ในยุคที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เชื่อว่าเมื่อเกิดข้อสงสัยบางอย่างหรือมีเรื่องที่ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วนั้น หลาย ๆ คนก็น่าจะเลือกใช้งานบริการ เครื่องมือค้นหา หรือ เสิร์ชเอนจิน (Search Engine) มาเป็นตัวช่วยในการไขข้อข้องใจ เพราะนอกจากจะสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วแล้ว มันยังมีตัวกรองที่ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการตามหาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
ซึ่งเมื่อพูดถึง Search Engine แล้ว เว็บไซต์แรกที่แทบทุกคนนึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้น Google อย่างแน่นอน และเมื่อดูจากสัดส่วนของส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ทั่วโลกจากทาง Statcounter แล้วก็พบว่า แม้ Google จะได้ส่วนแบ่งเค้กก้อนใหญ่ที่สุดไปแต่ก็ยังมี Search Engine เจ้าอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้บางกลุ่มอยู่ด้วย ดังนั้นเราจึงจะมาพูดถึง Search Engine ยอดนิยม 6 (+1) อันดับที่ผู้ใช้ทั่วโลกนิยมใช้งานกัน ดังนี้
Source: StatCounter Global Stats - Search Engine Market Share - ข้อมูลอัปเดตล่าสุดเดือนพฤษภาคมปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
แน่นอนว่า Search Engine ที่ครองอันดับหนึ่งในใจของผู้ใช้ทั่วโลกนั้นก็ได้แก่ เครื่องมือค้นหา Google นั่นเอง โดยมันกวาดคะแนนความนิยมทั่วโลกไปได้ถึง 92.2% เลยทีเดียว เพราะด้วยชื่อเสียงที่ครองตลาดมาอย่างยาวนานกับหน้าตาเว็บไซต์ที่เรียบง่ายและการค้นหาเว็บไซต์ทำได้อย่างรวดเร็วแล้ว Google ก็ยังมีตัวเลือกในการค้นหาให้ใช้งานทั้งการค้นหาเว็บไซต์, รูปภาพ, วิดีโอ, ข่าวสาร, สินค้า, แผนที่, หนังสือ, เที่ยวบิน และการเงิน รวมทั้งยังสามารถตั้งค่าการกรองผลการค้นหาได้ตามความต้องการก็ทำให้ถูกใจผู้ใช้ทั่วโลกอย่างมากทีเดียว
ไม่เพียงเท่านั้น Google ยังมีบริการเสริมอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อเข้ากับ Google Account เพื่อใช้งานได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Google Drive, Google Docs, Google Calendar, Google Translate, Google Meet, Google Photos และบริการด้านอื่น ๆ จาก Google ให้เลือกใช้อีกมาก
นอกจากนี้ เมื่อดูจาก สัดส่วนการใช้งาน Browser ต่าง ๆ ที่ Chrome กวาดไปได้ถึง 65.18% แล้วก็ไม่น่าแปลกใจที่คะแนนความนิยมของ Search Engine อย่าง Google จะสูงตามไปด้วย (แถมผู้ใช้งาน Browser อื่น ๆ ก็มักจะเลือกปรับ Search Engine ของ Google ให้เป็นค่าตั้งต้นในการใช้งานตามความเคยชินส่วนตัวอีกต่างหาก)
ในส่วนของ เครื่องมือค้นหา Bing บริการจาก Microsoft ที่ได้มีการพัฒนาและปรับรูปแบบใหม่ขึ้นเพื่อหวังแย่งส่วนแบ่งตลาดมาจาก Google นั้นก็ได้รับความนิยมในการใช้งานเป็นอันดับ 2 ที่ 2.27% ทั่วโลก (เทียบสัดส่วนความต่างแล้วก็ห่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ก็ยังเยอะกว่าเจ้าอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้อยู่ดี) โดยการค้นหาผ่าน Bing นี้ก็เป็นเว็บไซต์ Search Engine ตั้งต้นของ Edge โดยตรง ทำให้ได้ผลประโยชน์จากการค้นหาผ่าน Quick Search ของผู้ใช้ที่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าไปได้จำนวนหนึ่ง
โดยหน้าเมนูการค้นหาของ Bing นี้จะแบ่งประเภทย่อยออกเป็น 4 แท็บ ได้แก่ การค้นหาเว็บไซต์, รูปภาพ, วิดีโอ และข่าว (ส่วนการค้นหาสถานที่หรือแผนที่จะต้องค้นหาในหน้าแรกของเว็บเพจแล้วเลือกที่ Maps) และมีตัวเลือกให้สามารถตั้งค่าความปลอดภัยในการค้นหาได้อีกด้วย
จุดน่าสนใจของ Bing คือมันสามารถเข้าถึงบริการ Microsoft อย่าง MSN หรือ Microsoft Office ผ่านหน้าแรกของ Bing ได้อย่างสะดวก และสามารถเลือกอ่านข่าวจากสำนักข่าวชื่อดังที่กำลังได้รับความสนใจในขณะนี้ได้จากหน้าแรกของเว็บไซต์
เครื่องมือค้นหา Yahoo! อีกหนึ่ง Search Engine สุดคลาสสิกก่อนที่ Google จะเข้ามาทำลายสถิติจนยับเยินก็ได้รับความนิยมในการใช้งานมาเป็นอันดับ 3 ที่ 1.5% ทั่วโลก ไม่เพียงเท่านั้น นอกเหนือไปจากบริการ Yahoo! Search ที่ถูก Google ดึงความนิยมไปแล้ว ผู้ใช้ Yahoo! Mail ก็หันไปใช้ Gmail อีกต่างหาก ส่วนฟอรัมถาม - ตอบอย่าง Yahoo! Answers ก็ถูก Quora แย่งความสนใจไป และ Flickr ที่เป็นบริการลงรูปยอดนิยมอยู่ช่วงหนึ่งก็พ่ายแพ้ต่อ Instagram ไปเสียแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น ในปัจจุบันนี้บริการ Yahoo! Search ก็ถูกดูแลโดย Bing แล้วเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นผลการค้นหาจาก Bing และ Yahoo! จึงไม่ต่างกันมากนัก แต่หน้าแท็บการค้นหาบน Yahoo! นั้นจะมีลูกเล่นมากกว่า Bing คือ นอกจากจะสามารถค้นหาเว็บไซต์, วิดีโอ, รูปภาพ และข่าวได้แล้ว ยังสามารถหาสินค้าและสถานที่ได้ในหน้า Search ทั้งยังกรองผลการค้นหาตามเวลาได้อีกด้วย
ส่วนหน้าแรกของเว็บไซต์ก็มีบริการต่าง ๆ ให้เลือกใช้งานอย่างครอบคลุม ทั้งบริการอีเมลและข่าวสารในประเด็นที่น่าสนใจต่าง ๆ ทั้งยังมีการรายงานเทรนด์ความสนใจในขณะนี้, สภาพอากาศ, ตารางคะแนนบาสเกตบอล และดวงรายวันอีกต่างหาก
ไม่น่าแปลกใจนักที่บริการ เครื่องมือค้นหา Baidu มาแรงเป็นอันดับ 4 ที่สัดส่วนการใช้งานถึง 1.45% ทั่วโลก เพราะในประเทศจีนที่ปิดกั้นการเข้าถึงและใช้งานเว็บไซต์หลักอย่าง Google แล้วก็ทำให้ชาวจีนต้องใช้งาน Search Engine ที่เปิดให้บริการสำหรับในประเทศจีนโดยเฉพาะแบบ Baidu อย่างช่วยไม่ได้
และแน่นอนว่า Baidu ก็พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ชาวจีน จึงทำให้หน้าการใช้งานต่าง ๆ และผลการค้นหาส่วนมากมีการแสดงผลเป็นภาษาจีน แต่มันก็ถือว่าเป็น Search Engine ที่มีเมนูให้ใช้งานหลากหลายไม่แพ้ Google เลยทีเดียว เพราะผู้ใช้สามารถเลือกค้นหาได้ทั้งเว็บไซต์, ข่าว, วิดีโอ, รูปภาพ, ฟอรัมคำถาม, ไฟล์เอกสาร, โพสต์, แผนที่, สินค้า และตัวเลือกการค้นหาอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่เนื่องจากเป็นบริการจากประเทศจีนมันจึงมีการคัดกรองข้อมูลจากรัฐบาลว่าข้อมูลที่ผ่านการค้นหาใน Baidu นี้จะปลอดภัยต่อสายตาชาวจีน ดังนั้นผลการค้นหาส่วนมากจึงเป็นภาษาจีนหรือเป็นเว็บไซต์ที่ไม่ได้ถูกแบนจากรัฐบาลจีน ซึ่งเมื่อลองค้นหาข้อมูลบางอย่างดูแล้วก็พบว่ามีการบิดเบือนจากความเป็นจริงและมีผลการค้นหาที่ถูกปิดกั้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว (เช่น ลองค้นหาเกี่ยวกับจัตุรัสเทียนอันเหมินก็มีแต่แนะนำสถานที่เที่ยว ต่างจากการค้นหาผ่าน Search Engine อื่น ๆ ที่จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการฆาตกรรมหมู่เมื่อปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ให้ศึกษาเพิ่มเติม)
ในส่วนของ เครื่องมือค้นหา Yandex ที่เป็น Search Engine สัญชาติรัสเซียก็ได้คะแนนความนิยมในอันดับ 5 ที่สัดส่วนการใช้งานราว 0.68% ทั่วโลก แต่ว่านอกจากมันจะได้รับความนิยมสูงในประเทศแม่อย่างรัสเซียแล้ว ในบางพื้นที่ของยุโรปเองก็นิยมใช้งาน Search Engine เจ้านี้ด้วยเช่นกัน
และสิ่งที่ทำให้หลายคนตัดสินใจใช้งาน Yandex นั้นก็น่าจะเป็นเพราะตัวเลือกแท็บการค้นหาและใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาเว็บไซต์, รูปภาพ, วิดีโอ, สถานที่ (แผนที่) รวมทั้งยังสามารถตั้งค่าการกรองผลการค้นหาตามเวลา, ประเทศ และภาษาได้ หรือหากไม่ถูกใจผลการค้นหาในหน้าเว็บไซต์ของ Yandex ก็ยังสามารถกด Shortcuts ด้านล่างเพื่อทำการค้นหาผ่าน Bing และ Google หรือตั้งกระทู้สอบถามผ่านบริการ Yandex Q ได้อีกต่างหาก
นอกจากนี้ Yandex ยังมีบริการอื่น ๆ เช่น Yandex Mail, Yandex Translate, AppMetrica (แอปพลิเคชันช่วยทำ Marketing ของ Yandex), Yandex Browser และ Yandex Disk (บริการเก็บข้อมูลคล้าย Google Drive) ไว้อำนวยความสะดวกผู้ใช้อีกด้วย
สำหรับ เครื่องมือค้นหา DuckDuckGo ที่คว้าอันดับ 6 ของ Search Engine ยอดนิยมไปนั้นก็มีสัดส่วนการใช้งานอยู่ที่ 0.59% ทั่วโลก โดยหน้าการค้นหาของ DuckDuckGo จะมีทั้งหมด 5 แท็บ ได้แก่ เว็บไซต์, รูปภาพ, วิดีโอ, ข่าวสาร และแผนที่ และผู้ใช้สามารถเลือกตั้งค่ากรองผลการค้นหาตามเวลา, พื้นที่ (ประเทศ / ภาษา) และความปลอดภัยของเนื้อหาตามที่ต้องการได้
ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้ DuckDuckGo เป็น Search Engine ที่น่าสนใจคือ มันเป็นเว็บไซต์ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้และไม่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้เพื่อยิงโฆษณาเหมือนกับ Search Engine เจ้าอื่น ๆ นั่นเอง และอีกจุดที่น่าสนใจก็ได้แก่ !Bang Shortcuts หรือการค้นหาข้อมูลที่ต้องการผ่านเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง (เช่น ค้นหาเฉพาะข้อมูลใน Amazon, Twitter, Reddit, Netflix หรือเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ต้องการ) ก็สามารถพิมพ์ "เครื่องหมายตกใจ (!)" ตามด้วย "ชื่อเว็บไซต์" เพื่อทำการค้นหาได้เลย
แม้ว่า DuckDuckGo จะไม่ได้มีบริการเสริมให้ใช้งานเหมือนกับ Search Engine เจ้าอื่น แต่การแลกมาด้วยความปลอดภัยของข้อมูลและการที่ไม่มีโฆษณากวนใจ (ในหน้าการค้นหา) ก็ช่วยให้ผู้ใช้หลายคนชื่นชอบอยู่ไม่น้อย
จากที่กล่าวมาทั้งหมด 6 อันดับก็รวมเปอร์เซ็นต์การใช้งาน Search Engine ทั่วโลกไปได้ที่ราว 98.69% ทั่วโลกแล้ว ส่วนอีก 1.31% ที่เหลือนั้นก็แบ่งให้ Search Engine รายย่อยเจ้าอื่น ๆ ไปอย่างละนิดอย่างละหน่อย แต่อีกบริการ Search Engine ที่คิดว่าดูน่าสนใจนั้นก็ได้แก่ เครื่องมือค้นหา Ecosia นั่นเอง
เพราะ Ecosia เป็นบริการ Search Engine ที่เคลมว่า “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” มากที่สุด โดยทางบริษัทระบุว่าจะแบ่งรายได้ราว 80% ของบริษัทไปบริจาคให้กับโครงการเพื่อการปลูกต้นไม้ทั่วโลก โดยทุก ๆ การกดค้นหาจะคิดเป็นเงินราว 0.5 Cent (หรือเกือบ 0.008 บาท) และเมื่อกดค้นหาครบ 45 ครั้งทาง Ecosia ก็จะทำการปลูกต้นไม้เพิ่มอีก 1 ต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วโลกให้มากขึ้น ทั้งยังมีรายงานการบริจาคเงินให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความโปร่งใสได้อีกด้วย
ผลการค้นหาของ Ecosia นั้นจะใช้ระบบของ Bing ร่วมกับอัลกอริทึมของ Ecosia ในส่วนของหน้าการใช้งานเว็บไซต์ก็จะแบ่งแท็บการค้นหาออกเป็น 5 แท็บ ได้แก่ เว็บไซต์, รูปภาพ, ข่าวสาร และวิดีโอ ส่วนการค้นหาเส้นทางบนแผนที่จะสามารถเลือกได้ว่าต้องการใช้บริการของ Bing Maps หรือ Google Maps อีกทั้งยังมีตัวเลือก Shortcuts การค้นหาผ่านเว็บไซต์อื่น ๆ ทั้ง Wikipedia, Amazon, YouTube, Bing, Google ให้เลือกใช้งานอีกด้วย ส่วน Ecosia Travel นั้นเป็นบริการค้นหาห้องพักโรงแรมต่าง ๆ ของ Ecosia โดยเฉพาะ
ไม่เพียงเท่านั้น Ecosia ยังเป็น Search Engine ที่ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้คล้ายกับ DuckDuckGo คือ มันจะไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้เพื่อยิงโฆษณาใส่แต่อย่างใด เรียกได้ว่านอกจากเป็น Search Engine ที่รักสิ่งแวดล้อมแล้วยังปลอดภัยในการใช้งานอีกต่างหาก
ในส่วนของประเทศไทยนั้น ถึงแม้ว่าทาง Statcounter จะจัดอันดับไว้ถึง 6 อันดับด้วยกัน แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วคนไทยก็ใช้งาน Search Engine เพียงแค่ 4 เจ้าเท่านั้น ทำให้ชาร์ตค่อนข้างดูเงียบเหงา แต่แน่นอนว่า Search Engine อันดับหนึ่งก็ตกเป็นของ Google ที่ความนิยมสูงถึง 99.35% ส่วนอันดับถัดมาเป็น Yahoo! ที่ 0.34% ตามมาด้วย Bing ที่ 0.27% และสุดท้ายเป็น DuckDuckGo ที่ 0.03%
Source: StatCounter Global Stats - Search Engine Market Share - ข้อมูลอัปเดตล่าสุดเดือนพฤษภาคมปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
จากอันดับการใช้งานนี้ก็คาดว่าเหตุผลที่ความนิยมของ Yahoo! นำหน้า bing ไปเล็กน้อยน่าจะเป็นเพราะยังมีคนกลุ่มที่ยังเคยชินกันการใช้งานเว็บไซต์ดั้งเดิมกันอยู่บางส่วน (เหมือนที่บางคนยังใช้ IE อยู่) ส่วน DuckDuckGo ที่ตามมาเป็นลำดับสุดท้ายน่าจะมาจากกลุ่มผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม บริการ Search Engine ก็ไม่ได้มีเฉพาะแค่ 7 เว็บไซต์ที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น เพราะยังมีเว็บไซต์รายย่อยเจ้าอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้รับความนิยมมากมายนัก ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ก็มีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป และการจะเลือกใช้งาน Search Engine ของผู้ใช้นั้นก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้งานและความเคยชินของแต่ละคน แต่ถ้าใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศการใช้งาน Search Engine เจ้าประจำของตัวเองแล้วก็คาดว่ารายชื่อของ Search Engine ที่ยกมานี้ก็น่าจะช่วยเพิ่มตัวเลือกในการใช้งานให้กับผู้ใช้หลาย ๆ คนได้บ้าง
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |