เปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว สำหรับโทรศัพท์ Samsung Galaxy Note20 Ultra สมาร์ทโฟนเรือธงที่ยังคงชูจุดเด่นด้วยปากกา S Pen คู่ใจ และเป็นอีกรุ่นที่แฟนๆ จับตามองว่าในการเปิดตัวแต่ละครั้งจะมีฟีเจอร์อะไรที่เพิ่มมาใหม่บ้าง โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นที่ดีไซน์ใหม่ สี Mystic Bronze สุดหรู แต่เรื่องการใช้งานล่ะจะเป็นยังไง อ่านต่อกันได้เลย!
ข้อดี
| ข้อสังเกต
|
Samsung Galaxy Note20 Ultra ยังคงใช้หน้าจอ Infinity-O Display แบบเดียวกับ Galaxy Note10+ จัดตำแหน่งให้กล้องหน้าอยู่ตรงกลาง ขอบจอทั้งด้านบน ด้านล่างมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ขนาดเครื่องยังคงใกล้เคียงกับ Galaxy Note10+ จับถือมือเดียวถนัดดี ตัวเครื่องใช้วัสดุผิวด้านแบบซาติน ไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย แต่ส่วนของกล้องหลังมีการเปลี่ยนดีไซน์ และนูนขึ้นจากตัวเครื่องอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ Galaxy Note เปลี่ยนตำแหน่งของช่องเก็บปากกา S Pen ไปอยู่มุมทางซ้ายแทน
แม้ตัวเครื่อง Galaxy Note20 Ultra จะมีขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกับ Galaxy Note10+ แต่หน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.9 นิ้ว เปลี่ยนมาใช้หน้าจอ Dynamic AMOLED ความละเอียด 1440 x 3088 พิกเซล และรองรับอัตรารีเฟรชเรต 120Hz แบบ Adaptive สามารถเลือกเปิด-ปิดได้ผ่านเมนู Motion Smoothness
Galaxy Note20 Ultra เวอร์ชันไทยยังคงใช้ชิปเซ็ต Exynos 990 ซึ่งแฟนๆ บางส่วนก็น่าจะผิดหวังไปตามๆ กัน ร่วมกับ RAM 8/12GB พื้นที่ตัวเครื่อง 256/512GB ที่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ และระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย One UI 2.5 ซึ่งเรื่องความแรง ความลื่นไหลนั้นไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับมือถือระดับนี้ แต่ปัญหาตัวเครื่องร้อนขณะใช้งานเครื่องทดสอบนั้นก็ยังมีบ้าง โดยผู้เขียนทดสอบด้วยการถ่ายรูปในช่วงแรกๆ ตั้งวันที่ได้รับเครื่องเป็นเวลาประมาณ 15 นาที ถึงสัมผัสได้ถึงความร้อนบริเวณขอบข้างเครื่อง) แต่หลังจากที่ใช้งานแบบต่อเนื่อง ก็พบปัญหาดังกล่าวน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ฟีเจอร์ของปากกา S Pen นั้นไม่เคยทำให้ผิดหวัง ยังคงจัดหนักจัดเต็มทั้งคำสั่งทางลัดผ่าน Air Command, การจดโน้ตฉุกเฉินเพียงดึงปากกา S Pen ออกมา เปลี่ยนสีลายเส้นได้ถึง 5 สี, ใช้ S Pen ทำหน้าที่รีโมตชัตเตอร์และสั่งงานต่างๆ แต่ฟีเจอร์ที่มีมาให้ใน Galaxy Note20 Ultra เป็นรุ่นแรกก็คือ
อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟน Galaxy Note ที่ได้อัปเดต One UI 2.5 ก็สามารถใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้เช่นกัน แต่จะไม่ครบทุกฟีเจอร์แบบใน Galaxy Note20 Ultra ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น เช่น Galaxy Note9 ของผู้เขียนสามารถใช้งาน Audio Bookmark ได้, Copy ลายมือ แปลงเป็นตัวอักษรได้เฉพาะภาษาอังกฤษ
Galaxy Note20 Ultra เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ 2 ของซัมซุงที่หันมาใช้เซนเซอร์ภาพความละเอียดสูง (มาก) ถึง 108 ล้านพิกเซล ร่วมกับเลนส์ Ultrawide 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Periscope Telephoto 12 ล้านพิกเซล, แฟลชและเซนเซอร์ Laser Autofocus ซูมภาพแบบ Optical ได้ถึง 5 เท่า และ Hybrid Zoom 50 เท่า แต่ในการใช้งานจริง การซูม Optical ก็ถือว่าเพียงพอแล้วกับการใช้งานจริง และไม่ทำให้ภาพสั่นไหว ภาพแตกหยาบกว่าปกติด้วย
0.6x | 1x | 2x |
4x | 5x | 10x |
ส่วนของการถ่ายวิดีโอ ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่พลิกภาพลักษณ์ใหม่แห่งการถ่ายวิดีโอบนมือถือเลยทีเดียว ด้วยกระแสการถ่ายทำ Vlog ได้รับความนิยมมากขึ้น กล้องที่เหมาะสมก็ต้องเป็นกล้องขนาดเล็กแต่ใช้งานได้หลากหลาย โดย Galaxy Note20 Ultra รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 8K หรือจะใช้แค่ความละเอียด 4K หรือ Full HD 1080p ก็เพียงพอแล้ว
ระยะซูมไกลสูงสุด AI ตรวจจับชนิดของวัตถุก็ยังทำงาน
ปรับความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซลได้ (เฉพาะอัตราส่วน 4:3)
ในส่วนของไมโครโฟนในตัว Galaxy Note20 Ultra สามารถเลือกอัดเสียงได้ทั้งแบบ Omni รอบทิศทาง, Rear เฉพาะไมค์ด้านกล้องหลัง, Front ไมค์ทางฝั่งกล้องหน้า หรือจะเชื่อมต่อเข้ากับหูฟังบลูทูธ หูฟังไร้สายที่มีไมค์ในตัว เพื่อให้วิดีโอมีเสียงที่ใกล้ตัวแบบและคมชัดมากขึ้น และยังใช้งานกับหูฟังไร้สายรุ่นใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้หูฟังจากซัมซุง
หลังจากที่ Samsung DeX ถือกำเนิดและใช้งานร่วมกับมือถือซัมซุง ทั้งผ่านอุปกรณ์เสริมและสายเชื่อมต่ออื่นๆ เพื่อทำให้มือถือซัมซุงใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้ แต่ Galaxy Note20 Ultra สามารถใช้งาน Samsung Wireless DeX แบบ Wi-Fi ร่วมกับ Smart TV แสดงผลมือถือบนหน้าจอแบบ Desktop พร้อมกับใช้มือถือหรือปากกา S Pen เพื่อทำหน้าที่แทนเมาส์ควบคุม หรือจะใช้สาย USB-C, สาย HDMI เชื่อมต่อเพื่อความเสถียรก็ได้
นอกจาก Samsung DeX แบบไร้สายแล้ว ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Link to Windows เพื่อทำให้ Galaxy Note20 Ultra และมือถือรุ่นอื่นๆ ที่รองรับใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้ เพียงเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านโปรแกรม Your Phone และ Bluetooth ซึ่งสิ่งที่สามารถใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้เลย ได้แก่ การโทรออกและรับสายพร้อมแสดงประวัติการโทร, แสดง Notofication แจ้งเตือนทั้งหมด, แสดงเมนู Message, Gallery รูปภาพ, และใช้งานแอปพลิเคชันที่มีบนมือถือ
นอกจากแบตเตอรี่แล้ว ยังสามารถเช็คพื้นที่ตัวเครื่อง RAM ได้ภายในหน้ามเมนูเดียว | อย่าลืมเปิดใช้งาน Wireless PowerCharge ด้วยนะ |
แบตเตอรี่ในตัว Galaxy Note20 Ultra มีความจุ 4,500mAh รองรับการชาร์จเร็ว 25W ซึ่งจากการทดสอบชาร์จ พบว่าให้ความเร็วที่น่าพอใจ ไม่ต้องรอนาน และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ Wireless PowerCharge ที่สามารถนำมือถือเครื่องอื่น หูฟังไร้สายและอุปกรณ์ที่รองรับมาวางบนฝาหลังเพื่อชาร์จไฟได้ ส่วนความเร็วขณะชาร์จนั้นขึ้นอยู่กับกำลังไฟใน Galaxy Note20 Ultra และอุปกรณ์นั้นๆ และอย่างลิมเปิดการใช้งานนี้ในเมนู Setting ก่อนด้วยนะ
สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ | รองรับการแสกนใบหน้า |
แม้นี่จะไม่ใช่ฟีเจอร์ที่ทางซัมซุงเน้นหนักแบบการใช้งานอื่นๆ แต่ใน Galaxy Note20 Ultra ก็ยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (เฉพาะจุดที่เซนเซอร์กำหนด) และสแกนใบหน้าตามมาตรฐานสมาร์ทโฟน ในส่วนของการสแกนลายนิ้วมือยังพบปัญหาสแกนไม่ติดอยู่บ้าง ส่วนการสแกนใบหน้าจะทำได้เฉพาะตอนที่หน้าจอเปิดอยู่เท่านั้น
Samsung Galaxy Note20 Ultra เป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องทั้งเรื่องของความหรูหรา ฟีเจอร์ระดับสูง ประสิทธิภาพที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน กล้องถ่ายภาพชุดใหม่ ให้ภาพที่คมชัดสวยงาน รวมถึงเสริมฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอที่เอาใจสาย Vlog ถ่ายสะดวกแบบไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพเสียง ส่วนเรื่องราคาค่าตัวก็ถือว่าเปิดตัวมาค่อนข้างสูง แต่เชื่อว่ามีโปรโมชั่นล่อตา ล่อใจชวนให้กดซื้อง่ายๆ แน่นอน
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |