รีวิว ย้อนตำนานการฟังเพลงด้วยโทรศัพท์มือถือ

นับตั้งแต่ MP3 ถูกคิดค้นขึ้น วัฒนธรรมการฟังเพลงก็เปลี่ยนแปลงไป ผู้คนนิยมฟังเพลงด้วย Mp3 บนเครื่องเล่นเพลง Mp3 มากกว่าที่จะฟังจากแผ่น CD เหมือนเคย เพราะความสะดวกในการพกพา และเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึน มนุษย์ก็หาทางทำให้มันง่ายขึ้นไปอีก

เมื่อโทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ 5 และเสียงเพลงก็เป็นสิ่งที่หลายคนขาดไม่ได้ ก็ไม่แปลกอะไร ที่โทรศัพท์มือถือจะถูกพัฒนา ให้มีความสามารถในการเล่นเพลง Mp3 ได้

วันนี้เราจะมาย้อนอดีต ไล่เรียงโทรสัพท์มือถือในตำนานที่ได้ชื่อว่า Music Phone ที่ได้รับความนิยมกัน และขออภัยล่วงหน้า ถ้ามีความผิดพลาด เพราะบทความนี้เขียนจากประสบการณ์ในความทรงจำบวกกับการหาข้อมูลเพิ่มเติม 

จุดเริ่มต้นของตำนาน

สำหรับโทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถในการเล่นเพลง Mp3 ได้เป็นเครื่องแรกของโลกคือ Nokia 9210 ที่ออกมาเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ในปี 2000

Nokia 9210 เป็นโทรศัพท์เครื่องแรกของ Nokia ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian เป็นจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้สามารถเพิ่มโปรแกรมลงไปได้ด้วยตนเองเพื่อเพิ่มความสามารถให้โทรศัพท์ และแน่นอนว่ามีผู้พัฒนาโปรแกรมสำหรับเล่นเพลง Mp3 ออกมาด้วย

แต่ว่านั่นแหละมันเพียงแค่เล่นได้ ยังไม่สามารถให้คุณภาพเสียงที่ดีพอสำหรับคนที่ต้องการฟังเพลงอย่างเต็มอารมณ์

หมายเหตุ เปิดราคามาถึง 39,000 บาทเชียวนะ แพงกว่า iPhone 5 อีก ราคาเท่า Macbook Air เลยล่ะ

ในปีถัดมา 2001 บริษัท Siemens ได้เปิดตัว Siemens SL45 เป็นฟีเจอร์โฟน ที่โดดเด่นมากในยุคนั้น ด้วยตัวเครื่องสีเงิน และสะดุดตาสุดๆ ด้วยไฟหน้าจอสีส้ม

Siemens SL45 เป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรก ที่ได้ชื่อว่า Music Phone อย่างแท้จริง มีความสามารถในการเล่น Mp3 รองรับการอ่าน ID3 Tag และขยายหน่วยความจำเครื่องได้ด้วย และเสียงที่ได้ก็มีคุณภาพที่ดีมาก เพราะว่ามีชิพถอดรหัสเสียง และขยายเสียงในตัว สำหรับเล่นเพลงโดยเฉพาะ และแม้จะผ่านมาถึง 11 ปีแล้ว แต่ยังมีหลายคนยังหาซื้อมาสะสมและใช้ฟังเพลงกันอยู่เลยครับ มีการโมดิฟายรอมให้ดีกว่าตอนเปิดตัวกันด้วย

ราคาตอนเปิดตัวจำได้ว่าอยู่ที่ สองหมื่นนิดๆ ครับ พอๆกับ iPhone 4S ตอนเปิดตัวนี่แหละ

หลังจากนั้นได้ก็มีอีกโทรศัพท์อีกหลายรุ่น ที่ฟังเพลงได้ตามกระแสนิยม แต่วงการ Music Phone ก็เริ่มคึกคักมาอีกครั้งเมื่อ Sony ซึ่งขณะนั้นยังเป็น Sony Ericsson ได้ทำการเปิดตัว Walkman Phone เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ในปี 2005

การมาของ Sony Ericsson W800 ได้เป็นจุดเปลี่ยนของวงการมือถืออีกครั้งหนึ่ง สรางกระแส Music Phone ได้สำเร็จอย่างงดงาม สมกับที่อยู่ในวงการเครื่องเล่นเพลงมานาน

ทันทีที่เปิดตัว เหล่าสาวกอารยธรรมก็หลงใหลใน W800 ได้อย่างง่ายดาย ด้วยตัวเครื่องสีขาวตัดส้ม มาพร้อมกับหูฟัง HPM-70 ซึ่งเป็นหูฟังที่แถมมากับโทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุดในยุคนั้น (แม้ในปัจจุบันนี้ก็ยังได้รักบการยอมรับในวงการนักเล่นหูฟัง ว่าเป็นหูฟังที่ราคาคุ้มค่าตัวมาก เสียงดีและราคาไม่แพง)

ราคาเปิดตัวของ Sony Ericsson W800 อยู่ที่ 20,500 บาท ซึ่งแพงกว่ามือถือทั่วไปในยุคนั้นพอสมควร ที่ราคาเริ่มเฉลี่ยที่ 9,000 - 14,000 บาท

และไม่กี่เดือนถัดมา Motorola ก็ได้เปิดตัว Motorola V3i

Motorola V3 เปิดตัวในปี 2004 ในยุคนั้นเป็นโทรศัพท์ที่โคตรหรูและโคตรเท่ ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม วัสดุเรียบหรูและความบางเฉียบ ยิ่งทำให้มันโดดเด่นขึ้นไปอีก ได้รับการจัดอันดับให้เป็น Gadgets อันดับที่ 12 ใน The 50 Greatest Gadgets of the Past 50 Years

ความสำเร็จของ V3 ทำให้มีการพัฒนา V3i ซึ่งมีการเพิ่มความสามารถในการฟังเพลงเข้าไป โดยปล่อยออกมา 2 เวอร์ชัน คือ เวอร์ชันที่ใช้ iTunes กับเวอร์ชันที่ใช้  Motorola's Digital Audio Player

ราคาเปิดตัวของ V3i อยู่ที่ 13,900 บาท

และในระยะเวลาไล่เรี่ยกัน ในวันที่ 7 พฤศจิกยายน 2005 Apple ได้ร่วมกับ Motorola เปิดตัว Motorola Rokr E1 มือถือเครื่องแรกที่ใช้เครื่องเล่นเพลงแบบเดียวกับที่ Apple ใช้ใน iPod

Motorola Rokr E1 ไม่ประสบความสำเร็จเลยสักนิดในท้องตลาด ด้วยเหตุผลง่ายๆ ไม่กี่ข้อ

1. แสดงเพลงได้สูงสุดแค่ 100 เพลง
2. มันไม่รองรับ USB ถ่ายโอนเพลงได้ช้ามาก

ราคาเปิดตัวประมาณ 10,000 บาท

พอย่างเข้าปี 2006 Nokia เห็นความสำเร็จของ Walkman Phone ทำให้ตัดสินใจเปิดตัวซีรีย์ใหม่ XpressMusic

โดยเครื่องแรกของตระกูลนี้คือ Nokia 3250 XpressMusic รุ่นนี้ มีจุดเด่นคือการหมุนตัวเครื่องเพื่อสลับเป็นโหมดเครื่องเล่นเพลง และมีลำโพงที่เสียงดังมาก

ถือว่าเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จพอควรสำหรับ Nokia ครับ (ราคาเปิดตัวประมาณ 13,000 บาท)

หลังจากนั้น Nokia ก็ออก XpressMusic ออกมาอีกหลายรุ่น แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

แต่ ก็มีรุ่นหนึ่งจาก Nokia ที่ได้รับการยอมรับกันว่าเป็นมือถือที่สามารถเล่นเพลงได้อรรถรสมาก แต่ทว่ารุ่นนี้ราคาสูงมากและดีไซน์ที่ไม่โดนเท่าไหร่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ มันคือ....Nokia N91

Nokia N91 ไม่ได้อยู่ในซีรีย์ XpressMusic แต่เป็นซีรีย์ใหม่ระดับบนจาก Nokia ที่ใช้ชื่อว่า N-Series ได้รับรางวัล Most Innovative Product ในด้านการฟังเพลง เลยนะครับ มีความจุภายในตัวให้มาถึง 8GB (สูงมากในยุคนั้น) รองรับไฟล์ทั้ง AAC, AAC+, eAAC+, MP3, mp3PRO, WAV, MIDI, และ Microsoft's WMA format เล่น 3G/Wi-Fi ได้ด้วย ล้ำมากในยุคนั้น

และในด้านพลังเสียง Nokia N91 นั้น ให้พลังเสียงที่โดดเด่นและว่ากันว่าไม่มีคู่แข่งมาเทียบได้เลยละครับ ให้เสียงเต็มอิ่มและคุณภาพสูง โดยความลับของมันอยู่ที่ชิพถอดรหัสเสียง DSP-33 ที่ Toshiba ผลิตให้เป็นพิเศษ และมีแอมป์ในตัวแยกอีกต่างหากผลิตโดย Harman Kardon ชื่อนี้วงการนักเล่นเครื่องเสียงคงรู้จักกันดี

ใครที่ได้ลองฟังจะพบว่าเสียงที่ได้ออกอนาล็อกเป็นธรรมชาติมาก

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดมันเป็นมือถือเครื่องที่สองหลังจาก SL45 เลยล่ะที่มีชิพถอดรหัสเสียงกับแอมป์แยกออกจากกัน

แต่ตำนานทั้งหมดก็ยุติลงเมื่อปีถัดมา (2007) Apple ได้เปิดตัว IPhone

เพราะหลังจากที่ iPhone เปิดตัว วงการมือถือก็เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิงทั้งการออกแบบ ไม่มีแล้วยุคที่มือถือ 1 เครื่องจะเน้นกล้องหรือเน้นฟังเพลง เพราะ iPhone กลายเป็นมาตรฐานไปเสียแล้ว