โปรแกรมออกแบบ 3 มิติ เป็นโปรแกรมที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของอาชีพที่เกี่ยวกับการออกแบบสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากการเขียนแบบในปัจจุบันที่ได้สร้างบนคอมพิวเตอร์นั้น สามารถทำให้เห็นภาพได้มากกว่าการวาดแบบแปลนบนกระดาษ ที่จะมองเห็นได้ในทุกรายละเอียด ทุกมุมมองและใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด ซึ่งโปรแกรมประเภทนี้จะมีความซับซ้อน เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครอบคลุม ทำให้โปรแกรมเขียนแบบที่เรียกว่า 3D CAD อย่างเช่น AutoCAD เป็นโปรแกรมที่มีราคาแพงมาก
แต่สำหรับบทความนี้ เราจะมาพูดถึงโปรแกรมทางเลือกอย่าง Ashampoo 3D CAD Professional ที่นอกจากจะมีฟีเจอร์การทำงานเป็นมาตรฐานของโปรแกรมเขียนแบบ มีความใกล้เคียงกับ AutoCAD แล้ว ยังมีราคาที่ถูกกว่าถึงเกือบ 5 เท่าอีกด้วย ซึ่งตัวโปรแกรมหน้าตาเป็นอย่างไร ทำอะไรได้บางนั้น เตรียมไปชมรีวิวกันได้เลย
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Ashampoo 3D CAD Professional
ความต้องการของระบบ
ดาวน์โหลดโปรแกรม Ashampoo 3D CAD Professional
สำหรับโปรแกรม Ashampoo 3D CAD Professional เป็นโปรแกรมในรูปแบบ Shareware ที่สามารถดาวน์โหลดไปทดลองใช้ได้เป็นเวลา 30 วัน สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมผ่านทางเว็บไซต์ไทยแวร์ได้ที่ ดาวน์โหลด Ashampo 3D CAD Professional แล้วทำการติดตั้งตามขั้นตอนได้เลย
การใช้งานโปรแกรม Ashampoo 3D CAD Professional เบื้องต้น
โปรแกรม Ashampoo 3D CAD Professional เป็นโปรแกรมที่มีเครื่องมือต่างๆ ในการออกแบบสิ่งปลูกสร้างอย่างครบเครื่อง แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Wizard สำเร็จรูป ที่สามารถให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเบื้องต้นต่างๆ ลงไปตามขั้นตอน ก็จะสามารถเริ่มต้นการออกแบบได้อย่างง่ายๆ แล้ว และขั้นตอนการใช้งาน Wizard มีดังนี้
ในส่วนของ Toolbars ด้านบนให้เลือกแทป Building จากนั้นเลือก 'Start wizard'
จะมีหน้าต่าง Start wizard ของโปรแกรมปรากฏขึ้นมา ในหน้าต่างนี้ เราสามารถเลือกชม Training videos ไว้ฝึกฝน หรือเลือกแบบบ้านสำเร็จรูปจากด้านล่างได้ แต่สำหรับขั้นตอนนี้ให้เลือก 'Building wizard' เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนแรก โปรแกรมจะให้เราใส่ข้อมูลของโปรเจคลงไปทั้งข้อมูลของเจ้าของโปรเจค ข้อมูลโปรเจคและข้อมูลของผู้วางแผนงาน ซึ่งจะไม่ใส่ก็ได้เช่นกัน เมื่อใส่ข้อมูลเสร็จแล้ว ให้กดที่ 'Next'
ขั้นตอนที่ 2 โปรแกรมจะให้เรากำหนดหน่วย (Units) ของโปรเจค เส้นตาราง (Grid) อัตราส่วน (Scale) และลักษณะของตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นทรงสี่เหลืยม, L-shape, U-shape, Front section หรือรูปแบบอิสระ เมื่อเลือกได้แล้ว ให้กด 'Next'
ต่อมาเราสามารถกำหนดจำนวนชั้นของบ้าน รวมทั้งความสูงได้ด้วยปุ่ม New floor หรือจะทำการลบชั้นที่ไม่ต้องการด้วยปุ่ม Delete floor ได้ จากนั้นกดปุ่ม 'Next'
ขั้นตอนสุดท้ายของการตั้งค่าเป็นในส่วนของหลังคาบ้าน ผู้ใช้งานสามารถเลือกรูปแบบและขนาดของหลังคาได้ จากนั้นกดปุ่ม 'Finish'
จากนั้นโปรแกรมจะสร้างหน้าต่างโปรเจคทั้ง 2D และ 3D View ให้ ผู้ใช้งานต้องทำการเลือกตำแหน่งของบ้านภายในพื้นที่ที่กำหนดให้
เมื่อกำหนดแล้วโมเดลบ้านก็จะปรากฏบนพื้นที่ดังกล่าว พร้อมให้ใช้งานกันแล้ว
หลังจากนั้น เราก็สามารถตกแต่งโมเดลบ้านของเราด้วยเครื่องมือต่างๆ ในส่วนของ Building ไม่ว่าจะเป็นกำแพง หน้าต่าง ประตู เสาบ้าน ไฟรูปแบบต่างๆ และอีกมากมายได้
วิธีการควบคุมมุมมองต่างๆ สำหรับโปรแกรม
ในหน้าต่าง 3D View
ในหน้าต่าง 2D View
รูปแบบไฟล์ที่รองรับ (Import files)
นอกจากไฟล์หลักของตัวโปรแกรมแล้ว ผู้ใช้งานสามารถทำการ Import ไฟล์ 2D ที่เป็นนามสกุล .DXF, .DWG จากโปรแกรม CAD อื่นๆ มาร่วมใช้งานได้อีกด้วย โดยการเลือกที่ Import > 2D-DXF/DWG-files...
เลือกหาไฟล์สกุลดังกล่าว จากนั้นกดปุ่ม 'ok'
หากต้นฉบับไฟล์ก่อนหน้าทำการแยก Layer เอาไว้ ผู้ใช้งานสามารถเลือกไฟล์เฉพาะ Layer ที่ต้องการเพื่อมาใช้งานได้ จากนั้นกด 'ok'
ปรับองศาและตำแหน่งของไฟล์ที่ Import เข้ามา ใส่ในโปรเจคที่ต้องการก็เป็นอันเรียบร้อย
รูปแบบการ Export files ที่น่าสนใจ
นอกจากการ Export ไฟล์สำหรับใช้งาน ให้เป็นรูปแบบ 2D (.DXF, .DWG) หรือ 3D ในรูปแบบต่างๆ แล้ว โปรแกรม Ashampoo 3D CAD Professional นี้ยังสามารถ Export ไฟล์เป็นนามสกุล .C4D หรือ Cinema 4D Scene เพื่อนำไปใช้งานร่วมกับโปรแกรม 3D Animation อย่าง Cinema 4D ได้อีกด้วย
เปรียบเทียบกับโปรแกรม AutoCAD
เมื่อนำโปรแกรม Ashampoo 3D CAD Professional มาเปรียบเทียบกับโปรแกรมยอดนิยมจากอีกค่ายอย่าง AutoCAD จะเห็นได้ว่า สิ่งแรกที่แตกต่างกันก็คือ โปรแกรมจากทาง Ashampoo นั้นมีราคาถูกกว่าทาง Autodesk ถึงเกือบ 5 เท่า ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายๆ ฟีเจอร์ที่ทาง Ashampoo อาจจะด้อยกว่า AutoCAD เล็กน้อยนั่นเอง
อย่างแรกก็คือ Ashampoo 3D CAD Professional รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows เท่านั้น ในขณะที่ทาง AutoCAD นั้นรองรับระบบปฏิบัติการ Mac OS X อีกด้วย
ต่อมาคือความยืดหยุ่นของโปรแกรมที่ AutoCAD รองรับไฟล์สกุลต่างๆ ได้มากกว่าทั้ง .DWF หรือ .PDF ที่ใช้ในการเปิดดูไฟล์นอกโปรแกรมได้ หรือจะเป็นฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกมากมายที่ใส่เข้ามาในโปรแกรม ซึ่งจริงๆ แล้ว ถึงเครื่องมือของ Ashampoo จะมีน้อยกว่า แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานและคุ้มค่าในราคาที่ถูกกว่า
สรุปโปรแกรม Ashampoo 3D CAD Professional
ข้อดี
ข้อสังเกต
ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับการใช้งานโปรแกรม CAD สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อโปรแกรมลิขสิทธิ์มาใช้งาน เพราะ Ashampoo 3D CAD Professional ก็ถือว่าเป็นโปรแกรม CAD ที่มีเครื่องมือในการใช้งานครบครันแล้ว หากยังไม่แน่ใจ เพื่อนๆ สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมมาลองใช้งานก่อนได้เป็นเวลา 30 วัน เพื่อความแน่ใจในการใช้งานได้เลย
|
... |