บทความนี้ มีสมาร์ทโฟนแบรนด์ Aston รุ่น Luxury S มาให้ชมกัน เห็นชื่อ Luxury แต่ราคาเพียงแค่ 3,990 บาทเท่านั้น โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ บอกเลยว่า เหมาะกับสาวๆ ที่ต้องการพกมือถือหน้าตาดี หรูหรา และราคาประหยัด เพราะว่าในรุ่นนี้มีจุดขายก็คือ "เซลฟี่ตัวแม่" ด้วยกล้องหน้าที่มีโหมดบิวตี้และความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซล ลองมาดูกันดีกว่าว่า มือถือเครื่องนี้ จะหน้าตาเป็นยังไง แล้วจะน่าใช้ขนาดไหน ลองมาชมกัน
Aston Luxury S ถูกบรรจุอยู่ในกล่องกระดาษลายไม้สีเข้ม มีชื่อยี่ห้ออยู่ด้านบน พร้อมสลักคำว่า Luxury สีทอง โดดเด่นอยู่ด้านซ้ายล่างของกล่อง
หน้าตาของสมาร์ทโฟน Aston Luxury S จะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ที่มีมุมค่อนข้างชัดเจน มุมมนค่อนข้างแคบ ด้านหน้าไม่มีปุ่ม Soft key ใดๆ ซึ่งปุ่ม Home, Back, Recent จะซ่อนอยู่ใน OS ของหน้าจอมือถือ ตัวกระจกหน้าจอเป็นแบบ 2.5D ให้ภาพที่ดูลึก มีมิติ กล้องหน้าอยู่ด้านขวาบนของมือถือ มีความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล
ด้านหลังเป็นวัสดุผิวเมทัลลิคสีทองดูหรูหรา ขอบโค้งมนเข้ากับรูปมือ ถือมือเดียวเซลฟี่ได้สะดวก มีกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช และปุ่มสแกนลายนิ้วมือ
ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่ม Power และปุ่ม Volume +/- ให้ใช้งาน สามารถใช้การแคปหน้าจอด้วยการกดปุ่ม Power กับ Volume - พร้อมกันได้
ด้านบนมีช่องสำหรับใช้งานหูฟังขนาด 3.5mm และช่องเชื่อมต่อสาย MicroUSB ซึ่งค่อนข้างแปลกตา กับการชาร์จแบตที่ด้านบนของตัวสมาร์ทโฟน แต่ก็เหมาะกับเทรนด์การไลฟ์สดในตอนนี้ ที่สามารถวางมือถือตั้ง ไลฟ์สดไปด้วย ชาร์จแบตไปด้วยโดยไม่ติดสายชาร์จได้
ด้านล่างเป็นช่องไมค์อยู่ทางด้านขวาของตัวมือถือ และลำโพงอยู่ตรงกลางของตัวเครื่อง
ส่วนด้านซ้ายเป็นช่องสำหรับใส่ SIM และการ์ด MicroSD ที่รองรับความจุได้สูงสุด 256GB ต้องใช้เข็มจิ้มถาดซิมในการเปิดออกมา ขนาดของ SIM เป็นไซส์ nano SIM และต้องเลือกว่าจะใช้งาน 2 SIMs หรือ 1 SIM / 1 MicroSD
อุปกรณ์หลักในกล่องประกอบไปด้วย สายชาร์จ Micro USB, อะแดปเตอร์ 5V และหูฟัง Hand-free แบบ In-ear
ส่วนอุปกรณ์เสริม ประกอบไปด้วย คู่มือภาษาอังกฤษ, ใบประกัน, เบอร์โทรสำหรับบริการหลังการขาย เคสแบบฝาพับ ฟิล์มกันรอยทั้งแบบแผ่นฟิล์มและแบบกระจก พร้อมกระดาษและน้ำยาทำความสะอาดหน้าจอก่อนการติดฟิล์ม
ระบบปฏิบัติการของ Aston Luxury S เป็น Android 6.0 แต่จะครอบด้วย UI สไตล์ Luxury ที่ไอคอนต่างๆ เป็นสีทอง/เทา ดูหรูหราตามชื่อของรุ่นมือถือ รวมทั้งไอคอนบางแอปฯ ที่โหลดมาใหม่จาก Play Store อย่าง Facebook หรือ YouTube ก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีทองเช่นกัน
เปิดดูใน Setting มีเมนูหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือเทอร์โบดาวน์โหลด ที่เปิดทั้ง Wi-Fi และ 3G/4G พร้อมกัน เพื่อให้มีความเร็วในการดาวน์โหลดมากขึ้น
เป็นอีกหนึ่งเมนูที่สะดุดตา เมื่อกำลังสำรวจในหน้า Setting ซึ่งเมื่อลองเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษดูก็พบว่า มันก็คือเมนู LED Light สำหรับตั้งค่าไฟ LED ในการแจ้งเตือนนี่เอง ไม่มีอะไรแปลกใหม่
Aston Luxury S มีระบบสแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหลังตัวเครื่อง
สำหรับระบบสแกนลายนิ้วมือของ Aston Luxury S นี้ นอกจากการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกแล้ว ยังใช้สำหรับถ่ายรูป, รับสาย, เล่น/หยุดเครื่องเล่นเพลง/วิดีโอได้ รวมทั้งสามารถอนุญาตในการเข้าถึงแอปฯ ต่างๆ หรือชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนได้
โดยสามารถบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือด้วยกัน แต่ตำแหน่งของจุดสแกนลายนิ้วมือแบบนี้ นิ้วชี้คงเป็นนิ้วที่น่าจะถนัดในการใช้งานที่สุด ส่วนลายนิ้วมืออื่นๆ ที่เหลือ ก็อาจจะเป็นนิ้วแฟน กิ๊กหมายเลข 1,2,3 ก็จะครบ 5 พอดีเนอะ แต่ต้องเลือกดีๆ นะ เพราะจากข้างต้น ผู้ที่มีลายนิ้วมือ มีสิทธิ์ที่จะชำระเงินออนไลน์ผ่านมือถือเครื่องนี้ได้
เคสฝาพับที่สมาร์ทโฟน Aston Luxury S แถมมาให้ มีฟังก์ชั่นพิเศษในการใช้งานร่วมกับมือถือด้วย โดยเมื่อปิดฝาพับ ผู้ใช้งานจะสามารถใช้ทางลัดในการเข้าถึงเมนูต่างๆ ได้ 5 เมนู ดังนี้
หน้าเมนูต่างๆ ของกล้องหลัง |
ถึงจะบอกว่า เป็นกล้องที่มีจุดขายเรื่อง เซลฟี่ตัวแม่ แต่ที่เด่นจริงๆ ของกล้องหน้า ก็มีแค่โหมดหน้าสวย ที่ไม่สามารถปรับระดับอะไรได้ และความละเอียดกล้องหน้าที่สูงถึง 13 ล้านพิกเซลเท่านั้น นอกจากนั้นก็มีการสั่งถ่ายภาพด้วยการชู 2 นิ้ว ส่วนกล้องหลัง ก็มีโหมดต่างๆ เหมือนกับกล้องหน้าเช่นกัน
เมนูที่เพิ่มขึ้นมาของกล้องหลังก็คือการรองรับการใช้งานแฟลช, โหมดพาโนราม่า และโหมด HDR รวมทั้งสามารถเลือกจุดโฟกัสและวัดแสงไปด้วยได้ ลองไปชมภาพตัวอย่างของกล้องจากสมาร์ทโฟน Aston Luxury S ดูกัน
ถึงจะเป็นสมาร์ทโฟนเซลฟี่ตัวแม่ แต่ขอเอารูปตัวพ่อมาลงแทนละกัน โดยภาพซ้ายจะเป็นภาพที่ใช้โหมดธรรมดาถ่าย และด้านขวาถ่ายด้วยโหมดบิวตี้ จะเห็นว่าแอปฯ จะมีการเบลอริ้วรอยบางส่วน หนวดดูบางลง และหน้าสว่างขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ที่โอเคก็คงจะเป็นความละเอียดของภาพที่กล้องหน้า ที่ให้มาถึง 13 ล้านพิกเซล ทำให้มีความละเอียดสูงพอสำหรับใช้อัพรูปโซเชียลได้อย่างไม่เคอะเขิน หรือนำไปแต่งรูป ครอบตัดรูปได้อีกเยอะ
สำหรับใครที่จับกล้องสมาร์ทโฟนราคาหมื่นบาทขึ้นไป คงจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับรุ่นนี้พอสมควร เพราะว่ากล้องทำงานได้ช้า รวมทั้งไม่มีฟังก์ชั่นชดเชยแสง ทำให้การถ่ายรูปแล้วต้องโฟกัสวัตถุสีขาวก็จะทำให้ภาพมืด หรือโฟกัสวัตถุสีดำ ก็จะทำให้ภาพสว่างเกินไป อาจจะต้องใช้โหมด HDR ช่วยเอา ซึ่งผลลัพธ์ของโหมด HDR ก็เป็นดังนี้
ถ่ายด้วยโหมดปกติ | ถ่ายด้วยโหมด HDR |
ภาพจากการถ่ายด้วยโหมด HDR จะมีการเพิ่มความสว่างในส่วนของเงามืดให้เห็นรายละเอียดบ้าง และในช่วงที่ถ่ายแบบ HDR กล้องจะค่อนข้างช้ากว่าปกติพอสมควร ต้องถือกล้องให้นิ่งระหว่างถ่ายอีกด้วย
มีจุดหนึ่งของมือถือรุ่นนี้ ที่ต้องตาตั้งแต่แรกสัมผัส ก็คือหน้าจอ 5 นิ้วแบบ 2.5D ที่ยอมรับเลยว่าภาพค่อนข้างสวย ซึ่งถือว่าดีมากในระดับราคาเพียง 3,990 บาท รวมทั้งตำแหน่งลำโพงที่ดูด้านใต้ตัวเครื่อง ก็ถือว่าคุณภาพใช้ได้ สามารถนำมาดูวิดีโอได้เพลินๆ เลย
ด้วยกล้องหน้าที่ให้ความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล เรียกได้ว่าตอบโจทย์เทรนด์การไลฟ์วิดีโอตอนนี้เป็นอย่างดี (ไม่ว่าจะเป็น Facebook Live หรือแอป Kitty Live/Bigo Live) รวมทั้งตำแหน่งของพอร์ต Micro USB สำหรับชาร์จไฟ อยู่ด้านบนเครื่องอีกด้วย ทำให้เราสามารถชาร์จไฟมือถือไปด้วย ไลฟ์ไปด้วยได้อย่างไม่ต้องกลัวแบตหมด (สมาร์ทโฟนทั่วไป พอร์ตอยู่ใต้เครื่อง ทำให้ไม่สามารถตั้งมือถือได้)
จุดที่ชอบ
| จุดที่ไม่ชอบ
|
สำหรับสาวๆ ที่กำลังหามือถือเซลฟี่ ราคาเบาๆ หรือหนุ่มๆ เซลฟี่ตัวพ่อ เราขอแนะนำให้ได้ลองใช้งาน Aston Luxury S กันดู เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ราคาเพียง 3,990 บาท แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสวยงามหรูหรา หน้าจอคมชัดสวยงาม และกล้องหน้าที่ให้ความละเอียดมาถึง 13 ล้านพิกเซล ทำให้รูปที่ถ่ายออกมาก็ใช้งานได้ในระดับหนึ่ง แม้เราจะขัดใจระหว่างการถ่ายรูปที่ การโฟกัสหรือกดชัตเตอร์จะหน่วงเล็กน้อยก็ตาม แต่ภาพที่ได้ก็เป็นที่พอใจสำหรับกล้องมือถือในราคาระดับนี้
|
... |
ความคิดเห็นที่ 2
27 กรกฎาคม 2560 14:48:04
|
|||||||||||
GUEST |
มงคล
ซื้อมาเมื่อวานครับ -ลำโพงสนทนาเบามาก -สัญญานมือถือ อินเตอร์เน็ตขาดๆหายๆ |
||||||||||
ความคิดเห็นที่ 1
4 กรกฎาคม 2560 13:35:12
|
|||||||||||
GUEST |
TANAT YAICHANTUEG
ไม่สามารถลงทะเบียนรับประกันสินค้าได้ ส่งข้อมูลแล้ว เว็บเชื่อมต่อไม่ได้
|
||||||||||