รีวิว Xiaomi Mi MiX หมวยจอยักษ์ รักไร้พรมแดน กับดีไซน์ไร้ขอบ สวยสะกดทุกสายตาเมื่อแรกพบ

พูดถึงเทรนด์ Bezel-less หรือสมาร์ทโฟนหน้าจอไร้ขอบ เมื่อปลายปีที่แล้ว Xiaomi Mi MIX สมาร์ทโฟนจากแดนมังกรก็เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนไร้ขอบที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ (เปิดตัวในประเทศจีนเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559) แต่เราคงไม่ค่อยได้เห็นในตลาดบ้านเราซักเท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านี้ ยังไม่มีผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เห็นเครื่องหิ้วได้ตามร้านตู้เท่านั้น แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีข่าวดีสำหรับสาวกหมวยเมืองจีนเสี่ยวมี่ในประเทศไทยกันบ้างแล้ว แต่ถ้าไม่อยากรอ ก็ลองไปดู Xiaomi Mi MIX ที่ https://th.etoren.com/products/xiaomi-mi-mix-dual-sim-256gb-black-6gb-ram ได้เลยนะครับ

แรกเห็น Xiaomi Mi MIX เป็นใคร ก็ต้องสะดุดตากับหน้าจอแสดงผลขนาดยักษ์ 6.4 นิ้ว ที่ขอบของหน้าจอนอกจากจะสุดขอบซ้ายขวาแล้ว ยังสุดขอบด้านบนอีกด้วย ทำให้เป็นสมาร์ทโฟนจอไร้ขอบอีกตัวหนึ่งที่น่าค้นหาจริงๆ

และด้วยเหตุผลที่กล่าวมา เราเลยขอหยิบสมาร์ทโฟนจอยักษ์ ที่สวยน่าค้นหานี้ มารีวิวให้ได้ชมกันครับ ก่อนอื่น มาดูสเปคของ Xiaomi Mi MIX กันก่อน โดยรุ่นที่เราทำมารีวิวเป็นรุ่น Xiaomi Mi MIX 18K (หรือรุ่น RAM 6 GB นั่นเอง)

คุณสมบัติของสมาร์ทโฟน Xiaomi Mi MIX 18K

• หน้าจอแสดงผล
  • ขนาดหน้าจอ 6.4 นิ้ว (อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 83.6%)
  • เทคโนโลยี IPS LCD 16 ล้านสี
  • ความละเอียดหน้าจอ 1080x2040 พิกเซล (362 ppi)
  • อัตราส่วนหน้าจอ 17:9
• โปรเซสเซอร์
  • Chipset : Qualcomm MSM8996 Snapdragon 821
  • CPU : Quad-core (2x2.35 GHz, 2.2.19 GHz)
  • GPU : Adreno 530
• หน่วยความจำ
  • RAM 6 GB / ROM 256 GB แบบ UFS2.0 (รุ่น RAM 4 GB มี ROM 128 GB)
  • ไม่สามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้
• ดีไซน์ตัวเครื่อง
  • ผิววัสดุ เซรามิก สีดำเงา มีทอง 18K ล้อมรอบวงเลนส์และวงสแกนลายนิ้วมือ
  • ขนาด 158.8 x 81.9 x 7.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 209 กรัม
• แบตเตอรี่
  • Li-Ion ความจุ 4,400 mAh (ถอดแบตฯ ไม่ได้)
  • รองรับ Quick Charge 3.0 (83% ใน 30 นาที)

หลังจากทราบสเปคคร่าวๆ แล้ว มาเริ่มชมรีวิวกันได้เลย ว่า Xiaomi Mi MIX มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง?

คลิปวิดีโอรีวิวสมาร์ทโฟน Xiaomi Mi MIX

หน้าจอไร้ขอบขนาดใหญ่ ที่ไม่พูดถึงก็ไม่ได้

จุดแรกที่สะกดสายตาหลายๆ คน จนหลงไหลไปกับ Xiaomi Mi MIX ก็ต้องเป็นหน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว นี้ ไม่ผิดแน่ โดยสิ่งที่ทำให้หน้าจอของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ แตกต่างจากสมาร์ทโฟนอื่นๆ ในท้องตลาด ก็คือขอบของหน้าจอแสดงผลที่กินขึ้นไปถึงพื้นที่ด้านบนของตัวเครื่อง ที่ทำให้อัตราส่วนของหน้าจอเปลี่ยนไปจากมาตรฐานจอแสดงผลทั่วไปอีกเล็กน้อย จาก 16:9 เป็น 17:9 ถ้าใช้ชมภาพยนตร์ต่างๆ ก็จะได้สัมผัสของการดูหนังจอกว้างที่ใหญ่ขึ้นไปอีก

ส่วนด้านเทคโนโลยีหน้าจอนั้น Xiaomi Mi MIX นั้นจะใช้เป็น IPS LCD เหมาะสำหรับใครที่ชอบจอแสดงผลแบบภาพนุ่มสบายตา และเน้นภาพโทนสว่าง (ซึ่งตรงข้ามกับ AMOLED ที่ให้สีสันที่เข้มข้นและเน้นโทนภาพบริเวณมืด)

นอกจากเรื่องจอแสดงผลที่กว้างขึ้นแล้ว (หรือจะเรียกว่าสูงขึ้น เมื่อใช้งานทั่วๆ ไปในแนวตั้ง) สิ่งที่ทำให้ Xiaomi Mi MIX แตกต่างไปจากมือถือรุ่นอื่นๆ อีก ก็คือ เลนส์กล้องหน้าที่ถูกย้ายไปอยู่ด้านล่างของมือถือ (ตอนเปิดกล้องหน้าครั้งแรก ระบบมีแนะนำให้กลับหัวมือถือ เพื่อการถ่ายเซลฟี่ที่ง่ายขึ้นอีกด้วย) และลำโพงสนทนาที่หายไป..

ลำโพงสนทนาหายไป แล้วคุยโทรศัพท์ได้ปกติมั้ย?

ด้วยดีไซน์ที่ขยายหน้าจอไปจนสุดขอบด้านบนของอุปกรณ์ ถึงแม้ว่าจะสามารถย้ายเลนส์มาไว้ด้านล่างได้ แต่สิ่งที่หายไปเล่นก็คือลำโพงสนทนา ที่เราเอาไว้แนบหูเวลาคุยโทรศัพท์กัน แล้ว Xiaomi Mi MIX จะใช้ในการสนทนาได้มั้ย?

ถึงแม้ว่า Xiaomi Mi MIX จะไม่มีลำโพงสนทนาให้เห็น แต่จริงๆ แล้วลำโพงสนทนานี้ ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้ตัวเครื่อง โดยทาง Xiaomi ได้ใช้เทคโนโลยี Piezoelectric Ceramic Acoustic Technology ที่เหมือนจะเป็นการส่งแรงสั่นสะเทือนผ่านกรอบโลหะรอบๆ ตัวเครื่องให้เกิดเสียง ส่งมายังหูของเราได้

จากที่ได้ทดลองใช้งานสนทนาแล้ว พบว่าลำโพงสนทนาของ Xiaomi Mi MIX ก็คือพื้นที่ด้านหน้า-หลังของสมาร์ทโฟนทั้งหมดนั่นเอง ไม่ว่าจะเอาหูแนบตรงไหน ก็สามารถสนทนาได้หมด ส่วนเสียงที่ได้มา ก็ค่อนข้างเคลียร์ชัดเลยทีเดียว แต่ต้องแนบหูให้ติดกับมือถือ ไม่งั้นเสียงจะค่อนข้างเบา

ดีไซน์เซรามิก เสมือนงานศิลปะที่น่าหลงไหล

เรียกได้ว่าเป็นพื้นผิววัสดุที่ลงตัวมากสำหรับ Xiaomi Mi MIX ที่นำเซรามิกผิวมันเงา มาช่วยขับความโดดเด่นของหน้าจอไร้ขอบนี้ เพราะผิวที่สะท้อนแบบนี้ ช่วยทำให้มือถือเครื่องนี้ดูมีออร่าของความหรูหรามากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะพลิกด้านไหนก็สวยงาม แต่เมื่อแอบลองใส่เคสหนังผิวด้านที่มาพร้อมในกล่องแล้ว Xiaomi Mi MIX กลับดูตันขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ยอมรับเลยว่า การนำ Xiaomi Mi MIX เครื่องนี้มารีวิว เราแทบจะใส่เคสหนังเอาไว้ตลอดเวลาเลย (ยกเว้นตอนนำมาถ่ายรูปประกอบบทความ) เป็นเพราะว่าความลื่นของพื้นผิวเซรามิก บวกกับมือที่เล็กของเรานี่แหละ เกือบทำให้มือถือหลุดมือหลายรอบแล้ว จึงขอแนะนำว่า หากใครสนใจจะใช้งาน Xiaomi Mi MIX แล้วชอบหยิบออกมาใช้งานบ่อยๆ ระหว่างเดินทาง หาเคสที่ค่อนข้างหนึบมือมาใช้งาน ติดแหวนกันมือถือหลุดมือเอาไว้ได้ หรือไม่ก็คนที่มือใหญ่หน่อย มือถือใหญ่ๆ ก็น่าจะเหมาะมือมากกว่า

และอีกเรื่องที่อยากแนะนำให้ใส่เคสมากกว่า ก็เป็นเพราะว่า ผิวมันเงาแบบนี้ล่ะ รอยนิ้วมือติดง่ายมากๆ ยิ่งความประหม่าที่ต้องถือมือถือจอใหญ่ๆ แบบนี้ เหงื่อออกนิดเดียว ก็ทำให้ผิวมือถือเป็นคราบแล้ว ใครที่ไม่อยากให้มีรอยเปื้อน ก็หาเคสมาใส่กันนะครับ

อีกหนึ่งกิมมิคเล็กๆ สำหรับดีไซน์ของ Xiaomi Mi MIX ก็คือในรุ่น RAM 6 GB จะมีทอง 18K อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง 2 วง ที่ล้อมรอบเลนส์กล้อง และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้โดยเฉพาะ ซึ่งไม่มีในรุ่น 4 GB นะครับ

ระบบปฏิบัติการ MIUI บน Xiaomi Mi MIX มีอะไรน่าสนใจบ้าง?

Xiaomi Mi MIX มาพร้อมกับ MIUI 8.2.1 ระบบปฏิบัติการล่าสุดของทาง Xiaomi ซึ่งก็มีหน้าตาการใช้งานที่ดูสะอาดสะอ้านตามากๆ ทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องใหญ่ๆ ดูมีพื้นที่เหลือให้ใช้สอยอีกเยอะแยะ โดยในระบบปฏิบัติการใหม่นี้ ก็มีทั้งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ และแก้ไขบัคเก่าๆ ออกไปมากมาย แต่เอาเป็นว่า เรามาลองดูกันว่าใน Xiaomi Mi MIX ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุดนี้ มีอะไรที่น่าใช้งานกันบ้าง?

ปุ่ม Navigation Keys

ปุ่ม Navigation Keys ของ MIUI เป็นไปตามมาตรฐานแอนดรอยด์ ได้แก่ปุ่ม Recent App, Home และ Back ซึ่งเมื่อเทียบกับขนาดจอแล้ว ปุ่มทั้ง 3 ที่อยู่สุดขอบด้านล่างจอ อาจจะดูเล็กและอยู่ไกลไปหน่อย MIUI จึงมีปุ่มเล็กๆ ด้านซ้ายมือ สำหรับเรียก คีย์ลัด Navigation Keys ให้สามารถกดได้ง่ายขึ้น โดยนอกจาก 3 ปุ่มในเบื้องต้นแล้ว ยังมีทั้งปุ่มล็อกเครื่องและจับภาพหน้าจอ มาให้เรียกใช้งานง่ายๆ อีกด้วย

คำสั่งล็อกแอปฯ ไม่ให้ถูกปิดใน Recent Apps

สำหรับการใช้งานปุ่ม Navigation Keys นั้น คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่มีอย่างหนึ่งที่อยากเปิดให้ดูกัน ก็คือในเมนูของปุ่ม Recent Apps ที่เมื่อเปิดเข้ามา จะพบกับแอปฯ ที่กำลังใช้งานอยู่มากมาย โดยเราสามารถสั่งปิดแอปฯ ด้วยการปัดแอปฯ นั้นๆ ขึ้นด้านบน หรือกดเครื่องหมายกากบาท เพื่อสั่งปิดแอปฯ ทั้งหมดได้ แต่ถ้าเราเลื่อนแอปฯ นั้นๆ ลงก็จะเห็นเมนูลับสำหรับล็อกแอปฯ อีก (ส่วนอีกเมนูคือการดูข้อมูลแอปฯ) ซึ่งการล็อกเอาไว้ จะทำให้เราไม่สามารถสั่งปิดแอปฯ ได้ เอาไว้ล็อกแอปฯ สำคัญๆ ที่กำลังใช้งาน ไม่ให้ไปเผลอปิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกมส์ต่างๆ ที่กำลังเล่นค้างไว้ และนอกจากเมนูต่างๆ แล้ว ก็ยังมีเครื่องเล่นเพลง ซ่อนอยู่ในเมนู Recent Apps นี้ด้วย

โคลนนิ่งแอปฯ ไว้ใช้งาน 2 บัญชี

จากรูปเมื่อกี๊อาจจะเห็นว่า เราเปิดเกมส์ Assassin's Creed Pirates เอาไว้ 2 แอปฯ ซึ่งจริงๆ แล้ว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ MIUI ที่เราสามารถโคลนนิ่ง แอปฯ ต่างๆ แยกออกมาใช้งานเป็น 2 แอปฯ ได้ ทำให้เราสามารถใช้งานโซเชียล หรือเล่นเกมส์ต่างๆ พร้อมกัน 2 ไอดีได้ในเครื่องเดียว ซึ่งบอกเลยว่า ถึงจะรันเกมส์หนักๆ 2 เกมส์พร้อมกัน RAM 6 GB ก็เล่นได้สบายๆ

ล็อกรหัสแอปฯ ป้องกันคนอื่นใช้งาน

แอปฯ บางแอปฯ อย่างเช่น LINE จะมีฟังก์ชั่นในการตั้งรหัสลับ เพื่อป้องกันคนอื่นเข้ามาอ่านข้อความแชทของเราได้ แต่สำหรับ MIUI บน Xiaomi Mi MIX เราสามารถเลือกแอปฯ ที่ต้องการล็อกรหัสได้ รวมทั้งสามารถกำหนดรูปแบบของการล็อกรหัสได้ตั้งแต่ PIN, Pattern ไปจนถึงการสแกนลายนิ้วมือเลย

โหมดใช้งานมือเดียวสำหรับมือถือจอใหญ่ๆ

อีกหนึ่งโหมดสำคัญ ที่มักจะมีบนมือถือหน้าจอใหญ่ๆ ก็คือการลดขนาดหน้าจอ ให้เราสามารถใช้งานมือเดียวได้ อย่างเช่นเวลาถือของ หรือโหนรถไฟฟ้าอยู่ ซึ่งใน MIUI นี้ เราสามารถเลือกขนาดของหน้าจอที่เหมาะสมกับความยาวนิ้วของเราได้ ส่วนวิธีการเปิดใช้งานโหมดนี้บน MIUI สามารถทำได้โดยการลากนิ้วไปมาระหว่างปุ่ม Navigation Keys ต้องการย่อจอไว้ใช้งานมือซ้าย ก็ลากจากปุ่ม Home (ปุ่มกลาง) ไปที่ Recent Apps (ปุ่มซ้าย) หรือถ้าต้องการใช้งานมือขวา ก็ลากจากปุ่ม Home ไปยังปุ่ม Back (ปุ่มขวา) ส่วนถ้าต้องการกลับมาหน้าจอปกติ ก็ลากกลับมาตรงกลาง หรือจิ้มที่พื้นที่ว่าง

ฟังก์ชั่นสแกนลายนิ้วมือ

ส่วนระบบของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือกับการใช้งานก็ค่อนข้างแม่นยำ สามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกเครื่อง ขณะที่หน้าจอมือถือกำลัง Sleep ได้ รวมทั้งสแกนเพื่อลั่นชัตเตอร์ หรือปลดล็อกแอปฯ ต่างๆ ได้ แต่ดูเหมือนว่าการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกเครื่อง จะใช้เวลานานกว่าการเปิดหน้าจอด้วยปุ่ม Power อยู่นิดหน่อย

ชิปเซ็ต Snapdragon 821

ด้านสเปคการใช้งาน นี่แทบไม่ต้องห่วงเลยสำหรับ Xiaomi Mi MIX ที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 821 เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน Google Pixel รวมทั้ง GPU Adreno 530 ที่ไม่ว่าจะรันเกมส์หนักๆ เล่นแอปฯ เปิดกล้องใช้งาน หรือเซ็นเซอร์ต่างๆ ก็ทำได้ไวมากๆ ไม่มีคำว่าขัดใจกันเลย ซึ่งผลการทดสอบ Benchmark ของ Xiaomi Mi MIX ก็อยู่ที่ประมาณนี้ครับ

(คาดว่า MIX ในอันดับที่ 13 น่าจะเป็น Xiaomi Mi MIX รุ่น 4GB นะครับ)

คุณภาพของกล้องถ่ายรูป

การใช้งานกล้องหลัง

ตรงนี้ ต้องบอกว่าเริ่มขัดใจกันเล็กๆ แล้วล่ะ เนื่องจากในระดับราคานี้ มีกล้องจากสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ มากมายที่ทำได้ดีกว่านี้ โดยสำหรับ Xiaomi Mi MIX ที่มาพร้อมกับ กล้องหลังขนาด 16 ล้านพิกเซล f/2.0 แล้ว การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย น่าจะทำได้ง่าย แต่จากที่ทดลอง แม้จะอยู่ในสภาวะที่มีแสงระดับหนึ่ง จะถ่ายภาพให้ชัด ต้องใช้ความนิ่งในการถือมากทีเดียว

ภาพตัวอย่างกล้องหลัง

การใช้งานกล้องหน้า

ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซลนี้ ที่ถูกย้ายตำแหน่งของเลนส์ไว้ที่ด้านล่างของตัวสมาร์ทโฟน ที่เวลาใช้งานต้องกลับหัวมือถือ เพื่อให้ใช้งานได้เหมือนกับมือถือทั่วๆ ไป แต่เอาจริงๆ แล้วด้วยความที่มือถือค่อนข้างใหญ่ การกดปุ่มต่างๆ เพื่อเซลฟี่มือเดียว ทั้งปุ่มชัตเตอร์ตรงหน้าจอ ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง หรือแม้แต่ปุ่มสแกนลายนิ้วมือ ก็ทำได้ยากมากๆ ส่วนความละเอียดของกล้องหน้า ที่ให้มาเพียง 5 ล้านพิกเซล ดูจะไม่ละเอียดพอที่จะแสดงผลบนหน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว อีกด้วย ก็รู้สึกแปลกดี (มองเห็นเม็ดพิกเซลบนภาพ)

ภาพตัวอย่างกล้องหน้า

โหมดของกล้องหลัง

โหมดของกล้องหน้า

ถัดจากเรื่องของคุณภาพกล้อง ขอมาพูดเรื่องซอฟต์แวร์กล้องบ้างก็แล้วกัน ในขณะที่กล้องจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในตลาดต่างแข่งขันกันด้วยโหมดโปร ที่ใกล้เคียงกับกล้องถ่ายรูป แต่ Xiaomi Mi MIX กลับมาพร้อมกับเมนูกล้องที่ใช้งานง่าย ไม่ว่าจะเป็นการจิ้มที่หน้าจอเพื่อโฟกัสและจิ้มจุดโฟกัสเพื่อถ่ายภาพ หรือจะใช้จุดโฟกัสในการชดเชยแสง ซึ่งก็เป็นอะไรที่ตอบโจทย์หน้าจอใหญ่ๆ ดี รวมทั้งโหมดต่างๆ ของกล้องที่มีให้เลือกใช้งานมากมาย และแฟลชแบบ Dual-tone ที่ให้สีผิวดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น (แต่จริงๆ แล้วกล้องของ Xiaomi Mi MIX ก็ค่อนข้างติดเหลืองอยู่แล้วนะ)

สรุปสมาร์ทโฟน Xiaomi Mi MIX

หากใครกำลังมองหามือถือจอใหญ่ๆ ดีไซน์สวย ที่ดูโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ในตลาด หรือว่าใช้สำหรับดูหนังหรือเล่นเกมส์แรงๆ Xiaomi Mi MIX ก็ถือได้ว่า สวยงามและสเปคดีเยี่ยม ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมากทีเดียว แต่มีข้อแม้อยู่อีกหน่อยก็คือ ต้องไม่หวังว่ากล้องที่ติดมากับตัว Xiaomi Mi MIX จะสามารถใช้งานได้ดีเท่าๆ กับกล้องสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาด เพราะราคาของหมวยจอยักษ์รุ่นนี้ ก็ค่อนข้างสูงพอสมควร