รีวิว 10 บริการเก็บไฟล์บนคลาวด์ (Cloud Storage) ใช้งานฟรี มีเจ้าไหนบ้าง ?และถ้าเสียเงิน จะเป็นยังไง ?

10 บริการเก็บไฟล์ หรือ เก็บข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud Storage) ฟรี
มีเจ้าไหนบ้าง ?และถ้าเสียเงิน จะเป็นยังไง ?

การเก็บข้อมูลบน บริการเก็บไฟล์ หรือ เก็บข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud Storage) ที่เป็นส่วนหนึ่งของ การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) นั้นถือว่า มีข้อดีมากมาย เช่น ทำให้เราไม่ต้องกลัวข้อมูลสูญหาย หรือ แฟรชไดร์ฟเสีย สามารถเก็บไฟล์อะไรก็ได้ในพื้นที่ความจุขนาดใหญ่ แถมยังสะดวกเพราะเข้าถึงง่ายได้ทุกอุปกรณ์

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริการ Cloud Storage มีตัวเลือกให้ใช้งานมากมาย ใครที่ไม่เคยใช้มาก่อนอาจจะเลือกไม่ได้ ดังนั้นถ้าคุณกำลังมองหาบริการที่น่าสนใจ บทความ เราขอมาช่วยแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ 10 บริการ Cloud Storage ชื่อดัง ใช้งานฟรี ที่จะช่วยเก็บข้อมูลของคุณได้อย่างปลอดภัยกันครับ

1. บริการฝากไฟล์ออนไลน์ MediaFire

บริการฝากไฟล์ออนไลน์ MediaFire เป็นบริการ Cloud Storage ผ่านเว็บไซต์ ที่มีชื่อเสียงมานาน ในด้านของการแชร์ไฟล์ (ละเมิดลิขสิทธิ์) แม้จะถูกใช้ในทางนั้นบ่อย ๆ แต่พื้นฐานแล้วเราก็สามารถใช้มันเพื่อเก็บข้อมูลฟรี ๆ ด้วยความจุ 10 GB. ต่อบัญชี ไม่ว่าจะเป็น เอกสาร, รูปภาพ, เพลง, วิดีโอ คุณก็สามารถเก็บไว้ในระบบและเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกแพลตฟอร์ม นอกจากนี้คุณยังสามารถสร้างลิงก์เพื่อแชร์ไฟล์สาธารณะได้อย่างง่ายดายด้วยความเร็วที่มากพอสมควร นั่นเป็นเหตุผลที่มันถูกนิยมใช้ในเรื่องของการแชร์ไฟล์เป็นส่วนใหญ่

ทั้งนี้ MediaFire อาจไม่ครอบคลุมในเรื่องของความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะข้อมูลด้านความปลอดภัยที่ทางเว็บไซต์ก็ไม่ได้บอกผู้ใช้มากนักว่าป้องกันอะไรให้เราบ้าง รีวิวหลายเจ้าเรียก MediaFire ว่า “Bare-Bones Cloud Storage” เหมือนกระดูกเพียว ๆ ที่ไม่มีหนัง คอยหุ้มป้องกัน ดังนั้นถ้าจะใช้งานจริง MediaFire อาจเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเก็บข้อมูลทั่วไปเท่านั้น

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ฟรี (Features for free users)

• ใช้งานผ่านเว็บไซต์ mediafire.com (ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม)
• สร้างลิงก์เชื่อมต่อตรง (Direct Link) เพื่อแชร์ไฟล์ให้ผู้อื่นดาวน์โหลดแบบสาธารณะได้
• พื้นที่เก็บข้อมูลฟรี 10 GB.

ฟีเจอร์อัปเกรดสำหรับผู้สมัครใช้บริการ (Upgraded features for paid users)

• เพิ่มความจุ
  • สำหรับบุคคลทั่วไป 1 TB. (250 บาท / เดือน)
  • สำหรับธุรกิจใช้งาน 100 คน 100 TB. (1,367 บาท / เดือน)
• การดาวน์โหลดไฟล์แบบทั้งโฟลเดอร์ 
• อัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่สูงสุด 20 GB. ต่อไฟล์
• สร้างรหัสป้องกันไฟล์ 
• และอื่น ๆ 

สมัครใช้งาน บริการฝากไฟล์ออนไลน์ MediaFire ได้ที่นี่

• https://www.mediafire.com/

2. บริการฝากไฟล์ออนไลน์ OneDrive

บริการฝากไฟล์ออนไลน์ OneDrive เป็นบริการคลาวด์เก็บข้อมูลของ Microsoft ที่สามารถใช้ทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ได้อย่างลงตัวเนื่องจากปกติ OneDrive จะมีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลบนคลาวด์ของโปรแกรมจาก Microsoft อยู่แล้ว เช่น Word, Microsoft Excel, PowerPoint, Outlook และจุดเด่นก็คือคุณสามารถแก้ไขเอกสารและเปลี่ยนแปลงข้อมูลจาก OneDrive ได้เลย แถมยังสามารถซิงค์ OneDrive เข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่ออัปโหลดหรือดึงไฟล์ผ่าน Windows Explorer ได้ทันที

โดยปกติแล้วแค่คุณมี บัญชี Microsoft คุณก็สามารถใช้ OneDrive ได้ฟรี ๆ 5 GB. เพื่อเก็บข้อมูลด้วยความจุที่ให้มา แต่ถ้าคุณไม่พอใจอยากได้เพิ่ม คุณสามารถอัปเกรดเป็น OneDrive Standalone (ราคา 69 บาท / เดือน) ที่จะเพิ่มความจุให้ 100 GB. อย่างไรก็ตามหากใครซื้อแพ็กเกจ Microsoft 365 เพื่อใช้งานอยู่แล้วคุณจะได้ความจุมาถึง 1 TB. เลยทีเดียว

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ฟรี (Features for free users)

• พื้นที่เก็บข้อมูลฟรี 5 GB.
• ซิงค์ข้อมูลกับ Windows
• ใช้งานร่วมกับชุดโปรแกรม Office บนเว็บไซต์
• สามารถแก้ไขเอกสารและเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน OneDrive ได้เลย

ฟีเจอร์อัปเกรดสำหรับผู้สมัครใช้บริการ (Upgraded features for paid users)

• เพิ่มความจุด 100 GB. สำหรับ OneDrive Standalone (69 บาท / เดือน)
• เพิ่มความจุ 1 TB. สำหรับผู้ใช้ Microsoft 365
• รวมถึงได้ใช้โปรแกรม Office แบบเวอร์ชันพรีเมียม
• และอื่น ๆ 

สมัครใช้งาน บริการฝากไฟล์ออนไลน์ OneDrive ได้ที่นี่

• https://onedrive.live.com/

3. บริการฝากไฟล์ออนไลน์ iCloud Drive

บริการฝากไฟล์ออนไลน์ iCloud Drive คือ บริการพื้นที่เก็บข้อมูลของ iCloud ที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึง หรือ แชร์ไฟล์ที่เก็บอยู่ใน iCloud ได้อย่างง่ายดาย และนอกจากคุณจะสามารถใช้ iCloud Drive เพื่อเก็บไฟล์เอกสาร คลิป รูปภาพ และไฟล์ประเภทอื่น ๆ ได้เหมือน Cloud Storage ทั่วไป ถ้าคุณเป็นสาวกของ Apple อยู่แล้ว การใช้ iCloud Drive จะมอบความสะดวกให้คุณอย่างมาก เพราะมันเชื่อมโยงต่อการใช้ร่วมกับ iCloud ในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงคุณสามารถซิงค์ iCloud Drive เข้ากับคอมพิวเตอร์ได้เหมือนกับ OneDrive โดยใช้โปรแกรม iTune หรืออะไรที่คล้าย ๆ กัน

อย่างไรก็ตาม iCloud Drive อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ Apple เพราะว่า Apple จะจำกัดคุณสมบัติต่าง ๆ เอาไว้พอสมควร ยกตัวอย่างเช่นคุณไม่สามารถอัปเกรดเป็น iCloud+ เพื่อเพิ่มความจุได้ และคุณก็จะได้ความจุเพียงแค่ 1 GB. เท่านั้น ในขณะที่ผู้ใช้ Apple จะได้ใช้ฟรีคนละ 5 GB.

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ฟรี (Features for free users)

• (เฉพาะผู้ใช้ Apple) พื้นที่เก็บข้อมูลฟรี 5 GB.  
• (ผู้ใช้ทั่วไป) ใช้ผ่านเว็บไซต์เท่านั้นพร้อมพื้นที่ความจุ 1 GB. และอัปเกรดไม่ได้ 
• ซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ผ่าน โปรแกรม iTunes

ฟีเจอร์อัปเกรดสำหรับผู้สมัครใช้บริการ (Upgraded features for paid users)

• เพิ่มความจุ
  • 50 GB. (35 บาท / เดือน)
  • 200 GB. (99 บาท / เดือน
  • 2 TB. (349 บาท / เดือน)
• แชร์พื้นที่เก็บข้อมูลกับสมาชิกในครอบครัวได้สูงสุด 5 คน
• และอื่น ๆ

สมัครใช้งาน บริการฝากไฟล์ออนไลน์ iCloud Drive ได้ที่นี่

• https://www.icloud.com/

4. บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Amazon Drive

บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Amazon Drive หรือบริการ Cloud Storage ของผู้นำด้าน E-commerce เป็นแพลตฟอร์มที่มอบคุณสมบัติฟังก์ชันพื้นฐานครบและเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็น การฝากไฟล์ แชร์ไฟล์ รูปภาพ หรือวิดีโอ โดยใช้งานผ่าน Amazon Account ข้อมูลสามารถจัดการได้ผ่าน เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser), โปรแกรมบน PC ,แอปพลิเคชันมือถือ หรือ แท็บเล็ต โดยมอบพื้นที่เก็บข้อมูลให้ฟรีถึง 5 GB. ด้วยกันเลยทีเดียว 

โดยรวมฟังก์ชันพื้นฐานของ Amazon Drive ไม่ค่อยมีอะไรมาก เรียบง่ายและครบถ้วน แต่จุดเด่นคือ ถ้าคุณสมัครสมาชิกเป็นผู้ใช้ Amazon Prime หรือสมาชิกระดับ VIP ของแพลตฟอร์มอยู่แล้วนอกจากจะได้พื้นที่เก็บข้อมูลฟรี 5 GB. บน Amazon Drive คุณสามารถใช้ Amazon Photos อัปโหลดรูปได้ไม่จำกัดอีกด้วย

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ฟรี (Features for free users)

• ฝากไฟล์ แชร์ไฟล์
• ความจุฟรี 5 GB.

ฟีเจอร์อัปเกรดสำหรับผู้สมัครใช้บริการ (Upgraded features for paid users)

• เพิ่มความจุ
  • 100 GB. (69 บาท / เดือน)
  • 1 TB. (249 บาท / เดือน)
  • 2 TB. (419 บาท / เดือน)
• สมาชิก Amazon Prime ได้เก็บรูปไม่จำกัดบน Amazon Photos
• และอื่น ๆ 

สมัครใช้งาน บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Amazon Drive ได้ที่นี่

• https://www.amazon.com/

5. บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Dropbox

ชื่อของ บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Dropbox เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง มีจุดเด่นในเรื่องความเข้าถึงง่าย ใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ แอปมือถือ และ แอปพลิเคชันเดสก์ท็อป รวมถึงยังสามารถซิงค์กันแพลตฟอร์ม Cloud Storage อื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย มาพร้อมกับคุณสมบัติพื้นฐานในการเก็บรักษาไฟล์ให้ปลอดภัย หรือแชร์ไฟล์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิดีโอ รูปภาพ เอกสาร และอื่น ๆ 

จุดเด่นอีกอย่างของ Dropbox คือการผสานทำงานร่วมกับโปรแกรมอย่าง Slack และ Zoom ที่ช่วยให้คุณสามารถแชร์ข้อมูลจาก Dropbox กันในแพลตฟอร์มเหล่านั้นได้เลย ถ้าพูดถึงบริการ Cloud Storage ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับธุรกิจคุณจะได้ยินชื่อของ Dropbox มาเป็นอันดับแรก ๆ 

อย่างไรก็ตามข้อเสียของ Dropbox คือการให้พื้นที่ใช้ฟรีน้อยเพียงแค่ 2GB. เท่านั้น หากเทียบกับบริการเจ้าอื่นถือว่าน้อยที่สุดที่เราแนะนำมาก็ว่าได้

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ฟรี (Features for free users)

• ฝากไฟล์ แชร์ไฟล์ อัปโหลดไฟล์ต่าง ๆ
• ความจุฟรี 2 GB.

ฟีเจอร์อัปเกรดสำหรับผู้สมัครใช้บริการ (Upgraded features for paid users)

• เพิ่มความจุ
  • 2 TB. (410 บาท / เดือน)
  • 2 TB. ใช้ร่วมกัน 6 คน ( 690 บาท / เดือน)
• ซิงค์การทำงานร่วมกับ Cloud อื่น ๆ 
• กู้ข้อมูลได้หากเกิดปัญหาไฟล์เสียหายหรือโดนมัลแวร์ (สำรองประวัติไว้ 30 วัน)
• Dropbox Vault และ Dropbox Password สำหรับเก็บไฟล์ในความปลอดภัยสูง
• เปิดใช้การพิสูจน์ตัวตนแบบสองปัจจัย (2FA)
• ส่งไฟล์ขนาดใหญ้ได้ (2 GB. สำหรับบุคคลทั่วไป / 100 GB. สำหรับธุรกิจ)
• และอื่น ๆ 

สมัครใช้งาน บริการฝากไฟล์ออนไลน์  Dropbox ได้ที่นี่

• https://www.dropbox.com/login?src=logout

6. บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Google Drive

บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Google Drive เป็นอีกหนึ่งบริการ Cloud Storage ที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี จุดเด่นคือ ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ของ Google Drive ไม่ได้ถูกจำกัดเอาไว้ให้บัญชีที่อัปเกรดแล้วเหมือนบริการเจ้าอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่ฟรีที่ให้มาเยอะมากถึง 15 GB. แถมยังใช้งานง่าย มีระบบช่วยบริการจัดการไฟล์ให้ค้นหาจะได้สะดวก และยังสามารถสร้างลิงก์เพื่อแชร์ไฟล์แบบสาธารณะได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ถ้าพูดถึงข้อดีของ Google Drive แล้วคงจะข้ามเรื่องนี้ไปไม่ได้ เพราะมันคือบริการที่ต้องใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มของ Google และซิงก์เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลให้กับแอปพลิเคชันของ Google มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Google Docs, Google Sheets, Google Slides, Gmail, Google Photos และอื่น ๆ ซึ่งถ้าคุณมีการแก้ไขข้อมูลอะไรไม่ว่าจะเป็นการโยกย้าย หรือ แก้ไขเนื้อหาในเอกสาร ทุกอย่างก็จะซิงก์กันหมดและถูกแก้ไขรวมกันอยู่ใน Google Drive นอกจากนี้คุณยังสามารถเปิดพรีวิวข้อมูลเช่นดูวิดีโอในไดรฟ์ได้เลย ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้ ได้เป็นอย่างดี

แต่ทั้งนี้มันก็มีข้อจำกัดที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ เนื่องจากพื้นที่เก็บข้อมูลของ Google Drive ซิงก์กับแอปจาก Google หลายตัว ทำให้มันใช้พื้นที่เดียวกัน ดังนั้นแม้ว่า 15 GB. จะดูมากมาย แต่ถ้าใช้ไม่ระวังก็อาจเต็มได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะเวลาคุณเก็บรูปภาพไว้ใน Google Photos มันจะเต็มอย่างรวดเร็วเลยแหล่ะ 

และอีกอย่างคือ Google Drive จะเข้มงวดในเรื่องของการตรวจสอบไฟล์อย่างมาก เพราะฉะนั้นหากคุณคิดจะฝากไฟล์แปลก ๆ เข้ามาและเปิดแชร์เมื่อไหร่ ไฟล์ของคุณจะถูก Google ตรวจสอบอัตโนมัติและไฟล์นั้นอาจโดนอุ้มหายไปไม่รู้ตัว 

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ฟรี (Features for free users)

• พื้นที่ฟรี 15 GB.
• ฝากไฟล์ แชร์ไฟล์ อัปโหลดไฟล์ต่าง ๆ 
• เข้าถึงได้ง่ายบนเว็บเบราว์เซอร์ และ แอปพลิเคชัน
• สร้างลิงก์ตรงและแชร์ไฟล์
• ผสานการทำงานร่วมกับแอปของ Google ที่ประกอบไปด้วย
  • Google Docs
  • Google Sheets
  • Google Slides
  • Gmail
• แก้ไขข้อมูลเอกสารและอัปเดตอัตโนมัติในแพลตฟอร์ม

ฟีเจอร์อัปเกรดสำหรับผู้สมัครใช้บริการ (Upgraded features for paid users)

• เพิ่มความจุ
  • 100 GB. (70 บาท / เดือน)
  • 200 GB. (99 บาท / เดือน)
  • 2 TB. (350 บาท / เดือน)
• แชร์ Storage ร่วมกับผู้ใช้รายอื่น ๆ ได้
• และอื่น ๆ 

สมัครใช้งาน บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Google Drive ได้ที่นี่

• https://www.google.com/drive/

7. บริการฝากไฟล์ออนไลน์ MEGA 

หากนิยามถึง บริการฝากไฟล์ออนไลน์ MEGA คงคล้าย ๆ กับ Mediafire เพราะเป็น Cloud Storage ที่เน้นใช้งานผ่านเว็บไซต์ และถูกใช้ในการแชร์ไฟล์เป็นหลัก เนื่องจากเราสามารถสร้างลิงก์ให้ผู้อื่นดาวน์โหลดสาธารณะได้อย่างง่ายดาย พร้อมมอบความเร็วในการดาวน์โหลดที่สูง โดยเฉพาะในสมัยที่ยังใช้ชื่อ Mega Upload มักจะขึ้นชื่อในเรื่องของการแชร์ไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์บ่อย ๆ จนทำให้ถูกปิดไปและฟื้นตัวกลับมาเป็น MEGA Cloud Storage ที่ให้บริการเป็นพื้นที่เก็บไฟล์บนคลาวด์อย่างเต็มตัว

อย่างไรก็ตามปัจจุบันจุดเด่นของ MEGA ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง คือเรื่องของการแชร์ไฟล์เป็นหลัก และมีข้อดีตรงที่ให้พื้นที่ฟรีมากถึง 20 GB. รองรับการอัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ โดย หน้าตาจอเชื่อมต่อกับผู้ใช้งาน (User Interface) ของแพลตฟอร์มก็ถือว่าดูดีใช้ได้ และใช้งานง่าย สามารถลากไฟล์แบบลากแล้ววาง (Drag-to-Drop) จากเครื่องเพื่ออัปโหลดได้เลยเหมือนบริการอื่น ๆ 

นอกจากนี้หากใครอยากหารายได้เล็กน้อยคุณสามารถสร้างลิงก์เชิญเพื่อนให้สมัคร MEGA และจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากการที่ผู้ใช้รายใหม่สมัครแพ็กเกจทุกเดือนด้วยนะ

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ฟรี (Features for free users)

• พื้นที่เก็บข้อมูล 20 GB. 
• ฝากไฟล์และจัดการข้อมูลเอกสาร รูปภาพ วิดีโอได้ตามสะดวก 
• สร้างลิงก์แชร์ไฟล์สาธารณะให้ผู้อื่นได้

ฟีเจอร์อัปเกรดสำหรับผู้สมัครใช้บริการ (Upgraded features for paid users)

• เพิ่มความจุ
  • 400 GB. (182 บาท / เดือน)
  • 2 TB. (364 บาท / เดือน)
  • 8 TB. (729 บาท / เดือน)
  • 16 TB.  (1,094 บาท / เดือน)
• แชร์ไฟล์เป็นส่วนตัว สร้างรหัสผ่าน
• ส่งไฟล์ขนาดใหญ่อย่างปลอดภัย
• สำรองข้อมูลอัตโนมัติ
• กำหนดเวอร์ชันไฟล์
• ระบบแชท และ การคุยวิดีโอคอนเฟอร์เลนซ์สำหรับธุรกิจ
• กำหนดการตั้งค่าถังขยะ (เช่น การลบไฟล์ในถังขยะภายในกี่วัน)
• และอื่น ๆ 

สมัครใช้งาน บริการฝากไฟล์ออนไลน์  MEGA ได้ที่นี่

• https://mega.nz/

8. บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Icedrive

บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Icedrive เป็นบริการ Cloud Storage ใหม่ที่เปิดตัวมาในปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) แม้ว่าจะเพิ่งเป็นเด็กใหม่ในวงการและไม่ได้มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นอะไร แต่ก็สามารถใช้ฟังก์ชันพื้นฐานในการซิงก์ไฟล์ และ เก็บข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีการเข้ารหัสแบบ Twofish ความปลอดภัยระดับสูง ที่สำคัญคือ Icedrive มีแพ็กเกจซื้อความจุเพิ่มตลอดชีพ ซึ่งไม่มีเจ้าไหนทำมาก่อน

สำหรับพื้นที่เก็บข้อมูลฟรีให้มาถึง 10 GB. การใช้งานเรียบง่ายเหมือน Cloud Storage เจ้าอื่น ๆ มีลูกเล่นในการสร้างสีสันให้กับโฟลเดอร์เก็บไฟล์ และยังสามารถติดตั้งแอปลงบนหน้าจอเดสก์ท็อป (Desktop Screen) เพื่อซิงก์เชื่อมต่อกับ Windows Explorer ได้ด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ฟรี (Features for free users)

• พื้นที่ 10 GB.
• เก็บข้อมูลและซิงก์ข้อมูลได้ทุกอุปกรณ์ 
• เข้ารหัสไฟล์แบบ Twofish ความปลอดภัยระดับสูง
• แชร์ลิงก์แบบสาธารณะได้

ฟีเจอร์อัปเกรดสำหรับผู้สมัครใช้บริการ (Upgraded features for paid users)

• เพิ่มความจุ
  • 150 GB. (70 บาท / เดือน)
  • 1 TB. (170 บาท / เดือน)
  • 5 TB. (615 บาท / เดือน)
  • แบบตลอดชีพ (Lifetime) 
    • 150 GB. (3,300 บาท)
    • 1 TB. (7,800 บาท)
    • 5 TB. (20,400 บาท)
• สร้างโฟลเดอร์ที่ล็อกรหัสผ่าน
• ปลดล็อกคุณสมบัติส่วนใหญ่บนมือถือให้ใช้งานได้สะดวก
• และอื่น ๆ 

สมัครใช้งาน บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Icedrive ได้ที่นี่

• https://icedrive.net/

9. บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Sync

บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Sync เป็นบริการ Cloud Storage ที่เหมาะสำหรับองค์กรเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากมีจุดเด่นเรื่องความเป็นส่วนตัว ไม่ตรวจสอบไฟล์ของผู้ใช้ และมีนโยบายการควบคุมความเป็นส่วนตัวที่ชัดเจน ทำให้ได้รับการยอมรับในภาคธุรกิจ

โดยผู้ใช้ทั่วไปจะได้ความจุมาคนละ 5 GB. (รับเพิ่มได้ถ้าทำ achievements) นอกจากเก็บไฟล์แล้วก็สามารถแชร์ลิงก์แบบสาธารณะให้ผู้รับที่ไม่ได้ใช้ Sync ได้เหมือนกัน คุณสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงได้อย่างอิสระคล้าย ๆ กับ Google Drive นอกจากนี้หากข้อมูลของคุณที่เก็บอยู่ใน Sync สูญหายหรือถูกลบ ก็ยังมีระบบ History ให้คุณสามารถกู้คืนได้โดยมีระยะเวลา 30 วัน 

และจุดเด่นของ Sync อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือมันสามารถอัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ได้ไม่จำกัดขนาด และไม่จำกัดจำนวนครั้ง หากคุณมีการขยายพื้นที่ความจุเพิ่มคุณสามารถเก็บไฟล์หนังทั้งเรื่องได้เลยทีเดียว 

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ฟรี (Features for free users)

• พื้นที่ 5 GB. (เพิ่มได้ถ้าทำภารกิจ)
• เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
• กู้คืนไฟล์ได้ หากสูญหาย
• แชร์ลิงก์สาธารณะ

ฟีเจอร์อัปเกรดสำหรับผู้สมัครใช้บริการ (Upgraded features for paid users)

• เพิ่มความจุ
  • รายเดือน
    • 6 TB. (820 บาท / เดือน)
  • รายปี
    • 200 GB. (2,050 บาท / ปี)
    • 2ํ TB. (3,300 บาท / ปี)
    • 6 TB. (8,200 บาท / ปี)
• เพิ่มฟังก์ชันในการจัดการไฟล์
• สามารถดูพรีวิวเอกสารได้
• และอื่น ๆ 

สมัครใช้งาน บริการฝากไฟล์ออนไลน์ Sync ได้ที่นี่

• https://www.sync.com/

10. บริการฝากไฟล์ออนไลน์ pCloud

บริการฝากไฟล์ออนไลน์ pCloud  เป็นน้องใหม่อีกตัวที่มีบริการดี ๆ ไม่แพ้แบรนด์อื่น ทั้งการรักษาความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม การเคารพความเป็นส่วนตัว ระบบ Rewind ที่ช่วยกู้คือไฟล์โดยไม่ทำให้ไฟล์เสียหาย การจัดการไฟล์ที่เรียบง่ายเข้าถึงได้ด้วยอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์และมือถือ ที่สำคัญคือพลังความเร็วในการอัปโหลดไฟล์ หรือ ดาวน์โหลดไฟล์ค่อนข้างรวดเร็วเมื่อเทียบกับบริการอื่น

โดยฟีเจอร์เด่น ๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องการสร้างรหัสล็อกไฟล์ของคุณก่อนอัปโหลด ซึ่งวิธีนี้จะช่วยไม่ให้ใครเข้าถึงไฟล์ของคุณได้แม้จะเป็นพนักงานของ pCloud เว้นแต่จะมีรหัสของคุณ รวมถึงหากต้องการเพิ่มความจุ คุณสามารถซื้อความจุแบบชำระเงินครั้งเดียวได้เลย เหมือนกับของ Icedrive

ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ฟรี (Features for free users)

• พื้นที่ 10 GB. 
• ความปลอดภัยสูง การกู้คืนไฟล์ไม่ทำให้ไฟล์เสียหาย
• ซิงค์กับ PC ของคุณ
• เปิดพรีวิวดูรูปภาพ และ วิดีโอใน Cloud ได้

ฟีเจอร์อัปเกรดสำหรับผู้สมัครใช้บริการ (Upgraded features for paid users)

• เพิ่มความจุ
  • รายปี
    • 500 GB. (1,700 บาท / ปี)
    • 2 TB. (3,400 บาท / ปี)
  • ตลอดชีพ
    • 500 GB. (6,000 บาท)
    • 2 TB. (12,000 บาท)
• การเข้ารหัสไฟล์ หรือสร้างรหัสล็อกไฟล์
• การเข้ารหัสโฟลเดอร์เพื่อความปลอดภัย
• และอื่น ๆ 

สมัครใช้งาน บริการฝากไฟล์ออนไลน์ pCloud.com ได้ที่นี่

• https://my.pcloud.com/

เรียกว่า น่าใช้งานทุกอันเลย แม้บางเจ้าจะให้พื้นที่ความจุฟรีมาน้อย แถมยังออกแนวจำกัดฟีเจอร์เพื่อให้เราอัปเกรดและเสียเงิน แต่ไม่เป็นไร เพราะถ้าใครกำลังมองหาพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่สามารถใช้งานได้สะดวก 10 ตัวเลือกที่เราคัดสรรมาให้นี้ ถือว่าดีเป็นอันดับต้น ๆ และคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน