสุด | 13,000 ปาสคาล (Pa) |
ขนาดถ้วยเก็บฝุ่น | 500 มิลลิลิตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 392 x 110 x 164 มิลลิเมตร |
น้ำหนักตัวเครื่อง | 1.2 กิโลกรัม |
เสียงการทำงาน | 61 เดซิเบล |
แบตเตอรี่ | 2,000 มิลลิแอมป์ (mAh) |
ทำงานต่อเนื่องสูงสุด | 35 นาที |
ระยะเวลาการชาร์จ | 3 ชั่วโมง |
สำหรับอุปกรณ์เสริมไว้สำหรับผู้ที่อยากทำความสะอาดไรฝุ่นหรือฝุ่นขนาดเล็กเพิ่มเติมอีก เช่น เตียงนอน ผ้าห่ม โซฟา เบาะนั่ง หรือแม้แต่ขนแมวที่มีขนาดเล็กมาก ๆ
เป็นส่วนประกอบในการทำงานหลัก ๆ ของเครื่องดูดฝุ่น ส่วนประกอบหลักประกอบไปด้วยตัวบอดี้ ที่มีด้ามจับ "ปุ่ม Power" ไฟบอกสถานะ และถ้วยเก็บฝุ่นพร้อมระบบไซโคลน
ตัวบอดี้มี "ปุ่ม Power" เอาไว้ใช้ในการควบคุมการทำงานหลัก ๆ กดค้างเพื่อเปิดเครื่องไปที่โหมดมาตรฐาน กดอีกครั้งไปที่โหมดดูดแรง และกดอีกครั้งเพื่อปิด ซึ่งเราชอบที่กดค้างเพื่อเปิดนะ จะได้ไม่มือลั่นเผลอกดเปิดเครื่องบ่อย ๆ
ไฟบอกสถานะและคำสั่งในการใช้งาน
ด้ามจับเป็นรูปตัวเจ (J) มุมมน ขณะจับถือมือจะอยู่เหนือตัวเครื่องในลักษณะการหิ้วทำให้เราไม่ต้องรับน้ำหนักเครื่องเยอะ และการที่ด้ามจับครอบคลุมทั้งด้านบนและด้านหลัง ทำให้ระหว่างการทำความสะอาดพื้น เราสามารถเลื่อนมือที่จับตามระยะการใช้งานได้ ลากไกลตัวจับด้านหลัง ลากใกล้ตัวหรือเอื้อมไปกดปุ่มก็จับด้านบน บวกกับน้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม ก็ถือว่าไม่ได้หนักมาก ใส่กับแปรงเล็ก ๆ ถือใช้งานได้สบายเลย
สำหรับตัวถ้วยเก็บฝุ่นขนาด 500 มิลลิลิตร ก็ค่อนข้างมาตรฐาน ถ้ามากกว่านี้ก็คงจะใหญ่ไป ซึ่งก็มาพร้อมกับระบบไซโคลน ที่จะช่วยจัดการแยกฝุ่นผงกับขยะชิ้นใหญ่เพื่อไม่ให้แรงดูดของเครื่องดูดฝุ่นตกนั่นเอง สามารถเปิดฝาใต้ถ้วยเทฝุ่นผง ขยะต่าง ๆ ได้ทันที รวมทั้งสามารถปลดทั้งถ้วย ตัวไซโคลนและไส้กรองมาทำความสะอาดได้
ถ้วยเก็บฝุ่น / ไซโคลน / ไส้กรอง
หัวแปรงหลักสำหรับทำความสะอาดพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น พื้นห้อง หรือเฟอร์นิเจอร์พื้นผิวเรียบ แกนแปรงปัดด้านในวางตัวเป็นลอนคลื่นเรียงติดกัน ใช้สำหรับทำความสะอาดเศษผมให้มาติดตามแกนได้ มีมอเตอร์ในตัวสำหรับหมุนแกนกำลังไฟฟ้า 12 วัตต์ (Watts)
แปรงขนนุ่ม เรียงตัวยาวตลอดแกน
สำหรับการใช้ทำความสะอาดพื้น ข้อต่อแปรงสามารถบิดเลี้ยวซ้าย-ขวาได้ ด้านใต้มี 2 ล้อใหญ่และ 2 ล้อเล็กช่วยทุนแรงให้เคลื่อนที่ได้สะดวกมากขึ้น ใช้งานคู่กับการต่อท่อยาว ๆ ได้ดี
นอกจากนี้แล้ว เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย SebO SEISO เป็นหัวดูดชนิดปากแคบที่สามารถสลับการใช้งานเป็นหัวแคบกับหัวแปรงได้ สำหรับหัวแคบก็ใช้ดูดทำความสะอาดบริเวณซอกหลืบของหน้าต่าง ขอบตู้ หรือมุมห้อง ส่วนขนแปรงก็ไว้ช่วยสำหรับปัดเศษฝุ่นผงที่ติดอยู่บริเวณรอยตะเข็บเบาะเฟอร์นิเจอร์ออกมา
การสลับแปรง ตัวแปรงจะมีตัวล็อกดึงเข้า-ออกได้สลับได้ง่าย การเก็บขนแปรงเข้าสามารถเก็บเข้าไปได้ลึกพอสมควร
อุปกรณ์ที่ต้องซื้อเพิ่มถ้าต้องการทำความสะอาดดูดฝุ่นที่ละเอียดมากขึ้น โดยแปรงดูดไรฝุ่นจะทำให้เราสามารถทำความสะอาดไรฝุ่น ผงต่างๆ หรือขนแมวที่มีขนาดเล็กและฝังตัวลึกอยู่บนพื้นผิวต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น เตียง ผ้าห่ม โซฟา เบาะผ้า หรือพรม
โดยลักษณะของตัวแปรงความกว้างจะสั้นกว่าหัวแปรงดูดพื้น แกนของแปรงทำความสะอาดด้านในจะมีขนแข็งยาวที่ซอกซอนได้ลึกกว่า แกนหมุนทำงานด้วยมอเตอร์ และตัวแปรงสามารถบิดองศาในแนวตั้งได้เล็กน้อย
แปรงขนแข็ง จับตัวเป็นกลุ่ม
เป็นท่อสแตนเลสเพิ่มความยาวให้กับหัวดูดรูปแบบต่าง ๆ ไว้ใช้งาน จะต่อกับหัวดูดแบบแปรงเพื่อทำความสะอาดพื้นแบบไม่ต้องก้มก็ได้ หรือจะต่อกับหัวแปรงแบบอื่น ๆ ไว้ทำงานในมุมสูง หรือตามซอกหลืบลึก ๆ ก็ได้ ตัวท่อน้ำหนักไม่มาก แต่ก็ไม่แนะนำให้ต่อกับหัวดูดแบบแปรงแล้วใช้งานในมุมสูงนะเพราะน้ำหนักเมื่อรวมกับแปรงดูดก็จะเพิ่มขึ้นมาพอสมควรเลย
ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องดูดฝุ่นระดับเริ่มต้นที่ราคาไม่สูง แต่ข้อต่อต่าง ๆ ก็มีตัวล็อกที่สามารถกดเพื่อปลดได้ง่าย ๆ แม้แต่แปรงเล็ก ๆ อย่างแปรงซอกซอน เพราะเครื่องดูดฝุ่นไร้สายบางแบรนด์ในตลาด จะใช้การเสียบท่อเข้าไปตรง ๆ และใช้แรงในการดึงออก ซึ่งถ้าผู้ใช้ตัวเล็กหรือไม่มีแรง ก็จะหมดสิทธิ์เปลี่ยนแปรงเองเลย ตรงนี้ค่อนข้างประทับใจ
ข้อต่อแบบปุ่มล็อกที่มีให้ทั้งบนตัวเครื่องและช่วงท่อต่อ
ตัวอุปกรณ์ชาร์จหรืออะแดปเตอร์มีลักษณะเหมือนอะแดปเตอร์ทั่ว ๆ ไป ความยาวสายประมาณ 2 เมตร จ่ายไฟที่ 26.5V (Output) ส่วนรับไฟอยู่ที่ 100-240 โวลต์ (Volts) นอกจากไฟบ้านในบ้านเมืองเราแล้ว จะนำไปชาร์จใช้งานต่างประเทศก็ได้อยู่ ส่วนหัวปลั๊กเป็นมาตรฐาน Type A แบบขาแบน 2 ขา ก็ใช้งานได้ง่ายในบ้านเรา
อะแดปเตอร์ Input 100-240V ใช้ในต่างประเทศได้
ส่วนแท่นติดผนังเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมแบน ๆ ขนาดเล็ก ยึดติดกับผนังด้วยแผ่นกาว 3M มีก้านไว้ล็อกกับตรงด้ามจับของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น แต่ลักษณะการจับจะไม่ได้ล็อกแน่นหนาแบบติดเครื่องดูดฝุ่นลอยตัวได้ จะเป็นการประคองไว้เสียมากกว่า เพราะฉะนั้นเวลาเก็บเครื่องดูดฝุ่นติดผนัง จะต้องประกอบเป็นแบบทำความสะอาดพื้นเพื่อให้สามารถวางตั้งกับพื้นได้ แล้วใช้แท่นประคองแทน
แท่นยึดผนัง ยึดตัวเครื่องไว้ไม่ให้ล้ม
จริง ๆ แล้วดูเหมือนว่าแท่นติดผนังจะทำขอบมาพอดีกับด้ามจับอีกฝั่งที่มีความหนามากกว่า ซึ่งทำให้ล็อกได้แน่นกว่าแต่ก็ไม่เหมาะที่จะล็อกด้านนี้ เพราะหัวแปรงดูดพื้นจะติดขอบผนัง ไม่สามารถวางตั้งอย่างมั่นคงได้
เป็นอุปกรณ์คนละชิ้นกันแต่ขอเอามาเขียนคู่กัน เพราะบางแบรนด์ในตลาดทำ 2 อุปกรณ์นี้ให้เป็นเรื่องเดียวกัน ก็คือเสียบอุปกรณ์ชาร์จไว้กับแท่นเลย พอแขวนเก็บก็ชาร์จทันที แต่แบรนด์นี้ทำแยกกัน ก็มีข้อดีตรงที่ แท่นติดผนังมีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถหาพื้นที่ไว้ติดใช้งานได้ง่าย ๆ แต่ถ้าจะให้สะดวกแบบเสียบแท่นด้วยชาร์จด้วย ก็ต้องหาทำเลติดตั้งดี ๆ หน่อย
ระยะติดแท่นต้องดูระยะสายไฟด้วย
การจะใช้งานเครื่องดูดฝุ่นสำหรับมือใหม่ เราต้องเข้าใจหน้าที่ของหัวดูดทำความสะอาดแต่ละประเภทก่อน ซึ่ง เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย SebO SEISO มากับหัวแปรงและหัวดูดให้ใช้งาน 2 (+1) แบบ อย่างที่แจ้งไปแต่แรกว่า หัวดูดจะมาในกล่อง 2 รูปแบบ และมีออพชั่นให้ซื้อหัวดูดไรฝุ่นอีก 1 แบบให้ซื้อเพิ่มเติม มาดูการหน้าที่และการใช้งานของแต่ละแบบกัน
เป็นหัวดูดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ทำให้เหมาะกับการใช้งานพื้นผิวเรียบบริเวณกว้าง อย่างเช่น พื้นห้อง โต๊ะ หลังตู้ เฟอร์นิเจอร์ ตัวขนแปรงไม่ยาวมาก สามารถทำความสะอาดพื้นผิวประเภทพรมขนสั้นได้อยู่บ้าง แต่ถ้าพื้นผิวลึกมาก ๆ ต้องขยับไปใช้หัวดูดไรฝุ่นที่มีขนแปรงยาวกว่าแทนจะดีกว่า
สำหรับการใช้งาน หัวดูดแบบแปรงจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับท่อต่อเพื่อทำความสะอาดพื้นเป็นหลัก มีแกนหมุนแบบ 180 องศา ให้สามารถเลี้ยวซ้ายขวา เมื่อเราขยับข้อมือเพียงนิดเดียวได้และล้อทั้ง 4 ล้อที่ช่วยให้เราลากเครื่องดูดฝุ่นไปบนพื้นได้สะดวกขึ้น ใช้งานได้สะดวกอยู่ไม่น้อยเลย
บิดข้อมือเบาๆ ก็เลี้ยวได้ดั่งใจ
นอกจากการทำความสะอาดพื้นแล้ว จะเปลี่ยนเป็นต่อตรงกับตัวเครื่องให้เป็นข้อต่อสั้นก็ทำได้เช่นกันถ้าต้องการ แต่ถ้าจะนำไปจัดการกับพวกเครื่องนอน โซฟาอะไรแบบนี้ โดยส่วนตัวผมแนะนำให้ใช้หัวดูดไรฝุ่นแยกกับหัวดูดแบบแปรงจะดีกว่า จะได้แยกใช้งานระหว่างพื้นกับพื้นที่อื่น ๆ ไป
หัวดูดที่ปากเล็กที่สุด ของ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย SebO SEISO โดยหน้าที่หลักของมันก็คือ ช่วยทำความสะอาดพื้นที่เล็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามซอกหลืบต่างๆ ที่แปรงใหญ่เข้าไม่ถึง เช่น ขอบหน้าต่าง ใต้ตู้ ข้างตู้เย็น หลังเตียง ซอกเบาะโซฟา รางเลื่อนประตู เป็นต้น โดยมีตัวเลือกเป็นหัวดูดแคบที่ซอกซอนเข้าไปยังจุดต่าง ๆ ได้ลึกกว่า หรือหัวแปรงที่ช่วยปัดเศษฝุ่นผงตามซอกเพื่อทำความสะอาดได้
ด้านการใช้งานหัวแปรง 2in1 กลายเป็นหัวดูดหลักของเราเลย เพราะมักจะใช้ดูดฝุ่นในรถ โซฟา มุ้งลวด หรือคีย์บอร์ดคอมเป็นหลัก น่าเสียดายเล็ก ๆ ที่แม้จะเก็บแปรงเข้าไปได้ลึกระดับหนึ่ง แตถ้าใช้งานดูดตามซอกตู้ที่ลึกหน่อย ก็จะเข้าไม่ได้ลึกมากเพราะติดหัวแปรงอยู่ดี
ดึงลงมาได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้แรงเยอะ
คล้ายกับหัวดูดแบบแปรงอันแรก แต่มีขนาดสั้นกว่า และแกนแปรงด้านใน มีขนแปรงที่แข็งและยาวกว่า ทำให้สามารถปัดไรฝุ่นหรือขนแมวที่ติดอยู่ในพื้นผิวผ้าต่างๆ อย่างเช่น ผ้าห่ม ฟูกเตียงนอน หรือโซฟา ขึ้นมาได้ ซึ่งเวลาใช้งานจะค่อนข้างแตกต่างจากหัวดูดแบบแปรงอยู่หน่อย ๆ คือหัวดูดด้านบนจะใช้ดูดฝุ่นหรือขยะชิ้นใหญ่ที่สังเกตได้ง่าย แต่กับหัวดูดไรฝุ่นจะดูดฝุ่นหรือขยะชิ้นเล็กมาก ๆ ซึ่งเวลาทำความสะอาดก็คือไล่ดูดไปจนครบพื้นที่
หัวดูดไรฝุ่น ขนาดกะทัดรัดกว่าหัวดูดแบบแปรง
SebO SEISO มีโหมดการใช้งานตามความแรงอยู่ 2 ระดับ ก็คือ โหมดมาตรฐานและโหมดดูดแรง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
เอาจริงๆ แล้วแรงดูดระดับนี้ของ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย SebO SEISO ถือว่าค่อนข้างแรงอยู่นะ ถ้าเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็จะมีความแรงอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 Pa เอง เพราะฉะนั้นแรงดูด 10,000 Pa กับการใช้ทำความสะอาดห้องทั่ว ๆ ไปก็ถือว่าเหลือ ๆ อีกอย่างเรื่องการทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น นอกจากแรงดูดแล้ว แปรงปัดก็มีผลต่อความสะอาด การเลือกแปรงที่ถูกต้องก็จะช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้งานจริง ๆ จะเป็นอย่างไร ลองทดสอบกันดูดีกว่า
ตรงนี้เราทดสอบด้วยผงโกโก้ที่น่าจะมีขนาดพอ ๆ กับฝุ่น และน้ำตาลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย เปิดด้วยแรงดูดมาตรฐาน ก็สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการลากในครั้งเดียว อาจจะมีเก็บเล็ก ๆ รอบสองบ้าง แต่โดยรวมก็ค่อนข้างน่าพอใจ ส่วนพวกขยะเปียกเราไม่ค่อยแนะนำให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นซักเท่าไหร่ เพราะถ้าไปเปื้อนตัวกรองด้านในจะทำให้ส่งกลิ่นได้ ส่วนขยะชิ้นใหญ่ก็ควรจะเป็นไม้กวาดมากกว่านะครับ
|
|
สำหรับหัวดูด 2in1 เป็นหัวดูดที่เราต้องใช้โหมดดูดแรงบ่อย ๆ เพราะซอกต่าง ๆ นั้นหัวดูแบบอื่นที่มีแปรงจะเข้าไม่ถึง จึงต้องใช้แรงดูดล้วน ๆ ซึ่งถ้าเศษฝุ่นผงต่าง ๆ ติดแน่นอยู่ตามซอกจริง ๆ ก็ต้องใช้แปรงหรือไม้กวาดช่วยในการปัดออกมาก่อนอยู่ดี แต่ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ถ้าหัวดูดแคบถูกแยกออกจากแปรงปัดก็จะช่วยให้เข้าไปดูดทำความสะอาดได้ลึกขึ้น
ส่วนรูปแบบแปรงปัดก็เอาไว้ช่วยกวาดฝุ่นละอองออกจากซอกหรือรอยตะเข็บให้ดูดฝุ่นได้ง่ายขึ้น ตรงนี้ใช้โหมดดูดมาตรฐานก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
|
|
สำหรับหัวดูดไรฝุ่น ถ้าทดสอบเหมือนหัวดูดแบบแปรงก็สังเกตได้ยากหน่อย ซึ่งเมื่อลองนำไปใช้งานจริง ดูดฝุ่นจากพวกโซฟา หมอน เมื่อเช็คถ้วยเก็บฝุ่นดูก็เห็นได้ชัดว่าไรฝุ่นถูกดูดมาเก็บไว้ในปริมาณหนึ่ง รวมทั้งยังฟุ้งติดตามแกนแปรงของหัวดูดอีกด้วย ถ้าต้องทำความสะอาดด้วยหัวดูดไรฝุ่น ก็แนะนำเลยว่าให้ใส่หน้ากาก ปิดปากหรือจมูกให้ดีก่อนทำความสะอาดนะ
ความน่าสนใจอย่างหนึ่งของ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย SebO SEISO คือเสียงการทำงานในโหมดมาตรฐานที่ 61 เดซิเบล (dB) ที่ไม่ได้ดังจนรบกวน (เทียบกับภาพด้านล่างจะอยู่ในระดับที่เบากว่าเสียงในสำนักงาน) แต่ก็ยังได้แรงดูดที่มากถึง 10,000 ปาสคาล (Pa) ระหว่างการทำความสะอาดก็จะไม่รบกวนผู้อื่น หรือข้างห้องมากนัก
ระดับเสียงตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
ขอบคุณภาพจาก https://gendb.pcd.go.th/NOISE/standard.jpg
ด้านระยะเวลาในการใช้งานสูงสุดเพียง 35 นาที ถ้าดูเผิน ๆ อาจจะดูน้อย แต่จริง ๆ ก็เป็นปกติของเครื่องดูดฝุ่นไร้สายนะ เพราะถ้าจะให้ใช้ได้นานกว่านี้ แบตเตอรี่ก็ต้องใหญ่ขึ้น หนักขึ้น และก็คงไม่มีใครอยากถือเครื่องดูดฝุ่นหนัก ๆ ทำความสะอาดนานถึงครึ่งชั่วโมงหรอก
การที่เครื่องดูดฝุ่นไร้สายจะออกแบบมาให้เบาที่สุดด้วยการลดขนาดแบตเตอรี่ก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว จะให้พูดถึงจริง ๆ ก็คือความเหมาะสมในการใช้งาน ที่เครื่องดูดฝุ่นไร้สายจะเหมาะกับ หอพัก คอนโด ห้องขนาดเล็ก หรือพกไว้ใช้งานบนรถมากกว่า รวมทั้งการที่ต้องชาร์จเตรียมไว้ใช้งานในครั้งต่อไปทุกครั้ง โดยเวลาการชาร์จของ SebO SEISO จะอยู่ที่ 2-3 ชั่วโมง
สำหรับการทำความสะอาด เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย SebO SEISO จะมีอุปกรณ์ที่ต้องทำความสะอาดอยู่หลัก ๆ 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนถ้วยเก็บฝุ่น และแปรง/หัวดูดทำความสะอาดต่าง ๆ
เริ่มที่ถ้วยเก็บฝุ่นก่อน เมื่อขยะเต็มจากการใช้งานระหว่างวันก็สามารถกด "ปุ่มเทขยะ" เพื่อทิ้งขยะและฝุ่นผงต่าง ๆ ได้ทันทีจากตัวเครื่อง แต่ถ้าสิ่งสกปรกเริ่มหมักหมมมาก ๆ ก็สามารถถอดถ้วยเก็บฝุ่นออกมาจากตัวเครื่องได้โดยการกด "ปุ่มทำความสะอาด" เพื่อทำการปลดล็อก และน้ำถ้วยไปล้างได้หากมีฝุ่นเกาะตามขอบถ้วย
|
|
ตัวถ้วยเก็บฝุ่นจะแยกได้ออกเป็น 3 ชิ้น ได้แก่ ถ้วยเก็บฝุ่น ตัวไซโคลน และแผ่นกรอง ซึ่งอุปกรณ์ทั้ง 3 ชิ้นบนตัวกล่องแจ้งไว้ว่าเป็นอุปกรณ์แบบที่สามารถล้างทำความสะอาดได้ (Washable) ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วสำหรับตัวแผ่นกรองเราไม่ค่อยแนะนำให้ล้างทำความสะอาดเท่าไหร่นะ อาจจะแค่เช็ดหรือเป่าทำความสะอาดก็เพียงพอ
|
หัวดูดหากเป็น 'หัวดูดแบบ 2 in 1' ก็สามารถล้างน้ำได้ตามปกติ แต่ถ้าเป็นอีก 2 แบบก็สามารถถอดแกนแปรงออกมาล้างได้ โดยแต่ละอันก็จะมีวิธีการถอดคล้าย ๆ กันที่ต้องปลดล็อกด้านข้างก่อน แล้วจึงดึงแกนออกมา ส่วนการทำความสะอาดก็ล้างน้ำได้เลย ส่วนเส้นผมที่ติด ๆ ก็ใช้วิธีดึงออกเอา และตัวหัวดูดไม่แนะนำให้ล้างน้ำ เพราะมีมอเตอร์อยู่ในตัว ใช้วิธีชุบน้ำเช็ดน่าจะเหมาะกว่า
| |
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย SebO SEISO ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากได้เครื่องดูดฝุ่นไร้สายระดับเริ่มต้นไว้ใช้งาน ที่เราชอบหลัก ๆ ก็คือเรื่องดีไซน์หลาย ๆ ส่วนที่ทำมาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการจับถือ น้ำหนักที่เบา การเปลี่ยนหัวดูดต่าง ๆ ซึ่งส่วนของหัวดูดถึงแม้จะมีให้เลือกใช้งานไม่มาก แต่ในระดับเริ่มต้นก็ครอบคลุมอยู่ ที่สำคัญคือเป็นสินค้าที่มีประกันจากทางผู้จำหน่ายด้วย โดยตัวเครื่องจะมีประกันสินค้า 1 ปี ส่วนแบตเตอรี่จะมีประกันอยู่ที่ 6 เดือน เป็นสิ่งที่ช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
|
... |