แชร์หน้าเว็บนี้ :
การอัพเดตของ ESET NOD32 AntiVirus จากเวอร์ชัน 4 มายังเวอร์ชัน 5 เราพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เราค่อนข้างประทับใจ ต่างจากการออกเวอร์ชัน 4 เมื่อ 2 ปีก่อนที่ไม่ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ มาแข่งกับโปรแกรม Antivirus ค่ายอื่นในเวลานั้นได้เลย แต่การกลับมาในครั้งนี้ คุณสมบัติใหม่ๆ หลายอย่างที่ถูกเพิ่มขึ้นมา ทำให้เรารู้สึกว่า Nod32 ได้ทำการทิ้งห่างคู่แข่งไปอีกครั้ง
ความสามารถในการป้องกัน
Nod32 5 มีระบบการป้องกันที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีจาก Adware หรือโปรแกรมดักจับข้อมูล รวมถึงการตรวจสอบเวลาที่เราเปิดอีเมลเพื่อเช็คไวรัสและมัลแวร์ที่อาจแฝงมา ทำให้เราไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมหลายๆ ตัวเพื่อทำการปกป้องคอมพิวเตอร์อีกต่อไป
การติดตั้งโปรแกรม
จะต่างจากที่ผ่าน ๆ มานะครับ เริ่มที่การ Download ก่อนครับ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้จาก www.thaiware.com เพียงคลิกที่
ตรงนี้ จากนั้นก็จะได้ไฟล์สำหรับติดตั้งมาเก็บไว้ในเครื่อง เมื่อเราคลิกที่ไฟล์นั้น ก็จะมีหน้าต่างขึ้นมาดังนี้
เราก็เพียงแค่คลิกปุ่ม Install จากนั้นก็จะมีหน้าให้เราอ่านเงื่อนไขการใช้งาน ก็คลิก I Accept จากนั้นก็จะมีหน้าให้เราเลือกในการติดตั้งครับ ข้อแรกจะเป็นการยืนยันการเปิดฟังค์ชั่น Live Grid ข้อสองเป็นการแจ้งเตือนเวลาที่เราเปิดโปรแกรมที่เราไม่รู้จัก แนะนำให้เลือกทั้งสองข้อครับ แล้วก็คลิกที่ปุ่ม Next ได้เลยครับ
จากนั้นจะเป็นการติดตั้งโปรแกรมไปจนจบ ก็จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้เรา Activate โปรแกรมครับ ซึ่งจะทำได้ 3 วิธีนะครับ โดยการใส่ Activation Key (ซึ่งต้องสั้งซื้อจากต่างประเทศครับระบบนี้ในไทยไม่มีขายครับ) วิธีที่ 2 คือ Activate โดยใช้ Username และ Password ครับ ซึ่งจะได้รับหลังจากนำ Product Code ไปลงทะเบียนที่
https://nod32th.com/register/index.php โดย Product Code นี้สามารถสั่งซื้อผ่านไทยแวร์ได้เลยนะครับ
(สั่งซื้อ Product Code) และวิธีสุดท้ายคือ Activate แบบทดลองใช้ครับ
การใช้งาน
ESET ยังคงรักษาคอนเซปส์การออกแบบ Dashboard สไตล์เรียบง่ายเอาไว้ เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานได้ไม่ยาก โดยฝั่งซ้ายจะมีคำสั่งในการใช้งานให้ และจะแจ้งสถานะของโปรแกรมให้ที่ทางฝั่งขวา แต่อย่างไรก็ดีเราพบว่าการปรับแต่งโปรแกรมในหน้าหลักนั้น มีตัวเลือกให้ไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร โดยเราแนะนำว่าในการใช้งานครั้งแรกควรเข้าไปปรับแต่งที่ Advance Setup เสียก่อน โดนเข้าไปที่เครื่องหมายถูกที่มุมขวาบน ซึ่งในนี้จะมีเมนูการปรับแต่งอยู่มากมายให้เลือก เราก็เข้าไปเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้เลยครับ
คุณสมบัติใหม่
อย่างแรก คือคุณสมบัติ Gamer mode ที่จะลดการใช้แรมและพื้นที่สำรองในการทำงานของโปรแกรมในขณะที่ผู้ใช้ดูภาพยนตร์หรือเล่นเกม โดยเราสามารถปรับให้ฟีเจอร์นี้เรียกใช้งานได้อัตโนมัติโดนเข้าไปที่ Setup ->Enter advanced setup เลือก User interface -> Gamer mode และติ้กในช่อง Enable Gamer Mode when running applications in full-screen mode automatically.
อย่างที่สอง คือ Live Grid ที่จะรวบข้อมูลไฟล์และลักษณะการทำงานของไวรัสจากผู้ใช้ Nod32 ทั่วโลก มาปรับปรุงดาต้าเบสของโปรแกรมให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยอาศัย Cloud เทคโนโลยี
การสแกนไวรัส
Nod32 ในเวอร์ชันนี้ รองรับการสแกนและจัดการกับ Removeable Media โดยเมื่อเราต่อ Removeable Media จะมีการแจ้งเตือนให้เราสแกนทันทีหรือสแกนภายหลัง (เราสามารถปรับแต่งค่าเริ่มต้นให้สแกนทันทีที่มีเชื่อมต่อ)
Nod32 รองรับการสแกนไดร์ฟหลักของเครื่องที่ติดตั้ง และเครื่องอื่นบนเครือข่าย มีตัวเลือกในการสแกนให้ทั้งแบบ Smart Scan , In-Depth Scan และ Context Menu Scan. จากการทดสอบเราพบว่า Eset สามารถสแกนไฟล์ได้ค่อนข้างเร็ว โดยอยู่ที่ประมาณ 44.3 เมกกะไบต์ต่อวินาที การสแกนพื้นที่ 1 กิ๊กกะไบต์จะใช้เวลาประมาณ 23 วินาที (ทดสอบบนคอมพิวเตอร์ Windows 7 Home Premium Pentium Dual-Core T4200 (64 bit), แรม 3GB ฮาร์ดดิสก์ 210GB)
ตารางเปรียบเทียบความเร็วในการสแกนเมื่อเทียบกับค่ายอื่นๆ
*ข้อมูลจาก https://www.antivirusware.com/testing/scan-speed/
บทสรุป
เราค่อนข้างพอใจในการทำงานของ Nod32 ด้วยความเร็วในการทำงานที่ค่อนข้างเร็ว และระบบ User Interface ที่เป็นมิตรใช้งานง่าย การใช้ทรัพยากรเครื่องที่ไม่สูงจนทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ช้าลง จุดที่เราไม่พอใจมีเพียงการซ่อนตัวเลือกในการปรับแต่งไว้ที่ Advance Setup ที่ค่อนข้างเสียเวลาในการเข้าถึงเมนู รวมถึงการที่ไม่มีรายละเอียดของการปรับแต่งมาให้ ซึ่งผู้้ใช้งานทั่วๆไป ยากที่จะเข้าใจว่าปรับแล้วจะเกิดผลอย่างไรกับตัวโปรแกรมและตัวเครื่องบ้าง
สำหรับคนที่ต้องการทดลองก่อนซื้อ Eset อนุญาติให้ดาวน์โหลดไปทดลองใช้ก่อนได้ที่
ตรงนี้ เลยครับ
และสามารถสั่งซื้อ Product Code เพื่อนำไปขอ Username และ Password ได้ที่
ไทยแวร์ช้อป เลยครับ