รีวิว Just Dance 2019 บน Nintendo Switch ไม่มีกล้องก็เล่นได้ แถมยังเต้นนอกสถานที่ได้อีกด้วย

ท่านใดที่เป็นแฟนเกมส์เต้นในซีรี่ย์ Just Dance คงได้ข่าวคราวกันมาบ้างแล้วว่า Ubisoft ได้ตัดสินใจที่จะทำเกมส์ Just Dance ลงแพลตฟอร์ม Nintendo Switch (ต่อไปนี้จะเรียกว่า NS) ไปพร้อมกับการลงบนแพลตฟอร์มที่เคยทำมาก่อนหน้าอย่าง PlayStation 4, Xbox One / 360 และ Wii / Wii U รวมไปถึงการทำ Application ลง iOS และ Android ด้วย ซึ่งแน่นอนว่า เราคงไม่ได้คาดหวังอะไรกับกราฟฟิคของเกมส์นี้ในการลง NS สักเท่าไหร่นัก แต่ด้วยการที่ NS เป็นเครื่องเกมส์ที่สามารถเล่นได้ทั้งแบบ docked (ต่อจอใหญ่เล่นที่บ้าน) และ handheld (พกพา) แถมยังใช้ Joy-con เป็นตัวจับ Motion การเคลื่อนไหวของเราแทนการใช้กล้องแบบใน PS4 และ Xbox ที่สามารถทำได้ จึงทำให้มีความแตกต่างออกไปจากการเล่นในเครื่องอื่นๆ และมีข้อดีข้อเสียในเรื่องต่างๆ แตกต่างกันไปดังนี้ค่ะ

จุดเด่น

1. เพลงฮิตเพียบเช่นเคย

หนึ่งในแนวเพลงฮิตที่หนีไม่พ้นสำหรับคอเกมส์เต้นคือ Kpop นั่นเอง ซึ่งใน Just Dance 2019 นี้ มีเพลง Kpop มาให้สองเพลงคือ Bang Bang Bang จากวง BigBang และ Ddu-Du-Ddu-Du จากวง Blackpink หรือท่านใดที่ถนัดแนวสากลมากกว่าก็มีเพลงท็อปลิสต์มาให้ได้เต้นกันเลยเช่น New Rules - Dua Lipa, I Feel It Coming - The Weeknd และ Havana - Camila Cabello

2. มีโหมดนับการเผาผลาญแคลอรี่โดยเฉพาะ

ใครจะไปคิด ว่าแค่จับจอยมาเต้นแล้วจะนับได้ แต่มันนับได้จริงๆ นะเออ เพราะการที่เราเหวี่ยงจอยให้ได้คะแนนเท่านั้นเท่านี้แบบที่เกมส์บอก มันก็มีองศาท่าทางการเต้นอยู่เหมือนกัน ซึ่งเกมส์มันสามารถประเมินผลคร่าวๆ ได้ว่า ถ้าคุณเหวี่ยงเท่านี้ เสียพลังงานไปแค่ไหน ถ้าคุณสะบัดแบบนั้น เสียแคลฯ ไปเท่าไหร่ โดยจะสังเกตได้เลยว่า ผู้เล่นที่ได้คะแนนสูงกว่า จะมีอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ที่ดีมากกว่าผู้เล่นที่ได้คะแนนน้อยกว่า

3. หาเพลงได้ง่ายกว่าเดิม

ใน Just Dance 2019 ได้เพิ่มการค้นหาชื่อเพลงให้หาเพลงที่ต้องการเต้นได้ง่ายขึ้นจากการเลือกตัวอักษรขึ้นมาสักตัวนึง ไม่ว่าตัวอักษรตัวนั้นจะอยู่ในส่วนไหนของชื่อเพลง อยู่หน้าสุด อยู่หลังสุด มันจะแสดงผลการค้นหาขึ้นมาให้หมด แต่ถ้าอยากค้นหาแบบละเอียด ก็สามารถไล่พิมพ์ทีละตัวอักษรได้จนครบชื่อเพลงเช่นเดียวกัน แตกต่างจาก Just Dance ภาคเก่าๆ เช่น 2015 และ 2016 ที่ต้องไล่เปิดเพลงดูเอาจนกว่าจะเจอเพลงที่ต้องการ 

4. มีระบบ Joy-con สั่นให้จังหวะผู้เล่น (Beat Vibrations)

ถ้าใครกลัวจับจังหวะเพลงไม่ถูก Just Dance 2019 ใน NS มีฟังก์ชั่นให้ผู้เล่นเลือกเปิด/ปิด การใช้งานระบบสั่นเข้าจังหวะที่ว่านี่ด้วยนะ ถ้ารู้สึกมันสั่นบ่อยไปหรือรู้สึกรำคาญก็ปิดไปได้ แต่ส่วนตัวแอดมินว่าการเปิดไว้ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสให้เกมส์ได้อีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน

จุดด้อย

1. ต้องปลดล็อกเพลง

เพลงใน Just Dance 2019 จะไม่สามารถใส่แผ่น / ตลับ แล้วเล่นได้เลยเหมือนภาคก่อนๆ เพราะจะต้องใช้การเล่นผ่านเงื่อนไขต่างๆ ที่แต่ละเพลงกำหนดไว้ถึงจะได้เพลงมาเล่นกัน ฉะนั้น อยากเล่นเพลงไหนแต่ยังขึ้นรูปล็อกไว้อยู่ ก็อย่าลืมไปดูเงื่อนไขการปลดล็อกมาเล่นกันนะคะ

2. Joy-con ไม่สามารถจับท่าทางได้ดีเท่า Camera

ก็อย่างที่รู้ๆ กันดีว่า ถึงแม้จะมีอุปกรณ์ Motion Controller ทั้งหลายมาให้ เช่น ตัว Joy-con เอง หรืออุปกรณ์จับท่าทางอย่างรุ่นพี่ PS Move Controller กับ Wii Controller ก็ยังไม่สามารถจับความเคลื่อนไหวได้เท่า PlayStation Camera หรือ Xbox Kinect อยู่ดี ซึ่งข้อเสียในเรื่องนี้จะเห็นได้ชัดกับเพลงที่มีท่าที่มืออยู่นิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหวมากนัก ที่มักจะได้คะแนนแค่เพียง OK หรือ Good เท่านั้น บางทีถึงขั้น Miss ไปดื้อๆ เลยก็มี ถ้าใครซีเรียสเรื่องคะแนนการเต้นหรือเน้นแข่งขัน การเล่นบนแพลตฟอร์มที่มีกล้องก็ดูจะเป็นอะไรที่เข้าท่ามากกว่า

3. แม้จะพกพาได้ แต่ก็ไม่เหมาะกับการเล่นนอกสถานที่

สาเหตุก็เป็นเพราะขนาดจอของตัวเครื่องเองนั่นล่ะค่ะ มันไม่เหมาะกับการที่ต้องดูกันหลายๆ คนแถมต้องเคลื่อนไหวร่างกายไปด้วยอีกต่างหาก ถ้าหากคุณเอาไปเล่นเองคนเดียวนอกสถานที่แก้ขัดก็พอได้อยู่ค่ะ แต่ถ้าเล่นหลายคนล่ะก็ การพกพาออกไปเล่นนอกบ้านดูจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่ (มองไม่เห็นกันแน่ๆ)

จากข้อดีข้อด้อยทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวไปข้างต้น ก็สามารถสรุปได้ว่า Just Dance 2019 บน Nintendo Switch นั้นเหมาะที่จะนำไปแฮงก์เอาท์กับเพื่อนๆ ขำๆ (เช่น พกเกมส์ไปเล่นต่อบ้านเพื่อน) กันมากกว่าการเต้นแบบซีเรียสจริงจัง ซึ่งถ้าใครเป็นนักเต้นสายล่าแต้มสะสมคะแนน พร้อมประชันความเท้าไฟแบบ World Dance Floor แล้วล่ะก็ แอดมินขอแนะนำให้ขยับไปเล่นบนเครื่อง PS4 หรือ Xbox แทน น่าจะเข้าทางสายนี้มากกว่าค่า