Kingdom Hearts III นับเป็นเกมส์ที่ชาวเกมเมอร์สายเสพเนื้อเรื่องรอคอยกันมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี 2017 ที่ได้วางขาย Kingdom Hearts HD 2.8 Final Chapter Prologue ให้แฟนๆ ได้เล่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าในภาคนี้ก็ได้มีการยกระดับกราฟฟิคและเนื้อเรื่องเพิ่มขึ้นมาอีกขั้น แถมด้วยการคงไว้ซึ่งความคลาสสิคของเพลงประกอบเกมส์ในซีรี่ส์ด้วยศิลปินคู่บุญของเกมส์อย่าง Utada Hikaru ที่ได้ฝากผลงานเพลงประกอบไว้อย่างมากมาย ทั้ง Hikari, Simple & Clean, Passion, Sanctuary และเดินทางมาถึงเพลงประกอบเกมส์ในภาคล่าสุดอย่าง Chikai, Don't Think Twice และเพลงเปิดสุดอลังการที่ได้ร่วมงานกับ Skrillex ในชื่อเพลง Face My Fears
การดำเนินเรื่องในภาคนี้ใช้การเล่าด้วยคัทซีนไปเรื่อยๆ เหมาะมากสำหรับผู้เล่นที่เน้นดูความสวยงามของการออกแบบซีนและแอนิเมชั่น ซึ่งถ้าคุณคาดหวังซีนเพิ่มเติมต่างๆ จากภาพยนตร์และการ์ตูนเรื่องโปรดที่คุณชื่นชอบอย่าง Hercules, Toy Story, Monster Inc, Tangled, Wreck-it Ralph และ Pirates of the Caribbean แล้วล่ะก็ เราบอกเลยว่าเกมส์นี้มีให้คุณอย่างจุใจ ดูได้ดูดีดูเพลินในทุกฉากที่เราได้เห็นตัวเอกของเรื่องนั้นๆ ออกมาแจมเลยแหละ
การเปลี่ยนเนื้อเรื่องจากหนังอีกเรื่องหนึ่งไปสู่อีกเรื่องใน Kingdom Hearts ภาคนี้จะใช้การส่งผ่านเนื้อเรื่องโดยการเดินทางด้วยยาน Gummi ship ที่เป็นยานอวกาศที่เราสามารถปรับแต่งได้ตามชอบ แถมในระหว่างที่กำลังเดินทาง ยังสามารถเลือกที่จะออกนอกเส้นทางไปเก็บไอเท็มหรือแก้ไขปริศนาเพื่อรับไอเท็มเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ ได้อีกด้วย
สำหรับใครที่ไม่เคยเล่นภาคไหนมาก่อนหน้า เริ่มต้นสตาร์ทที่ภาค 3 นี้เลยอย่างผู้เขียน ก็สามารถไปไล่ดูมูฟวี่เนื้อเรื่องความเป็นมาก่อนหน้าคร่าวๆ ได้จากส่วนเมนู Memory Archive ก่อนกด Start Game ซึ่งสามารถเปิดดูได้ทันทีเมื่อโหลดเกมส์ส่วนแรกเสร็จ (ส่วนที่ระบบโหลดบอกว่าจำเป็นต้องใช้เนื้อที่เท่าไหร่ในการเปิดเกมส์นั่นแหละ)
แต่ถ้าใครคาดหวังว่าจะไม่เสพเนื้อเรื่อง จะเน้นภาพสวยและท่าแอ็คชั่นในฉากอาจจะต้องผิดหวังกันสักหน่อย เพราะถ้าหากคุณเป็นสายข้ามคัทซีน บอกเลยว่าอาจเล่นเกมส์นี้ได้ไม่คุ้มค่าอย่างที่ควรจะเป็น อย่างที่เราบอกไปข้างต้นแล้วว่า เกมส์ภาคนี้เหมาะกับ "สายเสพเนื้อเรื่องที่แท้ทรู" เนื่องจากคัทซีนมีความยาวมากถึงมากที่สุดเท่าที่เคยเล่นเกมส์แนวนี้มา ฉากแอ็คชั่นสวยๆ ถือเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบของเกมส์เหมือนเป็นช่วงคั่นเวลาที่จะเข้าสู่คัทซีนใหม่เท่านั้น
รูปแบบเกมเพลย์พื้นฐานของเกมส์นี้คือการบังคับตัวเอกของเราในฉากนั้นๆ ให้ต่อสู้ผจญภัยไปตามภารกิจที่ให้มา เช่น ไปช่วยพลเมืองที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ช่วยตัวละครที่กำหนดตามฉาก หรือจะเป็นการสู้กับบอสประจำฉาก เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดการทำภารกิจขั้นต่อไป เมื่อเรากดปุ่ม Option มันจะอยู่ทางด้านขวาบน เพื่อบอกใบ้ถึงสิ่งที่เราต้องทำเป็นลำดับถัดไปค่ะ
ค่าความเร็วการควบคุมกล้องเริ่มต้นของเกมส์ ถือเป็นอุปสรรคในการเล่นอย่างหนึ่งของผู้ที่มีปัญหากับการเคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็วของภาพ (เช่นผู้เขียน) ถ้าหากไม่ปรับ Sensitivity Camera ของเกมส์ลง การเลื่อนภาพและมุมกล้องไปมาในฉากการผจญภัยสามารถทำให้เวียนหัวได้ง่ายๆ เลยทีเดียว (หรือผู้เขียนแก่เกินไปนะ TT)
สำหรับใครที่เบื่อภารกิจหลัก เบื่อการตามเนื้อเรื่อง อยากพักสมอง หรืออะไรก็แล้วแต่ ตัวเกมส์ถูกออกแบบมาให้มีมินิเกมส์เล่นคั่นเวลากันด้วยนะ ตัวอย่างเช่นมินิเกมส์การทำอาหารที่ถูกเพิ่มเข้ามาในภาคนี้ ซึ่งได้ตัวละครพิเศษมาร่วมแจมกันในเกมส์ โดยอาหารที่เราทำออกมาแล้วสามารถนำไปทานก่อนการต่อสู้เพื่อบัฟตัวละครให้เก่งขึ้นได้อีกด้วย (บัฟจำกัดระยะเวลานะ)
ในภาคสามนี้ นอกเหนือจากภารกิจหลักของเกมส์ที่มีให้ผู้เล่นได้ทำกันตามฉากแล้ว ยังมีภารกิจที่สำคัญอีกอย่างสำหรับสายเสพเนื้อเรื่อง นั่นก็คือการเก็บสัญลักษณ์ของมิกกี้เมาส์ตามฉากให้ครบจำนวนตามที่กำหนดไว้ในแต่ละระดับความยาก เพื่อให้ได้มาซึ่งมูฟวี่ลับที่เราสามารถกดเข้าไปดูได้หลังจากเก็บครบแล้วนั่นเอง
กราฟฟิคในภาคนี้ถือว่าทำออกมาได้อลังการตระการตาสมกับที่เน้นรีดประสิทธิภาพ PS4 Pro ด้วยการออกบันเดิ้ลลิมิเต็ดอิดิชั่นมาในรุ่นนี้อย่างแท้จริง การเล่นในระดับ 60 FPS สามารถทำได้ลื่นไหลมากๆ ทั้งๆ ที่มีความอลังการในหลายๆ ฉาก ทั้งการคอมโบท่ากับเพื่อนร่วมทีม และการเปิดใช้ท่าไม้ตายที่เป็นเครื่องเล่นหรรษาในรูปแบบต่างๆ จะพบเห็นอาการกระตุกได้น้อยมากๆ แทบจะไม่เจอเลย
ในส่วนของงานศิลป์ ผู้กำกับได้เน้นการมีส่วนร่วมเข้ากับจักรวาลดิสนีย์มากขึ้น เพิ่มส่วนสตอรี่เนื้อหาในแต่ละเมืองให้หลากหลาย ทำให้เราได้เห็นภาพแอนิเมชั่นของการ์ตูนเรื่องต่างๆ นอกเหนือไปจากการดูจากในโรงภาพยนตร์ ที่ประทับใจที่สุดคือการออกแบบรายละเอียดตัวละครเล็กๆ อย่างเหล่าทหารเขียวใน Toy Story ที่ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นจนผู้เขียนรู้สึกดีใจทุกครั้งที่ได้เจอกับพวกเขาในแต่ละฉากเลยล่ะค่ะ
นอกเหนือจากการทำให้ตัวละครมีชีวิตชีวามากขึ้นแล้ว ยังมีการปรับแต่งที่สำคัญเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือการปรับแต่งโทนสีและการคุมโทนให้เข้ากับเหตุการณ์ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งทำออกมาได้ดีและเข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น ฉากในวิหารที่ไฟไหม้อยู่ โทนสีก็จะออกหม่นๆ หน่อย ฉากโซนของเล่นก็จะเน้นสีสันฉูดฉาดสดใส เป็นต้น
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
สำหรับใครที่เล่นจบแล้ว ก็อย่าลืมมาเล่าความประทับใจที่ได้จากเกมส์นี้ให้แอดมินอ่านกันบ้างนะคะ ว่าคุ้มค่าสมการรอคอยมั้ย ฉากงานศิลป์ดูแล้วเป็นอย่างไร คิดเหมือนหรือแตกต่างจากแอดมินอย่างไรกันบ้างคะ :)
|
เกมเมอร์หญิงทาสแมว ถ้าอยู่กับแมวแล้วจะน้วยแมวทั้งวัน |