รีวิว VIPRE Internet Security 2013 อสรพิษผู้พิทักษ์คอมพิวเตอร์ของคุณ

ตอนนี้ตลาดแอนตี้ไวรัสกำลังคึกคักเลยละครับ มีหลายแบรนด์เข้ามาเปิดตลาดในบ้านเรา ครั้งนี้เรามีตัวหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นแอนตี้ไวรัสสัญชาติอเมริกาที่มีชื่อว่า VIPRE ลองมาทำความรู้จักกับมันกันครับ

VIPRE คือ ซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์จากบริษัท ซันเบลท์ ซอฟต์แวร์ (Sunbelt Software) ในรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผลิตภัณฑ์ทั้งสำหรับ Home user ได้แก่ VIPRE Antivirus และ VIPRE Internet Security และสำหรับองค์กร (Business/Corporate) ได้แก่ VIPRE Antivirus Business, VIPRE Business Premium เป็นต้น ซึ่งวันนี้เราจะมารีวิว VIPRE Internet Security 2013 ครับ

เรื่องน่ารู้ VIPRE ย่อมาจาก Virus Intrusion Protection Remediation Engine พ้องเสียงกับคำว่า Viper ซึ่งแปลว่างูพิษ ทำให้ VIPER ใช้งูพิษเป็นสัญลักษณ์ครับ

ความต้องการขั้นต่ำของ VIPRE Internet Security 2013 

เพื่อที่จะใช้งาน VIPRE Internet Security 2013 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณจะต้องมีคอมพิวเตอร์ที่สอดคล้องกับความต้องการของระบบดังนี้คือ RAM 512MB เป็นอย่างน้อย และคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows แบบ 32 บิต หรือ 64 บิต เวอร์ชันดังต่อไปนี้:

• Windows XP Service Pack 2 หรือสูงกว่า
• Windows Vista Service Pack 1 หรือสูงกว่า
• Windows 7 หรือ Windows 8
• Windows Server 2003 Service Pack 1 หรือสูงกว่า
• Windows Server 2008+

แนะนำว่า RAM อย่างน้อย 1GB อินเทอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ และ Microsoft Windows พร้อมกับ Service Pack ล่าสุด

อีเมลโปรแกรมที่รองรับ (สำหรับการป้องกันอีเมล)

• Microsoft Outlook 2000 หรือใหม่กว่า รวมถึง Outlook 2013
• Outlook Express บน Windows XP
• Windows Mail บน Windows Vista
• อีเมลโปรแกรมอื่นๆที่ใช้ SMPT/POP3 สำหรับการส่งและรับข้อความ รวมถึง Windows Live Mail, Mozila Thunderbird และอื่นๆ อีกมากมาย

หมายเหตุ  โปรโตคอลความปลอดภัย SSL และ TTS รองรับเฉพาะ Microsoft Outlook และ Microsoft Outlook Express เท่านั้น

โปรแกรมแอนตี้ไวรัส VIPRE Internet Security 2013 ได้รวมคุณสมบัติของ Antivirus และ Antispyware เข้าไว้ด้วยกัน ปกป้องคุณจากไวรัส เวิร์ม โทรจัน สปายแวร์ รูทคิท และมัลแวร์ประเภทอื่นๆ ทั้งหมด รวมถึงอีเมลที่มีไวรัสติดมาด้วย พร้อมคุณสมบัติการปกป้องภัยอันตรายจากเน็ตเวิร์คและอินเทอร์เน็ต อย่าง Firewall, Web Filtering, anti-spam และ anti-phishing และที่สำคัญก็คือ ไม่ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณช้าลง ทำให้คุณปลอดภัยทุกย่างก้าวในโลกออนไลน์ไม่ว่าจะ แชท โซเชียลเน็ตเวิร์ค เล่นเกม ซื้อของออนไลน์ ทำการธนาคารออนไลน์ เข้าเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลต่างๆ 

ในเวอร์ชันใหม่ 2013 นี้ ทาง VIPRE ได้มีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่เข้ามาก็คือ VIPRE Easy® InstallTM ซึ่งก่อนที่จะติดตั้ง VIPRE นั้นมันจะทำการสแกนคอมพิวเตอร์ของเราก่อนว่ามีโปรแกรมอะไรที่ไม่เข้ากันกับ VIPRE ถ้ามีมันก็จะถอดถอนให้โดยอัตโนมัติ

อย่างที่สองคือ VIPRE Easy® UpdateTM คุณสมบัตินี้จะมีเฉพาะ VIPRE Internet Security 2013 เท่านั้น โดยมันจะทำการสแกนหา Patch ใหม่ๆ ของโปรแกรมต่างๆ เพื่อทำการอัพเดต Patch ให้เราอย่างอัตโนมัติ เพื่อเป็นการปิดช่องโหว่ของตัวโปรแกรมต่างๆ ที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ติดไวรัสได้ โปรแกรมที่ VIPRE ทำการอัพเดตให้ยกตัวอย่างเช่น Adobe Flash player, Adobe Reader, Adobe Acrobate, Java Oracle, FoxIT PDF เป็นต้น

การติดตั้ง

VIPRE 2013 สามารถติดตั้งในระบบปฏิบัติการที่เป็น Windows ได้ไม่ว่าจะเป็น XP, Vista, 7, 8 หรือระบบปฏิบัติการ Windows Server เช่น Windows Server 2003 และ Windows Server 2008 ทั้งหมดนี้รองรับทั้ง 32 บิตและ 64 บิตครับ

ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ติดตั้งจะพบกับหน้าต่างนี้ครับ

ให้เราคลิกที่ Agree and Continue เพื่อตกลงเงื่อนไขการใช้งานและดำเนินการติดตั้งขั้นตอนต่อไปครับ หรือใครที่ต้องการอ่านเงื่อนไขการใช้งานก็ให้คลิกที่ End User License Agreement ครับ

จากนั้นก็จะพบหน้าต่างที่จะตรวจสอบว่ามีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสตัวอื่นๆ หรือโปรแกมอะไรที่ไม่เข้ากันกับโปรแกรม VIPRE หรือไม่ [VIPRE Easy® InstallTM]และถ้ามีมันก็จะถอดถอนโปรแกรมนั้นๆ ให้โดยอัตโนมัติครับ

เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วโปรแกรมติดตั้งก็จะเริ่มดาวน์โหลด VIPRE Internet Security 2013 เวอร์ชันล่าสุด จากนั้นก็จะทำการติดตั้ง และอัพเดตฐานข้อมูลไวรัส และทำการสแกนคอมพิวเตอร์เพื่อหาไวรัสทันทีครับ

การใช้งาน

หน้าต่าง Dashboard ของ VIPRE จะเน้นเรื่องความง่ายต่อการใช้งานครับ โดยหน้าต่างแรกจะแสดงสถานะโดยรวมของโปรแกรมครับว่าปกติดีหรือไม่เช่น ทำการ Active Protection อยู่หรือไม่ สถานะการอัพเดตเป็นอย่างไร เป็นต้น

จากนั้นไปดูที่หน้าต่าง FIREWALL กันครับ ซึ่งในหน้าต่าง Firewall จะให้เราสามารถตั้งค่าต่างๆ ตามต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยคลิกที่ View Settings

ซึ่งเราสามารถดูรายละเอียดการทำงานทั้งหมดของ Firewall ได้อย่างง่ายดาย เช่นมีโปรแกรมอะไรที่กำลังเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ รายละเอียด process ว่ามีการ Allow หรือ Block การใช้งานอย่างไร เป็นต้นครับ

ต่อไปที่หน้าต่าง MANAGE ในหน้านี้เราสามารถดูประวัติการทำงานของโปรแกรม VIPRE ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอัพเดต การสแกนต่างๆ การตั้งเวลาการสแกน อีกทั้งสามารถดูรายละเอียดของ Quarantine ได้ว่ามีไวรัสอะไรบ้างที่ถูกจัดการ หรือถ้าต้องการเพิ่มรายการไฟล์หรือโปรแกรมใดๆ ที่ไม่ต้องการให้โปรแกรม VIPRE ไปยุ่งเกี่ยวด้วยก็ทำได้ที่หัวข้อ Always Allowed และในหน้านี้ยังมี Easy Update ที่ให้คุณสามารถเลือกการอัพเดตโปรแกรมต่างๆ ในเครื่องได้เองอย่างอัตโนมัติ

หน้าต่างต่อไปคือ TOOLS ที่คอยเป็นเครื่องมือช่วยเหลือต่างๆ ได้แก่ Secure File Eraser ที่ทำให้เราสามารถลบไฟล์ความลับที่สำคัญได้โดยไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้ ป้องกันไม่ให้คนอื่นล่วงรู้ความลับของเรา โดยเราสามารถคลิกขวาที่ไฟล์ที่ต้องการลบและเลือก Securely erase selected files and folders ได้ทันที และ History Cleaner ที่ให้เราสามารถลบร่องรอยการใช้งานคอมพิวเตอร์ต่างๆ เช่น ประวัติการเปิดเว็บไซต์ของเรา ไฟล์เอกสารที่เคยเปิดใช้งาน เป็นต้น และ PC Explorer ที่ทำให้เราสามารถตรวจสอบโปรแกรม ไฟล์ และ process ต่างๆ ว่ามีความปลอดภัยหรือไม่

การสแกน

เราสามารถเลือกการสแกนได้ 3 แบบคือ Quick Scan ที่จะสแกนไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นที่ที่ไวรัสจะมาฝังตัวอยู่เช่น C:\Windows, C:\Program Files เป็นต้น Deep Scan จะทำการสแกนโดยละเอียดทุกไฟล์ ทุกโฟลเดอร์ในคอมพิวเตอร์ และ Custom Scan ให้เราสามารถเลือกสแกนเฉพาะไดร์ฟ หรือโฟลเดอร์ได้ตามต้องการ และด้วย VIPRE Rapid Scan ที่สามารถเพิ่มความเร็วในการสแกนได้ โดยจะไม่สแกนไฟล์ที่ถูกระบุว่าปลอดภัยแล้วอีกครั้งหนึ่ง

บทสรุป

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่น่าสนใจ ด้วย Interface ที่ใช้งานง่าย และการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ได้รับการรับรองจากศูนย์วิจัยด้านความปลอดภัยชั้นนำต่างๆ เช่น ICSA labs และได้รับรางวัลจาก VB100 ด้านการตรวจจับมัลแวร์มาแล้วมากมาย