รีวิว Surface 2 แท็บเล็ตวินโดว์ตัวเก่ง ครบเครื่องทั้งงานและบันเทิง

ถ้าอยากได้แท็บเล็ตที่ให้ประสบการณ์การใช้งานเหมือนกับการใช้งาน Windows บนเครื่อง PC แล้วล่ะก็ คงไม่มีตัวไหนที่เหมาะสมไปกว่าแท็บเล็ต Surface จาก Microsoft ซึ่งล่าสุด ไมโครซอฟท์ได้วางจำหน่าย Surface 2 อย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่มองหาแท็บเล็ตมาใช้ทำงาน เพราะ Surface 2 นั้นใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ ทำให้ประสบการณ์ด้านการใช้งานแทบไม่แตกต่างกับการทำงานบน Notebook หรือ PC

Microsoft Surface 2 คือ อะไร

Microsoft Surface 2 เป็นแท็บเล็ตเวอร์ชันอัพเกรตจาก Surface RT ที่ออกมาในปี 2012 มีการปรับปรุงให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น, หน้าจอที่คมชัดกว่าเดิม และกล้องที่มีคุณภาพความละเอียดสูงกว่าเดิม

Surface 2 ใช้ชิพประหยัดพลังงาน ARM processor ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows RT 8.1 ซึ่งออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานผ่านหน้าจอทัชสกรีน มาพร้อมกับ Microsoft Office ในตัว การติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมจะทำผ่าน Windows Store เท่านั้น 

แม้ว่า Surface 2 จะไม่สามารถลงโปรแกรมได้เองโดยตรงเหมือน Surface Pro 2 แต่ว่าข้อดีที่แลกมา คือ ตัวเครื่องมีความบางกว่า, เบากว่า และถูกออกแบบมาให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้มากกว่า 10 ชั่วโมง เรียกว่าไม่ต้องพกสายชาร์ตกันเลยทีเดียว

คุณสมบัติของ Microsoft Surface 2

• ระบบปฏิบัติการ Windows RT 8.1
• ซีพียู NVIDIA Tegra 4 (T40) 1.7 GHz Quad Core
• หน่วยความจำภายใน 32GB/64GB
• มีพื้นที่ Cloud storage ให้ 200 GB เป็นเวลา 2 ปี
• แรม 2GB
• หน้าจอ TFT capacitive touchscreen ขนาด 10.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (~208 ppi) อัตราส่วนภาพ 16:9
  สัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 5 จุด
• กล้องหลัง 5MP ถ่ายภาพที่ความละเอียด 2592x1936 พิกเซล มี Autofocus และไฟ LED รองรับ Geo-tagging ถ่ายวิดีโอ 1080p ที่ 30fps
  กล้องหน้า 3.5MP ถ่ายวิดีโอ 1080p ที่ 30fps
• ไว-ไฟ 802.11 a/b/g/n, Wi-Fi Direct, dual-band
• บลูทูธ เวอร์ชัน 4.0 with A2DP
• มีช่อง USB 3.0, microSD card reader, ช่องเสียบหูฟัง, HD video out port และ Cover port
• เซนเซอร์ในตัวเครื่อง Ambient light sensor, Accelerometer, Gyroscope, Magnetometer, Proximity Sensor และ Digital Compass
• แบตเตอรี่ : เล่นวิดีโอได้นานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง
• ขาตั้งในตัวปรับได้ 2 ระดับ
• ขนาดเครื่อง 274.6 x 172.5 x 8.9 มม.
• น้ำหนักเครื่อง 675.9 กรัม
• รับประกัน 1 ปี

แกะกล่อง Microsoft Surface 2

กล่อง Microsoft Surface 2 มาในรูปแบบเรียบๆ เป็นกล่องแบบสอดสไลด์ด้านข้างนะ

ในกล่องแบ่งช่องเรียบร้อยดี มีตัวแท็บเล็ตและอแดปเตอร์ให้มาในกล่อง

ในด้านการออกแบบ Surface 2 มีความคล้ายคลึงกับ Surface RT รุ่นแรก ภายนอกแทบไม่ต่างกันถ้าไม่สังเกต แต่ตัวเครื่องได้เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเงิน

ขอบจอยังคงเป็นสีดำ 4 ด้านเช่นเดิม ด้านบนมีกล้องหน้า และเซนเซอร์วัดแสง

หน้าจอมีความคมชัดสวยงามกว่า Surface รุ่นเดิมมากทีเดียว

Kickstand มีการปรับปรุงให้ดีกว่าก่อน สามารถปรบระดับความเอียงได้ถึง 2 ระดับ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในระดับต่างๆ 

ฝั่งขวามือจะมีพอร์ทสำหรับชาร์จไฟ, USB 3.0 และ HDMI

ส่วนฝั่งซ้ายมือมีช่องสำหรับเสียบหูฟัง ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และลำโพง stereo ระบบ Dolby Surround ที่ให้ประสบการณ์ดูหนัง ฟังเพลงที่เหนือคู่แข่ง

ปุ่ม Power อยู่ที่มุมขวาบนเหมือนเดิม

ด้านล่างเป็นพอร์ทสำหรับเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ด ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือก 2 แบบ คือ Type Cover 2 และ Touch Cover 2

สำหรับความแตกต่างของทั้ง 2 แบบ คือ Type Cover จะให้สัมผัสการพิมพ์เหมือนได้กดปุ่มจริงๆ
ทำให้การพิมพ์ได้ความรู้สึกที่ดีกว่า แต่ก็แลกมากับความหนาที่มากกว่า Touch Cover

ส่วน Touch Cover เป็นคีย์บอร์ดแบบดั้งเดิม ข้อดี คือ มีความบางและน้ำหนักเบากว่าแบบ Type Cover แต่การพิมพ์อาจจะไม่ได้อรรถรสเท่า Touch Cover 2 

ภายใน Cover มี Sensor ที่เพิ่มมากขึ้นจาก 80 Sensor ในรุ่นเก่าเป็น 1,092 Sensor ในรุ่นใหม่ 

ทั้ง Type Cover และ Touch Cover มีไฟ Backlit ในตัว ทำให้การพิมพ์ในที่แสงน้อยไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

Surface 2 มีประสิทธิภาพที่สูงกว่ารุ่นก่อน แต่ยังคงมีการจัดการพลังงานที่ดีเยี่ยม จากการทดลองใช้งานโปรแกรม Office, ฟังเพลง, ท่องเว็บเล่น Youtube ทั้งวัน พบว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 9-10 ชั่วโมง ก่อนที่แบตเตอรี่จะหมดลง (เปิดความสว่างหน้าจอ 50%) เพียงพอต่อการใช้งานตลอดวันได้อย่างสบาย

ระบบปฏิบัติการ Windows RT 8.1 เน้นการใช้งานในหน้า Start เป็นหลัก เพราะแอปฯต่างๆ จะติดตั้งผ่าน Windows Store เท่านั้น ซึ่งในหน้า Start การใช้งานผ่านจอทัชสกรีนก็ทำได้ดีทีเดียว ไมโครซอฟท์ออกแบบให้การใช้งานแบบ Gestures ทำได้โดยสะดวก แต่ในทางกลับกันทัชสกรีนแทบไม่มีประโยชน์และไม่สะดวกเอาเสียเลยในหน้า Desktop

สำหรับการใช้งานในหน้า Desktop ของ Surface 2 ดูจะมีไว้สำหรับการใช้งาน Microsoft Office 2013 และ Outlook 2013 ที่ติดตั้งมาให้เท่านั้น ซึ่งทำงานได้ดีทีเดียวแต่พบปัญหาในการใช้นิ้วจิ้มเลือกปุ่มเมนูเล็กน้อย มันจิ้มเลือกยากพอสมควรหากใช้นิ้วเลือกผ่านทัชสกรีน การต่อเมาส์ดูจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด

ตัวเครื่อง Surface 2 ดูเหมือนออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับ Type Cover (หรือ Touch Cover) แน่นอนว่าไม่ใช้ก็ได้ แต่มันก็เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้คุณใช้งาน Surface 2 ได้เหมือนกับ Notebook แต่ว่ามันไมไ่ด้แถมมาพร้อมกับเครื่องนะ เราจำเป็นต้องซื้อเพิ่มเอง ซึ่งจุดนี้ยอมรับว่ามันทำงานร่วมกับ Surface 2 ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยปกป้องหน้าจออีกด้วย

ในด้านการใช้งาน Surface 2 มีน้ำหนักไม่มากก็จริง แต่การถือมันเพื่อดูหนังจนจบสักเรื่องก็ไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ แต่จุดนี้ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ด้วย Kickstand ที่ปรับระดับได้ 2 ระดับ แม้จะวางบนตักก็ยังให้มุมมองที่สบายตา เราไม่จำเป็นต้องถือเครื่องไว้ตลอดเวลาแต่อย่างใด

พอร์ท USB 3.0 เป็นอีกหนึ่งจุดแข็ง มันทำได้สารพัดประโยชน์ ทั้งการโอนถ่ายข้อมูลหรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมต่างๆ ตั้งแต่เครื่องพิมพ์ไปจนถึงคอนโทรลเลอร์เกม และหากช่องเดียวไม่เพียงพอ เราสามารถต่อกับ USB Hub เพื่อเพิ่มจำนวนช่องได้ด้วยล่ะ

ความเห็นจากไทยแวร์

จุดเด่น

• ตัวเครื่องออกแบบได้บางแต่ดูแข็งแกร่งทนทาน
• หน้าจอ Full HD  มีความสว่างและสีสันที่สวยงาม
• ขาตั้ง Kickstand สามารถปรับระดับได้ถึง 2 ระดับ
• อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
• มี Microsoft Office ติดตั้งมาให้ในตัวเครื่อง
• Typecover เป็นคีย์บอร์ดที่น่าประทับใจมากที่สุดมากกว่าบรรดาคีย์บอร์ดสำหรับแท็บเล็ตทุกรุ่นที่เคยสัมผัส

จุดด้อย

• ไม่มีแอปฯที่ทำงานในโหมด Desktop ได้ นอกจาก Office ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง
• ลำโพงเสียงเบา

สำหรับจุดขายสำคัญของ Surface 2 คงจะเป็นการที่มี Office ติดตั้งมาให้ในตัว มันเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้งาน Office นอกสถานที่แต่ต้องการพกพาอุปกรณ์ที่พกพาง่ายกว่าโน้ตบุ้ค ช่อง USB ช่วยให้การถ่ายโอนไฟล์ทำได้โดยสะดวกแม้จะไม่มีอินเตอร์เน็ต ถ้าจำนวนแอปฯบน Windows Store มีให้เลือกมากกว่าในตอนนี้ มันจะเป็นแท็บเล็ตที่น่าสนใจมากทีเดียว