รีวิว ASTON Idea 3 Plus สมาร์ทโฟนระดับกลาง สเปคคุ้มราคา มี Gyrosensor ไว้เล่น VR จอใหญ่สะใจ

ใครที่โหยหา สมาร์ทโฟนระดับกลาง ราคาไม่เกินหมื่น เน้นสเปคคุ้มราคา ASTON Idea 3 Plus คงจะเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันของคุณอย่างแน่นอน ซึ่งคุณสามารถดูรายละเอียดของ ASTON Idea 3 Plus ที่ด้านล่างได้เลย

สเปค

• หน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว (ความละเอียด HD) IPS LED พร้อมเทคโนโลยี MiraVision
• ซีพียู MediaTek MT6735 (ARM Cortex-A53 64-bit Quard-core) ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz
• จีพียู Mali-T720
• แรม 2 GB
• หน่วยความจำ 16 GB (รองรับ Micro SD card สูงสุด 128 GB)
• รองรับ USB OTG
• รองรับการใช้งาน 2 ซิม เลือกใส่ได้ 2 ซิม หรือ 1 ซิม กับ 1 เมมการ์ดได้ (ใช้ Micro SIM กับ Nano SIM / Micro SD card)
• กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED โฟกัสอัตโนมัติ(ซูมภาพสูงสุด 4 เท่า)
• กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล โฟกัสอัตโนมัติ (ซูมภาพสูงสุด 4 เท่า)
• บันทึกวิดีโอที่ความละเอียด Full HD
• แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
• ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow
• ราคา 8,000 บาท

แกะกล่อง

มองจากภายนอก กล่องของสมาร์ทโฟน ASTON Idea 3 Plus ดูเป็นกล่องที่แสนธรรมดา ไม่มีความพิเศษแม้แต่น้อย แต่เมื่อคุณเริ่มที่จะแกะกล่องทีละน้อย คุณจะพบว่าแท้จริงนั้น กล่องของ ASTON Idea 3 Plus สามารถประกอบเป็น VR Cardboard ได้ด้วย ซึ่งภายในกล่องบรรจุอุปกรณ์ไว้ ดังนี้

• เครื่อง ASTON Idea 3 Plus
• Micro USB cable
• อะแดปเตอร์
• หูฟัง Earphones
• คู่มือการใช้งาน 
• ใบรับประกัน

การออกแบบ 

สำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลางแล้ว ASTON Idea 3 Plus ถือว่ามีการออกแบบที่ดีทีเดียว เนื่องจากรอบตัวเครื่องทำมาจากวัสดุอลูมิเนียม เพื่อความแข็งแรงทนทาน ทั้งยังมีรูปร่างที่โค้งมน บวกกับ ตัวเครื่องที่มีสีทอง ทำให้ ASTON Idea 3 Plus ดูหรูหรา และทันสมัย น่าใช้มากยิ่งขึ้น  

ASTON Idea 3 Plus มากับหน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว แบบ IPS LCD ให้ความละเอียด 720x1280 พิกเซล (HD) ให้สีสันที่สวยงามตามมาตรฐานสมาร์ทโฟนทั่วไปในปัจจุบัน พร้อมทั้งมี เทคโนโลยี MiraVision ที่ช่วยถนอมสายตา และหน้าจอแสดงผลของ ASTON Idea 3 Plus ที่ถูกหุ้มด้วยกระจกแบบ 2.5D ทำให้ด้านหน้ามีความโค้งมน สวยงาม 

ส่วนบนของหน้าจอขนาด 6 นิ้ว คุณจะพบกับ ลำโพงสนทนา และ กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่สามารถซูมได้สูงสุด 4 เท่า กับ เซ็นเซอร์ต่างๆ ที่อยู่ระหว่าง ลำโพงสนทนา แตกต่างกับ ส่วนล่าง ที่เป็นพื้นที่ว่างเปล่า มี ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม Home และ ปุ่ม Multitasking บนหน้าจอ

ฝาหลังของ ASTON Idea 3 Plus ไม่สามารถถอดได้ ใช้วัสดุอลูมิเนียมที่มีความโค้งมนเล็กน้อย ทั้งด้านข้าง และด้านหลัง เพื่อให้ความหรูหรา และจับได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น ซึ่งด้านบนของฝาหลังคุณจะพบกับ กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล และ แฟลช LED ถัดลงมาจะเป็นฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือที่เป็นรูปวงกลม  ส่วนด้านล่างของฝาหลังเป็นโลโก้ ASTON 

ในส่วนของขอบตัวเครื่อง ASTON Idea 3 Plus มีดังนี้

• ขอบบน มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. เพียงอย่างเดียว
• ขอบล่าง มีช่องเสียบ Micro USB และลำโพงคู่
• ขอบด้านขวา มีปุ่ม Power และช่องใส่ซิม รองรับการใช้งาน 2 ซิม หรือ 1 ซิม กับ 1 เมมการ์ดได้ (Micro SIM และ Nano SIM / Micro SD card)
• ขอบด้านซ้าย มีปุ่มเพิ่ม และ ลดเสียง 

**วิธีแคปเจอร์หน้าจอสมาร์ทโฟนให้กด ปุ่ม Power พร้อมกับ ปุ่มลดเสียง

และเมื่อลองจับ ASTON Idea 3 Plus ด้วยขนาดตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนปกติที่เคยใช้ ด้วยหน้าจอที่มี 6 นิ้ว ทำให้ดูหนัง, เล่นเกมส์ และอ่านคอนเทนท์ต่างๆ ได้สะดวกมายิ่งขึ้น แต่ในทางกลับกัน ด้วยขนาดของมันทำให้การใช้งานมือเดียวไม่ค่อยถนัดเท่าที่ควร บวกกับความรู้สึกที่ไม่ค่อยคุ้นกับฝาหลังที่เป็นผิวทรายละเอียด ทำให้มีบางครั้งที่รู้สึกลื่นๆบ้าง

ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scan)  

ระบบสแกนลายนิ้วมือของ ASTON Idea 3 Plus ถูกพัฒนาออกมาให้สามารถใช้งานเครื่องได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยมันมีรูปแบบให้ใช้งานได้มากถึง 5 รูปแบบ อาทิ

• ปลดล็อกเครื่อง
• ชัตเตอร์ถ่ายภาพ
• เลื่อนดูรูปภาพ
• เลือกเพลงโปรด
• รับสายโทรเข้า

ซึ่งด้วยรูปแบบการใช้งานทั้ง 5 รูปแบบที่กล่าวมา จะช่วยให้การใช้สมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ จนใช้มือเดียวไม่สะดวก สามารถใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้การถ่ายภาพทั้งกล้องหน้า และ กล้องหลัง หรือ การรับโทรศัพท์ง่ายมากๆ แต่ในทางกลับกัน มันอาจจะสร้างความรำคาญให้กับคุณได้ เมื่อบางทีมือคุณเผลอไปโดนทำให้ เผลอกดถ่ายภาพ หรือ รับโทรศัพท์เอง โดยไม่ได้ตั้งใจ

นอกเหนือจากการใช้ฟีเจอร์ทั้ง 5 รูปแบบแล้ว คุณยังสามารถใช้ลายนิ้วมือเพื่อให้สิทธิ์การซื้อ และเข้าถึงแอปพลิเคชันได้ อีกด้วย ซึ่งการตั้งค่าระบบสแกนลายนิ้วมือ คุณสามารถบันทึกลายนิ้วมือได้มากสุด 5 ลายนิ้วมือ และเมื่อดูจากตำแหน่งของตัวสแกนลายนิ้วมือแล้ว นิ้วที่ใช้สะดวกที่สุดน่าจะเป็นนิ้วชี้ 

คุณภาพกล้อง

ก่อนเราจะดูรูปภาพจากกล้องของ ASTON Idea 3 Plus ว่ามันดีแค่ไหน เรามาดูกันก่อนว่ากล้องหลัง และกล้องหน้า มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง

ในด้านของกล้องหลัง จะมาพร้อมกับความละเอียดที่สูงถึง 16 ล้านพิกเซล (โฟกัสอัตโนมัติ) กับ ฟังก์ชั่นที่รองรับการถ่ายภาพมากมาย อาทิ โหมดการใช้งานแฟลช โหมดถ่ายภาพมุมกว้าง (Panorama) ฟิลเตอร์แต่งภาพ, โหมดสั่งถ่ายภาพเมื่อชู 2 นิ้ว และ โหมดถ่ายภาพเมื่อคุณยิ้ม 

และในส่วนกล้องหน้า มาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (โฟกัสอัตโนมัติ) ในการใช้งานกล้องหน้าจะมีโหมดที่คล้ายกับกล้องหลัง อาทิ  ฟิลเตอร์แต่งภาพ, โหมดสั่งถ่ายภาพเมื่อชู 2 นิ้ว และ โหมดถ่ายภาพเมื่อคุณยิ้ม แต่ที่แตกต่างกันก็คือ โหมดการใช้งานแฟลช กับ โหมดพาโนราม่า หายไป และมีการนำ โหมด HDR มาใส่แทน เรียกได้ว่าทำเอาผมรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลย ที่ได้เห็นโหมด HDR มาอยู่ในกล้องหน้า จากปกติจะอยู่กล้องหลัง

และเมื่อเราได้มา ถ่ายภาพในที่แสงสว่างเพียงพอ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ถือว่า ASTON Idea 3 Plus ให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีทีเดียว และถ้าหากไม่พอใจกับการตั้งค่าพื้นฐานที่ผู้ผลิตออกแบบมาให้ก็สามารถเข้าไปตั้งค่าเองได้ไม่ว่าจะเป็น รูรับแสง ISO ไวท์บาลานซ์ ที่สัญลักษณ์ฟันเฟืองมุมซ้ายล่าง ได้ง่ายๆ เลย

แต่เมื่อเปลี่ยนมา ถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือ ถ่ายภาพตอนกลางคืน จะเริ่มทำให้รู้สึกขัดใจ เนื่องจากทั้ง ระบบการโฟกัสภาพ และระบบประมวลผลช้ามากๆ ซึ่งในกรณีนี้ไม่มีทางแก้ไข ต่อให้คุณเข้าไปปรับตั้งค่านั้น ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้แม้แต่น้อย

ไจโรสโคป เซ็นเซอร์ (Gyroscope Sensor)

เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ ที่ทำให้แปลกใจ และ ประทับใจในเวลาเดียวกัน นั่นก็เพราะว่า ถ้าพูดถึงสมาร์ทโฟนระดับกลางแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมี ไจโรสโคป เซ็นเซอร์ มาให้เห็นเท่าไหร่นัก แต่ผู้พัฒนากลับใส่ไว้ใน ASTON Idea 3 Plus ให้เราได้ใช้กันชิลๆ 

เพื่อพิสูจน์ว่า ไจโรสโคป เซ็นเซอร์ของ ASTON Idea 3 Plus ดีจริง เราจึงนำมันมาเล่นกับ VR Cardboard (กล่องใส่ ASTON Idea 3 Plus) และ เกมส์ Need For Speed ซึ่งหากพูดถึงภาพรวมแล้ว ผลลัพธ์ก็คือ ไจโรสโคปเซ็นเซอร์ ของ ASTON Idea 3 Plus มีการตอบสนองที่ดีเกินราคาจริงๆ 

แต่ในส่วนของการทดลองเล่นกับ VR Cardboard แล้ว เรียกได้ว่าทำให้รู้สึกเวียนหัวมาก เนื่องจาก แม้ว่า ASTON Idea 3 Plus จะมีไจโรสโคปเซ็นเซอร์ที่ดี แต่ VR Cardboard ทำออกมาไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ทั้งไม่มีตัวล็อกมือถือให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้มันเลื่อนไปเลื่อนมา และ ไม่มีปุ่มแม่เหล็กสำหรับ หน้าจอ เพื่อเป็นปุ่ม Action สำหรับกรณีต่างๆ

สรุป

ถ้าหากคุณต้องการสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ เน้นคุณภาพสมราคาแล้ว ASTON Idea 3 Plus ตอบโจทย์แน่นอน ทั้งในเรื่องดีไซน์ และวัสดุที่ทำให้ดูทนทาน หรูหรา บวกกับฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด เช่น ระบบสแกนลายนิ้วมือ กับ ไจโรสโคป เซ็นเซอร์ ที่มีทั้งความแม่นยำ ตอบสนองได้ดี และ ไวต่อการสัมผัส ซึ่งในจุดนี้ทำให้ ASTON Idea 3 Plus ดูเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่น่าใช้มากยิ่งขึ้น 

ในส่วนของ การถ่ายภาพทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ของ ASTON Idea 3 Plus มีประสิทธิภาพใช้ในการทำงานที่ดีตามมาตรฐานสมาร์ทโฟนระดับกลางในปัจจุบัน ทั้งในด้านโฟกัส, คุณภาพของรูปภาพที่ถูกถ่ายออกมา และ ฟิลเตอร์ที่มีให้ใช้ในตัวสมาร์ทโฟน 

นอกจากนี้ กล้องหน้า ยังมีทีเด็ดซ่อนอยู่นั่นคือ โหมด HDR ที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งจากการใช้งานถ่ายเซลฟี่ตัวเองแล้ว มันให้ความรู้สึกเหมือนเร่งแสงให้สว่างขึ้นทั้งภาพ เพื่อเป็นการเก็บรายละเอียดส่วนที่มองไม่เห็นของภาพ ทั้งยังมี Noise แถมมากับในรูปภาพเพียบเลย

แต่ถึงแม้ว่า ASTON Idea 3 Plus จะมีความสามารถใช้การถ่ายภาพที่ไม่โดดเด่นมากนัก แต่หากมองโดยรวมแล้วถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพจริงๆ