รีวิว ซัมซุงสมาร์ททีวี จอยักษ์ 55 นิ้ว UA55F8000AR ความงดงามระดับประติมากรรมสำหรับบ้านคุณ

หน้าตาและดีไซน์

ตัวเครื่องมีความบางมากครับ ช่วงครึ่งบนหนาไม่ถึง 1 นิ้วด้วยซ้ำ ครึ่งล่างก็ไม่ได้หนามากประมาณแค่ 1 นิ้วนิดๆ เท่านั้น มองด้านหน้าจะเห็นหน้าจอเต็มตา มีขอบหน้าจอแค่นิดเดียวเท่านั้น ตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ซัมซุงเล็กๆ เท่านั้นเอง

ขาตั้งของทีวียึดไว้ด้วยนอต 8 ตัว ติดตั้งค่อนข้างง่าย แค่เอาขาตั้งมาวางแล้วใช้ไขควงขันเอา ไม่เกิน 3 นาทีก็เสร็จ ขาตั้งออกแบบให้บื่นมาข้างหน้าแค่นิดเดียว แต่ด้านหลังจะเป็นเคิฟค่อนข้างลึก ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการวางค่อนข้างกว้าง ผมว่ามันเสียพื้นที่ด้านหลังเครื่องมากเกินไปหน่อย แต่มองด้านหน้ามันก็สวยงามดีครับ

ด้านบนของตัวโทรทัศน์มีกล้องความละเอียด 5MP แบบ Pop up ซ่อนอยู่

ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีพอร์ทสำหรับเชื่อมต่อมากมาย มี HDMI ให้ 4 ช่อง, USB 3 ช่อง, Digital และ Audio เอาท์พุท รวมถึง A/V input  แน่นอนว่าเมื่อเป็นสมาร์ททีวีย่อมต้องมีสายสำหรับต่อสาย LAN หรือจะเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ก็ได้ครับ รองรับ 802.11b/g/n

และนอกจากพอร์ทเขื่อมต่อต่างๆ แล้ว จะเห็นว่ามีกล่อง Evolution Kit ด้วยครับ กล่องนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ ซัมซุงบอกว่าจะออกมาให้อัพเกรตทีวีได้ทุกปี (ต้องซื้อนะ ไม่ใช่ให้ฟรี หุหุ)

สวิทต์เปิดปิดจะอยู่ข้างขาตั้งใกล้ขอบจอด้านขวา ถ้าชินแล้วไม่ต้องชะโงกหน้าไปดูก็เปิดได้ครับ เอามือลูบๆ ก็เจอปุ่มใหญ่ทีเดียว

ปลั้กไฟจะแยกมาต่อทางด้านขวามือครับ

สมาร์ทฟังค์ชั่น Smart functions

หน้า Homescreen จะประกอบไปด้วย 3 หน้าหลักๆ ครับ คือ Social, Apps และ Photo, Videos & Music ครับ

ในหน้า Social หากเรามีการเข้าระบบพวกโซเชียลเน็ตเวิร์คเอาไว้ จะมีการดึง Feeds ที่น่าสนใจมาแสดงให้ที่หน้านี้ครับ

ส่วนหน้า Apps จะมีแอปฯแนะนำ กับแอปฯที่เราติดตั้งไว้ในเครื่องอยู่แล้วครับ การใช้งานก็เหมือนกับที่เราใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเลยล่ะครับ ต่างกันแค่คราวนี้มันมาอยู่บนโทรทัศน์เท่านั้นเอง หากอยากดาวน์โหลดแอปฯเพิ่มเติมก็กด More Apps ที่อยู่ด้านล่างของจอ

ส่วนหน้า Photo, Videos & Music จะแสดงคอนเทนท์ที่เราเล่นล่าสุดไปครับ ไม่ว่าจะเป็นเพลงล่าสุดที่เล่น รูปล่าสุดที่ถ่าย หรือหนังเรื่องล่าสุดที่ดูก็จะมาแสดงผลตรงนี้ครับ

ในด้านการใช้งาน Social Network ผมได้ทดลองเล่น 3 ตัวยอดนิยมอย่าง Twitter, Facebook และ Skype

การใช้งาน Twitter ก็ใช้การได้ดี มีฟังค์ชั่นครบถ้วน สามารถ Retweet ตอบ Reply ได้ หน้าตาของตัวแอปฯก็ใช้ได้ครับ

ในทางกลับกันผมว่า Facebook ไม่ผ่าน หน้าตาไม่สวยงามและใช้งานได้ไม่เต็มรูปแบบ ไม่สามารถแชทหรือกดดูแฟนเพจที่ Like ไว้ได้

Skype ทำได้ดี เลือกดูรายชื่อง่ายดาย มี History สามารถทำ VDO CALL ได้ โดยพูดกับทีวีได้เลยครับ ไม่ต้องต่อไมค์โครโฟน

อย่างไรก็ดีการใช้งานแอปฯเหล่านี้ ไม่มีเมาส์ก็ใช้งานได้อยู่ครับ ไม่ลำบากมากนัก รีโมตเค้าทำมาดี แต่การพิมพ์ถ้าไม่มีคีย์บอร์ด การใช้รีโมตพิมพ์ผ่านเวอร์ชวลคีย์บอร์ดนั้นลำบากมากครับ แนะนำให้หาคีย์บอร์ดมาต่อ โดยจะใช้คีย์บอร์ดหรือเมาส์อะไรก็ได้ เอามาต่อเข้ากับช่อง USB ด้านหลังก็ใช้งานได้เลยครับ

เราสามารถเอาหน่วยความจำภายนอกไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดดิสค์หรือ แฟลชไดร์ฟ ที่มีไฟล์เพลง ไฟล์หนัง มาต่อเพื่อเปิดไฟล์ได้เลยโดยตรงสะดวกและง่ายดายทีเดียว

หรือคอนเทนท์ที่อยู่ใน Cloud เราก็สามารถสตรีมมาเปิดได้เช่นกันครับ

การสั่งงานด้วยเสียงและควบคุมสมาร์ททีวีด้วยมือ ก็เป็นอีกหนึ่งลูกเล่นน่าสนใจครับ แต่ลิ้นคนไทยก็ต้องฝึกหน่อยนะครับ แหะๆ พูดทื่อๆ มันฟังไม่ออก ต้องลิ้นเริ่ดๆ นิดหนึ่งนะ

การใช้มือควบคุม เราแค่ยกมือค้างไว้สักพัก จะมีรูปมือขึ้นที่หน้าจอ และก็ใช้งานได้เลยครับ การกำมือจะเป็นการเลือก สะดวกไม่ต้องหารีโมต

การสั่งงานด้วยเสียง ให้เรากดปุ่ม Voice ที่รีโมตและใช้รีโมตแทนไมค์ ออกคำสั่งเสียงได้เลย

แต่ถ้าจะให้ว่ากันตรงๆ ทั้งการใช้มือควบคุมแบบ Gesture Control และ สั่งงานด้วย Voice จำเป็นต้องฝึกเพื่อใช้งานเลยทีเดียว กว่าที่เราจะชินกับการเคลื่อนไหว แต่ถ้าใช้คล่องแล้วมันก็จะช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายขึ้นมากครับ

สมาร์ท รีโมต Smart remote

รีโมตมีขนาดเล็กพอดีมือ และมีปุ่มน้อยมาก ตัวรีโมตดูค่อนข้างประณีตและใส่ใจในการออกแบบทีเดียว ด้านหน้าเป็นโลหะให้สัมผัสที่ดีในยามใช้งาน จุดเด่นคือทัชแพดสำหรับเลื่อนเมนูต่างๆ

ด้านบนของรีโมตมีไมค์ ส่วนด้านล่าง มีปุ่มลัดสำหรับเข้าเมนู Smart Hub และเรียกใช้เมนูต่างๆ  ตัวรีโมตใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด AAA จำนวน 2 ก้อนครับ

วิดีโอรีวิว

ชมการใช้งาน ซัมซุง สมาร์ททีวี UA55F8000AR ได้จากวิดีโอด้านล่างนี้ครับ

ความเห็นจากไทยแวร์

ข้อดี

• การแสดงผลสวยงามคมชัดและสมจริง
• ตัวโทรทัศน์มีการออกแบบสวยงาม
• ฟีเจอร์ต่างๆ ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็ว
• สามารถอัพเกรตความสามารถตัวสมาร์ททีวีได้ด้วย Evolution Kit

ข้อเสีย

• ราคาค่อนข้างแพง
• ฐานใช้พื้นที่ในการวางค่อนข้างมาก
• จอแสดงผลสีดำได้ไม่สุด มีแสง Backlight ลอดออกมาบ้าง

ปัญหาสำหรับสมาร์ททีวีรุ่นนี้ผมว่าอยู่ที่ราคาค่อนข้างสูงมากสำหรับคนธรรมดาทั่วไป เมื่อเรามองว่า ณ ตอนนี้ราคาของ LED TV แบบปกติที่ไม่ใช่ สมาร์ททีวี ถ้าเป็นจอสัก 42 นิ้ว ราคาอยู่ที่ราวๆ 20,000 บาทเท่านั้น 

คำถามถัดมาคือ เราพร้อมที่จะจ่ายเงินเพิ่มอีก 5 เท่า เพื่อซื้อสมาร์ททีวีราคาหลักแสนหรือไม่ เพื่อแลกกับความสามารถที่เพิ่มขึ้นของโทรทัศน์ อย่างการเล่นแอปฯ เล่นอินเตอร์เน็ต รับชม Youtube ผมว่ากิจกรรมเหล่านั้น คนที่ไม่ได้ร่ำรวย คงเลือกที่จะประหยัดเงินเลือกใช้ทีวีธรรมดา และทำกิจกรรมเหล่านี้ผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนมากกว่านะครับ

แต่ถ้าตัดเรื่องราคาออกไป Samsung UA55F8000AR มาพร้อมกับหน้าจอที่คมชัด และเมื่อรวมกับ Cutting-edge  ที่ทำให้ขอบจอมีความบางมาก ทำให้มันเป็นโทรทัศน์ที่สวยงามทั้งหน้าจอและตัวเครื่องเลยทีเดียว

ซัมซุงติดตั้งแอปฯมาให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกมากมาย กิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำผ่านคอมพิวเตอร์สามารถทำได้บนสมาร์ททีวี แน่นอนว่าเราสามารถเชื่อมต่อเมาส์และคีย์บอร์ดเข้ากับสมาร์ททีวีได้ด้วย ทางซัมซุงได้ให้สัญญาว่าจะไม่มีการลอยแพซอฟท์แวร์ แต่จะพัฒนาอัพเดตอย่างต่อเนื่องแน่นอน

จุดเด่นอีกอย่างของ Samsung UA55F8000AR นั่นคือ การอัพเกรตตัวสมาร์ททีวีด้วย Evolution Kit  ซึ่งเป็นเหมือนหัวใจของตัวซัมซุงสมาร์ททีวี หมายความว่าไม่ใช่แค่การอัพเดตซอฟท์แวร์ได้เพียงอย่างเดียว แต่ตัวฮาร์ดแวร์ก็มีการอัพเกรตด้วย ทำให้ตัวทีวีนั้นใช้ได้ยาวนานไม่มีการตกรุ่น (ราคา Evolution Kit อยู่ที่ประมาณ 9,400 บาท)

หากเรามองถึงความคุ้มค่าในระยะยาว ผมคิดว่ามันก็น่าจะคุ้มทีเดียว โดยรวมแล้วผมให้สมาร์ททีวีรุ่นนี้สมบูรณ์แบบแล้วทั้งด้านซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ครับ