10 แอปพลิเคชันจดบันทึก เขียนโน้ต ที่น่าสนใจ บน Windows 10 (Top 10 Recommended Note Taking Apps)

10 แอปพลิเคชันจดโน้ตที่น่าสนใจ บน Windows 10
(Top 10 Recommended Note Taking Apps)

เมื่อเทคโนโลยีก้าวเข้ามาในชีวิตของเรามากขึ้น ทำให้เราก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบได้อย่างที่เป็นไปในปัจจุบัน และทำให้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่เป็นแบบแมนนวล (Manual) หรือเป็นรูปธรรมนั้น เริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา หนึ่งในนั้นคือการจดบันทึก ที่ในอดีต เราจะเคยชินกับการจับดินสอปากกา และเหล่าบรรดาลิควิดยางลบ เพื่อเอาไว้จดบันทึกสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่ต้องการ 

Credit : https://www.freepik.com/free-photo/business-women-signature-document_1155996.htm#page=1&query=women%20writing&position=4

การจดบันทึก ถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้คุณสามารถระลึกถึงและจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ และสามารถย้อนกลับมาดูใหม่ได้ตลอดเวลา แต่การจดลงกระดาษหรือกระดานนั้น มักจะมีข้อเสียตามมาในเรื่องการเก็บรักษา ที่จะต้องจดจำสถานที่จัดเก็บ และอุปกรณ์จดบันทึกมีความเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา จึงทำให้หลายคนสนใจที่จะบันทึกในรูปแบบของไฟล์ดิจิทัลกันมากขึ้น ดังนั้น เราจะมาแนะนำแอปพลิเคชันจดโน้ตยอดนิยมในปัจจุบันบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ให้รู้จักกันค่ะ

1. แอป Sticky Notes

สำหรับแอปพลิเคชัน Sticky Notes เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยใช้กันมาบ้างแล้ว เพราะมันมีหน้าตาเป็นมิตร คล้ายกันกับที่เราชอบแปะโน้ตไว้ตามหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือตู้เย็นเพื่อกันลืมให้ตัวเองและคนรอบข้าง

สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้งาน หน้าตาการใช้งานมันก็จะมีลักษณะคล้ายกับการที่เราหยิบโน้ตออกมาจากกองโน้ตทีละใบแล้วเอามาจดนั่นแหละ แต่ต่างกันที่สถานที่ที่เราจะแปะ เพราะเนื่องจากมันเป็นแอปพลิเคชัน ดังนั้น เราก็จะได้แปะโน้ตนี้บนหน้าจอเดสก์ทอปแทน ส่วนประโยชน์อื่น ๆ ที่แอป Sticky Notes มีให้ก็เช่น

• จดโน้ตในรูปแบบของตัวอักษรหรือรูปภาพก็ได้บนโน้ต
• มีหลายสีให้เลือกแบบกระดาษโน้ตทั่วไป
• สามารถจัดระเบียบโน้ตได้ง่าย
• ปักหมุดไว้ที่หน้าจอเดสก์ทอปได้
• ซิงค์โน้ตผ่าน OneDrive ได้ ทำให้สามารถเข้าถึงได้จากทั้ง PC และอุปกรณ์อื่น ๆ
• มีฟีเจอร์เพิ่มเที่ยวบินหรืออีเว้นท์บนปฏิทินควบคู่ไปกับการแจ้งเตือนได้
• ในกรณีที่ใช้งานผ่าน Surface Pro หรือแท็บเล็ตที่รองรับ สามารถใช้ปากกาเขียนโน้ตโดยตรงได้ด้วย

ดาวน์โหลดแอป Sticky Notes :

• https://www.microsoft.com/th-th/p/microsoft-sticky-notes/9nblggh4qghw

เงื่อนไขการใช้งาน :

• แจกฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

2. แอป Notion

เพราะการจดโน้ต เรามักจะมีการใส่ว่างานไหนสำเร็จแล้วบ้าง ด้วยปากกาและโน้ตบุ๊กเล่มเล็ก และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำไม แอปพลิเคชัน Notion ถึงเป็นแอปพลิเคชันตัวแรกที่เราแนะนำ

Notion ถือเป็นแอปพลิเคชันที่มีเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ในการจดโน้ตมากมาย นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์สำหรับการจัดเรียงและค้นหาที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบค้นภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประเภทของเนื้อหา, บอร์ดคัมบัง (Kanban มาจากภาษาญี่ปุ่น 看板 แปลว่าป้าย อย่าไปอ่านว่าการบ้านล่ะ), ตาราง, รายการ, และเครื่องมืออื่น ๆ ที่ทำให้สามารถปรับแต่งขั้นตอนการทำงาน (Workflow) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Credit: https://play.google.com/store/apps/details?id=notion.id&hl=th

นอกจากจะมีให้ใช้กันใน Windows 10 แล้ว ยังมีให้ใช้กันในระบบปฏิบัติการ macOS, iOS, Android, และในรูปแบบของ Web Clipper สามารถซิงค์ข้ามแพลตฟอร์มได้ด้วยนะ เรียกว่าใช้ได้ทุกเครื่องที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเลย

Credit: https://www.notion.so/

ดาวน์โหลดแอป Notion :

• สำหรับ Windows 10 และ macOS : https://www.notion.so/desktop
• สำหรับ iOS และ Android : https://www.notion.so/mobile

เงื่อนไขการใช้งาน :

• ฟรีสำหรับการใช้งานส่วนตัว แต่ถ้าต้องการใช้รูปแบบอื่น ๆ ก็ตามไปดูราคาได้ที่ : https://www.notion.so/pricing

3. แอป Evernote

คาดว่าชื่อเสียงเรียงนามของ แอปพลิเคชัน Evernote น่าจะเคยผ่านหูผ่านตาผู้อ่านกันมาบ้างแล้ว ซึ่งเมื่อเราพูดถึงแอปพลิเคชันสำหรับจดโน้ต จะขาดมันไปได้อย่างไร โดยแอป Evernote ถือเป็นแอปมาตรฐานที่หลายคนรู้จักกันดีเพราะเป็นแอปพลิเคชันเจ้าแรก ๆ ที่สามารถจดโน้ตและทำการซิงค์ข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มได้ 

Credit: https://evernote.com/intl/th

ส่วนฟีเจอร์ หรือว่าความสามารถใน แอป Evernote ที่นอกเหนือจากการเพิ่มเนื้อหาทั่ว ๆ ไปอย่าง การเพิ่มตัวอักษร, รูปภาพ, ไฟล์เสียง, และไฟล์แนบแล้ว ยังสามารถเพิ่มเอกสารสแกน, บันทึกเสียงลงไปโดยตรง, หน้าเว็บที่ถูกคลิปมาโดยเราสามารถใช้ ส่วนต่อขยายของเว็บเบราว์เซอร์ (Browser Extension) เพื่อบันทึกลงไปพร้อมกับการจดโน้ตได้, แถมยังบันทึกหน้าบทความ (Articles) ไว้สำหรับอ่านภายหลังได้ด้วย

Credit: https://evernote.com/intl/th

แอป Evernote มีให้บันทึกทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows 10, macOS, iOS, และ Android สามารถเริ่มใช้งานได้ฟรี โดยมีฟีเจอร์พื้นฐาน และพื้นที่อัปโหลดให้ 60 MB. ในแต่ละเดือน แต่ถ้าสนใจใช้งานฟีเจอร์อื่น ๆ อย่าง การเข้าถึงโน้ตบุ๊กแบบออฟไลน์, การผนวกเข้ากับอีเมลล์, การค้นหาไฟล์, ฯลฯ ก็สามารถต่อยอดไปใช้งานแบบเสียตังค์กันต่อได้

ดาวน์โหลดแอป Evernote :

• https://software.thaiware.com/10112-Evernote-Download.html

เงื่อนไขการใช้งาน :

• ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย (แต่อัปโหลดข้อมูลได้ไม่เกิน 60 MB.)

4. แอป Microsoft OneNote

Microsoft OneNote เป็นโปรแกรมที่มักมีติดมาให้กับเครื่องอยู่แล้ว เพราะเป็นโปรแกรมที่ติดมากับระบบปฏิบัติการ Windows 10 แน่นอนว่าใช้ได้ฟรี แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ก็สามารถ ซื้อชุดโปรแกรมออฟฟิศ Office 365 ที่รวม โปรแกรมออฟฟิศ (Office Suite Software) อื่น ๆ และมีโปรแกรมนี้ติดมาด้วยกันได้

Credit: https://www.microsoft.com/th-th/microsoft-365/onenote/digital-note-taking-app

ส่วนใหญ่แล้ว แอปพลิเคชันนี้จะมาในรูปแบบเวอร์ชันเดสก์ทอป แต่ก็มีเวอร์ชันยูนิเวอร์แซล (Universal Version) ให้เลือกใช้ด้วย ทำให้เราสามารถจัดการรายการสิ่งที่ต้องทำ, บรรดาโปรเจกต์ทั้งหลาย และจัดระเบียบข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยเวอร์ชันเดสก์ทอป จะใช้งานร่วมกับเมาส์และคีย์บอร์ดเป็นหลัก ในขณะที่เวอร์ชันยูนิเวอร์แซล จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่รองรับอุปกรณ์ระบบสัมผัสและแล็ปท็อป

Credit: https://www.microsoft.com/th-th/microsoft-365/onenote/digital-note-taking-app

ถึงแม้จะเป็นโปรแกรมฟรีที่ติดมากับระบบปฏิบัติการ แต่ก็มีอรรถประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น

• ซิงค์โน้ตระหว่าง PC และอุปกรณ์อื่น ๆ
• เข้ารหัสไฟล์และโน้ตได้
• ใช้การเสิร์ชเพื่อค้นหาตัวอักษรได้ทั้งรูปแบบการพิมพ์และลายมือเขียน
• จับภาพหน้าเว็บเป็นโน้ตแล้วเพิ่มเข้าโน้ตไลบรารีได้
• เซฟเนื้อหาจาก Outlook ได้
• เพิ่มรายการสิ่งที่ต้องทำเข้าไปในโน้ตเพื่อติดตามงานได้
• จัดเก็บโน้ตที่เป็นไฟล์เสียงได้

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Microsoft OneNote :

• https://software.thaiware.com/1165-Microsoft-OneNote-Download.html

เงื่อนไขการใช้งาน :

• ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

5. แอป Quip

แอป Quip เป็นแอปพลิเคชันจดโน้ต ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเอาไปใช้งานร่วมกันกับเอกสารอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งชีตงานที่เป็นตารางในรูปแบบของสเปรดชีต (Spreadsheets)

ตัวแอปพลิเคชันนี้จะไม่เหมือนแอปจดโน้ตอื่น ๆ ทั่วไป เพราะ แอป Quip จะทำการจดโน้ต แล้วเซฟเอกสารหรือชีตงานร่วมกันเพื่อสร้างเป็นไฟล์ของตัวเองขึ้นมา และมีฟีเจอร์ค้นหาที่เราสามารถค้นหาไฟล์เอกสารหรือชีตงานได้โดยตรง แล้วฝังไฟล์รวมเข้ากับเอกสารอื่น ๆ ในแอปพลิเคชันอีกทีได้ด้วย ตัวแอปพลิเคชันมีรูปแบบอินเตอร์เฟซที่ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และมีความสามารถในการเซฟไฟล์เป็นฟอร์แมตที่แตกต่างกันได้ แถมยังเผยแพร่ (Publish) โน้ตออกมาเป็นเว็บได้ (ดีต่อใจชาวบล็อกเกอร์) หรือแม้กระทั่งเซฟเป็นฟอร์แมตที่แตกต่างกันเพื่อแชร์ต่อได้ 

Credit: https://quip.com/

ส่วนไฟล์ชีตงานของ Quip จะทำงานเหมือนกับโปรแกรม Microsoft Excel ที่ทำให้คุณสามารถคำนวณตัวเลขภายในแอปพลิเคชันได้เลยโดยตรง ซึ่งถือเป็นประโยชน์มาก ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับแอปจดโน้ตอื่น ๆ 

Credit: https://quip.com/

ดาวน์โหลดแอป Quip :

• https://software.thaiware.com/13722-Quip-Download.html

เงื่อนไขการใช้งาน :

• ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
• ถ้าใช้เป็นทีมก็จะมีค่าใช้จ่ายแบบ Team Plan อยู่ที่ราว 10 - 30 เหรียญสหรัฐฯ (300 - 900 บาท) ต่อเดือน

6. แอป Simplenote

แอป Simplenote เป็นแอปพลิเคชันจดโน้ตที่มีความ "ซิมเพิล" (เรียบง่าย) สมชื่อ ไม่มีความซับซ้อนหรือฟีเจอร์ต่าง ๆ เข้ามา แต่นั่นก็หมายความว่ามันสามารถเอาไว้ใช้งานได้แค่จดโน้ตเท่านั้น และไม่สามารถเพิ่มไฟล์มีเดียอื่น ๆ, เก็บหน้าเว็บ, หรือผนวกเข้ากับอีเมลได้ อีกทั้งไม่มีตัวเลือกฟอร์แมตในการจดโน้ตอะไรทั้งนั้น เหมือนกับที่เราใช้กระดาษโน้ตกับปากกาทั่วไปอะไรแบบนั้น

Credit: https://simplenote.com/

ส่วนฟีเจอร์ที่ Simplenote มีให้หลัก ๆ ก็คือ

• ติดแท็กโน้ต
• ปักหมุดโน้ตเพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย
• เผยแพร่โน้ตด้วย URLs ส่วนตัวของตัวเองได้
• อินเตอร์เฟซใช้งานง่ายเพื่อการค้นหาที่รวดเร็ว

ดาวน์โหลดแอป Simplenote :

• https://software.thaiware.com/13018-SimpleNote-Download.html

เงื่อนไขการใช้งาน :

• ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

7. แอป Scrble

แอป Scrble เป็นแอปพลิเคชันจดโน้ตที่สามารถใช้งานได้ฟรีบนระบบปฏิบัติการ Windows และเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่มี Microsoft Surface หรือ แล็ปท็อปที่มีหน้าจอทัชสกรีน

ในแอปพลิเคชันตัวนี้ เราสามารถเลือกพื้นหลังที่แตกต่างกันในการบันทึกได้ เช่น กระดาษแบบมีเส้น, กระดานขาวหรือกระดานดำ, และเขียนโน้ตด้วยนิ้วมือของตัวเอง หรือปากกาสไตลัสได้ ซึ่งฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแอป Scrble ก็คือ เวลาที่เราจัดการจดลงไปแล้วพื้นที่เต็ม แอปพลิเคชันตัวนี้จะจัดการเลื่อนเปลี่ยนหน้ากระดาษให้โดยอัตโนมัติ ทำให้เราไม่ต้องพลิกหน้าเอง และเขียนต่อได้อย่างลื่นไหล

ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ที่สามารถใช้งานได้ภายในแอป Scrble ก็เช่น การนำรูปภาพเข้ามาใช้ร่วมกันกับโน้ต และนำไฟล์เอกสาร PDF เข้ามาจดเพิ่มเติมได้อีกด้วยเช่นกัน

Credit: https://www.scrble.com/

ดาวน์โหลดแอป Scrble :

• https://www.microsoft.com/th-th/p/scrble/9wzdncrdf9xq

เงื่อนไขการใช้งาน :

• ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

Credit: https://www.scrble.com/

8. แอป WordPad

แอปพลิเคชันติดเครื่อง PC (ทั้งโน้ตบุ๊ก และ แล็ปท็อป) ที่นิยมใช้กันมาอย่างยาวนาน เรียกว่าเอาไปใช้แทนโปรแกรม Microsoft Word แบบเบื้องต้นได้เลยสำหรับใครที่ไม่ได้มี ชุดโปรแกรม Microsoft Office ติดเครื่อง

แอป WordPad มาพร้อมกับตัวเลือกฟอร์แมตข้อความในหลากหลายรูปแบบ ทั้งตัวหนา, ตัวเอียง, และ ขีดเส้นใต้ รวมไปถึงการทำหัวข้อแบบจุด (Bullet) และย่อหน้า ฟีเจอร์สำคัญอย่างการไฮไลท์ข้อความ, การขีดเส้นคร่อม, และเพิ่มตัวห้อยก็ทำได้ด้วย ส่วนการเพิ่มรูปภาพ ก็สามารถเพิ่มได้ง่าย ๆ จากโปรแกรมสุดเบสิกอย่างโปรแกรม Paint

ส่วนฟีเจอร์ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน นั่นก็คือการบันทึกให้เป็นฟอร์แมตอื่น ๆ เช่น Open Document และ Office Open XML เพื่อการแก้ไขในโปรแกรมอื่น ๆ ต่อได้

แอปพลิเคชันนี้ไม่ต้องดาวน์โหลด แต่มีติดเครื่องให้อยู่แล้ว ลองกดค้นหาโปรแกรมในเครื่องกันดูได้เลยสำหรับคนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows (ไม่ว่าเวอร์ชันไหนก็มีหมด)

ดาวน์โหลดแอป WordPad :

• ไม่ต้องดาวน์โหลด เนื่องจากถูกติดตั้งมากับระบบปฏิบัติการ Windows แล้ว

เงื่อนไขการใช้งาน :

• ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

9. แอป Notepad

แอปพลิเคชันจดโน้ตที่อยู่กับบรรดาผู้ใช้ Windows มาอย่างยาวนานทุกยุคทุกสมัย อยากจะเขียนอะไรก็เขียนลงไปได้ แถมยังเป็นโน้ตที่สามารถเซฟได้หลากฟอร์แมตหลายสกุลไฟล์ เอาไปทำหน้าเว็บก็ได้ หรือจะเซฟเป็นไฟล์คำสั่งที่ใช้กับโปรแกรมอื่น ๆ ก็ได้เหมือนกัน 

Credit: https://threatpost.com/researcher-exploits-microsofts-notepad-to-pop-a-shell/145242/

แอป Notepad จะมีความคล้ายกันกับ แอป Simplenote ตรงที่มีฟีเจอร์ใช้งานน้อย แต่แตกต่างกันตรงที่เราสามารถทำการกดค้นหา, แทนที่คำ, และแทรกวันที่และเวลาได้ด้วย

ดาวน์โหลดแอป WordPad :

• ไม่ต้องดาวน์โหลด เนื่องจากถูกติดตั้งมากับระบบปฏิบัติการ Windows แล้ว

เงื่อนไขการใช้งาน :

• ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

10. แอป Cortana

ส่งท้ายด้วยแอปพลิเคชันที่อาจทำให้แปลกใจกันนิดหน่อยกับ แอปพลิเคชัน Cortana ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ช่วยดิจิทัล (Digital Assistant) ของผู้ใช้งานสำหรับการสั่งการด้วยเสียงเสียมากกว่า

และถึงแม้ว่าแอป Cortana มักจะรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยค้นหาสิ่งต่าง ๆ ตามที่เราต้องการ แต่มันก็มีความยืดหยุ่นพอที่จะเป็นแอปพลิเคชันจดโน้ตได้อีกด้วย

Credit: https://venturebeat.com/2019/12/23/microsofts-andrew-shuman-on-the-cortana-apps-death-natural-language-and-alexa/

ด้วยความสามารถของผู้ช่วยแบบดิจิทัลนี้แอป Cortana ไม่เพียงแต่จะสามารถบันทึกโน้ตได้ แต่ยังสามารถติดตามนัดหมายและกำหนดการที่คุณมี, ค้นหาสถานที่ที่คุณต้องการ, และแจ้งเตือนอีเมลสำคัญได้อีกด้วย 

Credit: https://www.windowscentral.com/how-create-reminders-using-cortana-windows-10

สำหรับคนที่ไม่มีไมโครโฟน ก็จะไม่สามารถใช้งานคำสั่งเสียงกับ Cortana ได้ แต่เมื่อคุณพิมพ์คำที่ต้องการค้นหากับ Cortana ลงไป มันก็จะยังค้นหาให้คุณได้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไม่มีเสียงบอกให้ฟังแค่นั้นเอง

ดาวน์โหลดแอป WordPad :

• ไม่ต้องดาวน์โหลด เนื่องจากถูกติดตั้งมากับระบบปฏิบัติการ Windows แล้ว

เงื่อนไขการใช้งาน :

• ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

11. สรุปเปรียบเทียบการใช้งานโน้ตให้ตรงตามความต้องการ

จากแอปพลิเคชันจดโน้ตที่เราได้แนะนำไปจำนวน 10 รายการด้านบน ถ้าหากว่าคุณเลือกไม่ถูกว่าจะใช้แอปพลิเคชันจดโน้ตของเจ้าไหนดี เราขอแนะนำคร่าว ๆ ว่า 

• ชอบฟีเจอร์เยอะ ๆ ลูกเล่นจัดเต็ม :
  • แอป Notion
  • แอป Evernote
  • แอป Quip
• ชอบแบบเรียบง่าย แค่จด ไม่ได้ใช้อะไรเยอะแยะ : 
  • แอป Microsoft OneNote
  • แอป Sticky Notes
  • แอป Scrble
• ชอบแบบไหนก็ได้ ขอให้มันซิงค์ข้อมูลกันได้ก็พอ : 
  • แอป Notion
  • แอป Evernote
  • แอป Microsoft OneNote
  • แอป Quip, Simplenote
  • แอป Sticky Notes (ซิงค์ได้เฉพาะอุปกรณ์ในเครือของ Microsoft เท่านั้น)
  • แอป Scrble (ซิงค์ได้เฉพาะอุปกรณ์ในเครือของ Microsoft เท่านั้น)

ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณในการเลือกใช้งานให้ตรงตามความต้องการแล้วล่ะค่ะ :)