แม้ช่วงนี้กระแสมือถือรุ่นเรือธงกำลังมาแรง แต่อีกฝั่งของตลาดอย่างมือถือราคาประหยัดก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ด้วยราคาที่น่าดึงดูด ฟีเจอร์ที่พัฒนาขึ้นจากเดิม ลูกค้าก็มีตัวเลือกน่าสนใจเพิ่มขึ้น และมือถือที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้ ได้แก่ Redmi 9 และ Redmi 9A จากแบรนด์ Xiaomi โดยสองรุ่นนี้เป็นคู่หูคู่ซี้ราคาไม่เกิน 5,000 บาท แต่ได้ฟีเจอร์ที่ครอบคลุมการใช้งานทั่วไป แถมบางอย่างก็เทียบเท่ามือถือรุ่นใหญ่อีกต่างหาก แล้วทั้งสองรุ่นนี้จะมีจุดเด่นที่ตรงไหนกันบ้าง ใช้งานจริงโอเคหรือไม่ อ่านต่อกันได้เลย!
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
Redmi 9 | Redmi 9A | |
ขนาด | 163.32 x 77.01 x 9.1 มิลลิเมตร | 164.9 x 77.07 x 9 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 198 กรัม | 196 กรัม |
หน้าจอ | Dot Drop Display 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) | Dot Drop Display 6.53 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) |
ชิปเซ็ต | MediaTek Helio G80 Octa-core Mali-G52 MC2, 950 MHz | MediaTek Helio G25 Octa-core PowerVR8320, up to 650MHz |
หน่วยความจำ | 32GB/RAM 3GB 64GB/RAM 4GB รองรับ microSDHC สูงสุด 512GB | 32GB/RAM 2GB รองรับ microSDHC สูงสุด 512GB |
ระบบปฏิบัติการ | Android 10, MIUI 12 | Android 10, MIUI 12 |
กล้องหลัง | เลนส์ Wide 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra wide 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Macro 5 ล้านพิกเซล เลนส์ Depth 2 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 1080p 30fps | 13 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 1080p 60fps |
กล้องหน้า | 8 ล้านพิกเซล | 5 ล้านพิกเซล |
แบตเตอรี่ | 5,020mAh | 5,000mAh |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5.0, Wi-Fi 2.4 และ 5G Wi-Fi Direct, Wi-Fi Hotspot | Bluetooth 5.0, Wi-Fi 2.4 Wi-Fi Direct, Wi-Fi Hotspot |
เซ็นเซอร์ | สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง AI Face Unlock | AI Face Unlock |
ราคา | 3,899 บาท | 2,799 บาท |
สำหรับอุปกรณ์ในกล่องของ Redmi 9 และ Redmi 9A ส่วนใหญ่ก็จะมีคล้ายๆ กัน ทั้งตัวเครื่อง อแดปเตอร์และสายชาร์จ เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด คู่มือการใช้งาน แต่ในกล่องของ Redmi 9 มีเคสกันรอยแถมมาให้ด้วย และสายชาร์จในกล่องเป็น USB-C แต่ใน Redmi 9A เป็นสายชาร์จ microUSB แทน จึงต้องเลือกสายชาร์จให้ถูกในแต่ละรุ่นด้วยนะ
กล่องใส่อุปกรณ์ต่างๆ และเข็มจิ้มถาดซิมการ์ด | |
เคสใสแถมมาให้ในกล่อง | คู่มือการใช้งาน |
อแดปเตอร์ชาร์จ | สายชาร์จ USB Type-C |
อุปกรณ์ในกล่องของ Redmi 9
ตัวกล่อง Redmi 9A | เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด |
สายชาร์จ microUSB 2.0 | อแดปเตอร์ชาร์จไฟ |
คู่มือใช้งานและใบรับประกัน |
อุปกรณ์ในกล่องของ Redmi 9A
ทั้ง Redmi 9 และ Redmi 9A มีขนาดตัวเครื่องเหมาะมือ น้ำหนักกำลังพอดี ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้สามารถสังเกตความแตกต่างที่สีสันของตัวเครื่องและรูปแบบกล้องหลัง โดย Redmi ใช้สี Sunset Purple ไล่สีน้ำเงินเป็นสีม่วงจากบนลงล่าง และใช้กล้องหลังทั้งหมด 4 ตัวพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ส่วน Redmi มีเพียงกล้องหลังตัวเดียวบริเวณมุมซ้ายบนด้านหลัง และใช้สีฝาหลังเพียงสีเดียว ไม่มีการไล่เฉดแต่อย่างใด
ดีไซน์และหน้าจอ Dot Drop Display ของ Redmi 9 | |
กล้องหลัง 4 ตัว พร้อมแฟลช และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ | |
(จากซ้ายไปขวา) ช่องหูฟัง 3.5 มม., ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพง |
นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังใช้หน้าจอแสดงผลที่เรียกว่า Dot Drop Display มีเพียงติ่งหยดน้ำสำหรับกล้องหน้า ส่วนขนาดหน้าจอ 6.53 นิ้วที่ค่อนข้างใหญ่ ใช้งานได้เต็มจอ จะเปิดหนังดูหรือเล่นเกม ก็สามารถใช้งานพื้นที่หน้าจอได้อย่างเต็มที่เลย
Redmi 9 และ Redmi 9A ใช้หน้าจอหยดน้ำ Dot Drop Display ขนาด 6.53 นิ้วเท่ากัน ให้ความสว่างสูงสุด 400nits เท่ากัน แต่ Redmi 9 มีความละเอียดหน้าจอที่ 1080 x 2340 พิกเซล (FHD+) ซึ่งมากกว่าหน้าจอ Redmi 9A ที่ให้ความละเอียดเพียง 720 x 1600 พิกเซล (HD+) เท่านั้น แต่ในแง่ของการแสดงผลจริง ใช้งานจริง หน้าจอของมือถือ Redmi ทั้งสองรุ่นก็แสดงผลคมชัด สีสันสวยงาม
Redmi 9 และ Redmi 9A ใช้ Dot Drop Display ขนาด 6.53 นิ้ว ทั้งสองรุ่น | อินเตอร์เฟซ MIUI 11 |
อินเตอร์เฟซ MIUI 12 ใน Redmi 9A | มีความแตกต่างจาก MIUI 11 เล็กน้อย |
ในส่วนของพื้นที่เก็บข้อมูลและ RAM ของเครื่องก็มีความแตกต่างเช่นกัน โดยเครื่องทดสอบ Redmi 9 ให้พื้นที่มา 64GB RAM 4GB ส่วน Redmi 9A มีพื้นที่ 32GB แต่ RAM 2GB นั้นถือว่าน้อยไปหน่อยสำหรับมาตรฐานมือถือในยุคนี้ ส่วนระบบปฏิบัติการ แน่นอนว่าต้องเป็น Android 10 ที่ครอบทับด้วย MIUI12 จาก Xiaomi แต่ใน Redmi 9 เครื่องทดสอบยังใช้เป็น MIUI11 และยังไม่เปิดให้อัปเดตเวอร์ชันใหม่ ซึ่งทั้งสองแบบก็มีดีไซน์ของเมนูและไอคอนต่างๆ ที่สวยงาม
สเปก Redmi 9 | เครื่องทดสอบมีหน่วยความจำ 64GB |
ทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench 5 | รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง |
(สเปคและผลทดสอบของ Redmi 9)
Redmi 9A มีพื้นที่ 32GB/RAM 2GB | พื้นที่ 32GB อาจไม่มากนักในมือถือยุคนี้ |
ทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench 5 | รองรับ MIUI 12 เรียบร้อยแล้ว |
(สเปคและผลทดสอบของ Redmi 9A)
ส่วนเรื่องของความแรง ความลื่นไหล ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สมราคา แต่ก็ยังไม่พบอาการค้างหรือหน่วงเมื่อเปิดแอปพลิเคชันพร้อมๆ กัน สลับเมนูไปมาเท่าไหร่นัก ซึ่งในการทดสอบเล่นเกม ใช้เกมน่ารักๆ อย่าง KartRider Rush+ โดย Redmi 9 แสดงผลภาพได้เนียนตากว่า Redmi 9A ด้วยความละเอียดหน้าจอที่มากกว่า และการตอบสนองขณะเล่นเกม Redmi 9 ทำได้โอเคกว่า Remdi 9A ที่พบเห็นอาการภาพกระตุกหรือตอบสนองช้าเล็กน้อย
ความแตกต่างของ Redmi 9 และ Redmi 9A อย่างชัดเจนก็คือ Redmi 9 ใช้กล้องหลัง 4 ตัว ทั้งเลนส์ Wide 13 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล, เลนส์ Macro 5 ล้านพิกเซล และเลนส์ Depth 2 ล้านพิกเซล
รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p 30fps กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล แต่ใน Redmi 9A มีกล้องหลังเพียงตัวเดียว ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และรองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p 30fps เช่นกัน ถ้าใครอยากได้กล้องซูมได้พร้อมเลนส์มุมกว้าง ให้เลือก Redmi 9 โดยทันที
เลนส์มุมกว้าง 0.6x และซูมภาพได้ 2 เท่า | การตั้งค่าต่างๆ และ Google Lens ในตัว |
Portrait Mode ที่ปรับ Beauty และเพิ่ม Filters ได้ | Pro Mode ที่ปรับค่าได้ค่อนข้างละเอียด |
ตัวอย่างโหมดถ่ายภาพของ Redmi 9
กล้องของ Redmi 9A มีโหมดทั่วไปคล้ายกับ Redmi 9 | โหมดอื่นๆ จะมีให้เลือกน้อยกว่า Redmi 9 |
ส่วนเรื่องฟีเจอร์ในตัวกล้อง ทั้งสองรุ่นมีมาให้พอๆ กันเลย ทั้งโหมด Pro ปรับค่าได้หลากหลาย, โหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลังและเซลฟี่กล้องหน้า โดย Redmi 9 จะมีตัวเลือกให้ปรับใบหน้าเยอะกว่า Redmi 9A ซึ่งมีเพียงฟิลเตอร์สีให้เลือกเท่านั้น
(จากซ้ายไปขวา) ระยะซูม 0.6x > 1x > 2x
เรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย Redmi และ Redmi 9A ก็มีให้ครบครันเช่นกัน ซึ่งทั้งสองรุ่นรองรับ Face Unlock หรือการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า เพียงบันทึกข้อมูลใบหน้าลงเครื่องก็สามารถใช้งานได้เลย แต่ Redmi 9 ก็มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณใต้กล้องหลังมาด้วย อยู่ในตำแหน่งที่พอดีปลายนิ้ว แถมยังดีไซน์ให้เข้ากับเลนส์กล้องแบบเนียนๆ อีกต่างหาก
Redmi 9 รองรับการสแกนใบหน้า | และยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือ ผ่านเซนเซอร์ด้านหลัง ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสเลนส์กล้อง | แต่ใน Redmi 9A รองรับ |
เรื่องแบตเตอรี่นี่ถือว่าเป็นตัวชูโรงของทั้งสองรุ่น เพราะมาพร้อมความจุที่สูงและใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานจริงๆ โดย Redmi 9 มีความจุ 5,020mAh ส่วน Redmi 9A มีความจุน้อยลงมาหน่อย ที่ 5,000mAh แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่ามือถือทั่วไปอยู่ดี หากใครที่เน้นใช้งานโซเชียล แชทบ่อยๆ เล่นเกมเพลินๆ รับรองว่าอยู่ได้ถึงวัน หรือถ้าใครใช้สองรุ่นนี้เป็นมือถือสำรอง ไม่ค่อยได้หยิบออกมาเช็คอะไรมากนัก มีสิทธิ์อยู่ได้เกิน 1 วันโดยไม่ต้องชาร์จไฟเพิ่มเลยล่ะ
การแสดงผลแบตเตอรี่ของ Redmi 9
การแสดงผลแบตเตอรี่ของ Redmi 9A ซึ่งเพิ่มวิธีการยืดเวลาการใช้งานร่วมด้วย
Redmi 9 และ Redmi 9A สองมือถือจาก Xiaomi ที่เปิดตัวในระดับต้น แต่เรื่องสเปกโดยรวมก็ถือว่ามีครบครันตามมาตรฐานมือถือในปี 2020 ทั้งด้านการถ่ายภาพ เสียง แบตเตอรี่ แต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือราคาไม่แพง เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ ในกลุ่มมือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท สองรุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |