โปรแกรมตัดต่อวิดีโอสำหรับธุรกิจ Powtoon เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมสำหรับสถานศึกษา รวมไปถึงองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องทำพรีเซนเทชัน (Presentation) สื่อการสอน หรือสื่อสำหรับอบรมพนักงาน ด้วยเครื่องมือที่ใช้งานง่าย รวมทั้งเทมเพลต (Template) สำเร็จรูปให้เลือกใช้งานมากมาย
ข้อดีของ Powtoon ก็คือการใช้งานง่ายในหลาย ๆ มิติด้วยกัน ตั้งแต่การเป็น เว็บแอปพิลเคชัน (Web Application) ที่สามารถใช้งานบน โปรแกรมเปิดเว็บ หรือ เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ได้เลยทันที โดยไม่ต้องทำการติดตั้ง (Install) ใด ๆ
เราสามารถล็อกอินผ่านบัญชีโซเชียลต่าง ๆ ได้ มีรูปภาพ อนิเมชั่นประกอบ เทมเพลต รวมทั้งฟอนต์ให้เลือกใช้งานภายในโปรแกรมได้สะดวกมาก ๆ ไม่ต้องอาศัยความชำนาญก็ใช้งานได้ ลองมาดูกันว่า Powtoon ใช้งานง่ายจริงมั้ย ? แล้วมีอะไรที่น่ารู้อีกเกี่ยวกับโปรแกรมนี้
Powtoon ไม่ต้องติดตั้ง หรือไปหาโหลดให้เสียเวลา เนื่องจากเป็นเว็บแอปฯ ใช้งานผ่านเบราวเซอร์ เพียงแค่เปิดเว็บไซต์ : https://www.powtoon.com/ และลงทะเบียนสมัครสมาชิกหรือเข้าสู่ระบบเอาไว้ ก็จะสามารถใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ ของเว็บแอปฯ ได้ทันที โดยการเข้าสู่ระบบสามารถทำผ่านบัญชีอื่น ๆ ได้ตั้งแต่ Facebook, Google,Office 365, LinkedIn หรือ Clever เป็นต้น
ใช้เวลาเรียนรู้โปรแกรมไม่นาน ก็สามารถทำการนำเสนอ (Presentation) ได้ง่าย ๆ เราลองทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
มีตัวเลือก Export เพียบ
นอกจากเทมเพลตพรีเซนเทชั่น ก็มีเทมเพลตไว้สำหรับทำวิดีโอโฆษณาบน Facebook / Instagram ที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส และวิดีโอ 6-15 วินาที สำหรับโฆษณาบน YouTube ด้วย (สังเกตป้ายมุมขวาล่างของแต่ละเทมเพลต) ใครอยากทำวิดีโอโฆษณาไว้ลงโซเชียลหรือยิงแอดก็ดึงไปใช้งานได้เลย
ในยุคที่วิดีโอคอนเทนท์เฟื่องฟูแบบนี้ จะมีอะไรเหมาะสมไปกว่า การนำเสนองานที่มีหน้าของเราคอยพูดอธิบายไปด้วย โดยฟีเจอร์ Screen & Cam Recording จะใช้เว็บแคม หรือกล้องของเราในการอัดหน้า และเสียงของเรา เพื่อประกอบไปกับสื่อนำเสนอที่เราทำ โดยเราสามารถโยกย้ายกรอบภาพของเราไปตำแหน่งที่เหมาะสมบนพรีเซนต์ได้ เลือกรูปทรงของกรอบได้ ว่าอยากได้แบบไหน (ฟีเจอร์นี้ยังเป็น Beta อยู่ อาจยังไม่สมบูรณ์ในบางจุด)
วิดีโออธิบายการใช้งาน Screen & Cam Recording
อีกวิธีที่จะทำให้สื่อนำเสนอของเรามี Branding มากขึ้น ด้วยการสร้างตัวละครเฉพาะมาประกอบสื่อนำเสนอ โดยจะมี "เมนู Build your branded character" ให้เราสามารถที่จะสร้าง Avatar ขึ้นมา (ถ้าเป็นสิทธิ์การใช้งานแบบเอเจนซี่ - Agency License จะสามารถใส่เสื้อโลโก้แบรนด์ได้ด้วย) แล้วเอาไปประกอบสื่อนำเสนอได้เลย
สร้าง Branded character ใช้งาน
ถ้าเรามีไฟล์ PowerPoint หรือ Google Slide อยู่ ก็สามารถนำเข้า (Import) เข้ามาแก้ไขต่อใน Powtoon ได้ พอเราอัปโหลดเข้ามาแล้ว ข้อความจะถูกใส่พวกเอฟเฟคอนิเมชันให้อัตโนมัติด้วยนะ ไม่ชอบก็เปลี่ยนเอฟเฟคได้ จัดการเปลี่ยนฟอนต์ สี ใส่พื้นหลัง หาภาพประกอบได้อิสระเหมือนการใช้งานทั่วไปเลย
การ Import เข้ามาไม่ได้สมบูรณ์ 100% มีเพี้ยนในหลาย ๆ จุด เช่น ฟอนต์ ขนาดตัวอักษร การจัดวาง จะเห็นว่าในรูปด้านล่าง ตัวหนังสือทับกันอยู่ ในหน้าอื่น ๆ เรามีวางประโยคแยกเป็น 3 คอลัมน์ซ้าย กลาง ขวา ก็กลายเป็นกองทับกันอยู่ด้านซ้ายทั้งหมด แต่พวกนี้สามารถเอาไปจัดวางใหม่ในโปรแกรม Powtoon ทีหลังได้ ก็เพิ่มความยุ่งยากเข้ามาอีก 1 ขั้นตอน
พรีวิวหลังอัปโหลด .PPTX กดเข้าไป Edit ต่อได้
ด้วยความที่ โปรแกรม Powtoon เป็นโปรแกรมเฉพาะทาง จึงมีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างแจ้งให้ทราบ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน และเลือกซื้อโปรแกรมไปใช้งานได้อย่างไม่มีข้อกังขาใด ๆ ลองมาดูทีละเรื่องกัน
หากใครจะซื้อโปรแกรม Powtoon ไปใช้เพื่อในงานตัดต่อวิดีโอ (Video Editing) โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นทำคลิปลง Tiktok, Facebook หรือทำ Vlog, Review เป็นเรื่องเป็นราวบน YouTube บอกก่อนว่า Powtoon ไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนั้น
โดยสิ่งที่ Powtoon ทำได้จะประกอบไปด้วย
ถ้าจะให้นิยามโปรแกรม Powtoon ก็จะเป็น เว็บแอปฯ สำหรับสร้างวิดีโอสื่อนำเสนอ หรือวิดีโอแบนเนอร์โฆษณา ก็จะตรงจุดมากกว่า
ตัวอย่างวิดีโอที่ผู้เขียนอัปโหลดเข้ามาใน Powtoon
พอเป็นโปรแกรมสำหรับสร้างวิดีโอนำเสนอโดยเฉพาะ ทำให้ Powtoon ไม่ค่อยยืดหยุ่นในเรื่องของขนาด Page เท่าไหร่ มีให้เลือกแค่แนวนอน (16:9), แนวตั้ง (9:16) และจัตุรัส (1:1) เท่านั้น ไม่สนับสนุนการใช้งานในอัตราส่วนอื่น ๆ
ถึงแม้ว่า โปรแกรม Powtoon จะมีสิทธิ์การใช้งานฟรี (Free License) ให้ใช้งานด้วย แต่ก็ถูกจำกัดฟีเจอร์แทบจะทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นเมนูการใช้งาน, ไม่สามารถส่งออก (Export) ผลงานเป็นไฟล์วิดีโอ MP4 ได้ และตัววิดีโอมี ความละเอียดแค่ระดับ HD เท่านั้น, ลายน้ำ Powtoon ขนาดค่อนข้างใหญ่, ทรัพยากร (Asset) สำหรับประกอบการทำวิดีโอที่ต้องเป็นระดับพรีเมี่ยมถึงจะ Export ได้ เรียกได้ว่า Free License มีไว้สำหรับทดลองใช้งาน (Demo) น่าจะเหมาะกว่า
ในขณะที่อีกมุมหนึ่ง ถึงแม้ว่าเราจะสมัครสิทธิ์การใช้งาน (License) ในระดับ Pro ไปแล้ว แต่ทั้งเทมเพลตและ Assets ต่าง ๆ ส่วนมากจะอยู่ในระดับ Pro+ ขึ้นไปถึงจะเลือกหยิบใช้งานได้อย่างสะดวก ตรงนี้อาจจะต้องลองไปเล่นดูก่อนว่าเทมเพลตหรือ Asset ที่เราจะใช้งาน มีอยู่ในระดับ Pro หรือเปล่า ? หรือว่าต้องอัปเกรดขึ้นไปอีก
สัดส่วนหน้านี้ มี Pro+ เกือบทั้งหมด ส่วน Pro กับ Free มีแค่หนึ่งเดียว
ทีนี้มาดูกันว่าสิทธิ์การใช้งาน (License) ของ โปรแกรม Powtoon ในแต่ละเวอร์ชันต่างกันอย่างไรบ้าง ? โดย Powtoon จะแบ่งระดับของ License ตามขนาดในการใช้งาน สำหรับ Pro กับ Pro+ ฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จะค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่อัปเกรดให้รองรับปริมาณงานได้มากขึ้น (กว่าเดิมเยอะมาก) ดังนี้
สำหรับเวอร์ชัน Agency ก็จะถูกอัปเกรดให้รองรับปริมาณงานมากขึ้นไปอีก ที่สำคัญคือ Assets ที่เป็นลิขสิทธิ์ในตัวโปรแกรม จะสามารถนำไปใช้งานแบบ บุคคลที่สาม (3rd-Party) ได้ ซึ่งเหมาะสมกับสายงานเอเยนซี่
นอกจากนี้ก็จะมี Powtoon Business Team / Corporate / Enterprise อีก 3 ระดับสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ที่เน้นด้านการทำงานเป็นทีมและเสริมความปลอดภัยมากขึ้น
ส่วนในเวอร์ชัน Free ก็ตามที่กล่าวไปในหัวข้อก่อนหน้าว่าคือตัว Demo นั่นเอง หรือถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่อง ลายน้ำ หรือความละเอียด HD ก็ลองใช้งานขำ ๆ ได้
สั่งซื้อโปรแกรม Powtoon จาก Thaiware Shop ได้ที่นี่
สำหรับคนที่ต้องทำสื่อนำเสนอบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นครู อาจารย์ ทำสื่อการสอนออนไลน์ หรือวิทยากร เจ้าหน้าที่ ที่ต้องเตรียมสื่อไว้อบรม หรือ เสนอโปรเจคต่าง ๆ ก็ถือว่า Powtoon ช่วยทุ่นแรงไปได้เยอะ เราไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเสียเวลามาคอยจัดเรียง ออกแบบ ใส่เอฟเฟค หรือลูกเล่นต่าง ๆ ให้ดูน่าสนใจ แต่สามารถดูพรีวิวจากเทมเพลตทั้งหลาย แล้วเปลี่ยนเอาข้อมูลของเราไปใส่ได้เลย ประหยัดเวลาขึ้นอีกเยอะ หรือใครที่อยากจะทำวิดีโอโฆษณา หรือแบนเนอร์ต่าง ๆ ก็ช่วยทุ่นแรงไปได้เยอะ
ส่วนใครที่ใช้งานส่วนตัวโดยหวังพึ่งใช้งานแบบ Free license ก็คงไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะโปรแกรมนี้ ถือว่ากั๊กพื้นที่ให้ลูกค้าพอสมควรเลย ส่วนหากจะใช้ตัดต่อวิดีโอจริงจัง ในโปรแกรมนี้อาจไม่สะดวกเท่าไหร่ เราอาจต้องตัดวิดีโอหรือตกแต่งมาให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า อาจจะใช้ เครื่องมือของ Windows เองก็ได้
|
... |