ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
ไทยแวร์รีวิว
 

รีวิว Totolink A2004NS ไวร์เลสเราเตอร์ Dual Band รองรับ FTP และ File Sharing ด้วยนะ

Totolink A2004NS ไวร์เลสเราเตอร์ Dual Band รองรับ FTP และ File Sharing ด้วยนะ

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 15,102
เขียนโดย :
0 %E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7+Totolink+A2004NS+%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C+Dual+Band+%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A+FTP+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+File+Sharing+%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B0
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

DSC_1641_673_ใส่โลโก้

โมเด็มเราเตอร์ หรือไวร์เลสเราเตอร์ เป็นอุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่งที่บ้าน และสำนักงานในโลกยุคไอทีต้องมี เพื่อให้เครื่องคอม โน้ตบุ๊ค และสมาร์ทโฟนของเรา สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ผ่านสัญญาณ Wi-Fi ความดีของไวร์เลส์เราเตอร์ตัวนี้คือรองรับการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi แบบ Dual ฺBand คือที่ย่านความถี่ 2.4GHz (ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล 300Mbps) ซึ่งเป็นย่านความถี่มาตรฐานที่สมาร์ทโฟนและเครื่องโน้ตบุ๊กทั่วไปรองรับ และสามารถปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ที่ย่านความถี่ 5GHz ที่ให้ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 1,167Mbps รองรับการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ และการสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูงได้ดีกว่า และข้อดีอีกอย่างของ Wi-Fi 5GHz คือมีความแออัดและมีการรบกวนของช่องสัญญาณน้อยกว่าคลื่นความถี่ 2.4GHz แต่ก็ต้องบอกว่าสมาร์ทโฟน และโน้ตบุ๊คไม่ได้รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ย่านความถี่ 5GHz ทุกรุ่นนะครับ ดังนั้นเพื่อให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ควรตรวจสอบก่อนว่า สมาร์ทโฟน และโน้ตบุ๊คของสมาชิกในบ้าน มีกี่เครื่องที่รองรับ Wi-Fi 5GHz

และจุดเด่นอีกอย่างของ Totolink A2004NS คือมีพอร์ต USB สำหรับการเชื่อมต่อหน่วยเก็บข้อมูลอย่างแฟลชไดร์ฟ หรือฮาร์ดดิสก์แบบภายนอก เพื่อการทำ File Sharing สำหรับการแชร์ไฟล์ให้เข้าถึงได้จากคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องในระบบเครือข่าย และยังสามารถทำเป็น FTP Server สำหรับการปล่อยให้ผู้อื่นดาวน์โหลดไฟล์ไปใช้งานผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ด้วย ต้องบอกว่าเป็นไวร์เลสเราเตอรที่มีฟังก์ชั่นคุ้มค่า รองรับความต้องการที่หลากหลาย

แต่ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า อุปกรณ์ Totolink A2004NS ที่เราจะมารีวิวให้ชมกันในครังนี้ มันทำหน้าที่เป็น ไวร์เลสเราเตอร์ คือโดยตัวมันเองไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ADSL ผ่านสายโทรศัพท์ได้ แต่มันอาศัยการดึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากอุปกรณ์ โมเด็มเราเตอร์ ผ่านสาย LAN แล้วมันค่อยกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi และพอร์ต LAN ที่อยู่บนตัวมันอีกที ดังนั้น  Totolink A2004NS ต้องทำงานร่วมกับโมเด็มเราเตอร์ที่คุณมีอยู่ครับ ไม่สามารถทำงานแบบเดี่ยวๆ ตัวเดียวได้

คุณสมบัติของไวร์เลสเราเตอร์ Totolink A2004NS

  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ตามมาตรฐาน 802.11 ac/n/g/b/a
  • ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi แบบ Dual Band ที่ความถี่ 2.4GHz (300Mbps) และ 5GHz (1,167Mbps)
  • เสา Wi-Fi ความแรงสัญญาณ 5dBi จำนวน 4 เสา (ถอดเสาไม่ได้)
  • ฟังก์ชั่นค้นหาแชแนลการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ที่ดีที่สุด
  • พอร์ต LAN 10/100/1000 จำนวน 5 พอร์ต
  • USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ต
  • VPN Server
  • มีปุ่ม WPS

ดีไซน์ Totolink A2004NS

DSC_1649_673_ใส่โลโก้

DSC_1651_673_ใส่โลโก้

เสาอากาศทั้ง 4 ต้นของ Totolink A2004NS ถอดเปลี่ยนไม่ได้ แต่สามารถพับเก็บได้เป็นระเบียบเรียบร้อยเมื่อไม่ได้ใช้งาน

DSC_1642_673_ใส่โลโก้

ด้านหลังตัวเครื่องเป็นศูนย์รวมของพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ

DSC_1643_คำบรรยาย_673_ใส่โลโก้

  1. ช่องเสียบอะแดปเตอร์
  2. ปุ่มจิ้ม Reset เครื่อง
  3. พอร์ต USB 2.0 สำหรับเสียบแฟลชไดร์ฟ หรือฮาร์ดดิสก์แบบภายนอก เพื่อการทำ File Sharing และ FTP Server
  4. พอร์ต LAN เชื่อมต่อกับโมเด็มเราเตอร์
  5. พอร์ต LAN 10/100/1000 จำนวน 4 พอร์ต เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ๊ค

ติดตั้งง่ายดี

ต้องยอมรับว่า Totolink A2004NS เป็นไวร์เลสเราเตอร์ที่ติดตั้งได้ง่าย และไม่จำเป็นต้องเป็นเซียนระบบเน็ตเวิร์ก คุณก็สามารถติดตั้งไวร์เลสเราเตอร์ตัวนี้เข้ากับระบบเครือข่ายที่บ้าน หรือที่สำนักงานได้อย่างไม่ยากเย็นครับ ซึ่งขั้นตอนการติดตั้งมีอธิบายเอาไว้ในแผ่นพับคู่มืออย่างละเอียด 

อันดับแรกก็ต้องทำการติดตั้ง Totolink A2004NS เข้ากับระบบเครือข่ายตามภาพด้านล่าง จะเห็นว่ามันไม่สามารถเชื่อมต่อกับสายโทรศัพท์ได้โดยตรง โดยสายโทรศัพท์ยังคงเสียบเข้ากับ ADSL โมเด็มตามเดิม และเราต้องเชื่อมต่อ Totolink A2004NS เข้ากับโมเด็มผ่านสาย LAN และในส่วนของสาย LAN จากคอมหรือโน้ตบุ๊ค ที่เดิมเคยเสียบเข้ากับตัวโมเด็มเราเตอร์ เราก็ต้องย้ายมาเสียบเข้ากับ Totolink A2004NS แทนครับ

Schemetic

เมื่อเสียบสาย LAN ตามภาพเรียบร้อยแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการ Config ค่าการทำงานของ Totolink A2004NS ให้สามารถทำงานร่วมกับโมเด็มเราเตอร์ของคุณได้อย่างราบรื่น ซึ่งขั้นตอนก็ดำเนินการไปตามแผ่นพับคู่มือแบบ Step by step เลยครับ

001_crop_บรรยาย

ไวร์เลสเราเตอร์ตัวนี้มี Internet Wizard เพื่อช่วยให้เกิดความง่ายดายในการ Config ค่าการทำงานตอนที่ติดตั้ง

003_Crop

ไวร์เลสเราเตอร์ตัวนี้สามารถตรวจสอบรูปแบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของตัวโมเด็มเราเตอร์ได้โดยอัตโนมัติ

006_Crop

เมื่อตรวจสอบรูปแบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว จะมีขั้นตอนให้เราใส่ User ID และรหัสผ่านของตัว โมเด็มเราเตอร์ (ไม่ใช้รหัสผ่านของไวร์เลสเราเตอร์ะครับ) เพื่อที่มันจะเข้าไปทำการ Config ตัวโมเด็มเราเตอร์ให้เรา

จากนั้นก็ดำเนินการไปอีก 2-3 ขั้นตอน Totolink A2004NS ของเราก็สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้แล้วครับ


ขั้นตอนเซ็ตอัพการปล่อย Wi-Fi ทั้งที่ความถี่ 2.4 และ 5GHz

การเซ็ตอัพการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ทั้ง 2 คลื่นความถี่ก็มีการอธิบายเอาไว้อย่างละเอียดในแผ่นพับคู่มือเช่นกันครับ

010_Crop_บรรยาย

เริ่มด้วยการคลิกเข้าไปที่ในส่วนของ Wireless Wizard

017_Crop

กำหนด SSID (ชื่อของคลื่น Wi-Fi 2.4GHz) ได้ตามต้องการ

018_Crop

ไวร์เลสเราเตอร์ตัวนี้เลือกแชแนลความถี่ในย่านความถี่ 2.4GHz ที่ดีที่สุดให้เราโดยอัตโนมัติ

020_crop

การเข้ารหัสข้อมูล Wi-Fi เพื่อการรักษาความปลอดภัยข้อมูล สามารถเลือกได้ว่าจะเข้ารหัสแบบ WEP ที่รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย หรือการเข้ารหัสแบบ WPA ที่มีความปลอดภัยสูงกว่า

021_crop

กำหนดรหัสผ่านสำหรับการเข้าใช้งาน Wi-Fi 2.4GHz โดยรหัสผ่านต้องมีความยาวไม่น้อยกว่า 8 ตัวอักษร

023_crop

เมื่อเซ็ตอัพการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ที่ความถี่ 2.4GHz เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการเซ็ตอัพ Wi-Fi 5GHz ซึ่งขั้นตอนก็ทำเหมือนกับการเซ็ตอัพ 2.4GHz เลยครับ ไม่มีอะไรยุ่งยาก และเมื่อเซ็ตอัพ Wi-Fi ทั้ง 2 คลื่นความถี่เรียบร้อยแล้ว Totolink A2004NS ก็พร้อมแล้วสำหรับการใช้งาน


ใช้งาน Wi-Fi ราบลื่น ลื่นไหล

ไวร์เลสเราเตอร์ตัวนี้ รองรับการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ที่สองย่านความถี่คือ 2.4GHz และ 5GHz โดยย่านความถี่ 2.4GHz จะรองรับกับการใช้งานกับอุปกรณ์ Wi-Fi ทุกรูปแบบ มีความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล 300Mbps ในขณะที่สัญญาณ Wi-Fi ที่ย่านความถี่ 5GHz จะให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงกว่าที่ 1,167Mbps เหมาะสำหรับการสตรีมวิดีโอความละเอียดสูงมารับชมผ่านหน้าจอ LCD Smart TV หรือการเชื่อมต่อใช้งานกับเครื่องเกมส์คอนโซล แต่ก็ต้องบอกว่า สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค และจอ LCD TV ทุกรุ่น ไม่ได้รองรับการใช้งานกับ Wi-Fi 5GHz ไปเสียทั้งหมดนะครับ ดังนั้นให้ตรววจสอบสเปกอุปกรณ์ของคุณว่ารองรับการดชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi 5GHz หรือไม่ และถ้าอุปกรณ์ไหนไม่รองรับ ก็ยังสามารถเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi 2.4GHz ได้ครับ

เราลองทดสอบ Totolink A2004NS ด้วยแอป Speedtest เพื่อวัดความเร็วการ ดาวน์โหลด/อัพโหลด ผ่านสัญญาณ Wi-Fi โดยทำการทดสอบด้วยสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S5 และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบ้านผ่านบริการ ADSL ของทรูที่มีขีดจำกัดความเร็วการ ดาวน์โหลดอยู่ที่ 15Mbps และขีดจำกัดความเร็วการอัพโหลดอยู่ที่ 1.5Mbps

SPEEDTEST_compare

โดยภาพซ้ายเป็นการเชื่อมต่อที่ความถี่ 2.4GHz (ดาวน์โหลด 8.37Mbps / อัพโหลด 0.85Mbps) พบว่าทั้งความเร็วการ ดาวน์โหลด/อัพโหลด ต่ำกว่าภาพขวา ที่เชื่อมต่อ Wi-Fi 5GHz อยู่เพียงเล็กน้อย (ดาวน์โหลด 8.62Mbps / อัพโหลด 0.87Mbps)

เราลองใช้สมาร์ทโฟนเปิดดูคลิปวิดีโอ YouTube ที่ความละเอียด 1080p ก็พบว่าเปิดดูคลิปได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด ทั้งกับการเชื่อมต่อผ่านความถี่ 2.4 และ 5GHz ครับ

WiFi Analyzer 10m

การวัดระดับความแรงสัญญาณ Wi-Fi เราพบว่า Totolink A2004NS ทำได้ดีกว่าค่ามาตรฐานเล็กน้อยครับ เราลองทดสอบวัดระดับความแรงสัญญาณด้วยแอป WiFi Analyzer เปรียบเทียบกับไวร์เลสเราเตอร์อีกตัวหนึ่งคือ Dlink DSL-2640B

ทดสอบวัดความแรงที่ระยะไกลจากตัวเราเตอร์ 10 เมตร พบว่าที่คลื่นความถี่ 2.4GHz Totolink ให้ระดับความแรงสัญญาณประมาณ -75dBm สูงกว่า Dlink ที่ให้ระดับความแรงสัญญาณที่ -82dBm (ระดับความแรงสัญญาณวัดเป็นค่าติดลบ ตัวเลขยิ่งน้อยแสดงว่าสัญญาณแรงกว่า) ส่วนในภาพขวาเป็นการทดสอบที่คลื่นความถี่ 5GHz ซึ่ง Totolink ให้ระดับความแรงสัญญาณประมาณ -79dBm จะเห็นว่า คลื่นความถี่ 5GHz มีความหนาแน่นของการใช้งานช่องสัญญาณ น้อยกว่าคลื่น 2.4GHz ในภาพซ้ายอย่างชัดเจน (แถวบ้านผมมีเราเตอร์ของ Totolink เพียงตัวเดียวที่ปล่อย Wi-Fi 5GHz) ทำให้คลื่นความถี่ 5GHz มีการรบกวนช่องสัญญาณน้อยกว่า และมีเสถียรภาพในการส่งผ่านข้อมูลสูงกว่า


ใช้งานเป็น File Sharing และ FTP Server

Totolink A2004NS สามารถเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟ หรือฮาร์ดดิสก์แบบภายนอกผ่านพอร์ต USB เพื่อใช้งานในรูปแบบของไดร์ฟกลางสำหรับการแชร์ไฟล์ในระบบเครือข่าย (File Sharing) หรือการใช้งานในรูปแบบของ FTP Server เพื่อการปล่อยไฟล์ให้ผู้คนดาวน์โหลดได้ผ่านอินเทอร์เน็ต และใครที่ต้องการใช้งานฟีเจอร์การแชร์ไฟล์ของ Totolink ก็ต้องอาศัยความชำนาญทางด้านระบบเน็ตเวิร์กพอควร เพราะการเซ็ตอัพ File Sharing และ FTP Server ไม่มีอธิบายเอาไว้ในคู่มือครับ

001_crop_บรรยาย_02

ซึ่งการเซ็ตอัพทั้ง File Sharing และ FTP Server ให้เริ่มต้นด้วยการใช้คอมฯ หรือโน้ตบุ๊ก เปิดซอฟต์แวร์บราวเซอร์ แล้วพิมพ์ IP 192.168.1.1 ลงในช่อง URL แล้วกด Enter ก็จะปรากฏหน้าจอเซ็ตอัพเราเตอร์ตามภาพครับ ให้คลิกที่ Setup Tool

043_แก้ไข

เรามาดูวิธีการเซ็ตอัพ File Sharing กันก่อน ในแถบซ้ายของหน้าจอ ให้คลิกที่ Advanced Setup > USB Storage > Service Setup ให้คลิกที่ Windows File Sharing (SAMBA) ก็จะเข้าสู่หน้าจอการเซ็ตอัพ เราสามารถกำหนด User ID และ Password ให้กับผู้ที่จะเข้ามาใช้งาน File Sharing ได้ รวมถึงสามารถกำหนดสิทธิ์ (Property) ได้ว่า จะให้ User ID ไหมสามารถเปิดและแก้ไขไฟล์ได้ (Read/Write) หรือจะให้ User ID ไหนสามารถเปิดดูไฟล์ได้อย่างเดียว (Read)

044_Crop

เมื่อจะเข้าใช้งานโฟลเดอร์ที่เปิดแชร์ไฟล์ไว้ผ่าน Totolink ก็ต้องทำการป้อน Uesr ID และรหัสผ่าน

049_Crop

จากนั้นก็จะเข้าถึงไฟล์ได้ตามปกติครับ ซึ่งฟังก์ชั่น File Sharing ของ Totolink เหมาะมากสำหรับบ้านและสำนักงานขนาดเล็กที่ต้องใช้การแชร์ไฟล์เอกสาร หรือไฟล์งานให้สมาชิกทุกคนสามารถเรียกใช้ได้

041_Crop

ในส่วนของการเซ็ตอัพ FTP Server เพื่อปล่อยไฟล์ให้ผู้คนได้ดาวน์โหลดไปใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต ก็มีความซับซ้อนกว่าการเซ็ตอัพ File Sharing อยู่พอสมควรครับ เราสามารถกำหนดสิทธิ์ให้แต่ละ User ID สามารถ Read/Write หรือ Read ได้เพียงอย่างเดียว แต่ความยุ่งยากก็คือ ต้องมีการสมัคร และเปิดใช้บริการ DDNS เพื่อให้ผู้คนบนโลกอินเทอร์เน็ต สามารถเข้าถึง FTP Server ที่อยู่ในเครื่อง Totolink ได้ ซึ่งบริการ DDNS ก็มีทั้งแบบที่ต้องเสียเงิน และแบบที่ใช้งานฟรีครับ

042_crop

เมื่อมีการผูก FTP Server ในตัวไวร์เลสเราเตอร์ Totolink เข้ากับบริการ DDNS เรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถเข้าถึงไฟล์ที่แชร์ไว้ได้จากทุกที่ทั่วโลกผ่านอินเทอร์เน็ต


สรุปผลการรีวิว Totolink A2004NS

ข้อดี

  • ไวร์เลสเราเตอร์ Dual Band 2.4 และ 5GHz
  • มีพอร์ต USB รองรับการทำ File Sharing และ FTP Server
  • เซ็ตอัพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และ Wi-Fi ได้ง่ายๆ

ข้อสังเกต

  • ระดับความแรงการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi อยู่ในระดับมาตรฐาน
  • ไม่สามารถถอดเปลี่ยนเสาอากาศ
  • ไม่มีบริการ DDNS สำหรับการทำ FTP Server แถมฟรีให้

 

0 %E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7+Totolink+A2004NS+%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C+Dual+Band+%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A+FTP+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+File+Sharing+%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B0
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง
 
 
 

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น