ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
ไทยแวร์รีวิว
 

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 10,545
เขียนโดย :
0 %5B%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%5D+Dragon+Quest+XI%3A+Echoes+of+an+Elusive+Age%3A+%27%27JRPG+%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2%27%27
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

Prologue / อารัมภ 'บ่น'

ขอสารภาพตามตรงว่าผมยังเล่นไม่จบ บทความนี้จึงไม่สามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่ารีวิว (ทำใจบอกว่ามันคือรีวิวทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สำรวจครบทุกส่วนไม่ได้จริงๆ ) แต่จากที่ได้เล่นมากว่า 20 ชั่วโมง ผมพบว่าผลงานเกมส์ชิ้นนี้ของ Square Enix ไม่มีจุดบกพร่องใดๆ จากหมวดหมู่และแนวที่เกมส์เป็น พร้อมทั้ง Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age ยังป่าวประกาศให้โลกได้รู้ ว่า "JRPG ไม่มีวันตาย" แต่เพราะอะไรมันถึงเป็นเช่นนั้น เชิญหาคำตอบได้ในบทความนี้ได้เลยครับ


ผู้กล้า พันธมิตรข้างกาย และการเดินทางแห่งโชคชะตาที่แท้จริง

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

"ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Luminary ผู้กล้าแห่งแสงกลับชาติมาเกิดที่มีภารกิจอันยิ่งใหญ่คือการปกป้องโลกตามชะตาที่ถูกลิขิต" และนี่ คือพลอตหลักในเนื้อเรื่องของเกมส์ที่แม้จะเรียบง่ายไม่ซับซ้อน แต่มันก็เต็มไปด้วยความสนุกจากการผจญภัยในระหว่างทาง ที่ถึงแม้มันจะเป็นการเดินทางที่แสนยืดเยื้อ (ยืดแล้วยืดอีก) แต่มันก็ถูกบอกเล่าด้วยวิธีการที่ประณีตและละมุนละไม ตามสไตล์เกมส์ หนังสือการ์ตูน หรือนวนิยายเทพนิยายที่ระหว่างทางจะเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสนุกหลากหลายอารมณ์ก่อนที่จะจบบริบูรณ์ในที่สุด 

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

เราจะได้กระโดดเข้าไปในหลากหลายเหตุการณ์ความบังเอิญ (ที่เล่นๆ ไปก็ชวนให้คิดว่าอะไรมันจะบังเอิญได้ขนาดนั้น ฮ่าๆ) ที่แม้มันจะเป็นการยืดจุดหมายในเนื้อเรื่องให้ไกลไปกว่าเดิม แต่เหตุการณ์เหล่านั้น จะสร้างความประทับใจให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างดี ทั้งจากสิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์นั้นๆ ที่แม้จะไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนแต่มันก็ถูกบอกเล่าด้วยความประณีต เคมีที่เข้ากันของตัวละครเพื่อนร่วมทางของเราที่มีเอกลักษณ์และอุปนิสัยที่แตกต่างกันสุดขั้ว มุมกล้องและการกำกับคัทซีนไปจนถึงดนตรีประกอบฉากที่ชักจูงอารมณ์ของผู้เล่นให้อยู่กับเนื้อเรื่องได้เสมอ

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''  
สไลม์ 3 ตัว ศัตรูประเภท ระดับและกลุ่มแรกที่ทุกภาคต้องได้เจอ

ทั้งหมดนี้ คือสูตรสำเร็จในการเล่าเรื่องแบบดั้งเดิมตามแบบฉบับซีรีย์เกมส์หลักของ Dragon Quest ที่ไม่ได้เน้นเกมส์การเมืองในเนื้อเรื่อง ไม่มีสลับซับซ้อน แต่ว่าด้วยเรื่องราว "การผจญภัย" การเดินทางอันแสนยาวนาน และหลากสถานที่ตระการตาที่เราและผองเพื่อนได้ประสบพบเจอจากเหตุการณ์มากมายที่ในท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นประสบการณ์ให้กับการเล่นที่อิ่มเอมใจและบริบูรณ์

"Turn-Based" รากเหง้าแห่ง RPG 

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

ไม่เพียงแต่ด้านการนำเสนอในพลอตของเนื้อเรื่องและธีมของเกมส์ที่ตรงตามจารีตประเพณีที่ทุกภาคหลักและภาค Monster มี แต่ในด้านของการต่อสู้ Dragon Quest XI นี้ก็ยังคงใช้ Turn-Based รูปแบบของการออกคำสั่งเพื่อผลัดกันโจมตี ระบบการต่อสู้ที่เรียบง่ายอันเป็นขนบธรรมเนียมและรากเหง้าในเกมส์แนว RPG เสมอมา ที่ตอกย้ำและพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ากาลเวลาไม่สามารถทำอะไรระบบสุดขลังนี้ลงไปได้

กลไกการเล่นของระบบนี้ ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เราจะต้องเลือกป้อนคำสั่งรูปแบบต่างๆ ที่ใช้ในการรับมือกับอีกฝั่ง โจมตี ป้องกัน สกิลพิเศษต่าง ซึ่งเมื่อท่วงท่าจากคำสั่งเหล่านั้นแสดงผล ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะถูกคำนวณด้วยการนำค่าสถานะของตัวละครของเราและเป้าหมายที่เราเลือกกระทำ แต่สิ่งที่ดูจะเปลี่ยนแปลงไปจากทุกภาคที่ผ่านมา คือการแสดงผลของท่าในทันทีหลังจากที่เราป้อนคำสั่งให้กับตัวละคร ซึ่งมันทำให้การต่อสู้ กระชับพร้อมง่ายขึ้น และเราจะสามารถวางแผนสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้ได้ในทันที เช่น หากศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มติดสถานะนอนหลับอยู่ เราก็อาจจะเลือกโจมตีตัวอื่นที่อ่อนแอกว่าก่อนแล้วค่อยวกกลับมารุมมันหรือหากตัวละครของผู้เล่นมีสกิลที่โจมตีศัตรูติดสถานะหลับแรงขึ้น ก็จัดการให้มันลาโลกไปและรับมือกับศัตรูตัวอื่นๆ ด้วยความสบายใจ

(ในภาคแรกสุดๆ เลย ภาค 1 - 4 เราจะต้องป้อนคำสั่งให้ครบถึงจะเข้าเทิร์นต่อสู้ ซึ่งหากศัตรูตัวที่ทั้งทีมเล็งมันตายตั้งแต่การโจมตีของตัวละครแรกเราหรือว่าหลบหนีไปในการต่อสู้ ท่าที่เหลือของตัวละครในทีมเรามันก็จะเสียเปล่าในทันที อีกทั้งหากศัตรูประเภทเดียวกันมาเป็นกลุ่ม เราจะไม่สามารถเลือกใช้การโจมตีแบบปกติตีตัวที่ต้องการได้)


[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

อีกทั้งในระหว่างการต่อสู้ ตัวละครของเราทั้งหมดจะมีโอกาสได้รับสถานะพิเศษอย่าง Pep Power ที่จะทำให้ค่าสถานะที่ตัวละครนั้นๆ โดดเด่น ถูกเพิ่มขึ้นในปริมาณมากเป็นชั่วระยะเวลาหนึ่ง พร้อมทั้งมีสกิลพิเศษความเสียหายสูงหรือช่วยเหลือเกื้อกูลทีมให้ได้ใช้ และในหลายสกิลจะมีเงื่อนไขที่ต้องใช้ร่วมกันกับตัวละครอื่นๆ ที่ติดสถานะดังกล่าว ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์ในการต่อสู้แล้ว เรายังจะได้รับชมคัทซีนหลากอารมณ์เป็นของแถมอีกด้วย

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''
ขึ้นชื่อว่าบอสใน Dragon Quest ไม่มีการต่อสู้ครั้งไหน "ง่าย"

แต่ถึงระบบต่อสู้จะถูกรวบรัดจนง่ายขึ้น แต่เหล่าศัตรูตามฉากรวมไปถึงระดับบอสทั้งหลาย ก็ยังเป็นอุปสรรคเดียวของเกมส์ที่ท้าทายเหมือนที่ซีรีย์นี้เป็นมา โดยในทุกครั้งที่เราเดินทางไปยังพื้นที่ใหม่ของเกมส์ ศัตรูตามฉากจะแกร่งกว่าเราเสมอไม่ว่าจะด้านของพลังโจมตี ระดับพลังชีวิต ไปจนถึงสารพัดสกิลที่ใช้ในการขัดขวางผู้เล่น และยิ่งในระดับบอส ก็ไม่มีครั้งไหนที่เราจะผ่านมันไปได้ง่ายๆ 

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

ซึ่งเรา จะต้องรับมือกับอุปสรรคตามแบบฉบับของเกมส์แนว RPG นั่นคือการ "พัฒนาตัวละคร" ตั้งแต่วิธีการขั้นพื้นฐานอย่างการเก็บเลเวลด้วยการฟาร์ม ที่แม้จะเราจะต้องวกวนต่อสู้กับศัตรูกลุ่มเดิมๆ หน้าเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มันก็จะส่งผลดีให้กับการเล่นในภายภาคหน้าที่จะลดทอนเวลาในการเก็บเลเวลให้กับเส้นทางข้างหน้าของเกมส์ เพราะทุกเลเวลที่เพิ่ม ตัวละครของเราจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากค่าสถานะด้านต่างๆ สกิลแบบตายตัวที่จะได้เมื่อถึงเลเวลที่กำหนด

สนุก! หยุดไม่อยู่! กับหลากระบบพัฒนาตัวละคร

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

ในภาคนี้ตัวเกมส์ก็ได้เพิ่มระบบใหม่ในการพัฒนาตัวละครเข้ามา (แต่ถ้าวัดกับเกมส์ยุคนี้มันถือว่าโคตรเก่าแล้วละนะ...) อย่าง "Character Builder" ระบบที่จะส่งเสริมให้การไต่เลเวลของเรามีความสำคัญต่อรูปเกมส์ในขณะนั้นมากยิ่งขึ้น ด้วยการที่ผู้เล่นสามารถนำแต้มสกิลที่จะได้รับคละจำนวนจากทุกครั้งที่เลเวลสูงขึ้น นำไปอัพเกรดสายสกิลที่เราเห็นว่ามีประโยชน์ ขับเน้นด้านความถนัดทางการเล่น หรือมีความจำเป็นต่อการเล่น ณ ในช่วงเวลานั้นของเกมส์และซ้ำยังสามารถรีเซ็ตแต้มทั้งหมดได้ตลอดทั้งการเดินทาง เช่น หากในขณะนั้นดาบใหญ่อาวุธทางเลือกของตัวละครเอกสามารถสร้างความรวดเร็วในการฟาร์มได้มากกว่าอาวุธหลักที่ตัวเอกสวมใส่ได้อย่างดาบและโล่ เราก็สามารถที่จะเลือกหันเหไปอัพสายสกิลที่เกี่ยวข้องกับดาบใหญ่ให้ตีแรงขึ้น หรือเลือกเอาสกิลโจมตีหมู่มาใช้ หรือหากในจังหวะหนึ่งของเกมส์ตัวละครสายเวทในปาร์ตี้ของเรานั้นไม่มีความจำเป็นกับศัตรูในฉากที่เรากำลังฟาร์มเลเวลอยู่เพราะพวกมันมีค่าพลังต้านทานเวทย์ที่สูง เราก็สามารถรีเซ็ตสายสกิลที่สนับสนุนการโจมตีด้วยเวทย์มนต์ของตัวละครดังกล่าวแล้วโยกย้ายไปอัพเกรดอาวุธที่สร้างความเสียหายในแบบกายภาพแทน เป็นต้น

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

นอกจากนี้ "Forge" การสร้างอุปกรณ์สวมใส่ ที่เป็นระบบใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในภาคนี้ (ที่มันก็ถือว่าเก่าแล้วสำหรับเกมส์ซีรีย์อื่นอ่ะนะ...) ก็ชวนให้เราติดพันในการพัฒนาตัวละครได้ไม่แพ้ระบบอื่นๆ โดยอุปกรณ์สวมใส่หลายชิ้นในเกมส์ ผู้เล่นสามารถสร้างขึ้นมาเองหรือเสริมความแกร่ง (ตีบวกนั่นแหละ) ให้ของชิ้นนั้นๆ มีค่าสถานะสวมใส่ที่มากกว่าการซื้อจากตามร้านขายทั่วไป

ซึ่งการจะสร้างอุปกรณ์หรือเสริมความแกร่งก็ไม่ได้มีวิธีการแหกคอกไปจากเกมส์อื่นแต่อย่างใด เพียงแค่เราต้องมีพิมพ์เขียวของอุปกรณ์ชิ้นที่ต้องการและวัตถุดิบที่ใช้ในการสร้างที่จะหาได้จากการสำรวจตามฉากหรือเควสเสริม (เดี๋ยวอันหลังไว้ขยายความต่อในอีกไม่กี่ย่อหน้านี้แหละ) โดยขั้นตอนการสร้างจะเป็นเหมือนมินิเกมส์เล็กๆ ที่เราจะต้องอาศัยการกะที่แม่นยำผสมกับดวงอีกเล็กน้อยในการกดตีไปยังช่องต่างๆ ของอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ (จะมีช่องมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับประเภท เกรดและชิ้น) เพื่อให้เกจพลังหยุดอยู่ที่บริเวณสีเขียวก็จะถือว่าช่องดังกล่าวผ่านไปได้โดยดี

แต่การสร้างในแต่ละครั้งจะมีค่า Focus ที่ใช้ในการกำหนดจำนวนครั้งไม่ให้การสร้างอุปกรณ์ของเรามีอิสระจนเกินไป และยิ่งในช่วงท้ายเกมส์ อุปกรณ์สวมใส่ทั้งหลายที่สร้างและเสริมความแกร่งได้ก็จะมีจำนวนช่องที่ต้องตีมากขึ้น จะมีบริเวณสีเขียวที่ไกลขึ้นและแคบขึ้น  

แต่ในการสร้างอุปกรณ์ก็จะมีระบบที่หักล้างความท้าทายในการสร้างอยู่ นั่นคือเหล่าสกิลที่จะถูกปลดล็อกออกมาให้เราได้เลือกใช้เมื่อตัวละครเอกของเรามีเลเวลตามที่กำหนด ที่จะช่วยเหลือในการสร้างอุปกรณ์ชิ้นต่างๆ แตกต่างกันออกไป เช่น สกิลตีแบบเบาๆ ที่จะเหมาะในกรณีที่เกจพลังอยู่ในบริเวณช่องเขียวแล้วแต่เราอยากจะเคาะเกจพลังให้ไปถึงลูกศรที่อยู่ในบริเวณ การตีสองช่องพร้อมกันที่จะประหยัดค่า Focus มากกว่าการตีปกติ และสกิลที่เกจพลังจะขยับเพิ่มเป็นสองเท่าจาการตีปกติ แต่จะใช้ค่า Focus เท่ากัน เป็นต้น

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

สืบเนื่องจากย่อหน้าบนๆ เควสเสริมหรือ "Side Quest" ก็เป็นอีกหนึ่งการพัฒนาตัวละครแบบอ้อมๆ ที่หลายๆ เควสก็ถือว่าออกแบบเงื่อนไขในการทำออกมาได้สร้างสรรค์และท้าทายการเล่นใช้ได้ แต่สิ่งที่ดูจะชอบจริงๆ คือของรางวัลที่เราได้รับที่โดยมาก (ประมาณ 8 ใน 10) เราจะได้ของตอบแทนที่สมค่าเหนื่อย และทำให้เราอยากที่จะตามเก็บเควสเสริมเพื่อเสริมความเก่งก่อนเข้าสู่เนื้อเรื่องจริงไปโดยปริยาย  

งานออกแบบ ภาพ เสียงความเดิมๆ ที่ถูกพัฒนา

[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

Dragon Quest XI ได้ปฏิวัติซีรีย์ครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการนำเสนองานภาพกราฟฟิกในรูปแบบ 3 มิติโดยสมบูรณ์ ที่ผู้สร้างได้ใช้ Unreal Engine 4 เอนจินกราฟฟิกเกมส์แห่งยุคในการที่เนรมิตแสงเงา พื้นผิว และเอฟเฟคกระทบต่างๆ ให้ออกมาสวยงามตามยุคสมัย ที่ก็ซ้ำยังทำให้ตัวละครที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากปลายดินสอของอาจารย์ Akira Toriyama มีชีวิตชีวากว่าครั้งไหนๆ

นอกจากนี้ดนตรีประกอบในทุกอิริยาบถของเกมส์ ก็ยังเต็มไปด้วยความคลาสสิค ที่แม้จะเป็นการใช้เสียงสังเคราะห์ผสมเข้ากับการบันทึกเสียงของเครื่องดนตรีออเครสตร้า แทนของเดิมที่มีแต่เสียงของเครื่องดนตรีคลาสสิคเหล่านี้แบบเพียวๆ แต่ด้วยการไล่เรียงจังหวะของตัวโน้ต ที่ก็ยังคงบรรเลงและก่อเป็นเสียงในแบบฉบับที่ใกล้เคียงภาคก่อนหน้านี้ที่เราๆ เคยผ่านหูกันมา และสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่มันก็ยังชักชวนให้สุนทรีและนึกถึงบทเพลงที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังของเกมส์ในอดีตได้ไม่ยากเย็นนัก


[เก่งกะเกมแนะนำ] Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age: ''JRPG ไม่มีวันตาย''

Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age คือภาคที่อ่อนน้อมถ่อมตนและเปิดโอกาสกับผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ทั้งหลายมากที่สุด ด้วยระบบอำนวยความสะดวกมากมายที่ร่วมสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาตัวตนที่สืบทอดมาอย่างช้านานกว่า 31 ปีไว้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งหากคุณคือแฟนของเกมส์ RPG แล้วละก็ ไม่มีสิ่งใดเสียหายที่จะได้กลับไปหาวันวานของเกมส์ในอดีตที่ผลงานชิ้นนี้มอบให้อีกสักครั้ง


 

0 %5B%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%5D+Dragon+Quest+XI%3A+Echoes+of+an+Elusive+Age%3A+%27%27JRPG+%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2%27%27
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
สมาชิก : Member    สมาชิก
ทำไมไม่เรียกแมว! รักหนัง รักเกม ร๊ากกทุกคนนน ~ <3
 
 
 

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น