ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
ไทยแวร์รีวิว
 

รีวิว POMO Kids Watch นาฬิกาโทรศัพท์ เพิ่มความปลอดภัยให้เด็ก สร้างความสบายใจให้ผู้ปกครอง

POMO Kids Watch นาฬิกาโทรศัพท์ เพิ่มความปลอดภัยให้เด็ก สร้างความสบายใจให้ผู้ปกครอง

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 21,225
เขียนโดย :
0 %E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7+POMO+Kids+Watch+%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AC%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C+%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81+%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :


840_1511081849095V

วันนี้ทางไทยแวร์จะมารีวิว POMO Kids Watch นาฬิกาโทรศัพท์ อุปกรณ์เสริมที่จะมาช่วยดูแลและป้องกันเด็กหายได้เป็นอย่างดี มีรูปทรงน่ารักสีสันสดใส เหมาะสำหรับเด็กๆ มาพร้อมฟังก์ชั่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการโทรออกและรับสาย หรือรับส่งข้อความแจ้งเตือนฉุกเฉินต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนผ่านทางแอปพลิเคชันได้ นับเป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจ ไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กๆ แต่ยังเพิ่มความสบายใจให้กับผู้ปกครองได้อีกด้วย เรามาลองดูคุณสมบัติและวิธีการใช้งานของตัวอุปกรณ์กันได้เลย

IMG_9606

คุณสมบัติของอุปกรณ์ POMO Kids Watch

  • หน้าจอ OLED กว้าง 0.64 นิ้ว
  • ซีพียูความเร็ว 360 MHz
  • แรม 32MB
  • หน่วยความจำภายใน 32MB
  • ​รองรับการใช้งานของ Micro Sim
  • รองรับการใช้งานของระบบ GPS
  • เชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth ได้
  • มีเซนเซอร์ Pedometer และ Motion
  • แบตเตอรี่ภายใน 400 mAh
  • ขนาด 3 x 13.5 x 1.5 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก 200 กรัม

คลิปวิดีโอ



รีวิว POMO Kids Watch 

ตัวกล่องออกแบบได้น่ารัก ด้วยลายการ์ตูนที่มีสีสันสดใส ดึงดูดใจเด็กได้เป็นอย่างดี ใช้วัสดุที่ทำจากกระดาษแข็ง น้ำหนักเบา มีฝาพับที่สามารถเปิดปิดได้ง่าย

IMG_9607

อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่อง

840_151109201313832

  • ตัวเรือนนาฬิกา POMO Kids Watch
  • Adaptor
  • สายชาร์จ micro USB
  • คู่มือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

ลักษณะและฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ

หน้าจอแสดงผลแบบ OLED ด้วยขนาดหน้าจอ 0.64 นิ้ว ให้แสงสีที่คมชัด และประหยัดพลังงาน กรอบหน้าจอฉาบปรอทสะท้อนแสงดูสวยงาม

IMG_9612

ตัวอุปกรณ์ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เด็กสามารถสวมใส่ได้อย่างปลอดภัย ตัวสายเป็นยางซิลิโคนที่มีความนุ่ม และยืดหยุ่น น้ำหนักเบาสวมใส่ได้สบาย สามารถปรับขนาดของสายรัดนาฬิกาได้หลายระดับให้รับกับข้อมือของเด็ก

IMG_9615

มีลำโพงที่ใช้ฟังเสียงสนทนาโทรศัพท์ และแจ้งเตือนต่างๆ อยู่บริเวณด้านบนของตัวเรือนนาฬิกา

IMG_9629

มีรูไมโครโฟน ที่ใช้พูดคุยโทรศัพท์และบันทึกเสียงในการส่ง Voice Message อยู่บริเวณด้านล่างใต้สัญลักษณ์ GPS 

IMG_9628

มีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์ แบบไมโครซิม ที่บริเวณแถบด้านขวา ทำให้ใช้ฟังก์ชั่นของการระบุตำแหน่ง GPS รวมถึงการโทรออกและรับสายได้

IMG_9623840_15110920131383

ส่วนที่แถบด้านซ้าย มีช่องเสียบสาย micro USB  สำหรับชาร์จพลังงาน ด้วยแบตเตอรี่ที่มีความจุ 400 mAh ใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 24 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)

IMG_9622

บริเวณใต้ตัวเรือนนาฬิกาจะมีเซนเซอร์ตรวจจับ เพื่อใช้แจ้งเตือนทันทีเมื่อนาฬิกาหล่นหรือถูกดึงออก ทำให้มั่นใจได้ว่านาฬิกายังคงสวมอยู่บนข้อมือของเด็กอยู่ตลอดเวลา ถัดลงมาจากตัวเซนเซอร์จะเป็นรหัส 15 หลักของตัวเครื่อง (IMEI)  เพื่อใช้ลงทะเบียนเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ในมือถือของผู้ปกครอง

840_15110818530566

คราวนี้มาดูในเรื่องของฟังก์ชั่นปุ่มกดกันบ้าง บนตัวอุปกรณ์นาฬิกาจะมีปุ่มฟังก์ชั่นหลักๆ อยู่ 5 ปุ่มด้วยกัน คือ ปุ่ม Power, ปุ่ม SOS, ปุ่มหมายเลข 1, 2 และ 3

IMG_9613

ทางแถบด้านขวามือของหน้าปัดนาฬิกา จะมีปุ่มกดอยู่ 2 ปุ่ม คือ ปุ่ม Power และ ปุ่มหมายเลข 3

  • ปุ่ม Power ที่ใช้ในการเปิด/ปิดนาฬิกา และวางสายสนทนา
  • ปุ่มหมายเลข 3 ใช้เปิดโหมด Voice Message และเมื่อกดค้างจะเป็นการโทรฉุกเฉินออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ลำดับที่ 3 ที่ตั้งไว้ในแอปพลิเคชัน

IMG_9618

ทางแถบด้านข้างซ้ายมือของหน้าปัดนาฬิกา จะมีอยู่ 3 ปุ่มกด คือ

  • ปุ่มหมายเลข 1 ใช้กดเพิ่มระดับเสียงของนาฬิกา และกดค้างเพื่อโทรฉุกเฉินออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ตั้งไว้เป็นลำดับที่ 1 ในแอปพลิเคชันได้
  • ปุ่ม SOS  เมื่อกดค้างไว้ 3 วินาที จะเป็นการส่งสัญญาณฉุกเฉิน โดยการส่งตำแหน่งที่อยู่ และโทรออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ 3 เบอร์แรก ที่ตั้งเอาไว้ในแอปพลิเคชัน
  • ปุ่มหมายเลข 2 ใช้ลดระดับเสียงของนาฬิกา และโทรฉุกเฉินไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ตั้งไว้เป็นลำดับ 2 ของแอปพลิเคชัน

IMG_9614

หากกด ปุ่มหมายเลข 1 สองครั้งติดกัน จะเป็นการเปิด/ปิด โหมดฟังก์ชั่นการไล่ยุง โดยปล่อยคลื่นความถี่ในระดับ 16 kHz ถึง 20 kHz เพื่อขับไล่ยุงไม่ให้เข้ามาใกล้ตัวเด็กๆ  ส่วนปุ่มหมายเลข 2 เมื่อกดค้างระหว่างเปิดโหมด Voice Message จะเป็นการบันทึกและส่งข้อความแบบเสียง

IMG_96141func

 


การลงทะเบียนของแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน

การใช้งานของ POMO Watch Kids นั้นจะต้องใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน จึงจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ของนาฬิกาได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นจะต้องทำการติดตั้ง แอปฯ POMO Kids ลงบนสมาร์ทโฟนให้เรียบร้อยซะก่อน 

ในการเข้าใช้งานครั้งแรกจะต้องทำการลงทะเบียนเพื่อสร้างชื่อบัญชีและรหัสผ่านของผู้ใช้งาน เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยให้กดปุ่ม Login เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป

135182  135179

หลังจาก Login เข้ามาแล้ว จะพบกับหน้ากรอกข้อมูลของเด็ก โดยจะต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วนทั้ง ชื่อ, น้ำหนัก, ส่วนสูง, เพศ, วันเดือนปีเกิด, เบอร์โทรศัพท์ และยังสามารถใส่รูปภาพประกอบได้อีกด้วย

135178  

เมื่อใส่ข้อมูลของเด็กเรียบร้อยแล้ว ก็มากรอกข้อมูลของตัวอุปกรณ์กันบ้าง โดยที่ช่อง Watch Number: ให้ใส่เป็นเบอร์โทรศัพท์ของซิมการ์ดที่ใช้กับตัวนาฬิกา ส่วนช่อง My number: ให้ใส่เบอร์โทรศัพท์ของเครื่องมือถือที่ลงแอปพลิเคชัน ถัดมาในส่วนของ IMEI: คือการกรอกรหัส 15 หลัก ของตัวเครื่องนาฬิกา (สามารถดูได้จากบริเวณใต้ตัวเรือนนาฬิกา) เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้ว ให้กด Get Captcha เพื่อนำรหัส 4 ตัว ที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอนาฬิกา มาใส่ลงไป

135193  840_151108185305661

ในช่อง Guardian สามารถตั้งสถานะของผู้ปกครอง พร้อมตั้งรูปไอคอนประกอบ เพื่อให้เด็กๆ สามารถจดจำได้ง่าย ซึ่งไอคอนนี้่จะใช้เป็นตัวเลือกในการส่ง Voice Message ของนาฬิกาได้ เมื่อใส่รายละเอียดครบถ้วนแล้ว ให้กดปุ่ม Save จากนั้นทั้งสมาร์ทโฟนและนาฬิกา POMO Watch Kids ก็จะเริ่มทำการเชื่อมต่อกันทันที 

135177

เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนลงทะเบียนแล้ว จะมีหน้าที่สามารถใส่เบอร์โทรศัพท์ของคนในครอบครัว สามารถใส่ได้สูงสุด 8 เบอร์ โดยเบอร์ที่อยู่ใน 3 ลำดับแรก จะเป็นเบอร์ที่สำคัญ ควรเป็นเบอร์ของพ่อ,แม่ และบุคคลที่ใกล้ชิด เพราะนาฬิกาจะสามารถกดโทรออกและแจ้งเตือนฉุกเฉินได้เฉพาะกับเบอร์ที่อยู่ใน 3 ลำดับแรกเท่านั้น ส่วนเบอร์โทรศัพท์ลำดับที่ 4-8 นาฬิกาจะสามารถใช้รับสายได้เพียงอย่างเดียว 

135186

เมื่อกรอกเบอร์โทรศัพท์ของคนในครอบครัวเรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม Save จากนั้นก็เริ่มใช้งานของแอปพลิเคชันกันได้เลย


การใช้งานของแอปพลิเคชัน 

หลังจากที่ลงทะเบียนฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ให้นาฬิกาเชื่อมกันกับแอปฯ ในมือถือแล้ว ลองมาดูการใช้งานของแต่ละฟังก์ชั่นกันดีกว่า 

เมื่อเข้าแอปพลิเคชันมา จะพบกับหน้าแผนที่ที่ระบุตำแหน่งที่อยู่ของนาฬิกา บริเวณด้านซ้ายบนจะแสดงแถบพลังงานที่เหลือพร้อมกับรายละเอียดที่อยู่ ส่วนแถบด้านขวาจะมีแถบ Option และโหมดต่างๆ ให้เลือกเปิด/ปิด การใช้งานได้

Screenshot_2015-11-09-15-51-4511

เมื่อกดแถบ Option ที่มุมขวาบน จะเข้าสู่หน้า General Setting ที่ใช้ตั้งค่าการทำงานทั่วไป เช่น เพิ่มเบอร์โทรของคนในครอบครัว, ดูประวัติของตำแหน่งพื้นที่, ตั้งโหมดประหยัดพลังงาน และการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย 

Screenshot_2015-11-09-15-53-52

การกำหนดพื้นที่ปลอดภัย (Safety area) ถือเป็นฟีเจอร์เด็ดเลยทีเดียว เราสามารถตั้งขอบเขตของพื้นที่ปลอดภัยที่เด็กของเราควรจะอยู่ โดยใช้มือลากขอบเขตของพื้นที่ได้อย่างอิสระ ตัวอย่างเช่นในรูปลองวาดเป็นวงกลมในเขตบางรัก

Screenshot_2015-11-09-16-02-49  Screenshot_2015-11-09-16-02-10

เมื่อลากกำหนดพื้นที่เรียบร้อยแล้วกดปุ่ม Ok ในหน้าแผนที่ก็จะมีพื้นที่วงกลมกำหนดตามแบบที่เราวาดเอาไว้ และเมื่อเด็กหลุดออกไปจากนอกพื้นที่ที่กำหนด นาฬิกาจะส่งข้อความเตือนเข้ามาหาเราทันที

Screenshot_2015-11-09-15-51-45

ฟีเจอร์ที่น่าสนอีกตัวก็คือ การส่งข้อความเสียง หรือ Voice Message เข้าไปที่ตัวนาฬิกานั่นเอง ใช้งานโดยกดที่ไอคอน รูปไมโครโฟน จากนั้น กด ปุ่ม Press and speak ที่ด้านล่างค้างไว้ ให้ปรากฏสัญลักษณ์ไมโครโฟนขึ้นมาแล้วสามารถพูดได้เลยทันที และเมื่อปล่อยมือ ข้อความก็จะถูกส่งไปถึงนาฬิกาทันที

Screenshot_2015-11-09-19-13-16  Screenshot_2015-11-09-15-55-03


สรุปการใช้งาน POMO Kids Watch 

หลังจากได้ทดลองใช้งานแล้ว POMO Kids Watch นับว่าเป็นนาฬิกาข้อมือสำหรับเด็กที่มีความสามารถเกินตัวเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะใช้เป็นโทรศัพท์ที่สื่อสารกันได้แล้ว ยังมีระบบติดตามพิกัดที่อยู่และการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ ไปยังผู้ปกครองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ มีฟังก์ชั่นมากมายที่ช่วยดูแลและเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กได้จริง ทำให้ผู้ปกครองทุกคนสบายใจได้เลยว่า เด็กๆ จะปลอดภัยและไม่หายไปไหนอย่างแน่นอน

ข้อดี

  • ระบบ GPS สามารถบอกตำแหน่งที่อยู่ของนาฬิกาได้อย่างแม่นยำ
  • สามารถส่งข้อความเสียง และการแจ้งเตือนต่างๆ ถึงกันได้อย่างรวดเร็ว
  • ดูแลและควบคุมการใช้งานผ่านทางแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวก
  • กำหนดขอบเขตพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็กๆ ได้
  • ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยสำหรับเด็ก
  • มีเซนเซอร์ใต้ตัวเรือนนาฬิกาในการแจ้งเตือนฉุกเฉิน เมื่อนาฬิากาถูกดึงหรือหลุดออกจากข้อมือเด็ก
  • มีน้ำหนักเบา สวมใส่ได้สบาย

ข้อสังเกต

  • สำหรับเด็กที่มีข้อมือเล็กมากๆ อาจสวมใส่ได้ไม่พอดี
  • หน้าจอมีขนาดค่อนข้างเล็ก
  • ไม่สามารถกันน้ำได้

 


 

0 %E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7+POMO+Kids+Watch+%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AC%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C+%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81+%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
สมาชิก : Member    สมาชิก
สั่งซื้อ
 
 
 

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
12 มกราคม 2559 16:10:13
Profile Pictureสมาชิก : Member
Comment Bubble Triangle
มีรีวิวดีดีแล้วต้องมี ราคาเด็ดๆ เชิญชม http://www.topvalue.com/
 


 

รีวิวแนะนำ