รีวิว TRACKIMO TRK100 อุปกรณ์ติดตามสิ่งของด้วยระบบ GPS

สภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะดีนัก ทำให้การโจรกรรมเกิดขึ้นได้ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลักขโมย รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เรื่อยไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวอย่างเช่นกระเป๋าถือ กระเป๋าเป้ กระเป๋าเดินทาง และทรัพย์สินอื่นๆ อีกนานาชนิด แต่ด้วย TRACKIMO TRK100 อุปกรณ์ Tracking device ตัวเล็กๆ ที่ใช้ระบบ GPS ในการติดตามตำแหน่ง เพียงติดตั้งอุปกรณ์นี้เข้ากับ รถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ คุณก็สามารถตรวจสอบผ่านสมาร์ทโฟน หรือเครื่องคอมฯ ได้ตลอดเวลาว่ารถของคุณยังจอดอยู่เดิมหรือไม่ และเมื่อรถของคุณมีการเคลื่อนที่ออกจากที่จอด จะมีการแจ้งเตือนส่งตรงมาถึงคุณทันที

และ TRACKIMO TRK100 ยังมีประโยชน์ในการติดตามตัวคนร้าย และติดตามทรัพย์สินของคุณกลับคืนมาด้วย นอกจากการติดตามยานพาหนะแล้ว ด้วยขนาดที่กะทัดรัดยังเหมาะสำหรับการติดตามทรัพย์สินประเภทกระเป๋าถือ กระเป๋าเป้ กระเป๋าเดินทาง เรื่อยไปจนถึงติดตามเด็กเล็กที่เสี่ยงต่อการโดนลักพาตัว หรือหลงทาง และผู้สูงอายุที่อาจจะหลงๆ ลืมจำทางกลับบ้านไม่ได้ และที่ไฮเทคสุดๆ ก็คือการติดตั้งไว้กับเครื่องบินโดรน ช่วยให้การออกตามหาโดรนที่เกิดอุบัติเหตุตกทำได้ง่ายขึ้นด้วยครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

1. ไขควงและน็อตขนาดจิ๋ว สำหรับปิดล็อกช่องใส่แบตเตอรี่
2. สายคล้องคอ สำหรับห้อยคอผู้สูงอายุที่ต้องการติดตาม
3. สายชาร์จแบบเสียบกับพอร์ต USB (แต่ไม่มีอะแดปเตอร์มาให้)
4. ซองใส่ซิลิโคนกันกระแทก
5. ตัวเครื่อง TRACKIMO TRK100
6. หนังสือคู่มือ 2 เล่มบางๆ
7. ชิ้นฝาหลังแบบคลิปหนีบกับเสื้อ สำหรับการติดตามผู้สูงอายุ หรือเด็กๆ
8. แถบผ้าตีนตุ๊กแกสำหรับติดตั้งตัวเครื่องเข้ากับสิ่งต่างๆ

ส่วนประกอบต่างๆ ของเครื่อง TRACKIMO TRK100

แกะฝาหลังเครื่องออกดูก็พบกับก้อนแบตเตอรี่ขนาดเล็กความจุ 600mAh สเปกระบุว่าใช้งานได้ประมาณ 7 วันต่อรอบการชาร์จ และจากการทดลองใช้งานจริงพบว่าใช้งานได้ประมาณ 4-5 วันต่อรอบการชารจ์ครับ ถือว่าแบตฯ อึดอยู่ และถ้าทรัพย์สินถูกโจรกรรมไป ก็มีเวลาให้ตามของได้หลายวัน และถ้าจะให้ดีควรชาร์จแบตฯ 2-3 วันครั้ง อย่าปล่อยให้เกือบหมดแล้วค่อยชาร์จ เพราะเราไม่มีทางรู้ว่ารถหรือทรัพย์สินของเราจะโดนขโมยวันไหน ถ้าโดยขโมยไปในวันที่แบตฯ ใกล้หมด ก็มีเวลาให้เราตามหาของเพียงไม่กี่วัน

และการตามหาของที่โดนขโมย แนะนำว่าอย่าออกตามหาเพียงลำพัง เพราะเราไม่รู้ว่าหัวขโมยมีอาวุธอะไรบ้าง และเราไม่มีอำนาจในการตรวจค้น ทางที่ดีแจ้งความ แล้วพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วยครับ

ในภาพข้างบนจะเห็นว่ามีซิมการ์ดติดตั้งมาให้เรียบร้อย เป็นซิมการ์ดแบบ Inter ใช้งานในประเทศไทยได้ และฟรีค่าบริการใช้งานซิมเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งในจุดนี้ถือว่า TRACKIMO TRK100 ดีกว่า Tracking device ตัวอื่นๆ ที่เราต้องจัดหาซิมการ์ดเอง และเสียค่าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเอง

ด้านหน้าตัวเครื่องก็เรียบง่ายมากๆ เลยครับ มีเพียงโลโก้ TRACKIMO ตัวโตๆ แล้วก็มีปุ่ม SOS พร้อมปุ่มซ้าย และปุ่มขวาที่วางอยู่ด้านข้างปุ่ม SOS โดยหน้าที่ของปุ่ม SOS คือให้ผู้สูงอายุ หรือเด็กๆ กดส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมาหาเราผ่านทาง SMS หรืออีเมล ส่วนปุ่มซ้าย และปุ่มขวา สามารถกำหนดข้อความ SMS ที่จะให้ส่งมาหาเราได้ครับ เช่นปุ่มซ้ายอาจกำหนดข้อความว่า "โทรกลับด้วย" ส่วนปุ่มขวาอาจกำหนดข้อความเป็น "วันนี้กลับบ้านช้า" เป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์การส่ง SMS มีประโยชน์มากในกรณีที่ต้องการขอความช่วยเหลือ

ระบบการยึดติดของ TRACKIMO TRK100 มีอยู่ 4 รูปแบบด้วยกัน เริ่มจากมุมซ้ายบน เป็นแถบฝ้าตีนตุ๊กแกสีดำ โดยการลอกแถบกาวด้านหลังตีนตุ๊กแกออก แล้วติดตั้งเข้ากับจุดต่างๆ ของวัตถุที่เราต้องการติดตาม อย่างเช่นติดตั้งเข้ากับคอนโซลของรถยนต์เป็นต้น

มุมซ้ายล่างเป็นแถบแม่เหล็กสำหรับการติดตั้ง TRACKIMO TRK100 เข้ากับส่วนที่เป็นเหล็ก อย่างเช่นเฟรมของรถจักรยาน หรือโครงสร้างของรถยนต์ที่เป็นเหล็ก ซึ่งจากการลองติดตั้งใช้งานจริง การใช้แถบแม่เหล็กควรติดตั้งในส่วนที่มีความสั่นสะเทือนน้อยในขณะที่ยานพาหนะมีการเคลื่อนที่ เพราะแรงสั่นสะเทือนอาจทำให้ TRACKIMO TRK100 เคลื่อนที่ หรือหลุดออกจากตำแหน่งที่ติดตั้งได้ครับ

ส่วนมุมขวาล่าง เป็นคลิปสำหรับหนีบ TRACKIMO TRK100 ติดเข้ากับเสื้อผ้า สำหรับการติดตามผู้สูงอายุ หรือเด็กๆ

TRACKIMO TRK100 มีเคสซิลิโคนสีขาวขุ่นแถมมาให้ด้วย กันริ้วรอยขีดข่วนได้ดี และกันกระแทกได้ในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับการหนีบติดเสื้อผ้า เพื่อการติดตามผู้สูงอายุ หรือเด็กๆ

ด้วยขนาดตัวที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบา ทำให้ TRACKIMO TRK100 รองรับการติดตั้งเข้ากับวัตถุหลากหลายรูปแบบ โดยการติดตั้งควรเป็นไปในลักษณะที่หลบซ่อนเพื่อไม่ให้หัวขโมยเห็น และเกิดความสงสัยว่านี่คืออุปกรณ์อะไร

สำหรับการติดตั้งในรถยนต์ อาจติดตั้งในซอกมุมของฝากระโปรงหลังรถ (อาจเอาพรมหรืออะไรปิดทับไว้เพื่อความแนบเนียน) สำหรับการติดตั้งกับรถมอเตอร์ไซค์ อาจเอาตัวเครื่องซ่อนไว้ในช่องเก็บหมวกกันน็อคใต้เบาะ หรือถ้าจะเอาเนียนกว่านั้น ก็อาจจะติดตั้งซ่อนไว้ในแฟริ่งของรถมอเตอร์ไซค์ก็ได้

สำหรับการติดตั้งกับรถจักรยานค่อนข้างมีความท้าทาย เนื่องจากเฟรมจักรยานเปิดโล่ง ทำให้ยากกับการที่จะติดตั้งตัวเครื่องแบบลับตาโจร และการติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับเฟรมจักรยานด้วยแถบแม่เหล็กก็ไม่น่าจะเหมาะ เพราะล่อตาโจรมาก และในขณะที่ขี่จักรยานจะความสั่นสะเทือนที่เฟรมค่อนข้างมาก ทำให้อุปกรณ์เคลื่อนออกจากตำแหน่ง จนกลัวว่าจะร่วงลงพื้นในขณะที่ขี่

วิธีการติดตั้งเข้ากับจักรยานเท่าที่พอจะนึกออกคือ สำหรับจักรยานที่มีที่เหน็บขวดน้ำ ก็ให้เอา TRACKIMO TRK100 ใส่ไว้ในขวดน้ำ (โดยที่ไม่ต้องใส่น้ำในขวด) ก็จะทำให้ติดตั้งอุปกรณ์ได้แบบลับตาโจร (แต่ถ้าโจรเอาจักรยานไปแล้วโยนขวดน้ำทิ้ง ก็เป็นอันว่าจบกัน)

นอกจากภารกิจการติดตามทรัพย์สินแล้ว TRACKIMO TRK100 ก็ยังเหมาะมากๆ สำหรับภารกิจสายลับ ด้วยขนาดตัวที่กระทัดรัด และการติดตั้งที่ง่าย อย่างเช่นในภาพด้านบนนี้เป็นการแอบใส่อุปกรณ์ไว้ในกระเป๋าถือของคุณผู้หญิง (ควรเลือกใส่ในช่องกระเป๋าที่ลับตา) ทำให้รู้ได้ทันทีว่าคุณผู้หญิงแอบไปช้อปปิ้งที่ไหนมา หรือถ้าคุณผู้หญิงอยากรู้ว่าสามีแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ที่ไหน ก็แอบเอาอุปกรณ์นี้ใส่ไว้ในลิ้นชักหน้าของรถยนต์ รับรองว่ารู้เรื่องแน่นอน (และสำหรับคุณผู้ชายที่ชอบแอบมีบ้านเล็กบ้านน้อย ห้ามให้คุณภรรยารู้เด็ดขาดว่ามีอุปกรณ์แบบนี้อยู่ในโลก)

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ TRACKIMO

เมื่อแกะกล่องออกมา ให้นำก้อนแบตเตอรี่ ติดตั้งเข้าไปในตัวเครื่อง แล้วเสียบชาร์จผ่านสายชาร์จที่มีมาให้ เสียบชาร์จจนกว่าไฟที่ตัวเครื่องจะติดเป็นสีแดงสว่างค้าง แสดงว่าแบตฯ เต็ม ให้ถอดสายชาร์จออก แล้วเดินออกมากลางแจ้ง เพื่อให้ตัวเครื่องรับสัญญาณ GPS ได้ดี จากนั้นกดปุ่มสีแดงทางด้านบนตัวเครื่องค้างไว้ประมาณ 3 วินาที ไฟสีเขียวที่ตัวเครื่องจะกระพริบ 3 ครั้ง จากนั้นวางตัวเครื่องไว้กลางแจ้งอย่างน้อย 15 นาที เพื่อให้ TRACKIMO TRK100 จับสัญญาณ GPS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการลงทะเบียนอุปกรณ์ที่เว็บไซต์ เพื่อเริ่มต้นการใช้งานครับ

เมื่อมาที่หน้าเว็บ https://app.trackimo.com แล้วให้คลิกที่คำสั่ง Sign Up เพื่อเริ่มต้นการลงทะเบียน

ให้ป้อนอีเมล และรหัสผ่าน ที่จะใช้สำหรับการล็อกอินเข้าระบบของ TRACKIMO

ระบบจะทำการส่งจดหมายมายังอีเมลของเรา เพื่อยืนยันตัวตน

เช็คอีเมลของเรา แล้วเปิดดูเมล์ที่ส่งมาจากระบบของ TRACKIMO ให้คลิกที่คำสั่ง Click here ในอีเมลเพื่อยืนยันตัวตน

กลับมาที่หน้าเว็บชอง TRACKIMO อีกครั้ง แล้วทำการ Login ด้วยอีเมล และรหัสผ่านของเรา

ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการลงทะเบียนอุปกรณ์ของเราเข้าสู่ระบบของ TRACKIMO ให้ทำการป้อน ID ของอุปกรณ์ ซึ่งเป็นหมาย 7 หลัก (หาดูหมายเลข ID ได้จากภายในช่องใส่แบตเตอรี่ หรือทางด้านกล่องใส่ตัวเครื่อง)

ขั้นตอนการการ Pairing ให้กดปุ่ม SOS ที่ตัวเครื่องค้างไว้ 3 วินาที จนกว่าจะได้ยินเสียงบี๊บ และเห็นไฟสีน้ำเงิน 2 ดวงบนตัวเครื่องกระพริบ รอสักพักการลงทะเบียนอุปกรณ์ก็จะเสร็จเรียบร้อย

เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เราจะได้ได้รับโปรโมชั่นไม่ต้องจ่ายค่าบริการอินเทอร์เน็ตเป็นระยะเวลา 12 เดือน และสามารถใช้ตัวเครื่องส่ง SMS เพื่อขอความช่วยเหลือได้เดือนละ 10 ครั้ง

สำหรับคนที่สงสัยว่าหลังจาก 12 เดือนไปแล้วด้องเสียค่าบริการเท่าไหร่ ดูตามภาพด้านบนมีโปรแบบรายปี ในราคา 49.99$ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,800 บาท ตกประมาณเดือนละ 150 บาท ก็นับว่าค่าบริการถูกกว่าค่าอินเทอร์เน็ต 3G/4G บ้านเราอยู่พอสมควร ที่มักจะมีโปรรายเดือน ที่จ่ายขั้นต่ำสุดเดือนละ 199 บาทครับ

เมื่อล็อกอินเข้าสู่ระบบ TRACKIMO ผ่านหน้าเว็บเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ควรทำคือการเข้าไปปรับแต่งค่า โดยให้คลิกที่คำสั่ง Settings บนแถบเมนูทางด้านซ้ายของหน้าเว็บ ก็จะปรากฏหน้าต่างปรับแต่งตามภาพด้านบน

• ให้เปิดการแจ้งเตือนของ SOS key alarm (แจ้งเตือนเมื่อกดปุ่ม SOS)
• เปิดการแจ้งเตือนของ Left key alarm (แจ้งเตือนเมื่อกดปุ่มซ้าย โดยสามารถกำหนดข้อความ SMS ที่จะให้ส่งมาหาเราได้ ในตัวอย่างภาพข้างบนนี้ กำหนดข้อความเป็น "โทรกลับด้วย")
• เปิดการแจ้งเตือน Right key alarm  (แจ้งเตือนเมื่อกดปุ่มขวา โดยสามารถกำหนดข้อความ SMS ที่จะให้ส่งมาหาเราได้ ในตัวอย่างภาพข้างบนนี้ กำหนดข้อความเป็น "วันนี้กลับบ้านช้า")

เมื่อกำหนดข้อความ SMS ขอความช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว เราต้องกำหนดว่าจะให้ส่งข้อความ SMS มาที่หมายเลขโทรศัพท์ใด โดยเลือกที่ Phone แล้วเปลี่ยนประเทศเป็น Thailand จากนั้นป้อนหมายเลขโทรศัพท์มือถือ โดยตัดหมายเลข 0 ข้างหน้าออก ตัวอย่างเช่นถ้าหมายเลขโทรศัพท์เป็น 0811234567 ก็ให้ป้อนเป็น 811234567 ครับ

ลองของจริง TRACKIMO TRK100
เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อมาเราจะทำการติดตั้งแอป TRACKIMO ลงในสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตของเรา โดยแอปฯ ของ TRACKIMO มีทั้งบนระบบแอนดรอยด์และ iOS และต้องบอกว่าการใช้งาน TRACKIMO ผ่านสมาร์ทโฟนนั้นสะดวกและคล่องตัวกว่า การใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์เสียอีกครับ สามารถติดตามตำแหน่ง GPS ของวัตถุที่เราเฝ้าติดตาม และปรับแต่งค่าการทำงานได้อย่างง่ายดาย คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดแอป ได้เลยครับ

การบอกตำแหน่ง ณ เวลาปัจจุบันของวัตถุที่ติดตั้ง TRACKIMO TRK100 อยู่สามารถทำได้อย่างแม่นยำ มีประโยชน์ในการตามหาทรัพย์สิน ยานพาหนะ หรือบุคคลที่อาจจะหลงทาง หรือถูกลักพาตัวอย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากจะบอกตำแหน่งบนแผนที่ได้แล้ว ก็ยังบอกความเร็วในการเคลื่อนที่ได้ด้วย

แต่ก็มีจุดอ่อนเล็กน้อย หากวัตถุที่เฝ้าติดตามได้เข้าไปอยู่ในอาคารที่อับสัญญาณ GPS ระบบก็จะทำการระบุตำแหน่งแบบคร่าวๆ โดยอิงจากการจับสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (ตัวอย่างเช่นในภาพซ้าย จะมีข้อความกำกับว่า "Location based on mobile network") ซึ่งการระบุตำแหน่งด้วยการอ้างอิงจากสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ นั้นก็มีความคลาดเคลื่อนอยู่พอควร แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่ๆ รับสัญญาณ GPS ได้ ก็ต้องบอกว่าการระบุตำแหน่งเที่ยงตรงใช้ได้เลยครับ

ความแรงในการรับสัญญาณ GPS ต้องบอกว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม ในช่วงระหว่างการทดสอบ ได้ลองนำ TRACKIMO TRK100 ติดตัวไป แล้วลองเดินทางด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถยนต์, รถแท็กซี่, รถโดยสารประจำทาง และเรือ พบว่าสามารถระบุตำแหน่งบนแผนที่ได้อย่างแม่นยำ

อีกหนึ่งฟีเจอรที่มีประโยชน์มากของ TRACKIMO TRK100 คือการตั้งให้เตือนเมื่อมีการเคลื่อนที่เกินความเร็วที่กำหนด หรือ Speed Limit Alarm (อย่างในภาพด้านบนกำหนดความเร็วไว้ที่ 100 กม. ต่อชั่วโมง) เมื่อความเร็วเกินกว่ากำหนด ก็มีการแจ้งเตือนผ่านทางอีเมล (ภาพขวา) และแจ้งเตือนผ่านแอปฯ ในทันที เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเฝ้าระวังไม่ให้ลูกหลานขับรถเร็วเกินไป หรือบริษัทขนส่งที่ต้องการเฝ้าระวังไม่ให้พนักงานขับรถเร็ว

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ TRACKIMO TRK100 คือการแจ้งเตือนเมื่อวัตถุที่เฝ้าติดตาม เริ่มมีการเคลื่อนไหว (เปิดการแจ้งเตือนนี้ได้ในส่วน Setting แล้วเลือกที่ Moving Start Alarm) เมื่อรถของเราเคลื่อนที่ออกจากที่จอด ก็จะมีการแจ้งเตือนมายังสมาร์ทโฟนของเราผ่านทางอีเมล (ภาพซ้าย) และมีการแจ้งเตือนผ่านแอปฯ ด้วย (ภาพขวา) คุณประโยชน์ของฟีเจอร์นี้ เพื่อให้เราเฝ้าติดตามการโจรกรรมได้ทันท่วงที

โดยจากการลองใช้งานจริงต้องบอกว่า ฟีเจอร์ Moving Start Alarm ทำงานได้แม่นยำมาก แม้วัตถุที่เฝ้าติดตามจะอยู่ในจุดที่อับสัญญาณ GPS แต่เมื่อเกิดการเคลื่อนที่ ระบบก็สามารถส่งการแจ้งเตือนมายังสมาร์ทโฟนได้ในแบบเกือบจะทันที ไว้วางใจได้ว่าคุณจะรู้ทันทีเมื่อของๆ คุณถูกโจรกรรม

สำหรับฟังก์ชั่นที่ผู้สูงอายุ หรือเด็กสามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือผ่านการกดปุ่ม SOS ก็ทำงานได้ดีเยี่ยม โดยเมื่อมีการกดปุ่ม (ต้องกดค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จนไฟสีน้ำเงินกระพริบพร้อมกันทั้ง 2 ดวง) ก็จะมีการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมายังสมาร์ทโฟนทันที โดยมีการส่งมาในรูปแบบของข้อความ SMS (ภาพซ้าย) และส่งการแจ้งเตือนมายังแอปฯ TRACKIMO (ภาพขวา) ซึ่งมีการแจ้งพิกัดของผู้ที่ขอความช่วยเหลืออย่างชัดเจน และมีการแจ้งผ่านอีเมลด้วย

ฟีเจอร์การสร้างรั้วเสมือน (Fence) ก็มีประโยชน์สำหรับการประยุกต์ใช้ในภาระกิจป้องกันเด็กหนีโรงเรียน (อาจจะแอบใส่ TRACKIMO TRK100 ไว้ในกระเป๋านักเรียน) หรือป้องกันไม่ให่สิ่งของใดๆ เคลื่อนออกจากอาณาเขตที่กำหนด โดยสามารถกำหนดความกว้างของเขตรั้วได้ (ภาพซ้าย) และเมื่อวัตถุที่เฝ้าติดตาม เคลื่อนที่ออกไปนอกเขตรั้ว ก็จะมีการแจ้งเตือนทันที

ส่วนภาพขวา เป็นการเรียกดูประวัติย้อนหลังว่าวัตถุที่เราเฝ้าติดตาม ได้เดินทางไปที่ไหนบ้าง สามารถเลือกได้ว่าจะดูประวัติการเดินทางของชั่วโมงที่แล้ว, 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา, สัปดาห์ที่ผ่านมา หรือเลือกวันและช่วงเวลาที่ต้องการย้อนดูประวัติการเดินทางได้ตามต้องการ 

ซึ่งจากการทดสอบใช้งานจริงต้องบอกว่ามีความแม่นยำสูงมากๆ ถ้าแอบเอา TRACKIMO TRK100 ไปใส่ไว้ในกระเป๋าถือของคุณสุภาพสตรี ก็จะรู้ได้ทันทีว่า แอบไปช้อปปิ้งที่ไหนมาบ้าง และถ้าแอบเอา TRACKIMO TRK100 ไปในไว้ในรถของคุณผู้ชาย ก็จะรู้ได้ทันทีว่า แอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ที่ไหน ทำให้นอกจากจะใช้ TRACKIMO TRK100 เพื่อการติดตามทรัพย์สิน หรือติดตามเด็กและผู้สูงอายุได้แล้ว ก็ยังรองรับการใช้งานในภารกิจสายลับได้ด้วย

ชมวีดิโอรีวิว TRACKIMO TRK100

บทสรุป TRACKIMO TRK100

ข้อดี

• ประยุกต์ใช้เฝ้าติดตามวัตถุได้หลายรูปแบบ อาทิ รถยนต์, มอเตอร์ไซค์, กระเป๋ารูปแบบต่างๆ, เครื่องบินโดรน, ผู้สูงอายุ และเด็ก
• มีฟีเจอร์การแจ้งเตือนความเร็วเกินกำหนด
• มีฟีเจอร์รั้วเสมือนที่แจ้งเตือนเมื่อวัตถุเคลื่อนที่ออกนอกอาณาเขตที่กำหนด
• มีปุ่ม SOS เพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ สำหรับการใช้งานกับผู้สูงอายุ และเด็ก
• ฟรีค่าบริการใช้งานซิมการ์ดเป็นเวลา 12 เดือน และหลังจากนั้นก็เสียค่าบริการรายปีราคาไม่แพง
• ใช้งานได้ทั้งการเฝ้าติดตามวัตถุ และภารกิจสายลับ
• ใช้งานง่าย สามารถเฝ้าติดตามวัตถุได้ผ่านทางคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน

ข้อสังเกต

• หากมีการออกแบบตัวเครื่องให้กันน้ำ และป้องกันแรงกระแทก ก็จะมีความเหมาะสมในการใช้เฝ้าติดตามสัตว์เลี้ยง

TRACKIMO TRK100 เป็นอุปกรณ์ Tracking device ที่น่าใช้งานมากที่สุดอีกตัวหนึ่ง ความได้เปรียบก็คือมีซิมการ์ดแบบ Inter พร้อมโปรฟรีค่าบริการอินเทอร์เน็ต 1 ปี และเมื่อผ่านระยะเวลา 1 ปีไปแล้ว ก็ยังมีการคิดค่าบริการในอัตราที่ย่อมเยา นอกจากนี้ยังมีความสามารถที่หลากหลายและเป็นประโยชน์กับการใช้งานจริง ทั้งในการเฝ้าติดตามทรัพย์สิน และภารกิจสายลับ สำหรับใครที่สนใจอยากจะซื้อ TRACKIMO TRK100 ก็ คลิกที่นี่ได้เลยครับ