รีวิว เครื่อง TP-Link M5350 3G Mobile Wi-Fi สำหรับพกพา

หลายคนที่ใช้ Tablet ต่างๆ สมัยนี้มีทั้งแบบใส่ซิม และไม่มีช่องใส่ซิม สำหรับคนที่ใส่ซิมได้ก็หมดห่วงเรื่องเล่นอินเตอร์เน็ตนอกสถานที่ แต่คนที่ไม่มีช่องใส่ซิมละ แน่นอนคงเจอสภาพออกไปข้างนอกบ้านแล้ว ไม่มีอินเตอร์เน็ต หรือ Wi-Fi ฟรี (แต่ไม่ฟรีพาสเวิร์ด) หรือ ไม่มี Wi-Fi ตามที่ต่างๆ ให้ใช้งาน แม้แต่ตอนทำงานนอกสถานที่ (ซึ่งผมเองนี่ละ) จำเป็นต้องใช้งานอย่างมาก จะไปขอคนอื่นแชร์อินเตอร์เน็ตก็ยังไงอยู่ วันนี้เลยมีไอเทมมานำเสนอสำหรับผู้ที่ต้องการใช้อินเตอร์เน็ตนอกสถานที่

และที่ร่ายมายาวนี้เป็นเครื่องปล่อย หรือ กระจาย Wi-Fi ของ TP-Link M5350 3G Mobile Wi-Fi ใช้งานง่ายมากๆ เพียงใส่ซิมที่สมัครแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว (แพ็คเกจขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละค่าย) และใส่ MicroSD Card ด้วย หรือ ไม่ก็ได้ จากนั้นเปิดเครื่องแล้วรอสักครู่ก็สามารถใช้งานได้ทันที เครื่องนี้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 10 เครื่อง และใช้สัญญาณ 3G ได้ด้วยเจ๋งมากๆ และใส่ MicroSD Card ด้วยก็จะเป็น Data Storage เหมือนมี Thumb Drive พกติดตัวสบายๆ เครื่องนี้รองรับความจุของ MicroSD Card สูงสุดที่ 32GB ส่วนแบตเตอรี่ความจุ 2,000 mAh ใช้งานต่อเนื่องราว 6-9 ชม. (ตามการใช้งานแต่ละคน) และด้วยขนาดของเจ้าเครื่องนี้ก็เล็กดีจิงๆ พกพาง่ายเหมือนมีโทรศัพท์จิ๋วสักเครื่องเลย อวยมาเยอะแล้วเราไปชมตัวจริงกันเลยดีกว่า!

หน้าตากล่องเจ้า TP-Link M5350 3G Mobile Wi-Fi สวยงามใช้ได้เลยนะ!

เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะเจอเจ้า TP-Link M5350 3G Mobile Wi-Fi นอนเล่นให้เราสัมผัสอยู่ หน้าตาพอดูได้เหมือนกัน

อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่องมีสาย Data Link, หัวชาร์จ Adapter, ตัวเครื่อง TP-Link M5350 3G Mobile Wi-Fi, แบตเตอรี่ 1 ก้อน และคู่มืออีก 1 เล่ม

ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 2,000 mAh ชนิด Li-ion ใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 6-9 ชม. (ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้)

สายชาร์จสีขาวดูสะอาดตามากๆ แต่ตัวเครื่องสำดำอาจจะขัดกันเล็กน้อย สายชาร์จสามารถเป้น Data Link ได้ในตัวด้วยนะ

เรามาดูตัวเครื่องกันดีกว่าทำจากพลาสติกสีดำด้าน ปุ่มเป็นแบบมันเงา ค่อนข้างสวยงาม หน้าจอเลนส์กระจก และน้ำหนักเบา กระชับมือ

ทีนี้เรามาดูภายในกันบ้างดีกว่า เมื่อแงะฝาหลัง (แน่นมาก) ก็จะมีช่องให้ใส่ซิมและ MicroSD Card อย่างละ 1 ช่อง พร้อม Password ในการล็อกอินเวลาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นด้วย

หากลืม Password ที่ตั้งไว้เราสามารถ Reset Factory Defaults ตรงนี้ได้ โดยหาของปลายแหลมจิ้มค้างไว้ 5 วิ!

เมื่อเปรียบเทียบเครื่องกับขนาดมือ และ iPad Mini บอกได้เลยว่าจิ๋วแต่เจ๋วจริงๆ

เมื่อสัมผัสกันเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาใช้งานซึ่งใช้ง่ายมากๆ เพียงแค่เปิดเครื่องแล้วรอเครื่องโหลดสักครู่ ก็จะโชว์หน้าจอพร้อมใช้งาน ในหน้าจอจะแสดงข้อมูล ความเร็วการอัพโหลด/ดาวน์โหลด, เครือข่ายที่ใช้งาน, สัญญาณอินเตอร์เน็ต, จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ, จำนวนข้อมูลที่เราใช้ไป (นับเป็น Mb) และแบตเตอรี่

เมื่อพร้อมใช้งานแล้วทีนี้ลองเชื่อต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ กันดีกว่าผมใช้ iPad Mini ในการเชื่อมต่อ เปิดค้นหาสัญญาณ Wi-Fi กันได้เลยจะเจอชื่อตัวเครื่องแบบนี้ทันที

หากมีการเชื่อมต่อกับตัว TP-Link M5350 3G Mobile Wi-Fi จะแสดงหมายเลขตรงคำว่า Wi-Fi ตามจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเข้ามาด้วย

(ในรูปเชื่อมต่อแค่เครื่องเดียว)

ทีนี้ลองเชื่อมต่อพร้อมกันทั้ง iPad Mini และ NoteBook พร้อมกัน เมื่อค้นหาสัญญาณก็จะขึ้นชื่อทันที

ก็สามารถใช้อินเตอร์ได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ หน้าจอตัวเครื่องก็จะแสดงว่ามีอุปกรณ์การเชื่อมต่อ 2 อย่าง

มาลอง Test Speed กันหน่อยดีกว่าว่าเป็นยังไงบ้าง! (เนื่องจากตอน Test เครื่องจับได้ 2G ความเร็วจึงต่ำมากครับ)

สรุปโดยรวมสำหรับเจ้า TP-Link M5350 3G Mobile Wi-Fi

โดยรวมแล้วเจ้าตัว TP-Link M5350 3G Mobile Wi-Fi ถือว่าครบเครื่องเลยละ พร้อมรองรับ 3G ที่ให้ความเสถียรของสัญญาณที่ค่อนข้างดีมาก ทั้งยังเป็น Data Storage ได้อีก สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 10 เครื่อง ซึ่งดีกว่าใช้มือถือสมาร์ทโฟนในการแชร์อินเตอร์เน็ตที่ใช้ได้เพียงแค่ 3-5 เครื่องเท่านั้น ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ หน้าจอแสดงความเร็วในการอัพโหลด ดาวน์โหลด พร้อมเครือข่ายที่ให้บริการด้วย แบตเตอรี่อยู่ได้ค่อนข้างนานมาก หากใช้งานเพียงแค่วันละไม่กี่ชั่วโมง สามารถเก็บแบตเตอรี่ได้อาจจะ 2-3 วันค่อยชาร์จใหม่อีกครั้ง และทำให้คุณไม่เปลืองแบตจากสมาร์ทโฟน (ที่หมดไวเหลือเกิน) ของคุณจากการแชร์อินเตอร์เน็ต ด้วยขนาดที่พกพาสะดวก เล็กกระชับมือเหมือนโทรศัพท์เครื่องเล็กเครื่องหนึ่งเลยละ หากคุณต้องการใช้อินเตอร์เน็ตข้างนอกอย่างจำเป็นจริงๆ แนะนำเจ้า TP-Link M5350 3G Mobile Wi-Fi ตัวนี้รับรองไม่ผิดหวังเลย